[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 7 แฟนสาวประเภทที่อยากทำให้แฟนหนุ่มหึง
“วันนี้ฉันถูกชวนไปปาร์ตี้หาคู่ด้วยล่ะ”
ณ ห้องชมรมวรรณกรรม (ที่ไม่ได้รับอนุญาต) ตามปกติ ยูซุได้รายงานอย่างนั้นออกมาอย่างมีความสุข
“งั้นเหรอ ถ้างั้นวันนี้เรารีบมาทำอะไรให้มันเสร็จๆ เธอจะได้รีบไปกันดีกว่า”
ผมให้คำแนะนำอย่างรอบคอบออกไปขณะที่ประกอบเครื่องเล่นเกม แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรยูซุถึงได้ทำแก้มพองอย่างอารมณ์เสีย
“เดี๋ยวสิยะอีตาแฟนหนุ่ม ไอ้การพูดไล่แบบนั้นมันคืออะไรกันน่ะ นี่แฟนสาวที่สุดแสนจะน่ารักคาวาอี้ของนายกำลังจะไปปาร์ตี้หาคู่เลยนะ ปกติแล้วนายต้องหึงแล้วเข้ามาห้ามไว้สิยะ”
“ถึงจะพูดงั้นก็เหอะ แต่เราก็เป็นแค่คู่รักปลอมๆ กันนี่ ถ้าเกิดฉันหึงไปแล้วเธอจะมีความสุขด้วยงั้นเหรอ”
ถ้าเกิดอยู่กลางสายตาประชาชีก็ว่าไปอย่าง ทำไมต้องมาทำแบบนั้นตอนอยู่ด้วยกันแค่สองคนด้วยล่ะ
ในระหว่างที่ผมกำลังอยู่ในภวังค์สงสัย ยูซุก็ได้เชิดหน้าอกอย่างดูอวดๆ
“มีความสุขสิ! การที่มีคนมาชอบเรา มันทำให้ความปรารถนาถูกเติมเต็มซึ่งโคตรจะรู้สึกดีเลย!”
“โอ้ จะว่าไปแล้วมันก็รู้สึกดีจริงๆ นั่นแหละ”
ความประหลาดใจของผมมันเลยขั้นจนกลายเป็นความชื่นชมไปแล้ว
ทว่ายูซุกลับไม่ชอบปฏิกิริยานั้นของผม และทำหน้าบูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆ
“ก็นั่นสินะค้า~ ยังไงซะยามาโตะคุงก็เป็นยามาโตะที่ไม่สนใจคนอื่นอยู่วันยังค่ำสิเนอะ แต่ฉันคิดว่าอย่างน้อยนายก็น่าจะให้ความสนใจกับแฟนตัวเองบ้างหน่อยนะ”
“นี่เหรอคำพูดที่ออกมาจากปากผู้หญิงที่ไปปาร์ตี้หาคู่ทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว… ก็แบบ ถึงเราจะมาคบกันเพราะด้วยสถานการณ์พาไปก็เถอะ แต่ปาร์ตี้หาคู่นี่ดีแล้วเหรอ มันจะลำบากนะถ้ามีข่าวลือแพร่ออกไปน่ะ”
“ฮึ…”
ยูซุไม่สามารถหาคำพูดที่จะมาคัดค้านได้ ดังนั้นเธอจึงได้คร่ำครวญและเงียบลงไป
“ตะ แต่ถ้าฉันหาแฟนตัวจริงจากที่นั่นได้ ยามาโตะคุงก็จะไร้ประโยชน์ไปเลยนะ!”
“ถ้าเกิดว่าทำได้ เธอคงไม่ต้องมาขอให้ฉันเป็นแฟนปลอมๆ ด้วยตั้งแต่แรกหรอก”
“ฮึ่มๆๆ…!”
ยุซุกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิด
ก็อย่างที่ได้เห็นไปจากคำพูดก่อนหน้านี้ ว่ายัยนี่เป็นผู้หญิงที่มีความปรารถนาจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้อื่นแรงกล้า
ดังนั้นแล้วยัยนี่คงไม่ทำอะไรที่เป็นการลดคุณค่าของตัวเองให้เป็นยัยร่านสวะ อย่างเช่น ทิ้งผู้ชายที่กำลังคบกันอยู่แล้วไปหาแฟนใหม่ในปาร์ตี้หาคู่หรอก
ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นอันสรุปได้ว่า ยัยนี่ไม่ได้คิดจะไปปาร์ตี้หาคู่ตั้งแต่ต้น แต่แค่อยากจะเอาเรื่องนี้มาล้อผม การพิสูจน์เสร็จสิ้น Q.E.D.
“อะไรกันยะ แค่หึงให้หน่อยจะไม่ได้เลยเหรอ นี่ฉันมันไม่ได้มีค่าสำหรับนายเลยงั้นสิ”
ยูซุทำปากยื่นพร้อมกับจิ้มจึกๆ มาที่สีข้างของผม
“สำคัญด้วยเหรอ ยังไงฉันก็คบกับเธอเพราะว่าสถานการณ์พาไปอยู่แล้วนี่ เพราะงั้นเธอก็อย่านอกใจไปหาผู้ชายคนอื่นเข้าซะล่ะ”
“ว้าว ช่างเป็นการหึงที่แสดงความห่างเหินได้สุดยอดอะไรอย่างนี้ รู้สึกไม่ได้ถึงความรักเลยสักนิด”
หลังจากบ่นผมออกมาเป็นชุด ยูซุก็ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก็หันหลังกลับ
“ช่างหัวมันแล้วค่า~ ฉันมันโง่เองแหละที่ไปหวังให้ยามาโตะคุงหึง นั่นสินะ เราเป็นคู่รักปลอมๆ กันอยู่แล้ว จะไปขอเรื่องนั้นได้ยังไงกันล่ะเนอะ ตาบ้ายามาโตะคุง”
อ๊ะ เดือดปุดๆ ไปเลยนี่หว่า
แบบนี้ลำบากใจจังเลยแฮะ… สงสัยคงต้องพอได้แล้วสินะ
“ไม่หรอก ฉันผิดเองแหละ ขอโทษนะที่ใช้เหตุผลมากเกินไปหน่อย”
“…”
เงียบ งอนจริงจังเลยนี่หว่าอันนี้
“ยูซุจังจ๋า~ ฉันผิดไปแล้วจริงๆ น้า ตอนนี้ฉันเป็นแฟนเธออยู่ เพราะงั้นฉันควรจะหึงเธอบ้างจริงๆ นั่นแหละ”
“…”
ยังเงียบอยู่จริงๆ ด้วย
ผมจิ้มแก้มของเธอไปโดยอัตโนมัติ
นิ้วของผมจมลงไปกับแก้มที่นุ่มนิ่มราวกับไดฟุกุ แต่ถึงอย่างนั้นท่าทางของยูซุก็ยังคงไม่เปลี่ยน
“นี่~ ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ”
“…”
จะเอายังไงดีนะ
เนื่องจากผมไม่เหลืออะไรให้ทำแล้ว ดังนั้นผมจึงเริ่มคิดว่าจะทำยังไงต่อไป
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของยูซุก็ได้ดังขึ้นมา
“…ฮัลโหล”
ยูซุเมินผม และรับสายตามหน้าที่
“อ๊ะ อื้ม ได้สิ อื้ม…อื้ม”
ยูซุมองมาที่ผม
“งั้นก็ ร้านคาราโอเกะตอน 6 โมงเย็นสินะ”
อ๊ะ นี่มันชวนไปปาร์ตี้หาคู่
เพราะว่ายูซุยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไป คนจัดงานก็เลยโทรมานัดยืนยันสินะ
เอาเถอะ ก็อย่างที่บอกว่าไปยูซุก็ไม่ได้ประโยชน์ ดังนั้นเธอคงจะปฏิ—
“เอ๊ะ…”
ในตอนนั้นเอง ยูซุก็ได้เปล่งเสียงตกใจออกมา
“อ๊ะ…”
ในขณะเดียวกัน ผมก็เบิกตากว้าง
สายตาของพวกเราหันไปในทิศเดียวกัน
นั่นก็คือมือซ้ายของยูซุที่กำลังถือโทรศัพท์—และมือขวาของผมที่กำลังจับมือเธออยู่
“เอ๊ะ… อ๊ะ…”
มันเป็นปฏิกิริยาตอบรับอัตโนมัติ และปราศจากการคิดอย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงได้ประหลาดใจกับการกระทำของตัวเอง และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
“โฮ่~”
จากนั้นยูซุซึ่งเคยอารมณ์บูดมาจนถึงก่อนหน้านี้ก็ได้เปล่งเสียงออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ฉะ ฉิบหายแล้ว…!”
—ถึงจะช้าไปก้าว แต่ผมก็รู้ตัวว่าพลาด
ถึงผมจะรีบปล่อยมือจากยูซุตอนนี้มันก็สายไปแล้ว
“ฮัลโหล? อื้ม โทษทีนะ ฉันขอผ่านดีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกไปว่ามีแฟนแล้วน่ะ อื้ม…เข้าใจแล้ว เจอกันใหม่นะ”
ยูซุวางสาย
จากนั้นก็หันหลังกลับพร้อมกับวางโทรศัพท์
“เอาละ”
คำพูดของยูซุส่งสัญญาณเริ่มต้นของการประหารชีวิต ผมไหล่กระตุกโดยไม่คิด
“เมื่อกี้นี้ยามาโตะคุงทำอะไรไปนะ”
“…นั่นสินะ”
ผมไม่สามารถห้าข้อแก้ตัวอะไรได้และปล่อยให้ไหลไปตามน้ำ ยูซุส่งยิ้มอย่างมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ขนาดตัวเองก็ยังไม่เข้าใจสินะคะ เข้าใจแล้วค่ะ งั้นฉันจะบอกให้เอง! ยามาโตะคุงน่ะ กังวลว่าฉันจะตกลงไปปาร์ตี้หาคู่เพราะว่างอนตัวเองอยู่ยังไงล่ะคะ! ดังนั้นคุณก็เลยเอื้อมมือเข้ามาขัดจังหวะการคุยโทรศัพท์ของฉันโดยอัตโนมัติ! การพิสูจน์เสร็จสิ้น Q.E.D.!”
“อึก…”
ในขณะที่ผมกำลังพูดไม่ออก ยูซุก็ได้ลูบหัวของผมด้วยรอยยิ้มที่ราวกับพระโพธิสัตว์
“แหมๆ ยามาโตะคุงนี่น่ารักจังเลยน้า ทั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองเป็นแฟนที่น่ารักมากแล้วแท้ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าแฟนของตัวเองจะน่ารักได้ยิ่งกว่านั้น นายนี่น่ารักที่สุดในโลกไปเลย ยามาโตะคุง”
“หนวกหูเฟ้ย!”
นี่ก็คือข้อเสียของยูซุ นั่นคือหากพบจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เมื่อไหร่ เธอก็จะใช้มันมาโจมตีอีกฝ่ายแบบไม่หยุดหย่อน
“บางทีที่นายดูเย็นชาแปลกๆ แบบนี้ ก็เป็นเพราะนายกำลังหึงและอารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วหรือเปล่านะ ขอโทษที่ไม่รู้ตัวน้า~ ทั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนสมบูรณ์แบบแท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แล้วล่ะ”
“อ๊าา! หนวกหู! หนวกหู! นี่เธอกลับไปพูด (ทบทวน 反省) เรื่องอื่นได้แล้ว!”
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะกลับไปทบทวนให้ดีว่ายามาโตะคุงรักฉันมากแค่ไหน”
“ไม่ใช่โว้ย! เออพอแล้ว! อยู่ที่นี่ก็น่ารำคาญ จะไปปาร์ตี้งานเลี้ยงที่ไหนก็ไปเลยไป!”
“ไม่ไปหรอก ก็ฉันมียามาโตะคุงอยู่แล้วนี่ นอกจากนี้ในฐานะคนคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถทิ้งแฟนที่รักตัวเองมากขนาดนี้แล้วไปปาร์ตี้หาคู่ได้หรอก”
“ฮึ… ตามใจละกัน ฉันนี่โคตรจะแฮปปี้เลย”
ตรงจุดนี้ผมได้ก็รู้แล้วว่าพูดอะไรไปต่อก็คงไม่มีโอกาสชนะ ดังนั้นผมจึงได้ก้มหัวลงอย่างยอมแพ้