[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 3 ทั้งสองคนคุยกันเรื่องความห่างเหินของคู่รัก
- Home
- [WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS
- ตอนที่ 3 ทั้งสองคนคุยกันเรื่องความห่างเหินของคู่รัก
ณ ทางแยกระหว่างทางไปโรงเรียน
ในทุกเช้าผมกับยูซุจะมาพบกันตรงนี้
“อรุณสวัสดิ์ยามาโตะคุง วันนี้หนาวจังเลยเนอะ”
ยูซุรีบวิ่งเหยาะๆ มาที่นี่หลังจากผมมาถึงจุดนับพบได้ 5 นาที
“อรุณสวัสดิ์ ก็นี่มันจะจบฤดูใบไม้ร่วงแล้วนี่นา”
ตอนผมเริ่มคบกับยูซุยังเป็นช่วงหน้าร้อนอยู่แท้ๆ เวลานี่ช่างผ่านไปเร็วจริงๆ เลยนะ
“จะว่าไปเพื่อนร่วมชั้นของเราก็เริ่มสงสัยอีกแล้วล่ะ ว่าเราคบกันจริงๆ ไหมน่ะ”
และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานมากแล้ว แต่ยูซุก็ยังพูดถึงปัญหาตามปกติอีกครั้ง
“อีกแล้วเหรอเนี่ย นี่เราก็คบกันมาได้สักพักแล้วนะ พวกเราดูไม่เข้ากันขนาดนั้นเลยเรอะ”
ผมกับยูซุเป็นคู่รักปลอมๆ ที่คบกันเนื่องด้วยสถานการณ์บางอย่างเท่านั้น
แต่ทว่าความริงของเรื่องนี้ก็ไม่อาจเปิดเผยให้กับคนรอบข้างได้
“ก็ฉันเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบซะขนาดนี้ จะใครก็ไม่เหมาะทั้งนั้นแหละ เพราะงั้นยามาโตะคุงไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ความรักของยามาโตะคุงส่งมาถึงฉันเรียบร้อยแล้วล่ะ”
ยูซุวางมือลงบนไหล่ผมเพื่อปลอบโยน
ถึงจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอันงดงาม แต่เนื้อหามันกลับมีแต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจ
“งั้นเหรอ…มันคงเป็นความรักที่แม้แต่ตัวฉันก็ยังไม่เข้าใจสินะ เธอนี่ช่างแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปจริงๆ เลยนะ”
“ใช่ม้า~”
ยูซุพยักหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ แต่ผมก็ไม่แคร์เพราะปกติการแซะมันมักจะไม่ได้ผลอยู่แล้ว
“ถึงอย่างนั้น ดูเหมือนว่าคนอื่นๆ จะไม่เข้าใจความรักของยามาโตะคุงนะ นายต้องหัดแสดงออกเพื่อให้คนอื่นเข้าใจมากขึ้นนะ”
“นั่นสินะ ดูเหมือนว่าคนปกติจะไม่เข้าใจจริงๆ ด้วย แล้วเราจะทำยังไงกันล่ะ”
เมื่อมองไปรอบตัว ผมก็มองเห็นเหล่าเด็กนักเรียนกำลังเดินไปโรงเรียน
ถึงแม้เราจะพูดกันด้วยเสียงที่คนรอบข้างแทบไม่ได้ยิน แต่มันก็มีความเสี่ยงถ้าหากยังพูดไปต่อ ดังนั้นผมจึงต้องรีบตัดสินใจให้เร็วๆ
“…ไม่สิ”
ถ้าหากลองคิดในมุมกลับ เราก็สามารถแสดงความรักให้คนแถวนี้เห็นก็ได้นิ
ดูแล้วเข้าใจง่ายดีด้วย เหมาะเหม็งกับสถานการณ์ตอนนี้เลยชัดๆ
“อืม…”
ทันใดนั้นเอง ผมก็ได้เข้าไปจับมือของยูซุโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันเล็กพอที่มือของผมจะกุมไว้ทั้งหมดได้ แถมยังเป็นมือของหญิงสาวและนุ่มนิ่มอีกด้วย
“ยะ ยามาโตะคุง!?”
ทันใดนั้นเอง ยูซุก็ได้เปล่งเสียงออกมา
“ฉะ ฉันก็แค่คิดว่านี่มันจะทำให้พวกเราเหมือนกับเป็นคู่รักน่ะ”
“งะ งั้นเหรอ…ฉันก็แค่แปลกใจที่จู่ๆ นายก็ทำแบบนั้นเฉยๆ น่ะ”
ถึงจะหน้าแดงแต่ยูซุก็ไม่ยอมปล่อยมือเพราะมีตามองอยู่รอบตัวของเรา
“ถ้าเกิดเธอยอมอนุญาตฉันด้วยคำพูดแปลกๆ แบบนั้นคนรอบข้างจะมองว่าเราอึดอัดได้นะ ทำตัวให้เป็นธรรมชาติกว่านี้สิ”
“อะ…อืม”
อย่างที่ผมเคยพูดเอาไว้ ว่ายูซุนั้นเป็นคนหลงตัวเองที่แทบจะไม่มีพลังป้องกัน
บางทีการจู่โจมด้วยการจับมือมันคงจะได้ผลมากเกินไป เธอจึงก้มมองลงไปที่พื้นอย่างเงียบๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“อะ…โอ้ มือของยูซุนี่เย็นจังเลย”
เพราะว่าเกลียดความเงียบผมจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อ ยูซุเหลือบมองมาที่ผมสักครู่
“นะ…นั่นสินะ ก็วันนี้อากาศหนาวนี่นะ”
คะ ความรู้สึกแปลกๆ นี่มัน…ไม่สิ นี่มันเริ่มจะดูน่ารักหน่อยๆ แล้วนะ ทั้งที่เป็นผู้หญิงหลงตัวเองเอาแต่ใจแท้ๆ! ทั้งที่เป็นยัยผู้หญิงเจ้าปัญหาแท้ๆ!
“จะ จริงด้วยสิ ไม่ใช่ว่าเราแสดงความรักกันมาพอแล้วเหรอ ฉันว่ามันคงถึงเวลาที่ต้องปล่อยได้แล้วล่ะ”
ผมรีบดึงมือออกเพราะว่าอาย
แต่มือของยูซุกลับกำแน่นกว่าเดิมราวกับจะรั้งผมไว้
“ยะ ยูซุ?”
“อย่าเข้าใจผิดนะ มือของยามาโตะคุงมันอุ่นดีน่ะ ก็มือของฉันมันเย็นนิ”
เธอพูดออกมาอย่างไม่พอใจราวกับเป็นข้อแก้ตัว
“เหรอ…นั่นสินะ ถ้าเกิดมือเย็นก็คงช่วยไม่ได้สินะ”
ในเวลาแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นแฟนกันต้องจับมือไว้จนกว่ามือจะอุ่น
ผมให้เหตุผลกับตัวเอง และจับมือของยูซุอีกครั้ง
“ระ เรื่องแค่นี้เอง ถ้าเกิดแค่จับมือยังประหม่า มันก็คงจะดูปลอมเกินไปจริงๆ นั่นแหละ”
“อื้ม…เห็นด้วย ปกติคู่รักในโลกเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น ปกติแล้วเขาคล้องแขนกันด้วยซ้ำ”
“คะ คล้องแขนกลางฝูงชน…!? มะ ไม่ไหวหรอก! ถึงนายจะแอบขอมาแบบอ้อมๆ แต่มันก็ไม่ไหวหรอก!”
“มะ ไม่ได้คิดเลยเฟ้ย! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!”
ผมรีบปกป้องตัวเอง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างยูซุกลับทำปากมุ่ย
“ไม่ได้คิดเลยเรอะ! นี่นายมีแฟนน่ารักๆ อย่างฉันแท้ๆ ก็ควรจะมีความคิดอยากเดินควงแขนฉันหน่อยบ้างนะ!”
“จะเอายังไงกันแน่ฟะ!”
“ต่อให้อยากทำแต่ก็ต้องไม่ล้ำเส้น! ยามาโตะคุงจะต้องต้องการฉันเสมอ! แต่ถ้าฉันปฏิเสธก็ต้องอดทนไว้!”
“กล้าดียังไงถึงมาขอคำขอที่เห็นแก่ตัวแบบนี้กันฮะ!? คนที่กล้าขอคำขอเห็นแก่ตัวแบบนี้ก็มีแต่เธอกับเจ้าหญิงคางุยะเท่านั้นแหละ!”
“อย่ามาพูดถึงผู้หญิงคนอื่นตอนอยู่กับฉัน!”
“อิจฉาเจ้าหญิงคางุยะเรอะ!? ถ้าเกิดเธอจะเป็นได้ถึงขนาดนี้ ฉันก็คงแทบจะพูดอะไรบนโลกใบนี้ไม่ได้แล้ว”
ผมรู้สึกสั่นด้วยความกลัว —ยูซุหลังจากพ่นทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการเธอก็ดูเหมือนจะสงบลง ในที่สุดเธอก็หายหน้าแดงและกลับมาพูดหัวข้อเดิม
“เอาเป็นว่าเราควรจะเรียนรู้การจับมือกันให้เป็นธรรมชาติกว่านี้ ถ้าเกิดจับมือกันแล้วแข็งทื่อแบบครั้งนี้ตลอดมันก็คงจะอึดอัดไปหน่อย”
“นั่นสินะ ถ้าเกิดพวกเราคล้องแขนกันได้โดยไม่ตื่นตระหนกก็ดีสิ”
ผมล้อเธอไปนิดหน่อย จากนั้นยูซุก็ช้อนตามองมาหาผม
“…ยามาโตะคุงลามก”
ยูซุใช้เล็บจิกมือของผมในขณะที่กำลังจับมือกันอยู่
“ครับๆ ผมผิดเองแหละครับ”
ผมยักไหล่ยอมแพ้
อีกนานแค่ไหนเราถึงจะถูกผู้คนรอบข้างยอมรับว่าเป็นคู่รักกันนะ
ผมยิ้มเจื่อนๆ เล็กน้อยให้กับความไม่แน่นอนในอนาคต
—ผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกยามาโตะหลังจากนั้น
(เจ้าคู่รักงี่เง่านั่นมันอะไรกันฟะ…!)
ทั้งสองคนไม่ได้รู้เลย ว่าภายในใจของผู้คนที่สัญจรไปมาได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน