[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 14 แฟนสาวผู้กลายเป็นตำนานเมือง
“เอาละ มาหาหนังสืออะไรอ่านก่อนที่ยูซุจะมาดีกว่า~”
—ผมพึมพำอย่างเงียบๆ คนเดียวในห้องชมรมวรรณกรรม
วันนี้ยูซุมาห้องชมรมช้าหน่อยเพราะติดเวรประจำวัน
ปกติผมจะช่วยเธอทำเวรด้วย แต่วันนี้เธอบอกว่าจะทำกับเพื่อน ผมจึงเคารพความตั้งใจของเธอและมาที่นี่ก่อน
“เอาเล่มนี้ละกัน”
ผมหยิบหนังสือขึ้นมามั่วๆ และไปนั่งเปิดอ่านบนเก้าอี้
“อ๊ะ บางทีเราอาจจะชอบเล่มนี้ก็ได้แฮะ”
ถึงจะเป็นหนังสือที่ผมหยิบมาอ่านแบบมั่วๆ แต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ มันกลับน่าติดตามมาก
ในขณะที่ผมหมกมุ่นอยู่กับการอ่านสักพัก โทรศัพท์ของผมก็ได้ดังขึ้น
เมื่อผมหยิบขึ้นมาอ่าน ก็ปรากฏว่ามันเป็นข้อความจากยูซุ
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องเรียน』
“ในที่สุดแฟนเราก็กลายเป็นตำนานเมืองไปแล้วเหรอ…”
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องเล่าสุดดังอย่างคุณแมรี่อีก
“ไม่ถูกกับเรื่องสยองขวัญแท้ๆ ยังอุตส่าห์เล่นอะไรแปลกๆ อีก”
สำหรับตอนนี้มันยังไม่เป็นอันตราย ดังนั้นผมจะปล่อยเธอไป
และเมื่อผมอ่านโดยไม่ตอบกลับ ผมก็ได้รับข้อความใหม่
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องพักครูแล้ว』
“ไปเอาบันทึกที่ห้องพักครูสินะ”
นั่นคืออย่างสุดท้ายที่ต้องทำตอนทำเวร การที่มันจบลงก็หมายความว่ายูซุจะมาที่นี่ในอีกไม่นาน
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าตู้กดน้ำอัตโนมัติแล้ว』
“พักหลังจากทำเวรเสร็จสินะ”
จะพักหลังจากทำเวรเสร็จมันก็เป็นเรื่องปกตินั่นแหละ
จากนั้นไม่นานผมก็ได้รับข้อความมาจากยูซุอีก
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามแล้ว』
“…สนาม? อะไรล่ะนั่น หรือว่าจะโดนเพื่อนลากไปตอนอยู่หน้าตู้กดน้ำอัตโนมัติ… ”
ผมชักสงสัยเกี่ยวกับที่อยู่ของยูซุ ผมก็เลยใส่ที่คั่นไว้ตรงหนังสือที่อ่านไปได้ครึ่งเล่มและปิดหนังสือลง
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่แบตเตอร์บ็อกซ์แล้ว』
“หรือว่าจะโดนขอให้ไปเป็นผู้ช่วยชมรมซอฟต์บอล…”
ยังไงยัยนั่นก็เป็นแค่มือสมัครเล่น อีกเดี๋ยวก็คงแพ้แล้วก็มาที่นี่เร็วๆ นี้แหละ
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่เบสสองแล้ว』
“ตีไปถึงเบสสอง!? ยัยนี่ช่างเป็นแบตเตอร์ที่เก่งอย่างคาดไม่ถึง!”
พอมาลองคิดดูดีๆ ยัยนี่ก็เคยประกาศออกมาว่าตัวเองเล่นกีฬาเก่งด้วยนี่นา
ผู้หญิงที่มีความสามารถตรงตามคำพูดหลงตัวเองช่างน่ารำคาญ
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าทางเข้าตึกแล้ว』
“โอ๊ะ ไปเป็นผู้ช่วยเสร็จแล้วสินะ”
ดูเหมือนว่าจะไปช่วยตีแค่ไม้เดียวนะ
เอาเป็นว่าในที่สุดยัยนั่นก็มาที่นี่ได้สักที
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องคหกรรมแล้ว』
“เดินอ้อมอีกแล้ว…”
คราวนี้เป็นห้องคหกรรมเหรอ งั้นก็ต้องเป็นชมรมวิจัยการทำอาหาร
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าเขียงแล้ว』
“เขียงเหรอ… ยัยนั่นจะไหวหรือเปล่าหว่า”
ถึงยูซุจะอ้างว่าตนเป็นคนฉลาดแล้วก็เล่นกีฬาเก่ง แต่ทักษะการทำอาหารของยัยนั่นก็ยังคงน่าสงสัย
หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ…
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องพยาบาลแล้ว…』
“เอาแล้วไงโว้ย! โดนบาดนิ้วจริงๆ ด้วย!”
ตรงตามที่คิดซะจนอึ้งไปเลย!
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องคหกรรมแล้ว』
“โอ๊ะ กลับมาแล้วสินะ”
หวังว่ายัยนั่นคงไม่ใช้มีดทำครัวอีกนะ ไม่ต้องแตะเลยยิ่งดี
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าเตาแก๊สแล้ว』
“งานใช้ไฟเหรอ… จะไหวหรือเปล่า”
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องพยาบาลแล้ว…』
“ไม่ไหวจริงๆ ด้วยโว้ยย! โดนไฟลวกจริงๆ ด้วยย!”
กว่ายัยนั่นจะกลับมาที่ห้องชมรมวรรณกรรมได้น่วมเป็นผ้าขี้ริ้วกันพอดี
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องคหกรรมแล้ว』
“ยังจะกลับมาอีกเรอะ!? ไม่ได้เรียนรู้เลยยัยคนนี้!”
ช่างเป็นผู้หญิงที่สู้ไม่ถอยในจุดแปลกๆ จริงๆ
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงมุมห้อง…』
“โดนขอให้ไม่ต้องทำอะไรเลยตามคาด! ยัยนั่นโดนชมรมวิจัยการทำอาหารจับแยกออกจากห้องครัวแล้วโว้ย!”
ต้องขอโทษสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับสมาชิกชมรมวิจัยการทำอาหารด้วย แต่ก็อยากจะถามเหมือนกันว่าทำไมถึงให้ยัยนั่นลองถึงสองครั้ง
『ฉันคือคุณแมรี่ ตอนนี้ฉันที่หน้าห้องชมรมวรรณกรรมแล้ว』
“หือ ในที่สุดก็มาถึงแล้วเหรอ จะไปเปิดให้เดี๋ยวนี้แหละ~”
ผมหยิบกุญแจและเปิดประตู
ทันใดนั้นกลิ่นของซอสมะเขือเทศก็ลอยมาตามอากาศ
“ยะโฮ~! ขอโทษที่มาช้านะยามาโตะคุง ฉันไปทำนโปลิตันที่ชมรมวิจัยการทำอาหารมาน่ะ~ ลองกินดูสิ!”
ยูซุยื่นนโปลิตันที่อยู่บนจานกระดาษมาให้ผม
“…ยูซุทำเองเหรอ”
หลังจากผมถามไปเพื่อความชัวร์ ยูซุก็ได้เชิดหน้าอกตัวเองและพยักหน้าลง
“ประมาณครึ่งนึง”
“ครึ่งนึงจริงๆ เหรอ”
“…ประมาณหนึ่งในสาม”
“…”
“หนึ่งในสี่ค่ะ”
ยูซุถูกกดดันอย่างเงียบๆ จนยอมจำนน
ผมไม่รู้สึกว่าระดับนี้มันจะเรียกว่าเป็นอาหารทำมือของยัยนี่ได้อีกต่อไป
“มีไส้กรอกเวียนนาใส่อยู่ข้างในด้วยเหรอ”
“อ๊ะ อื้ม ฉันเป็นคนใส่เข้าไปเองน่ะ”
“เอ่อ… ฉันขอตรวจสอบมือของยูซุหน่อยได้หรือเปล่า”
“คำถามกล้าๆ กลัวๆ นั่นมันคืออะไรกันน่ะ! นิ้วของฉันอยู่ครบค่ะ! เป็นไส้กรอกเวียนนาแท้ 100% จริงๆ ค่ะ”
ยูซุวางจานกระดาษลงบนโต๊ะและชูนิ้วทั้ง 10 ขึ้นมา ถึงจะมีปลาสเตอร์ติดอยู่บ้าง แต่นิ้วทั้งหมดมันก็ยังอยู่ครบถ้วน
“งั้นเหรอ ค่อยยังชั่วหน่อย งั้นก็ ทานแล้วนะครับ …หวังว่ามันคงไม่รสชาติเหมือนเลือดนะ”
“ไม่ต้องการคำอธิษฐานตอนสุดท้ายย่ะ!”
ยูซุทำแก้มพองพร้อมกับดูประหม่า ราวกับว่าเธอกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาของผม
—กลับกัน หลังจากที่กัดไปคำนึงแล้ว ผมก็ได้ทำตาโตแบบไม่ได้ตั้งใจ
“สุดยอด… รสชาติอย่างกับนโปลิตันเลย!”
“ก็เพราะฉันทำนโปลิตันไง!”
“เยี่ยมมากยูซุ! เธอเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก! ยอมรับเลย!”
“มาตรฐานต่ำเกินไปมั้ย!? ทำแบบนั้นฉันยิ่งรู้สึกเหมือนถูกล้อเลียนเลย!”
ไม่รู้ทำไมยูซุถึงได้ไม่พอใจกับการที่ผมประทับใจ