[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 10 สองต่อสองในห้องชมรมท่ามกลางพายุไต้ฝุ่น...
- Home
- [WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS
- ตอนที่ 10 สองต่อสองในห้องชมรมท่ามกลางพายุไต้ฝุ่น...
“เฮ้อ~ วันนี้เล่นไปได้เยอะเลยนะเนี่ย~”
ยูซุปิดหน้าจอเซฟเกมพร้อมกับถอนหายใจให้กับความสำเร็จ
“นั่นสินะ งั้นวันนี้พอเท่าแล้วพักเลยละกัน”
ผมเองก็เริ่มไม่มีสมาธิจะเล่นต่อแล้ว ดังนั้นผมจึงเซฟแล้วก็กดปิดเกม
หลังจากที่เราทั้งคู่เก็บเกมคอนโซลแล้ว เราก็เตรียมตัวกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
“จะว่าไปฉันก็คิดนะว่าชายหญิงสองคนมาอยู่ด้วยกันทุกวันมันจะเป็นอะไรไหม แต่เอาจริงๆ แล้วมันดันมีแค่เล่นเกมด้วยกันเท่านั้น”
จู่ๆ ยูซุก็เริ่มพูดอะไรแปลกๆ
“จะไปหวังอะไรกับคู่รักปลอมๆ… แต่ว่าเกมมันก็สนุกดีใช่ไหมล่ะ”
ผมตอบกลับไปแบบงงๆ จากนั้นยูซุก็ได้พองแก้มของตัวเอง
“เอ๋~ แล้วนายชอบอะไรมากกว่าเหรอระหว่างเกมกับฉั—”
“เกม”
“เร็วไปแล้ว! อย่างน้อยก็ช่วยรอให้ฉันพูดเสร็จก่อนสิยะ!”
ยูซุตีไหล่ผมอย่างอารมณ์เสีย
“จ้าๆ…เอ๊ะ ฝนตกเหรอ”
ในขณะที่ผมกำลังเมินและเตรียมตัวกลับบ้าน ผมก็ได้เห็นสภาพอากาศจากข้างนอกหน้าต่าง
เพื่อให้มีสมาธิกับการเล่นเกมและไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไปที่โถงทางเดิน ดังนั้นผมจึงใส่หูฟังข้างเดียวจนไม่ทันสังเกตเลยว่าสภาพอากาศข้างนอกได้เปลี่ยนไป
“แหงะ พอนึกๆ ดูแล้วเห็นเขาว่าวันนี้พายุไต้ฝุ่นจะเข้านี่หว่า ลืมไปซะสนิท”
ผมขมวดคิ้วพร้อมกับนึกถึงข้อมูลรายงานพยากรณ์อากาศ
“นั่นสินะ แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เดี๋ยวค่อยไปยืมร่มจากห้องพักครูกลับบ้านเอาก็ได้”
ดูเหมือนว่ายูซุจะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่น และกลับเข้าสู่สภาพปกติแล้ว
“แต่มันอันตรายนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เอ้าดูนี่”
ยูซุเปิดหน้าต่างห้องชมรมเพื่อแสดงให้เห็นว่าไต้ฝุ่นก็ไม่เท่าไหร่
และในตอนนั้นเอง ลมกรรโชกและฝนก็ได้พัดเข้ามากระทบร่างของเธอ
“วะฟู้ววว!?”
ยูซุสูญเสียการทรงตัวและส่งเสียงแปลกๆ ออกมา
“เฮ้ย! ก็บอกแล้วว่าอย่าไง”
ผมรีบปิดหน้าต่างทันที
“ฮือ…หนาวง่ะ ลมแรงกว่าที่คิดไว้อีก อย่างกับว่าจะบินไปเลยอะ”
ผมแปลกใจเล็กน้อยที่ยูซุยอมแพ้ และกดค้นหาข้อมูลในโทรศัพท์ของผม
“—ดูเหมือนว่ารออีกหนึ่งชั่วโมงเราก็จะอยู่ในตาพายุแล้ว เพราะงั้นมารอจนถึงตอนนั้นกันนะ”
“เข้าใจแล้ว…งื้อ หน๊าวหนาว”
ผมเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์หลังได้รับคำยินยอมจากยูซุ
“………ฮึ!?”
และในตอนนั้นผมก็ได้ตัวแข็งทื่อ
ชุดเครื่องแบบยูซุมันเปียกซะจนมองเห็นชั้นในหมดแล้ว…!
เสื้อชั้นในสีฟ้าอ่อนได้ถูกมองเห็นจางๆ ผ่านผ้าสีขาว และเสื้อที่เปียกจนแนบเนื้อก็ได้ทำให้ร่างกายของยูซุถูกเน้นย้ำออกมามากกว่าปกติ
“เอ่อยูซุ…ใส่นี่สิ ถ้าเธอเปียกเดี๋ยวก็เป็นหวัดเอาหรอก”
ผมไม่สามารถยืนนิ่งได้ และส่งเสื้อเบลเซอร์ที่สวมอยู่ไปให้ยูซุ เพื่อพยายามทำให้หัวใจที่เต้นอยู่สงบ
ถึงแม้จะทำหน้าประหลาดใจ แต่เธอก็ยอมรับมันไปอย่างเชื่อฟัง
“ขอบคุณนะ หายากจังนะที่ยามาโตะคุงจะใจ…อ๊ะ หรือว่า”
ยูซุมองลงมาที่ตัวเองด้วยท่าทางตกใจ สงสัยว่าเธอจะตื่นจากการเอาใจใส่แบบพิเศษของผม
ทันใดนั้นใบหน้าของยูซุก็ได้กลายเป็นสีแดงแจ๋
“หะ…เห็นแล้วใช่มั้ย? นายเห็นแล้วสินะ! ถ้าเกิดไม่เห็นยามาโตะคุงคงไม่เอาใจใส่ฉันแบบนี้สินะ!?”
เธอถามออกมาในขณะที่ซ่อนเสื้อเบลเซอร์เอาไว้ข้างหน้าลำตัว
“…ก็นะ”
ในเมื่อโกหกไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมจึงเบือนหน้าหนีแล้วก็ยอมรับผิด
“ฮึก… ยามาโตะคุงลามก”
“เหตุสุดวิสัยน่ะ”
“รู้อยู่น่า ฮึ่ม…”
ดูเหมือนว่ายูซุจะรู้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอไม่รู้จะเอาความอับอายไปลงกับใครดี
“…”
“…”
ทันใดนั้นความเงียบอันน่าอึดอัดก็ได้บังเกิดลงยังที่ที่เราอยู่
ทั้งประหม่า ทั้งเขิน ทั้งต่างฝ่ายต่างทำตัวไม่ถูก
“…ฮัดชิ้ว!”
ทันใดนั้นการจามอันน่ารักของยูซุก็ได้เข้ามาอุดช่องว่างของความอึดอัด
“เป็นไรมากมั้ย”
“อุ… ดูเหมือนว่าจะตัวเย็นไปหน่อยน่ะ”
ช่วงนี้กำลังอยู่ในกลางฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นเมื่อพระอาทิตย์ตกอุณหภูมิจึงลดลงเร็วมาก จนร่างที่เปียกชื้นได้ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน
ว่าแล้วรีบให้กลับบ้านไปคงจะดีกว่า…แต่ลมแรงแบบนี้ถ้าเกิดมีของปลิวใส่มันก็อันตรายด้วยสิ
“นั่งตรงนั้นหน่อยสิ ยามาโตะคุง”
ยูซุชี้ให้ผมนั่งลงไปกับพื้น
“…? ก็ได้อยู่หรอก ว่าแต่ทำไมกันล่ะ”
ผมนั่งขัดตะหมาดลงไปตามที่เธอบอก
“แล้วก็อย่าขยับนะ”
หลังจากยูซุพูดแบบนั้น เธอก็ได้นั่งลงมาที่ตักของผม
“ฮะ…เฮ้ย”
การสัมผัสใกล้ชิดแบบกะทันหันได้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นไปโดยอัตโนมัติ
“ยะ อย่าขยับสิ ฉันเองก็เขินเหมือนกันนะ”
พอมองดูแล้ว ก็ได้เห็นว่าต้นคอกับหูของยูซุเป็นสีแดแปร๊ด
“…ทำไมจู่ๆ ถึงทำงี้”
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากทำให้หัวใจของยามาโตะเต้นแรงบ้างเพื่อที่จะได้ไม่แพ้เกมนี้น่ะ”
“เพราะแค่นี้เนี่ยนะ”
เห็นได้ชัดว่าต้นเหตุมันมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“แล้วฉันก็กลัวว่าจะเป็นหวัดด้วย ดีมากยามาโตะคุง นายนี่มีประโยชน์จริงๆ”
“เอาเถอะ ก็ใช่ว่าฉันจะเสียอะไรสักหน่อย…”
ร่างกายของยูซุมันก็เย็นจริงๆ นั่นแหละ ดังนั้นขอยอมรับโดยไม่ปฏิเสธ
รูปร่างอันแสนบอบบางนั้นช่างพอดีเข้ากับแขนของผม ร่างกายที่หนาวเย็นของเธอได้นุ่มนิ่มและส่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวโชยเข้ามาในระยะประชิด
“อ๊ะ ขอดักไว้ก่อน ต่อให้เราสองคนจะอยู่ด้วยกันสองต่อสองและใกล้ชิดกันขนาดไหน ก็ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ล่ะ”
“ต่อให้ไม่บอกก็ไม่ทำหรอก”
ผมตอบยูซุกลับไปอย่างแน่วแน่เจือความประหลาดใจ ทว่าเธอกลับหันกลับมาด้วยท่าทางเคืองหน่อยๆ
“ฮึ พูดอย่างกับว่าไม่พอใจงั้นแหละ อุตส่าห์มีสตูว์แสนอร่อยอยู่ตรงหน้า อย่างน้อยก็ช่วยคาดหวังหน่อยสิ”
ยังคงเต็มไปด้วยคำขอแสนไร้เหตุผลเหมือนเดิมเป๊ะ
“ถ้าเกิดอยากให้ฉันคาดหวัง ก็ช่วยเพิ่มการยั่วยวนให้มันมากกว่านี้สิ ก็ยูซุน่ะยังขาดความยั่วยวนแบบผู้ใหญ่ไปอยู่นี่”
“ฮึ่ยๆๆ…อีคนตามืดบอดเอ๊ย ศักดิ์ศรีไม่จำเป็นสูงมากจนทำตามความต้องการตัวเองไม่ได้ว่างั้น”
“ถ้าเกิดหงุดหงิดก็ลองใช้เสน่ห์ทางเพศของเธอมาทำลายเหตุและผลของฉันดูสิ”
เมื่อถูกยั่วยุ ยูซุก็ได้เม้มปากด้วยความหงุดหงิด
“มองมาที่ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันจะเลเวลอัพยามาโตะคุง ให้นายหัวใจวายเพียงแค่สบตาฉันให้ได้เลยคอยดู”
“ไม่ใช่ว่าความรักมันบิดเบี้ยวซะจนกลายเป็นเจตนาฆ่าไปแล้วเหรอ หรือว่าเธอจะเป็นยันเดเระคนใหม่”
“สักวันนึงฉันจะทำให้นายเรียกฉันว่าเทพธิดาแห่งความงามให้ได้เลยคอยดู”
“สำหรับตอนนี้ฉันคงเรียกเธอว่ายมทูตได้เท่านั้นละนะ”
ผมถอนหายใจและ ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เรารอให้ฝนหยุดตกในขณะที่คุยกันแบบนั้นไปเรื่อยๆ
—หนึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อฝนหยุดตกพวกเราก็ได้ออกไปจากโรงเรียน
“ว้าย~ ค่ำแล้วจริงๆ ด้วย”
ยูซุผู้ซึ่งเสื้อผ้าแห้งตอนหลบฝนไปแล้วได้แหงนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างเริงร่า
“ใช่ มืดแล้ว ให้ฉันไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่นานเราก็จะออกจากตาพายุแล้ว ยามาโตะคุงควรจะกลับบ้านไปโดยไม่อ้อมนะ”
“เข้าใจแล้ว งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“อื้ม เจอกันใหม่นะ”
ยูซุโบกมือและเดินจากไป
ผมหันส้นเท้าของตัวเองและเดินไปตามถนนของโรงเรียน
จากนั้นเมื่อเธอหายลับสายตาไปแล้ว ผมก็ได้สูลมหายใจเข้าลึกๆ
“เกือบไปแล้วโว้ยยยย………!”
อะไรของยัยนั่นฟะ! อยู่ด้วยกันสองต่อสองแท้ๆ แต่กลับเข้ามาใกล้ชิดขนาดนั้น! ไม่รู้เลยว่าถ้าเกิดเราเดินผิดไปก้าวจะเกิดอะไรขึ้น!
ยัยนั่นทั้งที่เป็นคนหลงตัวเองแท้ๆ แต่กลับประเมินเสน่ห์ของตัวเองต่ำไปซะงั้น!
‘จะว่าไปฉันก็คิดนะว่าชายหญิงสองคนมาอยู่ด้วยกันทุกวันมันจะเป็นอะไรไหม แต่เอาจริงๆ แล้วมันดันมีแค่เล่นเกมด้วยกันเท่านั้น’
…กลับกันแล้ว เกมต่างหากที่ได้ช่วยผมไว้
ถ้าเกิดผมไม่มีอะไรให้จดจ่อและต้องอยู่กับยูซุสองต่อสอง ตอนนี้ผมคงจะ…
“…ไม่ๆๆ ต้องรีบรีเซ็ตความรู้สึกในตอนนี้”
ผมส่ายหน้าและเพิ่มความเร็วในการเดินเพื่อให้กลับบ้านได้เร็วยิ่งขึ้น
หลังจากเคลียร์เกมปัจจุบันเสร็จ ผมก็ได้ตัดสินใจหาเกมใหม่มาเล่นต่อ