(WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก - ตอนที่ 66 รุยจะเลือกอะไร?
- Home
- (WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก
- ตอนที่ 66 รุยจะเลือกอะไร?
ตอนที่ 66: รุยจะเลือกอะไร?
──
[ …หนังสนุกมากเลยเนอะ! ]
[ อืม เกินกว่าที่คาดไว้จริง ๆ ]
หลังจากดูหนังจบ พวกเราก็เดินมาที่คาเฟ่ คาเฟ่ที่ว่าก็ไม่ใช่คาเฟ่ธรรมดา แต่เป็นคาเฟ่ที่คอลแลปเกมแอ็กชันยอดนิยมเกมหนึ่ง
เราบังเอิญเจอเข้า และด้วยความที่เป็นเกมที่อายากะเคยสตรีมมาก่อน เลยเสนอว่า ‘ไหน ๆ ก็มาแล้ว ลองเข้าไปดูหน่อยดีมั้ย?’
…แต่ไม่คิดเลยว่าราคาจะขนาดนี้
[ รุยคิดว่าสนุกตรงไหนที่สุด? ]
[ ก็… ถึงจะเป็นพล็อตที่ดูธรรมดาแบบให้เลือกระหว่างเด็กสาวผู้เป็นนางเอกกับโลกทั้งใบ แต่การที่ตัวเอกยึดมั่นในสิ่งที่เขาอยากทำจนถึงที่สุดนี่แหละที่ดีมาก ถึงจะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่การที่เขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักนี่มันซึ้งมากเลยนะ… อีกอย่าง งานภาพก็ดีสุด ๆ สมแล้วที่เป็นของผู้กำกับอาซาคุมิ ]
พอพูดจบ อายากะก็ยิ้มให้
[ ฮุฮุ… พูดถึง ‘งานภาพ’ นี่ดูเหมือนโอตาคุเลย คนธรรมดาเขาจะบอกว่า ‘ภาพสวย’ กันมากกว่าไม่ใช่เหรอ? ]
[ อืม… งั้นเหรอ ]
อาจจะจริงอย่างที่เธอว่า… แต่ในเมื่อมันเป็นอนิเมะมูฟวี่ ผมว่า ‘งานภาพ’ ก็น่าจะถูกต้องแล้วนี่… หรือว่าคำพวกนี้มันดูเหมือนโอตาคุไปจริง ๆ?
[ แล้วอายากะล่ะ คิดว่ายังไง? ]
[ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน! การที่เขาพยายามช่วยมินะจัง (ชื่อของนางเอกในหนัง) อย่างสุดชีวิตมันดูน่าประทับใจมาก ฉันเองก็อยากมีคนรักฉันแบบนั้นบ้างจัง… ]
[ หืม~ ]
ดูเหมือนอายากะจะอินกับนางเอกมากกว่าตัวเอก มุมมองแบบนี้ก็ดูแปลกใหม่สำหรับผมเหมือนกัน…
[ นี่ ถ้าสมมติว่าฉันต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยโลก รุยจะเลือกอะไ- ]
[ อายากะ ]
คำตอบนั้นหลุดออกมาจากปากโดยที่ผมไม่ทันคิด
[ ห-ห๊ะ!? ตอบเร็วจัง! ไม่ลังเลหน่อยเหรอ? ]
[ ก็.…..โลกที่ไม่มีเธอมันไม่มีความหมายหรอก อีกอย่าง ฉันเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะมีเธออยู่ด้วย ถ้าต้องอยู่ในโลกที่ไม่มีเธอ ฉันก็คงไม่มีความสุขหรอก ]
[ …..รุยเป็นคนพูดอะไรน่าอายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ]
อายากะหน้าแดงและพูดออกมา เธอดูดโซดาชื่อ Pikakko Sparkling Cider (ราคา 950 เยน แถมที่รองแก้วลายพิเศษ) ซึ่งมีมาสคอตสายฟ้าของเกมประดับอยู่… นี่ อย่าเขย่าจนน้ำเป็นฟองแบบนั้นสิ มันเสียมารยาทนะ
[ …ก็แค่พูดความจริง ]
[ เฮ้อ~ ถ้ารุยเป็นตัวเอกของหนัง คงเลือกแบบไม่ลังเล โลกคงล่มสลาย หนังจบเร็วแน่ ๆ เลย ]
[ ไม่ขนาดนั้นหรอก… โอ๊ะ สุดยอด! ]
ระหว่างคุยกัน อาหารที่เราสั่งก็ถูกยกมาเสิร์ฟ เป็น Popopo Burger และ Wadoo Burger ที่มีการพิมพ์ลายตัวเอกและคู่หูลงบนขนมปัง เห็นราคาแล้วก็… เกิน 1,000 เยนทั้งนั้น แต่คุณภาพถือว่าไม่ผิดหวังเลย
[ ว้าว น่ารักจัง! ถ่ายรูปดีกว่า! ]
[ อืม! ]
พวกเราหยิบมือถือมาถ่ายรูปกัน จากนั้นผมก็เตรียมจะกัดเบอร์เกอร์…
แชะ!
…จู่ ๆ ผมก็รู้สึกได้ว่าอายากะยกกล้องมาถ่ายรูปผม พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
[ อืม? ถ่ายอะไรของเธอเนี่ย? ]
[ ก็นะ~อยากได้รูปตอนรุยกินบ้างไง! ]
[ เฮ้อ… งั้นฉันถ่ายเธอบ้างล่ะนะ? ]
[ ได้เลย! …แต่ต้องถ่ายให้น่ารักนะ! ]
[ มือถือฉันไม่มีแอปแต่งรูปหรอก ]
ผมพูดพลางหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปอายากะด้วยแอปกล้องพื้นฐาน พอผมทำท่าจะเก็บมือถือ เธอก็ยื่นมือมาทันที
[ ขอดูหน่อย! ]
[ เอาไปสิ ]
ผมส่งมือถือให้เธอ เธอดูรูปแล้วเอียงคอนิดหน่อย…
[ อืม… สีหน้าไม่ค่อยดีเลย! ขออีกทีนะ! ]
[ หา…? รีบกินเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด ]
[ ขอร้องล่ะ! แค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง! ]
[ ก็ได้… เอ้า… ชี—— แชะ แชะ แชะ แชะ แชะ แชะ ——ส! ]
[ แกล้งกันชัด ๆ เลยนี่!!!! ]
ผมแกล้งลั่นชัตเตอร์รัวใส่อายากะ จังหวะที่เธอโพสท่าอย่างน่ารักเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าหงุดหงิดเดินตรงมาหาผม ถูกบันทึกไว้ในอัลบั้มรูปของผมเรียบร้อย แล้วเธอก็คว้ามือถือผมไปตรวจดูภาพ
[ … ]
…แต่ดูเหมือนเธอจะเจอรูปที่ออกมาดีอยู่บ้าง อายากะกลับมามีสีหน้าเหมือนเดิมก่อนจะยื่นมือถือคืนให้ผมพร้อมพูดขึ้นว่า
[ อืม… แต่ก็ถ่ายออกมาดีเหมือนกันนะเนี่ย รุย ถ้าจะตั้งเป็นภาพหน้าจอล็อกไว้ก็ได้นะ ]
[ ไม่ทำหรอกน่า… ]
บนหน้าจอมือถือปรากฏภาพอายากะกำลังถือเบอร์เกอร์พร้อมรอยยิ้มสดใส ภาพนี้มันน่ารักมากจนไม่น่าเชื่อว่าผมเป็นคนถ่ายเอง… คงเป็น ‘ภาพมหัศจรรย์’ ที่ยากจะเกิดซ้ำได้… เอาไว้กลับบ้านแล้วฉันค่อยแอบตั้งเป็นภาพหน้าจอ โดยไม่ให้อายากะจับได้แล้วกัน…?
[ ดูนี่สิ รุย! มีต้นไม้ที่เลียนแบบ Wisp Forest ศัตรูในเกมอยู่ด้วย… มาถ่ายรูปสิ! ]
[ อืม… ดูลงทุนมากเลยนะเนี่ย ถ้าคุณภาพขนาดนี้ ราคาที่สูงก็คงสมเหตุสมผลล่ะมั้ง… ]
ผมกัดเบอร์เกอร์พลางมองอายากะที่กำลังถ่ายรูปต้นไม้ต้นนั้น… สถานที่แบบนี้ ผมคงไม่กล้าเข้ามาคนเดียวแน่ ๆ อายากะอยู่ด้วยนี่แหละดีแล้ว… เอาไว้ผมถ่ายเก็บไว้บ้างก็ดี
[ ฮิๆ..คนไม่เยอะดีเนอะ? ]
[ อืม ตอนเย็นแบบนี้แหละ ]
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าโมงเย็น ถือว่าเป็นมื้อเย็นที่ค่อนข้างเร็วทีเดียว
[ นี่ ถ้าพวกเราทำคาเฟ่ร่วมกับใครสักคน เขาจะทำออกมาได้แบบนี้มั้ยนะ? ]
[ ก็คงดี… แต่พูดถึงไลฟ์สตรีมอะไรพวกนั้นในที่สาธารณะนี่ ไม่ควรพูดมากเกินไปนะ ไม่รู้ว่าใครอาจได้ยินเข้าบ้าง ]
[ อ๊ะ จริงด้วยสิ ]
แต่ในเมื่อเธอเรียกผมว่า “รุย” อยู่แล้ว ก็ถือว่าเรื่องนั้นผ่านมานานเกินไปที่จะสนใจ อีกอย่าง รอบ ๆ โต๊ะเราก็ไม่มีคนอื่น น่าจะไม่ต้องกังวลมากหรอก… แต่ก็ควรระวังไว้เผื่ออนาคต
[ แล้วรุย พอกินเสร็จแล้วจะไปไหนต่อ? ]
[ อืม… ไปร้านหนังสือ จากนั้นก็ร้านของใช้หรือไม่ก็ร้านเสื้อผ้า แล้วค่อยแยกย้ายกัน ]
[ … ]
พอได้ยินแผนที่วางไว้ อายากะก็ทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย
[ นี่ รุย… ขอเวลาให้ฉันไปทำธุระสักหน่อยได้มั้ย? ]
[ ธุระ? ]
[ อืม มีที่ที่อยากแวะคนเดียว ขอแค่ 30 นาที… เอาแค่ 20 นาทีก็พอ ได้มั้ย? ]
[ เอ้า ไปด้วยกันก็ได้นี่ จะได้ไม่เสียเวลา ]
[ ไม่ได้! ฉันอยากไปคนเดียว ]
[ หา…? ]
ที่ที่เธออยากไปคนเดียวคือที่ไหนกัน… ร้านชุดชั้นในเหรอ? ทำไมผมถึงนึกได้แต่แบบนี้นะ… ก็ไม่อยากคิดไปไกลหรอก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้
เอาเถอะ… ถึงจะเซ้าซี้ถามไป อายากะก็คงไม่ยอมเปลี่ยนใจ คงต้องยอมทำตามที่เธอขอ
[ ก็ได้ งั้นพอกินเสร็จก็แยกกันไปเลยละกัน ]
[ อื้อ! ขอบคุณนะ! ]
[ แต่ระหว่างรอ ฉันจะไปทำอะไรดีล่ะ… ]
[ ไปเล่นเกมเซ็นเตอร์สิ ]
[ เฮ้… ตอนนี้เงินฉันเหลือน้อยแล้วนะ ]
[ ฮิๆ! ]
…หลังจากเรากินเบอร์เกอร์เสร็จ ก็จ่ายเงินและออกจากร้าน จากนั้นแยกย้ายกันไปตามทางที่ตัวเองวางไว้.