(WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก - ตอนที่ 39 ทำไมไม่พูดตรง ๆ ล่ะ?
- Home
- (WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก
- ตอนที่ 39 ทำไมไม่พูดตรง ๆ ล่ะ?
บทที่ 39: “ทำไมไม่พูดตรง ๆ ล่ะ? “
『 อื้ม! พูดจริง ๆ น่ะ! 』
อายากะพูดซ้ำคำของผมโดยไม่แสดงท่าทางรู้สึกผิดเลย… แต่จะให้ฉันพาทุกคนมาที่บ้านฉันจริง ๆ เหรอ?
[ อายากะ… ไม่มีที่อื่นแล้วเหรอ? ]
『 อืม ฉันลองคิดที่อื่นแล้วนะฉันอยู่บ้านพ่อแม่ใช่มั้ยล่ะ? คาเร็นจังก็อยู่บ้านพ่อแม่เหมือนกัน แล้วโรบินคุงบ้านก็เละสุด ๆ ไปเลย คิดจะใช้สตูดิโอของสกายซัน แต่ว่าผู้จัดการก็ยังไม่อนุมัติน่ะ』
[ อ๋อ… แล้วก็เลยเหลือแค่บ้านฉัน…]
『 ใช่แล้ว! 』
เข้าใจล่ะ…ถ้ามันลำบากเรื่องสถานที่ขนาดนั้นก็จะให้ใช้บ้านผมก็ได้ แต่ว่าจากสถานีที่ใกล้ที่สุดมาบ้านผมก็ใช้เวลาเดินตั้ง 20 นาทีเลยนะ แล้วก็…
[ บ้านฉันก็ไม่ได้กว้างอะไรเลยนะ แค่อพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ เอง ]
『แต่ก็น่าจะมีที่นั่งสำหรับสี่คนใช่มั้ยล่ะ?』
[ อืม… ก็คงพอมีที่นั่งให้ทุกคนแหละ… ]
ผมมองไปรอบ ๆ ห้อง ถึงจะพยายามทำตัวให้ดูดีวางต้นไม้เล็ก ๆ ไว้บนโต๊ะ แต่ว่าพื้นก็เต็มไปด้วยหมอนขาด ๆ กับคอนโทรลเลอร์เกมที่กระจัดกระจายอยู่… พูดตรง ๆ ก็คือมันไม่ได้สะอาดสักเท่าไหร่เลย
[ ถึงจะบอกว่าให้ใช้บ้านฉันก็เถอะ อายากะอาจจะโอเคก็จริง แต่คนอื่นเขาจะไม่รังเกียจกันเหรอ? ต้องมาเจอคนแปลกหน้าครั้งแรกที่บ้านเนี่ย… แถมบ้านยังรกอีกนะ ]
ผมพูดด้วยความเป็นห่วงทุกคน แต่พอพูดจบอายากะก็ครุ่นคิดเล็กน้อย
『สองคนนั้นบอกว่าไปที่ไหนก็ได้หมดแหละ… แต่ถ้านายกังวลขนาดนั้น ..จะลองโทรถามพวกเขาเลยดีมั้ย?』
[ หา? ]
『 โทรหาคาเร็นจังกับโรบินคุงไง ลองคุยแบบกรุ๊ปคอลกันดูไหม? 』
[ เอ่อ… ]
ถ้าเป็นการเจอกันจริง ๆ ก็คงพอทำใจได้ แต่จะให้คุยกันผ่านทางคอลก็น่าอึดอัดเหมือนกัน… แต่ถึงอย่างนั้นก็ถอยไม่ได้แล้วล่ะ ผมพูดไปแล้วว่าจะลองใช้ชีวิตวัยรุ่นดู… ผมจะต้องก้าวข้ามตัวเองให้ได้
ผมตัดสินใจแล้วตบแก้มตัวเองเบา ๆ ก่อนจะบอกอายากะ
[ …โอเค งั้นรบกวนอายากะหน่อยแล้วกัน ]
『ฟุฟุ เข้าใจแล้ว! งั้นเดี๋ยวฉันลองส่งข้อความถามสองคนนั้นก่อนนะ!』
[ อื้ม ]
หลังจากรออยู่ไม่กี่นาที อายากะก็ได้รับคำตอบจากทั้งสองคนแล้ว
『อ่ะ โรบินคุงบอกว่าคุยได้ตอนนี้เลย งั้นเดี๋ยวให้เขาเข้ามาใสสายก่อนนะ! ส่วนคาเร็นจังต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อย!』
[ โอเค เข้าใจแล้ว── ]
ก่อนที่ฉันจะพูดจบ เสียงแจ้งเตือนการเข้าร่วมสายก็ดังขึ้น…
『สวัสดี ฉันโรบิน… เฟรล! ยินดีที่ได้เจอ รุยบอย…!』
เสียงทุ้มต่ำที่เยิ้ม ๆ ฟังดูเหนื่อย ๆ ดังขึ้น… นี่อย่าบอกนะว่าเขาคือโรบิน เฟรลที่ดูเท่ ๆ คนนั้น?
[ …ตัวจริงใช่มั้ยเนี่ย? ]
『ใช่แล้ว นี่แหละตัวจริงเสียงจริง… ชื่อจริงของฉันคือซึบาสะ』
[ บอกแบบนั้นได้เหรอครับ? ]
『 ฮึ ๆ ก็เพราะว่าเป็นรุยบอยน่ะสิ ส่วนคนอื่น ๆ รู้แค่ชื่อสกุลเท่านั้น… แน่นอนว่าชื่อที่ใช้อยู่ก็เป็นนามสกุลเก่าของแม่น่ะ 』
[ .. ]
…คือเข้าไม่ถึงเลย ไม่เข้าใจเขาเลย! นี่มันอะไรกัน! น่ากลัวจัง!?
[ เอ่อ โรบินซัง… ปกติก็เป็นแบบนี้เหรอ? ]
『 อืม ฉันคือผู้ที่ไม่ยอมให้สิ่งใดมาผูกมัดน่ะ… ฉันเป็นคนอิสระสุดๆ! 』
[ ไม่เข้าใจเลยนะ… ]
『ฮะฮะ นี่แหละโรบินคุงตามปกติ ถึงจะยังไม่คุ้นก็เถอะ แต่เขาเป็นคนตลกจริง ๆ นะ!』
[ เอ่อ… ถ้านี่คือปกติของเขา ฉันก็กังวลแทนเลยนะ… ]
ผมพูดด้วยความงุนงง… ดูเหมือนว่า VTuber จะต้องเป็นคนที่หลุดโลกขนาดนี้ถึงจะได้รับความนิยมเหรอ…? นี่ผมเข้ามาในวงการที่ยุ่งเหยิงแล้วใช่มั้ย? ถ้าถอยตอนนี้น่าจะดีกว่านะ?
จากนั้นโรบินก็เริ่มคุยกับอายากะ
『โอ้ว สวัสดีเรย์จัง ไม่เจอกันนานเลยนะ ตั้งแต่สตรีมร้องคาราโอเกะของกลุ่มโอเวนครั้งที่แล้วสินะ?』
『ใช่! นั่นก็ตั้งสามเดือนแล้วเนอะ?』
『อืม เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเลย ทั้งที่เบื่อกับความร้อนแทบแย่ แต่ก็เริ่มรอคอยฤดูร้อนครั้งหน้าแล้วล่ะ… ว่าไหม ราเม็งบอย?』
[ เดี๋ยวนะ หรือว่านั่น… หมายถึงฉัน? ]
『นอกจากนายแล้วจะหมายถึงใครล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า!』
[ .. ]
อืม ก็คงเป็นคนร่าเริงสินะ… แล้วอายากะก็พยายามจะดึงบทสนทนากลับมา
『เอาล่ะ โรบินคุง เกี่ยวกับคอลแลบกับกลุ่มโอเวนคราวนี้น่ะ… พวกเราตัดสินใจว่าจะจัดที่บ้านของรุย นายโอเคมั้ย?』
『 ฉันไม่มีปัญหา ว่าแต่รุยบอยยอมจริงๆเหรอ? ไม่เป็นไรแน่นะ?』
[ อ้อ ไม่มีปัญหาหรอกครับ ผมเป็นหน้าใหม่ด้วย แค่ได้ช่วยอะไรบ้างก็รู้สึกดีแล้ว… ]
โรบินรีบขัดคำพูดของผม
『ไม่ต้องไปคิดแบบนั้นหรอกนะ รุยบอย พวกเราทุกคนเท่าเทียมกันไม่ต้องคิดว่าใครเป็นหน้าใหม่หรืออะไรหรอกนะ?』
[ หา? ]
『พวกเราเป็นเพื่อนกันไง แล้วก็ไม่ต้องใช้ภาษาสุภาพด้วยนะ คนที่พูดทุกอย่างที่อยากพูดได้… นั่นแหละเพื่อนแท้』
[ …อืม ก็จริงนะ ]
ถึงจะยังงง ๆ อยู่เมื่อกี้… แต่พอได้ยินคำพูดนั้น ผมก็รู้สึกว่าพอจะไว้ใจโรบินได้ เขาคงจะเป็นคนซื่อ ๆ ที่คล้าย ๆ กับผมล่ะมั้ง…
[ ขอบคุณนะ โรบิน… แต่คราวนี้ถึงจะยังไม่ได้กำหนดที่แน่นอน แต่ฉันเองก็เริ่มสนุกแล้วล่ะ เพราะงั้นถ้าไม่รังเกียจ มาเล่นที่บ้านฉันได้มั้ย? ]
『ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เข้าใจแล้ว รุย งั้นจะขอแวะไปเล่นที่บ้าน…พร้อมรองเท้าเลย』
[ อะไรนะ? ]
『เป็นการทักทายแบบอเมริกันไงล่ะ』
[ นี่เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ]
──ในตอนนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนการเข้าร่วมสายก็ดังขึ้นอีกครั้ง
『อ่ะ คาเร็นจังก็มาด้วยแล้ว!』
『อ๊า ขอโทษที่มาช้านะคะ เรย์ซัง! กำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอกอยู่ค่ะ!』
เสียงเล็ก ๆ น่ารักดังขึ้นมา เป็นเสียงที่ฟังดูเหมือนนักพากย์ที่มีเอกลักษณ์มาก
『ไม่เป็นไรเลย! แล้ว… คาเร็นจังเองก็เพิ่งเจอรุยครั้งแรกใช่มั้ย?』
『รุย… อ๊ะ รุยซังสินะคะ! ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ! ฉันชื่อคาเร็น สตอรี่! ฝากตัวด้วยนะคะ!』
[ อ่า ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ! ]
ผมตอบกลับไปด้วยความโล่งใจ… คาเร็นดูเป็นคนปกติดี ค่อยยังชั่วหน่อย…
『ฉันได้ยินเรื่องของรุยซังจากเรย์ซังมาหลายอย่างเลย… ดีใจที่ได้คุยกันแบบนี้นะคะ! ฝากตัวด้วยค่ะ!』
[ ครับ แน่นอนครับ! ว่าแต่… เรย์พูดอะไรเกี่ยวกับฉันไว้บ้าง? ]
『 อืม… เรย์ซังบอกว่ารุยซังเหมือนกระต่ายค่ะ! 』
[ หา? หมายความว่าไง!? ]
ส่วนไหนของผมมันเหมือนกระต่ายเนี่ย…!? หรือจะหมายถึงขาสั้นอะไรแบบนั้น…!? แล้วอายากะก็รีบขัดจังหวะด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย
『 เอ่อ ไว้เรื่องนั้นก่อนเถอะ… คาเร็นจัง คราวนี้พวกเราจะไปที่บ้านของรุย ไม่เป็นไรใช่มั้ย ?』
『 ไม่เป็นไรค่ะ! ถ้ามีเรย์ซังอยู่ด้วย ฉันไปที่ไหนก็ได้ค่ะ! จะตามไปทุกที่เลย! 』
คาเร็นตอบอย่างสดใสโดยไม่ลังเล ดูเหมือนจะติดอายากะมาก… ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้แฮะ แต่ก็นะ อายากะก็เป็นคนที่ดูแลคนเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่สมัยประถมเธอเคยพาเด็ก ๆ ในละแวกบ้านไปเดินเล่น… แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นตอนที่เรายังอยู่ประถมนะ
『ขอบคุณมากเลยนะ! เดี๋ยวจะแจ้งวันเวลาอีกที!』
『ค่ะ!』
『ขอบคุณที่โทรมานะ งั้นไว้เจอกันใหม่!』
『ค่ะ ลาก่อนค่า!』 『ฮึ ๆ ซาราบาด้า!』
แล้วทั้งสองก็ออกจากสายไป… เหลือเพียงแค่อายากะที่หัวเราะคิกคัก
『ดีใจด้วยนะ รุย! สองคนนั้นตกลงมาที่บ้านด้วยแหละ!』
[ อืม… คงต้องทำความสะอาดแล้วล่ะ น่ารำคาญจริง… ]
『อิฮิ! ก็พูดตรง ๆ ว่าตื่นเต้นก็ได้นี่นา?』
[ …. ]
อายากะก็ดูเหมือนจะรู้ทันทุกอย่างที่ผมคิดจริง ๆ ด้วย…
โค้งเกือบสุดท้ายของบท1 แล้ว แต่หลังๆจากบทนี้ หวานๆเลย
ลืมใส่『 』ตอนที่แล้ว(ฮา)