(WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก - ตอนที่ 105 นี่พยายามทำให้ฉันดูแย่อยู่เหรอ?
- Home
- (WN) ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากได้ออกสตรีมในช่องVTuberของเพื่อนสมัยเด็ก
- ตอนที่ 105 นี่พยายามทำให้ฉันดูแย่อยู่เหรอ?
ตอนที่ 105: นี่พยายามทำให้ฉันดูแย่อยู่เหรอ?
เราสามคนได้ออกล่ามอนสเตอร์กัน เพื่อเก็บเงิน ตอนแรกเราออกล่ากันเป็นปาร์ตี้สามคน แต่เพราะต้องการเน้นประสิทธิภาพ เราจึงแยกกันทำงาน ตอนนี้ผมจึงล่ามอนสเตอร์อยู่คนเดียว
ผมฟันสไลม์เร่ร่อนที่กระโดดอยู่ในทุ่งหญ้า แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ
[ …เฮ้อ อีกครั้งที่ฟันสิ่งที่ไม่น่าสนใจ ]
“?”
“ห๊ะ?”
“!?”
“เลิกพูดแบบนั้นเถอะ”
“ฟันอะไรที่น่าสนใจกว่านี้หน่อยสิ”
“เลิกทำตัวเท่ปลอมๆ ได้แล้ว”
แต่ดูเหมือนปฏิกิริยาของผู้ชมจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่…ก็แน่ล่ะ สไลม์เป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในเกมนี้ แถมการต่อสู้ก็ไม่ได้เร้าใจเลย แต่ถ้าจะเพิ่มเลเวลและหาเงิน ก็ต้องทำแบบนี้แหละ ค่อยๆ จัดการมอนสเตอร์ตัวเล็กๆ ไปเรื่อยๆ
[ …โอ๊ะ เลเวลอัพแล้ว ]
เสียงแจ้งเตือนที่ฟังดูสนุกดังขึ้นเมื่อฉันได้รับค่าประสบการณ์จากมอนสเตอร์ตัวสุดท้าย ดูเหมือนว่าการเลเวลอัพจะทำให้ความสามารถพื้นฐานเพิ่มขึ้น และยังได้สกิลใหม่อีกด้วย ซึ่งสกิลนั้นจะถูกสุ่มมาให้
สกิลที่ผมได้รับมี “หูปีศาจ” กับ “ตาทิพย์”
[ หูปีศาจกับตาทิพย์เหรอ…เหมือนจะเอาไปใช้ในทางไม่ดีได้เลยนะ ]
“กึก..”
“คิดอะไรออกแล้ว”
“แจ้งความเลย”
“ทำไมมีแต่สกิลเหมือนโจรล่ะ”
“ดูไม่ค่อยช่วยในการต่อสู้เท่าไหร่ แต่คงใช้สร้างคอนเทนต์ได้”
“นี่มันสกิลที่ไม่เข้ากับนักเวทเลย www”
“ข้ามไปเถอะ”
มันจริงที่ว่าสกิลนี้ดูไม่ค่อยมีประโยชน์ในการต่อสู้ ผมน่าจะเอาคะแนนที่ได้ไปเพิ่มค่า HP หรือค่าพลังอื่นๆ มากกว่า
[ …แต่ดูน่าสนุกดี งั้นเอาล่ะกัน! ]
“5555”
“อ้าว”
“จบกัน”
“รุยผู้แอบมองกำเกิดแล้ว”
ผมเลือกสกิลทั้งสองทันที และลองใช้งานมันโดยเลื่อนเคอร์เซอร์ไปยังจุดที่แสดงตำแหน่งของเรย์บนแผนที่
[ งั้นลองใช้ดูเลยแล้วกัน…เรย์อยู่ที่ไหนนะ? ]
“555”
“รู้อยู่แล้ว”
“ก็ต้องอยากรู้ว่าเรย์ทำอะไรอยู่แหละ”
“อยากเห็นเธอจริงๆ ใช่ไหมล่ะ”
“แฟนบอยของเรย์”
“นี่นายเป็นสตอล์กเกอร์เหรอ?”
[ สตอล์กเกอร์อะไรล่ะ แค่ลองใช้สกิลเฉยๆ ]
พูดจบ ผมเล็งไปยังทิศทางของเรย์แล้วใช้สกิล พอใช้แล้วก็เหมือนกำลังมองผ่านกล้องส่องทางไกล เห็นเรย์กับอินะริกำลังเก็บไอเทมที่ดรอปอยู่
[ โอ้ ดูสิ อินะริซังอยู่กับเรย์นี่นา ]
ผมเปิดใช้งานสกิลหูปีศาจพร้อมกัน และเสียงสนทนาของทั้งสองก็ดังมาถึงผม
[ …อินะรินเก่งจริงๆ นะ! ถ้าเรื่องธนู เธออาจจะเก่งที่สุดเลยก็ได้! ]
[ มะ…มันบังเอิญน่ะค่ะ เพราะธนูที่เก็บมาได้มีฟังก์ชันตามเป้าหมายเอง… ]
[ งั้นให้ฉันลองบ้างสิ! ]
[ อ่ะ…ค่ะ! ]
เรย์รับธนูจากอินะริซัง แล้วยิงใส่มอนสเตอร์นกที่บินอยู่ใกล้ๆ
[ ยิงเลย! ]
…แต่ธนูนั้นพลาดเป้าไปไกล มอนสเตอร์นกรู้ตัวและบินโฉบเข้ามาโจมตีเธอทันที
[ ว้ากกกกกก!!! ]
[ …ห่วยเกินไปแล้วมั้ง ]
“555”
“555”
“ซุ่มซ่ามเกินไป”
“ดูได้ทั้งวันเลยw”
“เป็นผู้หญิงที่น่าสนุกจริงๆ”
เมื่อมองเห็นภาพเหตุการณ์นั้น อินะริที่เหมือนจะมีอาวุธสำรองอยู่ก็หยิบคันธนูอีกอันออกมายิงมอนสเตอร์ทันที ลูกธนูพุ่งตรงไปที่หัวของมอนสเตอร์นกและจัดการมันในทีเดียว… จนผมเผลออุทานออกมา
[ …เอ๊ะ เก่งไปแล้ว!? ]
“ยิงแม่นเกินไปแล้ว”
“สุดยอดเลย 555”
“ยิงเฮดช็อต!!?”
“ธนูอีกอันไม่น่ามีระบบติดตามนะ!?”
“เก่งเกิ๊น”
“นี่เราเจอคนที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้เลยเหรอ…?”
ถึงแม้ว่ามอนสเตอร์จะเสียสมาธิไปเพราะเรย์ แต่การยิงจากระยะไกลและเล็งหัวให้โดนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หรือว่าเธอคนนี้มีพรสวรรค์ในการต่อสู้จริงๆ!?
จากนั้น อินะริที่ดูตกใจและรีบวิ่งเข้าไปช่วยเรย์ที่โดนมอนสเตอร์เล่นงานก็ยื่นมือให้เธอ
[ เรย์จัง! ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย!? ขอโทษนะคะ มาช่วยช้าไปหน่อย…]
เรย์จับมือของอินะริและลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม
[ ขอบคุณมาก! อินะรินสุดยอดเลย ฉันไม่มีทางใช้ธนูได้เก่งแบบนั้นแน่ๆ เธอนี่เป็นอัจฉริยะเรื่องธนูจริงๆ! ]
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น อินะริก็หน้าแดงเล็กน้อยและก้มหน้าด้วยความเขินอาย
[ …เอ่อ เรย์จังก็น่ารักจริงๆ นะคะ ]
“น่ารักเกินไปแล้ว…”
“ฉากนี้อบอุ่นหัวใจสุดๆ”
“เรย์ x อินะริ นี่คือที่สุด”
“อยากดูพวกเธอแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลย”
“แล้วรุยล่ะ?”
“ให้รุยทำหน้าที่กล้องไปละกัน”
[ พวกนายเนี่ยนะ… ]
ถึงจะรู้สึกเหนื่อยใจกับคอมเมนต์พวกนี้ แต่ผมก็แอบสนุกที่ได้ดูปฏิสัมพันธ์ของทั้งคู่ เรย์ที่ได้รับคำชมก็เหมือนจะเริ่มลำพองใจเล็กน้อย
[ ไม่หรอก ไม่ได้ขนาดนั้น… แต่รุยก็เคยพูดอะไรคล้ายๆ กันนี่นา? ]
[ อาจจะเป็นเพราะรุยซังสัมผัสได้ถึงความใจดีของเรย์จังล่ะมั้ง… เอ๊ะ! แน่นอนว่ารุยซังก็ใจดีเหมือนกันนะคะ ]
เรย์ยิ้มแหยๆ ก่อนตอบกลับ
[ เอ๋ ? รุยน่ะเหรอ? ใจดีเหรอ? ]
[ …… ]
“5555”
“5555”
“ไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอ?”
“เรย์ถามแล้วนะ”
“ก็ใจดีในระดับหนึ่งแหละ…”
“แต่คงไม่ถึงขั้นนักบุญแน่นอน”
ดูเหมือนคำตอบครึ่งๆ กลางๆ จะเป็นสิ่งที่น่าอายที่สุด ถ้าจะเป็นคนเลว ก็น่าจะเลวให้สุดไปเลย แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะทำแบบนั้นอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม อินะริกลับตอบแทนผมอย่างจริงจัง
[ แน่นอนสิคะ! รุยซังช่วยพาฉันที่แอบซ่อนตัวออกมา และยังคอยใส่ใจอีกหลายอย่าง แถมยังยอมเดินขนาบข้างกับเรย์จังโดยไม่บ่นเลย รุยซังเป็นคนดีมากแน่นอนค่ะ! ]
“น้ำตาไหล”
“อินะรินน่ารักเกินไปแล้ว”
“คนดีแบบนี้สมควรมาแอบฟังคนอื่นจริงเหรอ?”
“ช่างเถอะ เขาไม่รู้นี่นา…”
[ …รู้สึกเหมือนโดนแทงใจยังไงไม่รู้สิ ]
“5555”
“5555”
“5555”
เรย์ที่ดูเหมือนยังไม่พอใจก็พูดกับอินะริว่า
[ ก็จริง… แต่รุยน่ะชอบผู้หญิงมาก ถ้าเห็นผู้หญิงน่ารักก็จะวิ่งไปหาทันที ถ้าโดนลวนลามก็อย่าลืมบอกฉันนะ! ]
[ …นี่พยายามทำให้ฉันดูแย่อยู่เหรอ? ]
“555”
“555”
“555”
“ก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว 555”
อินะริที่ได้ยินสิ่งที่เรย์พูด ดูเหมือนจะสนุกกับเนื้อหานั้นจนแอบยิ้มเจ้าเล่ห์
[ ฟุฟุ… เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าเห็นเขาไปยุ่งกับใครนอกจากเรย์จัง จะรีบรายงานทันทีเลยค่ะ! ]
[ เอ๊ะ? นอกจากฉัน? หมายความว่าไง…? ]
[ เอเฮะๆ ให้เรย์จังลองจินตนาการดูเองค่ะ! ]
[ … ]
ผมที่ได้ฟังมาถึงตรงนี้ ก้มหน้าลงอย่างหมดแรง
[ …นี่ขอทำเป็นไม่ได้ยินทั้งหมดนี้ได้มั้ย? ]
“555”
“555”
“555”
“ไม่ได้”
“เขินอยู่เหรอ?”
“ทำไมเขินกว่าเรย์จังอีกล่ะ 555”
เรย์ที่ดูเหมือนจะเขินอยู่เหมือนกัน พยายามเปลี่ยนเรื่องอย่างกระทันหัน
[ อ๊ะ จริงสิ! อินะริน! เธอไม่ต้องพูดสุภาพกับฉันก็ได้นะ! ]
[ เอ๊ะ? ]
[ ฉันอยากให้เราสนิทกันมากกว่านี้… พวกเราเป็นพวกเดียวกันแล้วนี่นา! ]
[ เอ๊ะ… ได้เหรอคะ? ]
[ อื้ม! อินะรินก็เป็นครอบครัวของพวกเราแล้วล่ะ! ครอบครัวจริงๆ นะ! ]
อินะริที่ได้ยินแสดงท่าทางลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมตกลง
[ เข้าใจแล้วค่ะ… อ๊ะ ไม่สิ… เข้าใจแล้ว! เรย์จัง ฝากตัวด้วยนะ! ]
เรย์ยิ้มรับและจับมือทั้งสองข้างของอินาริไว้แน่น
[ อื้ม! ฝากตัวเหมือนกันนะ อินะริน! ]
“อ๊า…”
“รู้สึกได้รับการเยียวยา…”
“ดีมาก…”
“ที่สุดเลย…”
“ทั้งที่เรย์จังเป็นสายมืด แต่คอมเมนต์กลับดูสว่างไสว”
“สุดท้ายแล้วเรย์จังก็เป็นคนดีจริงๆ ว่ามั้ยรุย?
[ ทำไมต้องถามฉันด้วยล่ะ… ]
แต่ก็จริง… ถึงแม้อินะริจะขี้อายเวลาเจอคนอื่น แต่กับเรย์เธอก็พูดคุยได้ดีพอสมควร บางทีอินะริก็อาจเป็นคนพิเศษจริงๆ ก็ได้…
[ …อ๊ะ เรย์จัง ลองมองไปทางนั้นสิ เห็นเหมือนมีเงาคนอยู่มั้ย? ]
[ จริงเหรอ? ]
[ …เอ๊ะ!? แย่แล้ว!? ]
“โดนจับได้!?”
“จับได้แล้ว 55555”
“รีบหนีเถอะ!”
“หนีเร็ว!!”
“งานเข้าแล้ว”
“เปิดเพลง Metal Gear ด่วน”
“ตอบกลับมาสิ รุย!!!”
เนื้อหาที่พูดถึงนั่นคือเรื่องของผมเอง… แย่แล้ว! ประมาทจนเข้าใกล้เกินไป! ผมรีบหยุดใช้ตาทิพย์และพยายามหนีออกจากตรงนั้นทันที แต่…
[ อาจจะเป็นศัตรูในร่างคน ยิงเลย! ]
[ อื้ม เข้าใจแล้ว! ดึงสาย… แล้วปล่อย! ]
[ …อ๊ากกกกก!!!? ]
ดูเหมือนลูกธนูจะโดนตัวผมเข้าอย่างจังจนล้มลง และพอ HP หมดเกลี้ยง สายตาของฉันก็ค่อยๆ มืดลงเรื่อยๆ…