WN กลยุทธ์พิชิตต่างโลกขององค์ราชินี (Her Majesty's Swarm) - ตอนที่ 7 ศึกครั้งแรก-โศกนาฏกรรม ณ หมู่บ้านเอลฟ์(2)
- Home
- WN กลยุทธ์พิชิตต่างโลกขององค์ราชินี (Her Majesty's Swarm)
- ตอนที่ 7 ศึกครั้งแรก-โศกนาฏกรรม ณ หมู่บ้านเอลฟ์(2)
………………
—-โศกนาฏกรรม ณ หมู่บ้านเอลฟ์(2)
[ไม่เป็นไรแล้ว ศัตรูถูกทำลายแล้ว]
ฉันประกาศแบบนั้นหน้าบ้านผู้เฒ่า
[อะ อา เป็นพลังที่น่าทึ่งนัก สังหารกองอัศวินศักดิ์สิทธิ์ออกัสทีนที่เป็นกองอัศวินชั้นเลิศในทวีปโดยไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเนี่ยมัน……]
นักรบเอลฟ์ที่รอดชีวิตตอบกลับแบบนั้นด้วยท่าทางตกตะตึง
[ใครก็ได้! ช่วยด้วย! รินาโตะถูกยิง!]
ช่วงเวลาหลังจากนั้นที่ฉันได้รับชัยชนะ ไลซ่าก็ร้องตะโกนขอความช่วยหลือ
รินาโตะถูกพลธนูของกองอัศวินยิงแถมยังเป็นตรงหน้าอก การหายใจแทบจะทำได้และกระอักเลือดที่มีฟองอากาศปนอยู่ออกมาปริมาณมาก เมื่อเป็นแบบนี้ดูเหมือนว่าจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เขาคงต้องตายแน่
[ไลซ่า ไม่ได้แล้ว ช่วยรินาโตะไม่ได้แล้ว]
[ไม่จริง! แบบนั้นมัน……ทำไม……]
ไล่ซ่าเริ่มร้องไห้อย่างหมดหวังต่อคำพูดของนักรบเอลฟ์
[ไล ซ่า]
[รินาโตะ! ขอร้องละ! แข็งใจไว้!]
รินาโตะเรียกไลซ่าด้วยลมหายใจรวยริน
[ช่วยมีชีวิต อย่างมีความ สุข……]
[รอเดี๋ยว! เดี๋ยวสิรินาโตะ! อย่าไปนะ!]
ไลซ่ากรีดร้องทว่าสิ่งนั้นไม่ส่งผลอะไร ไม่ได้สร้างเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องรำคาญใจ ทั้งที่พวกกองอัศวินนั่นสามารถอัญเชิญทูตสวรรค์ออกมาได้แต่ไลซ่ากลับเรียกอะไรออกมาไม่ได้เลย รินาโตะจากไปทั้งๆแบบนั้น
[รินาโตะ เจ้าช่างกล้าหาญนัก หากไม่ใช่เพราะเจ้าที่ยื้อเวลาอย่างเอาเป็นเอาตายพวกข้าคงมาไม่ทันการ เจ้าคือนักรบที่ยอดเยี่ยม จงหลับอย่างสบายใจเถิด]
ฉันพูดแบบนั้นกับร่างไร้วิญญาณของรินาโตะ มันคือใจจริงของฉัน
และฉันกำลังหงุดหงิด
รินาโตะที่ฉันช่วยไว้และสนิทกันหลังจากการแลกเปลี่ยนกันหลายครั้ง ถึงจะเป็นคนที่เชื่อในความคิดของตัวเองนิดหน่อยและอยากแสดงท่าทางที่เป็นผู้ใหญ่แต่นั่นแหละคือชายหนุ่มผู้น่ารัก เขาคนนั้นรับการโจมตีของอาชญากรที่เรียกตัวเองว่ากองอัศวินอย่างกะทันหันและเสียชีวิตลง
และไล่ซ่าที่กำลังร้องไห้อยู่ข้างๆนั้น ทั้งที่เธอกำลังมีความรักกับรินาโตะแท้ๆแต่ความรักนั้นกลับถูกบดขยี้ด้วยโศกนาฏกรรมอย่างกะทันหัน ฉันปวดใจเมื่อมองเห็นท่าทางที่ไลซ่าร้องไห้คร่ำครวญและซบหน้าลงบนร่างไร้วิญญาณของรินาโตะ
[อยากจะคุยกับผู้เฒ่า ยังมีชีวิตอยู่ไหม?]
[อา ผู้เฒ่ายังมีชีวิตอยู่ อยู่ในบ้าน]
เมื่อฉันถามอย่างหงุดหงิดและเศร้าใจ นักรบเอลฟ์ก็ช่วยเปิดทางให้ฉันกับเซริเนียน
[นี่มันท่านราชินีแห่งอารัคเนีย!]
มีเอลฟ์มากมายหลบภัยอยู่ในบ้านของผู้เฒ่า
มีบางคนบาดเจ็บและบางคนไร้บาดแผล สิ่งที่สามารถพูดได้อย่างเดียวคือทุกคนกำลังหวาดกลัว ไม่ว่าใครก็หวาดกลัวการบุกโจมตีของกองอัศวิน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่รวมตัวเบียดเสียดกันและร่างกายสั่นกลัว
[กองอัศวินข้างนอกถูกทำลายแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว]
[จริงรึ!? ไม่น่าเชื่อกับกองอัศวิน……]
ผู้เฒ่าเบิกตากว้างต่อคำพูดที่บอกสถานการณ์อย่างใจเย็นของฉัน
[หากกังวลไปดูข้างนอกก็ได้ ไม่เหลือใครแล้ว]
[ไม่ขอรับ ไม่สงสัยในคำพูดของท่านราชินีแห่งอารัคเนียหรอกขอรับ เพราะท่านได้เมตตาให้หมู่บ้านนี้ยืมพลังมาจนถึงตอนนี้ขอรับ]
ผู้เฒ่าส่ายหัวต่อคำพูดของฉัน
[รู้เหตุผลที่ถูกโจมตีไหม?]
[บางทีพวกลักลอบล่าสัตว์หรือพ่อค้าทาสคงจะไปแจ้งขอรับ เพื่อเอาคืนที่เข้าป่านี้ไม่ได้ คงจะบอกว่าพวกเรากำลังโจมตีมนุษย์ไม่ผิดแน่ขอรับ]
การตายของพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสนั้นสมควรแล้ว แต่ว่าดูเหมือนพวกมันจะไปแจ้งให้กองอัศวินรู้ถึงความผิดปกติในป่าเพื่อเอาคืนที่พวกตัวเองทำงานไม่ได้
[กองอัศวินเชื่องั้นรึ พวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสเนี่ยนะ?]
[……พวกเราเอลฟ์มักจะถูกระแวงจากพวกมนุษย์อยู่เสมอขอรับ อย่างโจมตีมนุษย์แล้วจับกินเอย ถลกหนังมนุษย์เอยมีข่าวลือแบบนั้นแพร่สะพัดอยู่ขอรับ]
งั้นเหรอ เพราะงั้นพวกเอลฟ์ก็เลยไม่ตั้งถิ่นฐานใกล้มนุษย์งั้นเหรอ เพราะถ้าไปตั้งใกล้มนุษย์คงจะถูกพวกมนุษย์ละเลงเลือดในฐานะเอลฟ์ป่าเถื่อน
[งั้นรึ พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว ถ้าพูดแบบนั้นดูท่าว่าข้าเองก็มีส่วนรับผิดชอบด้วยส่วนหนึ่ง]
ฉันพูดแบบนั้นพร้อมกับถอนหายใจ
[การต้องให้ท่านราชินีแห่งอารัคเนียรับผิดชอบมัน……]
[คนที่ฆ่าและล่าพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสคือข้า หากข้าไม่ทำอะไรละก็พวกเจ้าคงไม่ถูกกองอัศวินโจมตี ความรับผิดชอบส่วนหนึ่งจึงเป็นของข้าด้วย]
ใช่แล้ว คนที่ฆ่าและล่าพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสรอบๆหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์เพื่อความมั่นคงทางวัตถุดิบและเนื้อไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉัน ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากสาเหตุนั้น คงจะพูดว่าฉันไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยไม่ได้
[ไม่ขอรับ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของท่านราชินีแห่งอารัคเนียขอรับ ท่านกรุณาปกป้องพวกกระผมจากพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสจนถึงตอนนี้ การกล่าวโทษเรื่องนั้นมันไม่สมควรขอรับ เรื่องนั้นเหมือนกับเมืองที่ถูกโจมตีเพราะมีกำแพงป้องกันขอรับ]
[งั้นรึ ถ้าพูดอย่างนั้นก็รู้สึกดีขึ้นละนะ]
แต่ว่า มุมหนึ่งในใจกำลังรู้สึกว่าฉันต้องรับผิดชอบ ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างรุนแรง
การบอกว่าถูกโจมตีเพราะมีกำแพงป้องกันมันเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ในการปกป้องตัวเอง เพราะเป็นแบบนั้นดังนั้นงานของพวกตัวเองจึงไปได้ไม่ดี การที่พวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสไปร้องเรียนกองอัศวินจึงรู้สึกหงุดหงิด
อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันคำถามที่ว่าในฐานะกำแพงป้องกันฉันทำเกินไปรึเปล่าก็ยังคงเหลืออยู่ กำแพงป้องกันแค่ตั้งตระหง่านเท่านั้น ถ้าไม่ฆ่าและกินมนุษย์ก็จะไม่ทำให้มนุษย์หวาดกลัวด้วยรูปร่างที่แปลกประหลาด
ฉันเป็นกำแพงป้องกันจริงๆงั้นเหรอ?
[องค์ราชินี ฝ่าบาทไม่ได้ผิดเพคะ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดคือพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสที่พยายามจะทำลายป่าแห่งนี้และกองอัศวินที่เผาหมู่บ้านนี้เพื่อพวกนั้นเพคะ องค์ราชินีเพียงแค่พยายามปกป้องสิ่งเหล่านี้ เรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดเพคะ]
[ขอบใจมาก เซริเนียน เจ้าที่ช่วยพูดแบบนั้นช่วยได้มากเลยละ]
ความกังวลกับความหงุดหงิดของฉันคงส่งไปยังศูนย์รวมจิตสำนึกล่ะมั้ง เซริเนียนจึงช่วยให้กำลังใจฉัน เป็นอัศวินที่พึ่งพาได้จริงเลยนะเธอเนี่ย ความใจดีของเธอตอนนี้ทำให้ฉันมีความสุข
[แล้ว หลังจากนี้พวกเจ้าตั้งใจจะทำยังไงล่ะ?]
และฉันถามเรื่องฉันอยากรู้
[หมู่บ้านนี้อยู่อาศัยไม่ได้แล้ว เพราะถ้ากองอัศวินไม่กลับไปหาพวกพ้องละก็คงจะส่งกองกำลังขนาดใหญ่มาอีกครั้งแน่ พวกกระผมตั้งใจว่าจะหนีไปที่ไหนสักแห่งขอรับ]
[งั้นรึ มีสถานที่ให้หนีอยู่งั้นรึ? มีสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในป่านี้ที่ไหนสักแห่งงั้นรึ?]
ฉันถามอย่างกังวลเล็กน้อยต่อคำพูดของผู้เฒ่า
[……บอกตามตรง ไม่รู้เลยขอรับ ป่านั้นกว้างใหญ่แต่สัตว์ป่ากับสัตว์อสูรอันตรายเองก็มีอยู่เช่นกันขอรับ นอกจากนี้มีเพียงที่แบบนั้นที่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพรแห่งป่าขอรับ]
ผู้เฒ่าตอบแบบนั้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
[ถ้างั้น ฉันมีวิธีแก้ไข เป็นแผนที่จะทำให้พวกเจ้าไม่ตกเป็นเป้าหมายอย่างถาวรสามารถล้างแค้นให้เหล่าเอลฟ์ที่ตายในที่แห่งนี้ได้ด้วยและเป็นวิธีดีๆที่ไม่ต้องหนีออกจากสถานที่อยู่อาศัยที่คุ้นเคยแห่งนี้ไปยังสถานที่อันตราย]
[มีวิธีแบบนั้นอยู่หรือขอรับ?]
เมื่อฉันพูดออกไปผู้เฒ่าเบิกตากว้างและถามขึ้น
[มีอยู่สิ เรื่องง่ายๆอย่างแท้จริง ถ้าเป็นข้าผู้นี้สามารถทำให้เป็นจริงได้ ใช่ ก็แค่ทำลายราชอาณาจักรมารูคที่ส่งกองอัศวินนี้มาก็พอ ง่ายใช่ไหมล่ะ]
ฉันพูดแบบนั้นและขบริมฝีปากจนเห็นฟันเขี้ยวลอดออกมา
ผู้เฒ่าเอลฟ์และพวกเอลฟ์ที่ยังมีชีวิตรอดทำได้แค่กลั้นหายใจเฝ้ามองฉันในสภาพนั้น หลังจากนี้จะเกิดเรื่องแบบไหนขึ้นกัน เป็นการแสดงสีหน้าที่ยากจะจินตนาการได้
แต่ว่า ตัดสินใจแล้ว ฉันจะทำลายราชอาณาจักรมารูค
………………
………………
[ทุกท่าน!]
ฉันกำลังยืนอยู่บนฐานหินที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาตอนแรกในฐานของอารัคเนีย
ที่ข้างกันนั้นมีเซริเนียนกับริปเปอร์สวอร์มค่อยติดตามและในสายตามีเหล่าสวอร์มจำนวนหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่นรวมตัวอยู่รอบๆแท่นหินนี้ที่ฉันยืนอยู่
[ทุกท่าน ในที่สุดเวลาแห่งสงครามก็มาถึงแล้ว ศัตรูของพวกเราคือราชอาณาจักรมารูค เป็นพวกที่พยายามสังหารหมู่และโจมตีพันธมิตรของพวกเราอย่างต่ำช้า สหายของข้าได้ตายไปเพราะการบุกโจมตีและสหายอีกคนก็กำลังจมดิ่งอยู่กับความโศกเศร้า]
ฉันกล่าวแบบนั้นอย่างเงียบๆแต่ทุ่มเทพลังเข้าไป
[กับศัตรูที่ต่ำช้านั้นไม่จำเป็นต้องสงสาร ไม่จำเป็นต้องเมตตา ไม่จำเป็นต้องปราณี ความเห็นอกเห็นใจทั้งหมดไม่จำเป็น สิ่งที่จำเป็นมีแค่เจตนาฆ่า ความเกลียดชัง การดูถูกเท่านั้น พวกเราจะกัดศัตรูด้วยเจตนาฆ่า ทรมาณศัตรูด้วยความเกลียดชังและฆ่าศัตรูทุกคนด้วยความดูถูก]
เหล่าสวอร์มกำลังฟังการปราศรัยของฉันอย่างเงียบๆ
[ฆ่าทุกคน เปลี่ยนให้เป็นก้อนเนื้อทั้งหมดและใช้เป็นวัตถุดิบผลิตพี่น้องของพวกเรา ยิ่งพวกเจ้าฆ่าไปมากเท่าไหร่อารัคเนียของพวกเราก็จะยิ่งกลายเป็นจักรวรรดิที่แข็งแกร่งขึ้น จงฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่ามันให้หมด ไม่ว่าจะเป็นเด็กทารกหรือคนแก่ก็จงกำจัดอย่างไร้ความปราณีให้เหมือนกับที่พวกมันทำ]
ฆ่าทุกคน ฉันตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำลายราชอาณาจักรมารูคให้หายไปจากโลกนี้
เรื่องนั้นเพราะพวกเอลฟ์ถูกโจมตีงั้นเหรอ? เพราะรินาโตะถูกฆ่างั้นเหรอ? หรือจิตสำนึกของฉันถูกศูนย์รวมจิตสำนึกของสวอร์มกลืนกินด้วยสัญชาตญาณล่าเหยื่อไปแล้วงั้นเหรอ?
จะยังไงก็ช่าง ฉันก็แค่ทำตามความตั้งใจของฉันเท่านั้น
[เพื่ออารัคเนียของพวกเรา! ข้าจะนำพาพวกเจ้ามุ่งสู่ชัยชนะ!]
ฉันจบการปราศรัยด้วยคำพูดนั้นในตอนท้าย
[ความรุ่งโรจน์แด่อารัคเนีย! องค์ราชินีจงเจริญ!]
[ความรุ่งโรจน์แด่อารัคเนีย! องค์ราชินีจงเจริญ!]
เหล่าสวอร์มโห่ร้อง สงครามที่เฝ้ารอมาเนิ่นนานได้มาถึงแล้ว
เป้าหมายในการมีชีวิตของพวกสวอร์มนั้นเรียบง่าย กิน ฆ่า ยึดครองโลกด้วยเผ่าพันธุ์ของตัวเอง เผ่าพันธุ์อื่นคือศัตรูทั้งหมด เป็นอาหารที่มีไว้กิน นั่นแหละคืออารัคเนีย นั่นแหละคือสวอร์ม
[ตามถ้อยคำขององค์ราชินี พวกเราจะบุกโจมตีราชอาณาจักรมารูค หากเป็นการบัญชาการขององค์ราชินีละก็คงชนะอย่างแน่นอน องค์ราชินีจงเจริญ]
เซริเนียนเองก็พูดแบบนั้นและชื่นชมฉัน
[เช่นนั้น ทุกท่านได้เวลาทำสงครามแล้ว แม้จะทำให้พวกเจ้าต้องรอค่อนข้างนานทว่าในที่สุดเวลาที่พวกเจ้าจะสมปรารถนาก็มาถึงแล้ว จงใช้พลังนั้นให้เต็มที่ตามใจต้องการ จงทำให้พวกมันสั่นสะท้านด้วยเสียงเคลื่อนทัพของพวกเจ้าซะ]
ฉันพูดเสริมอย่างนั้นในขณะที่พวกสวอร์มทำท่าโพสยอมเชื่อฟังและมุ่งไปห้องส่วนตัวด้วยกันกับเซริเนียน
ห้องส่วนตัวความน่าอยู่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก เครื่องนอนถูกเปลี่ยนจากฟางเป็นของนุ่มสบาย มีที่เก็บของอย่างลิ้นชักและชั้นวางพร้อมสรรพ ถ้าเทียบกับห้องของตัวเองตอนที่อยู่โลกละก็—-เนื่องจากไม่มีแอร์กับคอมพิวเตอร์—-ถึงจะด้อยกว่าแต่ไม่ใช่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้เลย
[เซริเนียน เส้นทางการเคลื่อนทัพข้าคิดแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ข้ามาที่นี่และกำลังตัดสินใจอย่างดีที่สุด]
[เพคะ ทราบอยู่แล้วเพคะฝ่าบาท ว่าตอนนี้ฝ่าบาทกำลังเคลื่อนไหวเพื่อชัยชนะแห่งอารัคเนียเพคะ]
เซริเนียนพยักหน้าเมื่อฉันพูดแบบนั้น เรื่องที่ฉันกำลังคิดอยู่ศูนย์รวมจิตสำนึกคงรู้ทุกอย่างล่ะมั้ง ถ้างั้นเรื่องก็เร็วขึ้น
[เส้นทางการเคลื่อนทัพคือ3ทาง เส้นทางที่มุ่งตรงจากเมืองรีนไปจนถึงเมืองหลวงกับเส้นทางจากพื้นที่การเกษตรทิศใต้ไปจนถึงเมืองหลวงและเส้นทางระหว่างทำการพิชิตพื้นที่เหมืองทิศเหนือไปจนถึงเมืองหลวง แบ่งกำลังเคลื่อนทัพโจมตีแล้วรวมพลังรบกันที่เมืองหลวงและบุกโจมตี]
แผนการรบที่ฉันคิดคือการเคลื่อนทัพ3เส้นทาง
เป้าหมายของพวกเราคือการทำลายล้างราชอาณาจักรมารูค ไม่มีความหมายอะไรที่จะปล่อยเมืองหลวงทิ้งเอาไว้ สิ่งที่เป็นองค์ประกอบของราชอาณาจักรมารูคต้องถูกทำลายทุกอย่างและต้องฆ่าให้หมดสิ้น นั่นคือกฎของเกมนั่นยังไงล่ะ
ถึงแม้ศึกครั้งนี้จะเป็นโลกที่ต่างออกไปและไม่ใช่เกมก็ตามแต่ฉันตั้งใจจะสู้ด้วยกฎนั้น หลงเหลือเศษซากของราชอาณาจักรมารูคเอาไว้เบื้องหลัง การปล่อยให้เกิดการตอบโต้ภายหลังนั้นไม่ควรมี ถ้าทำแล้วก็ต้องทำอย่างถึงที่สุด นั่นคือกฎของฉัน
[ทำลายแต่ละเมืองด้วยกองกำลังผสมของริปเปอร์สวอร์มกับดิกเกอร์สวอร์ม กำลังรบหลักคือริปเปอร์สวอร์มให้พวกเขาเปิดเส้นทาง เรียกแผนว่าริปเปอร์สวอร์มรัช แต่เพราะอีกฝ่ายตั้งฐานป้องกันไว้แล้วคงจะทำไม่ได้ง่ายๆตรงนั้นจะให้ดิกเกอร์สวอร์มจัดการ]
การจะใช้ริปเปอร์สวอร์มรัชได้คือช่วงต้นเกม10นาทีหลังจากเริ่มเกม ถ้ารอดจากสิ่งนั้นได้ริปเปอร์สวอร์มจะถูกสวนกลับการรัชจะล้มเหลวและในทางกลับกันพวกตัวเองจะสูญเสียความสามารถในการป้องกัน
สำหรับตอนนี้—-เวลาเริ่มเกมไม่ทราบแน่ชัดแต่ราชอาณาจักรมารูคเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงไปแล้ว มีกองอัศวินประจำการอยู่แต่ละพื้นที่ ถ้าคิดอย่างนั้นละก็ น่าจะคิดได้ว่าระบบการป้องกันของศัตรูเตรียมไว้ดีพอสมควร
แต่ว่า ทางนี้มีตัวตนที่สามารถทำลายสิ่งนั้นได้อยู่ ฉันยังไงล่ะ
ฉันในฐานะเพลเยอร์เคยประสบความสำเร็จกับริปเปอร์สวอร์มรัชในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาแล้วครั้งนี้เองก็จะแสดงให้เห็นเอง
[เซริเนียน เจ้ามาด้วยกันกับข้าและไปสะสมค่าประสมการณ์ที่แนวหน้า เจ้าคือยูนิตที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเพราะงั้นจึงคาดหวังกับเจ้าไว้มาก]
[ถ้อยคำนั้น……รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงเพคะ เพื่อตอบรับความคาดหวังขององค์ราชินีไนท์สวอร์ม“เซริเนียน”ผู้นี้จะพยายามอย่างเต็มที่และจะแสดงความจงรักภักดีอย่างถึงที่สุดเพคะ แล้วก็มีเรื่องจะปรึกษาเพคะ……]
เซริเนียนที่แสดงสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาต่อคำพูดของฉันดูเหมือนจะลำบากที่จะพูดอะไรสักอย่าง
[ร่างกายมันร้อนมีผลกระทบอะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้นเพคะ สิ่งนี้คืออะไรกันแน่เพคะ……?]
[ร่างกายร้อน?]
ฉันรู้สึกสงสัยในคำพูดของเซริเนียนจึงวางมือบนหน้าผากของเธอ ร้อนจริงๆด้วย แต่ไม่เคยได้ยินว่าสวอร์มเป็นหวัดเลยแฮะ สวอร์มคือสิ่งมีชีวิตที่ทนทานต่อพิษ
[หรือว่า เวลาแห่งการวิวัฒนาการอาจจะมาถึงแล้วก็ได้ เซริเนียนฆ่าทูตสวรรค์นั่นไปด้วยนี่ เพราะงั้นน่าจะได้รับค่าประสบการณ์มาเยอะ]
[วิวัฒนาการหรือเพคะ?]
เซริเนียนแสดงสีหน้าอึ้งๆต่อคำพูดของฉัน น่ารักนิดหน่อยแฮะ
[ไม่รู้จักวิวัฒนาการรึ? ความรู้สึกที่ตัวเองกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นอะไรบางอย่างไม่รู้จักรึ? วิวัฒนาการขั้นต่อไปของไนท์สวอร์มก็—-บลัดดี้ไนท์สวอร์มล่ะมั้ง ลองนึกภาพอัศวินที่สวมเกราะสีแดงดูสิ]
[เกราะสีแดง……เกราะสีแดง……]
เซริเนียนคร่ำครวญต่อคำพูดของฉันพร้อมกับนึกภาพการวิวัฒนาการของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ค่อนข้างน่ารักแฮะ
[อะ อ๊ะ! เข้าใจอะไรสักอย่างแล้วเพคะ! มันเข้ามาในความคิด! ไม่สิเป็นอิมเมจขององค์ราชินีที่ส่งมาจากศูนย์รวมจิตสำนึกเพคะ!]
เซริเนียนส่งเสียงแบบนั้นขึ้น
ร่างกายของเซริเนียนลอกและแตกออกราวกับพังทลาย เกราะหลุดออกกลายเป็นเศษผงหายไปและผิวหนังกับชุดเกราะใหม่เอี่ยมถูกสร้างขึ้น ชุดเกราะใหม่ที่ย้อมด้วยสีแดงเข้มเข้าปกคลุมร่างกายของเซริเนียนและมีขาแมลงงอกออกมาจากด้านหลัง
[องค์ราชินี……นี่คือการวิวัฒนาการหรือเพคะ……?]
[ใช่แล้ว นี่คือการวิวัฒนาการยังไงล่ะ เจ้าได้ถือกำเนิดใหม่เป็นบลัดดี้ไนท์สวอร์ม“เซริเนียน”แล้ว หลังจากนี้ข้าคาดหวังกับผลงานของเจ้าอยู่ พลังของเจ้าถูกเสริมแกร่ง ว่องไวยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา น่าจะสามารถต่อสู้ได้อย่างกระฉับกระเฉง]
บลัดดี้ไนท์สวอร์ม“เซริเนียน” ร่างวิวัฒนาการขั้นที่2ของไนท์สวอร์ม“เซริเนียน”รูปร่างนั้นมีแค่สีที่เปลี่ยนและขาแมลงที่งอกออกมาจากด้านหลังแต่ว่าพลังนั้นถูกเพิ่มขึ้นในฐานะยูนิตระดับกลางถ้าเป็นศัตรูระดับต่ำทั่วไปละก็จะฆ่าได้ในพริบตา
แรกเริ่มเดิมทีเซริเนียนคือยูนิตฮีโร่ที่ถูกจัดอยู่ในประเภทที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ค่าประสบการณ์ในการวิวัฒนาการขั้นต้นใช้เล็กน้อย ถึงอย่างนั้นความแข็งแกร่งในร่างวิวัฒนาการขั้นต้นก็แซงหน้ายูนิตฮีโร่ตัวอื่น แต่ว่าในช่วงครึ่งหลังค่าประสบการณ์ที่จำเป็นตั้งใช้เพิ่มขึ้น การเพิ่มความแข็งแกร่งลดลง แต่ถึงอย่างนั้นถ้าถูกวิวัฒนาการละก็จะครองตำแหน่งยูนิตที่แข็งแกร่งที่สุด
[คุณค่าที่แท้จริงนั้นจะถูกทดสอบในไม่ช้า พยายามเข้าละเซริเนียน]
[เพคะ องค์ราชินี]
พลังของเซริเนียนคงจะถูกแสดงให้เห็นในไม่ช้า
ในศึกทำลายล้างราชอาณาจักรมารูค
………………
คนแปลรอมังงะตอนใหม่มาหลายวันแล้วไม่ออกสักทีเลยมาแปลนิยายรอไปพลางๆแล้วกันฮ่าๆ