WN กลยุทธ์พิชิตต่างโลกขององค์ราชินี (Her Majesty's Swarm) - ตอนที่ 6 ศึกครั้งแรก-โศกนาฏกรรม ณ หมู่บ้านเอลฟ์
- Home
- WN กลยุทธ์พิชิตต่างโลกขององค์ราชินี (Her Majesty's Swarm)
- ตอนที่ 6 ศึกครั้งแรก-โศกนาฏกรรม ณ หมู่บ้านเอลฟ์
………………
—-โศกนาฏกรรม ณ หมู่บ้านเอลฟ์
ตั้งแต่พวกฉันเริ่มคุ้มครองและแลกเปลี่ยนกับหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์ก็ผ่านมา6เดือนแล้ว
จำนวนพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสค่อยๆลดลง ราวกับรับรู้ว่าที่นี่คือป่าแห่งความตาย แต่ว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเกิดปัญหาในการจัดหาเนื้ออันล้ำค่า
อย่างไรก็ตามริปเปอร์สวอร์มนั้นมีขนาดพอที่จะสามารถเหยียบย่ำประเทศหนึ่งได้แล้ว หากฉันเล่นเกมตามปกติละก็คงเป็นขนาดที่ตัดสินใจในการเข้ารัชไปแล้ว
แต่ว่า ในโลกนี้ไม่รู้ว่าควรจะโจมตีใครดี
การให้ริปเปอร์สวอร์มนับพันตัวไปเป็นคู่มือให้พวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสนั้นไม่จำเป็น พลังรบมากเกินไป ตอนนี้เป็นสถานการณ์เงียบสงบมีริปเปอร์สวอมร์5-6ตัวคอยคุ้มครองหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์อยู่ การเป็นคู่มือให้กับพวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาสแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
[สงบสุข]
ฉันเพลิดเพลินกับความสงบท่ามกลางสวอร์มเผ่าพันธุ์ที่ชื่นชอบสงครามสุดอันตราย
สามารถกินสตูว์อร่อยๆได้ที่หมู่บ้านบอมฟุตเตอร์และหากขายเดรสที่เวิร์คเกอร์สวอร์มทำขึ้นก็สามารถจัดหาเนื้อมาได้เหมือนอย่างเคย ถึงแม้ว่ายอดขายชุดเดรสจะลดลงเพราะล้นตลาดอย่างที่คิดไว้ก็เถอะ
[องค์ราชินี ควรโจมตีดีไหมเพคะ?]
[ที่ไหนล่ะ?]
ฉันตอบอย่างนั้นกับคำถามของเซริเนียน
[นั่นสินะเพคะ บุกเมืองรีนเป็นอย่างไรเพคะ หากทำเช่นนั้นละก็ทรัพยากรที่อยู่ที่นั่นทั้งหมดก็จะกลายเป็นของพวกเรา น่าจะได้เวลาที่ต้องดำเนินการวิจัยแล้วเพคะ]
[วิจัยรึ……]
ในเกมจะสามารถปลดล็อกสิ่งก่อสร้างและยูนิตใหม่ๆได้ด้วยการดำเนินการวิจัย สิ่งจำเป็นสำหรับการวิจัยนั้นคือเงินหรือไม่ก็วิญญาณ
วัตถุดิบที่จำเป็นนั้นขึ้นอยู่กับการวิจัย ถ้าเป็นประเภทยูนิตจะเป็นวิญญาณ ถ้าเป็นสิ่งก่อสร้างจะเป็นเงิน เรื่องนั้นคือการตั้งค่าโดยทั่วไป สำหรับอารยธรรมที่ใช้พวกโกเลมนั้นยูนิตจะถูกปลดล็อคด้วยเงินและพวกฝ่ายประเภทศาสตร์วิญญาณความตายนั้นสิ่งก่อสร้างจะถูกปลดล็อกด้วยวิญญาณ
พวกฉันได้รับวิญญาณและน่าจะปลดล็อคยูนิตได้ปริมาณมากแต่ทางด้านสิ่งก่อสร้างการปลดล็อคไม่คืบหน้ามากนัก
[แต่ว่า การบุกเมืองรีนมันไร้ซึ่งเหตุผลนะ ที่นั่นที่จริงแล้วมีประโยชน์ในฐานะจุดซื้อขาย]
เมืองรีนคือจุดแลกเปลี่ยนชุดเดรสที่เวิร์คเกอร์สวอร์มทำขึ้นและเป็นสถานที่สะดวกสบายในการจัดหาเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ถ้าที่นั่นถูกทำลายก็ไม่รู้จะไปแลกเปลี่ยนชุดเดรสและจัดหาเนื้อได้ที่ไหน
[หากทำลายเมืองรีนแล้ว ต่อไปก็บุกราชอาณาจักรมารูคกันเถอะเพคะ หากทำเช่นนั้นก็จะได้ทั้งเนื้อทั้งเงินทั้งวิญญาณมาครองนะเพคะ ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายเพคะ]
สิ่งที่เซริเนียนพูดนั้นอันตรายแต่มันก็สมเหตุสมผล
อารัคเนียไม่ใช่ฝ่ายที่จะรุ่งโรจน์ได้ด้วยการค้า เป็นฝ่ายที่พัฒนาด้วยการช่วงชิง ช่วงชิง ช่วงชิง ช่วงชิงจนหยดสุดท้าย ฉันที่กำลังทำการค้าแบบค่อยเป็นค่อยไปคือการใช้ฝ่ายอารัคเนียที่ผิดพลาด
[นั่นสินะ น่าจะได้เวลาคิดเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์การปล้นสะดมแล้วละมั้ง]
ฉันในฐานะราชินีแห่งอารัคเนียให้สัญญาไว้ว่าจะนำพาเหล่าสวอร์มมุ่งสู่ชัยชนะ การเก็บตัวอยู่ในถ้ำทั้งๆแบบนี้และถูกกำจัดในฐานะสัตว์ประหลาดลึกลับจะทำให้ไม่สามารถบรรลุความปรารถนานั้นได้ เพื่อชัยชนะดูท่าจำเป็นต้องทำให้มือเปื้อนเลือด
『องค์ราชินี』
[มีอะไร?]
มีเสียงเรียกจากศูนย์รวมจิตสำนึกอย่างกะทันหัน
『ตรวจพบกองกำลังขนาดใหญ่มุ่งไปทางหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์พ่ะย่ะค่ะ ไม่ใช่พ่อค้าทาสและพวกลักลอบล่าสัตว์ มีอุปกรณ์ครบครันและเป็นกองกำลังที่ถูกฝึกมาอย่างดี จะให้ทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ』
[อุปกรณ์ครบครันและเป็นกองกำลังที่ถูกฝึกมาอย่างดี……? กองทัพประจำการรึ?]
กองทัพประจำการแต่ว่าเป็นกองทัพประจำการจากที่ไหน?
[เป็นกองทัพจากที่ไหนรู้รึเปล่า?]
『จากที่เห็นธงกองทัพที่ชูขึ้นเป็นของราชอาณาจักรมารูค ไม่มีเวลาติดต่อไปที่หมู่บ้านบอมฟุตเตอร์แล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ราชินี โปรดชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ』
ริปเปอร์สวอร์มที่เป็นหน่วยสอดแนมตอบแบบนั้นกับฉันที่ถามอย่างต่อเนื่อง
[……สู้กลับให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้]
『รับทราบพ่ะย่ะค่ะ』
บางทีริปเปอร์สวอร์มตัวนี้อาจจะตาย ริปเปอร์สวอร์มตัวเดียวไปเป็นคู่มือให้กับกองทัพประจำการคงไม่มีทางสู้ได้ อีกอย่างแม้จะเร่งรีบตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางไปหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์ทัน
[แต่ว่าเท่านี้ก็มีข้ออ้างทำสงครามแล้ว]
ฉันรู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณของสวอร์มที่อาศัยอยู่ภายในตัวเองจริงๆ
………………
………………
[มนุษย์! มนุษย์บุกเข้ามาแล้วละ!]
[อัศวิน! ไม่ใช่พวกลักลอบล่าสัตว์กับพ่อค้าทาส!]
หมู่บ้านบอมฟุตเตอร์กำลังตกอยู่ในความโกลาหล
เหล่าอัศวินที่ในตัวสวมชุดเกราะกำลังบุกเข้ามาโจมตีหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์จากทุกสารทิศ เหล่าเอลฟ์เข้าท้าทายเหล่าอัศวินซึ่งถือโล่และปกคลุมด้วยชุดเกราะโลหะทั้งตัวด้วยลูกศรและธนูอย่างสิ้นหวังแต่ไม่เป็นผล
[อาา! เครือญาติของท่านราชินีแห่งอารัคเนีย!]
ช่วงเวลาที่หมู่บ้านเอลฟ์ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตริปเปอร์สวอร์ม2ตัวได้พุ่งกระโจนออกไปและเข้าโจมตีอัศวิน เคียวของริปเปอร์สวอร์มเจาะทะลุโล่ ชุดเกราะฉีกกระชากเนื้อและมีเลือดไหลออกมาจากภายในชุดเกราะโลหะ
[โอ้ววว!]
แต่ทว่า อัศวินหาได้หวั่นไหวต่อการโจมตีระดับนั้นไม่ อัศวินแทงร่างของริปเปอร์สวอร์มที่กำลังกัดแขนอยู่ด้วยดาบยาวแล้วกำจัดริปเปอร์สวอร์มที่หยุดชะงักลง
[ไอ้สัตว์ประหลาดเอ๊ย! อย่างที่คิดข่าวลือที่ว่ามีแม่มดอยู่ที่นี่เป็นความจริงงั้นเรอะ!]
เมื่ออัศวินพูดอย่างไม่สนใจใยดีแบบนั้นออกมาก็ยกทัพเข้าไปที่หมู่บ้านบอมฟุตเตอร์
[บุกเข้าไป! บุกเข้าไป! ทำลายฐานที่มั่นของพวกนอกรีตให้สิ้นซากซะ!]
ทหารม้าปรากฏตัวขึ้นกลางป่า สิ่งนั้นเข้าแทงเอลฟ์ที่กำลังเล็งธนูอยู่
ทหารราบเองก็รุกคืบเช่นกัน ตั้งแถวและยิงธนูไฟเป็นแถวเดียวเข้าใส่หมู่บ้านเอลฟ์ เปลวเพลิงลุกลามบ้านทั้งหลังเพราะธนูไฟ เหล่าเอลฟ์กรีดร้องแล้วพุ่งออกมาจากภายในตัวบ้าน พวกเขาเป็นเด็กและผู้หญิงที่ยังต่อสู้ไม่ได้นอกจากนั้นก็เป็นคนแก่และคนป่วย
แต่ทว่า ทหารม้าได้วิ่งชนเอลฟ์ที่พุ่งออกมาจากบ้าน แทงด้วยหอกและเหยียบจนเละ เหล่าเอลฟ์กรีดร้องออกมาทั่วทั้งสถานที่นั้น จำนวนของเหล่าเอลฟ์ที่ต่อสู้ได้ถูกเหล่าอัศวินกดดันและลดจำนวนลงเรื่อยๆ
[รินาโตะ! เจ้าไม่ต้องแล้ว! หนีไปด้วยกันกับไลซ่าซะ!]
[ทำแบบนั้นได้ที่ไหนกันเล่า ท่านพ่อ!]
รินาโตะเองก็พกธนูและกำลังต่อสู้เช่นกัน ทหารเด็กอย่างรินาโตะเมื่อต้องต่อกรกับกองอัศวินที่เหนือกว่าทั้งคุณภาพและจำนวนนั้นไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะยิงธนูไปเท่าไหร่ก็ไม่โดนหรือไม่ก็ถูกโล่ปัดกระเด็นเท่านั้น
พวกผู้ใหญ่เล็งธนูไปที่ช่องว่างหมวกเกราะของพวกอัศวินแต่รินาโตะไม่สามารถยิงแบบนั้นได้ การยิงลูกศรออกไปแบบสุ่มๆแทบจะหยุดการรุกคืบของกองอัศวินไม่ได้เลย ด้วยเรื่องนี้การที่บอกให้หนีไปจึงไม่ได้ไร้เหตุผล
[รินาโตะ!]
[ไลซ่า!? ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้!?]
ทั้งที่รินาโตะกำลังต่อสู้อย่างสิ้นหวังโดยใช้บ้านของผู้เฒ่าเป็นป้อมปราการแต่ไลซ่ากลับวิ่งไปที่นั่น
[ไม่ว่าที่ไหนก็ถูกไฟเผาไปหมดแล้วละ! หนีกันเถอะรินาโตะ! ถ้าหนีเข้าไปในที่ที่เป็นป่าทึบละก็ทหารม้าไล่ตามไปไม่ได้หรอก!]
[แต่ว่าฉันอยากปกป้องหมู่บ้านนี้! ถ้าทิ้งที่นี่ละก็พวกเราจะไปที่ไหนได้ล่ะ ในป่านอกจากกองอัศวินแล้วก็มีสัตว์อสูรอันตรายอยู่ด้วยนะ!]
รินาโตะส่ายหัวปฏิเสธต่อคำพูดของไลซ่าที่กำลังหายใจหอบ
[แต่ถึงจะอยู่ที่นี่ก็ถูกฆ่าอยู่ดีนะ!]
[เรื่องนั้นก็อาจจะใช่แต่ว่า……!]
รินาโตะอยากปกป้องบ้านเกิด ไลซ่าอยากให้รินาโตะปลอดภัย
ความปรารถนาของทั้งสองคนมีความเป็นไปได้ต่ำมาก
เหล่าเอลฟ์กำลังถูกกดดันและอยู่ในกำมือของกองอัศวินโดยสมบูรณ์ ไม่มีที่ให้หนีถูกปกคลุมด้วยกำแพงไฟและกองอัศวินยังคงเข้าปิดล้อมอยู่ ทหารม้าวิ่งไปทั่วหมู่บ้านค้นหาเหยื่อและสังหารอย่างไร้ความปราณี
[อ๊าาก……!]
เอลฟ์ถูกเล่นงานไปอีกคนแล้ว ถูกแทงทะลุด้วยลูกธนูของทหารราบและทรุดลงกับพื้น นักธนูของศัตรูนั้นมีฝีมือที่ด้อยกว่าเอลฟ์แต่ว่าการเล็งไปที่จุดสำคัญอย่างแม่นยำนั้นดีเยี่ยม
[อุก……]
[อาซูเรธก็โดนเล่นงานแล้ว! ยังสู้ได้อยู่งั้นเหรอ?]
เอลฟ์ที่สู้ได้เหลือเพียง3คนแล้วนั่นคือจำนวนคนที่รวมรินาโตะเข้าไปด้วย
[ฆ่าพวกหูยาวนอกรีตให้หมดทุกคนซะ! โจมตี!]
จากนั้นทหารราบเกราะหนักหนึ่งกองก็ได้รุกคืบเข้ามา เพื่อปิดฉากเหล่าเอลฟ์ที่ต่อสู้ได้และเพื่อฆ่าเหล่าเอลฟ์ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในบ้านของผู้เฒ่าทุกคน
[บ้าเอ๊ย……! ต้องจบลงแค่นี้งั้นเหรอ……!
ทั้งที่เป็นชีวิตที่อุส่าห์รอดมาได้แท้ๆ ทั้งที่หนีมาจากพ่อค้าทาสนั่นมาได้แท้ๆ ทั้งอย่างนั้นบ้านเกิดกลับถูกเผาคนรู้จักกลับถูกฆ่าตาย ทำไมกัน ทำไมถึงเกิดเรื่องน่าสลดแบบนี้ขึ้นกันล่ะ โลกใบนี้มันไม่มีพระเจ้าอยู่เลยงั้นเหรอ
ชั่วพริบตาที่รินาโตะรู้สึกแบบนั้น
[พอแค่นั้นแหละ]
เสียงหญิงสาวผู้สง่างามดังก้องอยู่ในหมู่บ้านเอลฟ์ที่กำลังลุกไหม้
[อะไรวะ……?]
[สาวน้อย……?]
เมื่อเหล่าอัศวินหันกลับไปด้วยความสงสัยที่ตรงนั้นมีสาวน้อยสวมชุดเดรสงดงามยืนอยู่ตัวคนเดียว สาวน้อยที่มีเส้นผมสีดำปลิวไสวมีฉากหลังที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟกำลังมองเหล่าอัศวินอยู่
[พวกพ้องของเอลฟ์เรอะ?]
[ก็คิดได้แค่อย่างนั้นละ พลธนู!]
เหล่าอัศวินในกองอัศวินเล็งลูกธนูไปทางสาวน้อยที่ปรากฏตัวขึ้นและยิงออกไปรวดเดียว ลูกธนูลอยตัดอากาศ เกิดเป็นเสียงตัดสายลม พุ่งไปยังหน้าอกของสาวน้อย
แต่ทว่า สิ่งนั้นหาได้ส่งไปถึงสาวน้อยไม่
[ไม่มีทางปล่อยให้แตะต้ององค์ราชินีได้หรอก ด้วยเกียรติแห่งอัศวินของข้าไม่มีวัน]
ลูกธนูที่พุ่งไปหาสาวน้อย—-ราชินีแห่งอารัคเนียถูกปัดกระเด็นออกไปด้วยดาบของเซริเนียน เซริเนียนที่เผยร่างกายท่อนล่างในฐานะสวอร์มยืนอยู่เบื้องหน้าองค์ราชินีแห่งอารัคเนียและกำลังปกป้องเธออยู่
[สัตว์ประหลาดตัวใหม่เรอะ!]
[กำจัดมันซะ ด้วยนามของเทพแห่งแสง!]
เป้าหมายการโจมตีของกองอัศวินเปลี่ยนจากเหล่าเอลฟ์มุ่งไปทางพวกราชินีแห่งอารัคเนีย
[อ่อนหัด อ่อนหัดจริงนะพวกเจ้า คิดว่าจะชนะได้ด้วยพลังรบระดับนั้นงั้นรึ?]
ราชินีแห่งอารัคเนียริมฝีปากบิดเบี้ยว ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
[เหยียบย่ำ ฆ่าและเหยียบย่ำพวกมันซะ เหล่าข้ารับใช้ของข้า]
เมื่อราชินีแห่งอารัคเนียประกาศเช่นนั้นออกมา
ริปเปอร์สวอร์มก็ปรากฏตัวจากใจกลางพุ่มไม้ในป่า
ไม่ใช่1หรือ2ตัวเป็นริปเปอร์สวอร์มในระดับนับร้อย นับพันตัว
[จงรับรู้ถึงพลังแห่งอารัคเนียซะเถอะ]
เมื่อราชินีแห่งอารัคเนียกล่าวเช่นนั้นริปเปอร์สวอร์มก็เคลื่อนไหวในอึดใจเดียว
[แม่งเอ๊ย! จำนวนอะไรวะเนี่ย!]
[ทหารม้า! ทหารม้า! สนับสนุนเร็วเข้า!]
เมื่อกองทัพขนาดใหญ่ของริปเปอร์สวอร์มอยู่เต็มพื้นที่ทำให้กองอัศวินตกอยู่ในความโกลาหล ฝูงริปเปอร์สวอร์มเข้าล้อมรอบพื้นที่ทั้งหมดจนไม่รู้ว่าควรยังไงจึงใช้ท่าป้องกันด้วยกระบวนทัพวงกลม
แต่ทว่า สำหรับริเปอร์สวอร์มสิ่งนั้นเป็นได้แค่เหยื่ออันโอชะ
เริ่มแรกทหารม้าซึ่งกำลังวิ่งรอบหมู่บ้านโดยทำราวกับเป็นที่ของตัวเองถูกริปเปอร์สวอร์ม3-4ตัวรุมกัดต่อเหยื่อ1ตัว ลากทหารม้าลงจากหลังม้าแทงด้วยเคียวและกัดคอขาดด้วยเขี้ยว ผู้ที่เสียชีวิตในทันทีนั้นโชคดี ส่วนผู้ที่พลาดจุดสำคัญไปนั้นโชคร้ายถูกสวอร์มฉีกร่างเป็นชิ้นๆทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
[ทัพวงกลม! สร้างทัพวงกลมซะ! กองอัศวินศักดิ์สิทธิ์ออกัสทีนจะโดนสัตว์ประหลาดเล่นงานไม่ได้!]
[ผู้บัญชาการ! อัญเชิญท่านทูตสวรรค์กันเถอะครับ! ถ้าไม่อย่างนั้นทุกคนได้ถูกฆ่ากันหมดแน่!]
[คึก……การต้องมาอัญเชิญท่านทูตสวรรค์ด้วยเรื่องระดับนี้มัน……!]
ถึงแม้ผู้บัญชาการจะทำสีหน้าไม่พอใจแต่ก็เริ่มร่ายบทสวดอะไรสักอย่าง
[ผู้รับใช้เทพแห่งแสงผู้ปกครองสรวงสวรรค์เอ๋ย โปรดลงมาจุติณที่นี่ตอนนี้ด้วยเถิด ท่านทูตสวรรค์อากาฟีเอล!]
และในตอนที่ผู้บัญชาการร่ายบทสวดจบ—-ทูตสวรรค์ก็ได้จุติลงมา
ทูตสวรรค์ สาวน้อยซึ่งดูศักดิ์สิทธิ์สวมชุดคลุมสีขาวอันอ่อนโยนและมีปีกสีขาวเรียกได้เพียงว่าเป็นทูตสวรรค์อย่างแน่แท้ สีหน้าเย็นชาราวกับไร้ซึ่งอารมณ์ลงมาจากสวรรค์สู่พื้นโลกทั้งที่หลับตาอยู่
『เหล่ามนุษย์เอ๋ย ต้องการความช่วยเหลือรึ』
[ต้องการขอรับ ได้โปรดสังหารพวกสัตว์ประหลาดชั่วร้ายด้วยเถิด!]
ผู้บัญชาการตะโกนเช่นนั้นต่อทูตสวรรค์ซึ่งพูดด้วยเสียงที่ถ่ายทอดมายังสมอง
『ย่อมได้ เจ้าพวกนี้คือตัวตนอันชั่วร้ายไม่ผิดแน่ อวตารของปีศาจร้ายซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อแสง อากาฟีเอลผู้นี้จะมอบความตายให้เองแล้วกัน』
ทูตสวรรค์กล่าวเช่นนั้นแล้วยื่นมือออกมาข้างหนึ่งมีแสงสว่างจ้ายิงออกมาจากตรงนั้น ริปเปอร์สวอร์มที่รับการลำแสงนั้นเข้าไประเหิดหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ริปเปอร์สวอร์มถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ก็ยังคงโถมโจมตีเข้าใส่เหล่าอัศวินที่กำลังทำกระบวนทัพวงกลมแต่ก็ระเหิดหายไปด้วยลำแสงที่อากาฟีเอลปล่อยออกมา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปถึงจะมีริปเปอร์สวอร์มกี่พันตัวก็คงถูกทำลายหมดแน่
ทูตสวรรค์อากาฟีเอล เพราะเป็นวงศ์วานของเทพแห่งแสงที่กองอัศวินนี้ศรัทธาทำให้สามารถจัดการกับแสงซึ่งเป็นวัตถุแห่งความศรัทธาได้ สิ่งนั้นหมายถึงเส้นแสงที่ถูกปล่อยออกมาซึ่งเป็นการรวมกันของแสงหลายหมื่นองศา เป็นทูตสวรรค์ผู้คุ้มครองกองอัศวินศักดิ์สิทธิ์ออกัสทีนที่บุกโจมตีหมู่บ้านบอมฟุตเตอร์นี้และพร้อมสำหรับการรบอย่างมาก
[ตัวยุ่งยากออกมาแล้ว เซริเนียนจัดการได้ไหม?]
[ปล่อยให้หม่อมฉันจัดการเองเพคะ องค์ราชินี]
เซริเนียนตอบเช่นนั้นด้วยรอยยิ้มที่ไม่หวั่นเกรงต่อคำถามของราชินีแห่งอารัคเนีย เป็นรอยยิ้มที่มั่นใจในชัยชนะ ดุร้ายและสนุกสนาน รอยยิ้มแบบนั้นอยู่บนหน้าเซริเนียน
[ลุยละนะ เจ้าแมลงมีปีก จงตายพร้อมกับสลักความไร้พลังของตัวเองลงไปซะเถอะ]
เมื่อเซริเนียนประกาศเช่นนั้นก็พุ่งเข้าหากองอัศวินและกระโจนเข้าใส่อากาฟีเอลในทันที อากาฟีเอลยกมือขึ้นพยายามจะฆ่าเซริเนียนแต่ทว่าเซริเนียนหลบสิ่งนั้นด้วยการบิดตัวกลางอากาศ
และแล้วอากาฟีเอลก็เข้ามาในระยะดาบของเซริเนียน
[ฮ้าา!]
จากนั้น เซริเนียนได้เหวี่ยงดาบและฟันไปที่อากาฟีเอล ไม่สิ ไม่ใช่การฟัน เป็นการตัดหัวนั้นกระเด็นไปต่างหากละ
『อั๊ก……』
เลือดของทูตสวรรค์ไม่ไหลแม้เพียงหยดเดียวทว่าได้เปลี่ยนเป็นอนุภาคแสงและหายไปราวกับละลายออกสถานที่แห่งนั้น
[ฟันทูตสวรรค์ได้ดีเลยนะ เซริเนียน]
[ดาบของหม่อมฉันคือดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งการแตกหักเพคะ เป็นใบดาบที่ใช้ตัดผ่านวัตถุศักดิ์สิทธ์ซึ่งอัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้ล่วงหล่นจะมีติดตัวเพคะ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นทูตสวรรค์หรือเทพ หากพยายามจะทำอันตรายต่อองค์ราชินีละก็จะฟันมันทิ้งให้เห็นเองเพคะ]
เซริเนียนตอบเช่นนั้นอย่างภาคภูมิใจและโอ้อวดเล็กน้อยต่อคำกล่าวความประทับใจของราชินีแห่งอารัคเนีย
[เอาละ ถ้างั้นก็ต้องกำจัดพวกที่เหลือสินะ]
เมื่อราชินีแห่งอารัคเนียกล่าวเช่นนั้นแล้วมองกองอัศวินพวกเขาก็เกิดตัวสั่นขึ้น
[ไม่น่าเชื่อท่านอากาฟีเอล……]
[จะ จบสิ้นแล้ว……]
พวกเขาคาดเดาได้ว่าพวกตนเองได้เปลี่ยนจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่าแล้ว
[ริปเปอร์สวอร์ม อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว]
เหล่าริปเปอร์สวอร์มเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพียงกันอีกครั้งตามคำสั่งขององค์ราชินีแห่งอารัคเนีย
กองอัศวินใช้กระบวนทัพวงกลมปกป้องตัวเองแต่ทว่า การต้องรับมือกับฝูงริปเปอร์สวอร์ม6,7ตัวต่อหนึ่งคนนั้นไม่มีโอกาสชนะอยู่แล้ว
พวกเขาถูกตัดหัว หัวใจถูกแทงผ่านชุดเกราะ แขนขาถูกตัดขาด ล้มตายกันทีละคน มีริปเปอร์สวอร์มหลายตัวถูกเล่นงานแต่ทว่าริปเปอร์สวอร์ส่วนใหญ่ที่พุ่งเข้าใส่โจมตีด้วยจำนวนก็ยังคงสังหารกองอัศวินต่อไป สิ่งที่เหลืออยู่มีแค่ภูเขาซากศพเท่านั้น
[เหนื่อยหน่อยนะ]
เมื่อราชินีแห่งอารัคเนียกล่าวเช่นนั้น เหล่าริปเปอร์สวอร์ก็ขนซากศพของพวกอัศวินออกไป สิ่งนี้เองก็จะใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างริปเปอร์สวอร์มตัวใหม่เช่นกัน
[เอาละ ไปฟังเรื่องราวกันเถอะ ข้าในตอนนี้กำลังรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย]
พอราชินีแห่งอารัคเนียกล่าวเช่นนั้นก็มุ่งไปยังบ้านของผู้เฒ่า
…………….