[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก - ตอนที่ 61 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม - การต่อสู้ขนาดย่อม
- Home
- [WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก
- ตอนที่ 61 บทที่ 4 คู่แข่งสีส้ม - การต่อสู้ขนาดย่อม
วันต่อมา พวกเราก็กลับขึ้นรถม้ากันอีกรอบ และมุ่งหน้าไปหาเด็กสาวคนนั้นที่ (แปลกพอที่จะ) ต้องการจะหมั้นหมายกับคุณหนูท่านนี้
“จะเป็นคนแบบไหนกันนะคะ หญิงสาวคนนี้ที่อยากแต่งงานกับท่านโนอะคนนั้น”
“ชื่อของเธอคือลุคเซีย วาเลนไทน์ ธาตุวารี อายุ 15 ปี ได้ยินว่าเป็นลูกสาวของอเล็ก วาเลนไทน์ ผู้นำของสหพันธ์สาธารณรัฐนะ”
“กล่าวคือ เป็นคุณหนูอยู่แต่บ้านแต่เรือนสินะเจ้าคะ คงไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับโลกภายนอกเท่าไหร่นักหรอกเจ้าค่ะ”
“โอโตฮะเองก็เป็นคุณหนูอยู่แต่บ้านแต่เรือนตามคำที่ว่านั่นจนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เองเลยไม่ใช่เหรอคะ”
“หากเอาแต่มองย้อนถึงอดีตล่ะก็ จะไม่สามารถเป็นสาวงามที่เยี่ยมยอดได้หรอกนะเจ้าคะ คุณคุโระ”
สาวงามที่น่าผิดหวังที่สุดในหมู่พวกเราพยายามจะพูดอะไรซักอย่าง แต่จะต่อความยาวสาวความยืดออกไปก็มีแต่จะเหนื่อยเปล่าๆ ฉันก็เลยเปลี่ยนบทสนทนาให้เดินหน้าต่อแทน
“ยังไงก็ตาม ดูแล้วจับเจ้าลิงกังตัวปัญหาที่น่าจะพุ่งเข้าไปมีเรื่องกับคู่ดูตัวของท่านโนอะอย่างไม่ต้องสงสัยไว้ซะ แล้วมัดทิ้งเอาไว้ในรถม้าระหว่างการแนะนำตัวกันน่าจะเป็นการดีกว่านะคะเนี่ย”
“เดี๋ยวสิเจ้าคะ!?”
“เมื่อพูดถึงตระกูลวาเลนไทน์แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐแล้ว พวกเขาได้ผลักดันส่งนักการเมืองออกมาต่อเนื่องอย่างยาวนาน รวมทั้งหัวหน้าของหนึ่งในตระกูลอันทรงเกียรติที่สุดคนปัจจุบันอย่างอเล็กก็ยังเคยเป็นกระทั่งประธานาธิบดีของสหพันธ์สาธารณรัฐเลยเสียด้วยซ้ำ ทว่า ประเทศแห่งนี้มีสิ่งหนึ่งที่ต่างไปจากทั้งอาณาจักรและจักรวรรดิ ตรงที่ไม่มีระบบชนชั้นค่ะ ฉะนั้น จุดประสงค์ของพวกเขาจึงไม่น่าจะเป็นผลประโยชน์ทางการเมือง แต่เป็นเวทมนตร์สายแสงสว่างเพียงอย่างเดียวเลยเสียมากกว่า แม้สหพันธ์สาธารณรัฐจะเป็นประเทศฝ่ายกลางก็จริง แต่ไม่ว่ายังไง การมีกำลังรบอยู่ในมือก็เป็นประโยชน์กว่าอยู่แล้ว”
“นั่นสินะ แต่ฉันว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นอยู่ด้วย ว่ามั้ย?”
ท่านโนอะยิ้มออกมาอย่างสนอกสนใจ ในขณะที่มองไล่ดูไปตามเอกสารพร้อมรูปถ่ายที่ส่งมาจากลุคเซียไปด้วย
“ที่ว่ามีอะไรมากกว่านั้น คือยังไงเหรอคะ?”
“ในเอกสารดูตัวนั้น มักจะมีพื้นที่ว่างๆ ตรงท้ายกระดาษเพื่อให้สามารถเขียนสิ่งใดก็ได้ลงไปตามใจชอบ ตามปกติแล้ว พวกเขาก็มักจะเขียนคุณค่าและผลประโยชน์ที่จะได้รับไปเมื่อฉันเลือกไปแต่งงานกับพวกเขา อย่าง ‘ถ้าแต่งงานกับผมนะ คุณจะได้นั่นได้นู่นได้นี่’ อะไรเทือกๆ นั่นล่ะนะ”
แล้วท่านโนอะก็พลิกหน้ากระดาษในมือ โชว์เนื้อหาในนั้นมาทางพวกเรา
พอฉันเลื่อนลงไปอ่านที่ส่วนท้ายกระดาษ มันก็เขียนเอาไว้แบบนี้
[ฉันชอบใบหน้าของคุณมากเลยค่ะ เพียงแรกเห็นก็ตกหลุมรักเลย หากคุณตัดสินใจมาหาและตกลงแต่งงานกับฉันล่ะก็ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบชีวิตอันเรื่อยเฉื่อยหรือกระตือรือรัน ฉันก็จะขอสัญญาที่จะมอบชีวิตในอุดมคติให้เป็นของคุณอย่างแน่นอนค่ะ]
…
“ในขณะที่คนอื่นๆ พยายามทำตัวทรงภูมิ ทำตัวเหมือนพวกหนุ่มวัยแรกรุ่นจำพวกว่า ‘ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นซักหน่อย’ เด็กคนนี้กลับบอกเล่าอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าชอบใบหน้าของฉัน นี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกตลกได้เลยล่ะ แถมตรงส่วนที่สัญญาจะมอบชีวิตในอุดมคติให้ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตอันเรื่อยเฉื่อยหรือกระตือรือร้นนี่ก็น่าดึงดูดไม่เลวเลยเหมือนกัน”
“ก็กะไว้แล้วล่ะค่ะ”
“ดูเข้ากับรสนิยมของท่านโนอามารีได้ดีเลยนะครับเนี่ย ท่านเคยบอกว่าไม่ชอบชายที่อ่อนแอกว่าตัวท่านเอง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาอย่างที่ว่าเอาไว้สินะครับ”
“ดูเป็นคนใจดี”
“กรี๊ดดดดดดด! ฉันไม่ยอมเจ้าค่ะ! ไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดเลยเจ้าค่ะ!”
ที่ท่านโนอะตัดสินใจได้ในทันที เป็นเพราะแบบนี้เองสินะเนี่ย
“ว่าแต่ว่า ท่านโนอะคะ ถ้าเธอคนนี้ตรงตามความชอบของท่านจริงๆ ท่านจะแต่งงานกับเธอหรือเปล่าคะ?”
“ไม่มีทางเด็ดขาดเจ้าค่ะ!”
“ไม่ได้ถามคุณค่ะ”
“นั่นน่ะสิ ในตอนที่ฉันเคยพูดถึง ‘ความแข็งแกร่ง’ นั่นไม่ได้หมายถึงแต่ในด้านเวทมนตร์หรอกนะ ก็ ถ้าเธอฉลาดไล่เลี่ยกับฉันล่ะก็ ต่อให้จะเป็นผู้หญิงก็ตาม ฉันก็อาจจะคิดเรื่องแต่งงานกับเธอก็ได้นะ”
“อะไรน้าาาาาา!?”
จะว่าไป มาพูดเอาป่านนี้อาจจะช้าไปหน่อยก็ได้ แต่ในโลกนี้ การสมรสของเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่ได้การยอมรับในประเทศส่วนใหญ่เลยนะ
เรื่องอย่างการแต่งงานทางการเมืองระหว่างเพศเดียวกันนี่ โลกนี้ไม่ได้หายากอะไรเลย
“ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าเด็กคนนี้เหมือนจะมีกลิ่นอายบางอย่างคล้ายๆ กับฉันอยู่ยังไงยังงั้นเลยนะ”
“อือ เข้าใจเลย”
“หมายถึงการมีใบหน้าที่แท้จริงซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากน่ะเหรอครับ?”
“ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่าเธอมองฉันยังไงกันแน่นะ โอรัน”
ระหว่างที่ดูโอรันพยายามรีบกลบเกลื่อนกับท่านโนอะที่หยอกล้อเขาไปด้วย ฉันก็เอาเอกสารฉบับนั้นมาดูอีกที
*แปล๊บ*
“…?”
แปลกแฮะ พอเห็นภาพท่านโนอะกับคนคนนี้อยู่ด้วยกันแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีแปลกๆ ยังกับว่ามีเข็มซักเล่มทิ่มลึกเข้าไปถึงหัวใจเลย
คิดไปเองล่ะมั้ง
“ถึงแล้วค่ะ”
หลังจากที่ข้ามพรมแดนมา และค้างคืนอีก 2 วัน พวกเราก็มาถึงที่หมายของเราซักที เมืองหลวงขอองสหพันธ์สาธารณรัฐฟีร่า ควอดราเบิล
ที่นี่แหละ ที่ที่ลุคเซีย หญิงสาวผู้เปิดเผยความปรารถนาต้องการจะแต่งงานกับท่านโนอะอาศัยอยู่
“เรามาสายกว่ากำหนดการไปนิดหน่อยแล้ว งั้นก็มาเริ่มดำเนินการตามแผนกันตอนนี้เลยเถอะ”
“รับทราบค่ะ โอรัน ช่วยฉันหน่อยนะคะ”
“อะไรเหรอครับ?”
“จะใช้เชือกมัดโอโตฮะเอาไว้ค่ะ”
“ได้ครับ เข้าใจแล้ว”
“เดี๋ยว!? นี่เอาจริงเหรอเจ้าคะ!?”
“แน่นอนค่ะ ถ้าคุณมาด้วยกันล่ะก็ อาจจะก่อปัญหาขึ้นจนวุ่นวายก็ได้”
“ในเมื่อเวทจิตใจใช้ไม่ได้ผล แถมสภาพตอนนี้ ผมก็ลดความต้านทานต่อจิตใจลงมาไม่ได้ด้วย เพราะแบบนั้น การจับมัดเอาไว้ก็เลยเป็นวิธีแก้ปัญหาที่เร็วที่สุดแล้วไงล่ะ”
พวกฉันค่อยๆ ตีโอบไล่ต้อนโอโตฮะเข้าไปหาอย่างช้าๆ
ด้วยความแน่วแน่ต่อท่านโนอะที่แข็งแกร่งมากจนเข้าขั้นผิดปกติของเธอ เวทมนตร์สายจิตใจก็เลยมีผลกับโอโตฮะน้อย ต่อให้เราจะใช้ยานอนหลับหรือยาชากับเธอไป ด้วยคุณลักษณะของเวทมนตร์สายพิษของเธอก็จะไปลบล้างฤทธิ์ของพวกมันจนไร้ผลอยู่ดี ฉะนั้น การจับมัดทางกายภาพเลยเป็นวิธีการเดียวที่เราสามารถเลือกใช้ได้น่ะสิ
ต่อให้จะเอาเชือกมัดเอาไว้ เดี๋ยวเธอก็สร้างน้ำกรดจากร่างกายออกมากัดตัวเชือกจนเปื่อย แล้วก็หนีออกมาได้อยู่ดี
ฉะนั้น เราเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้เชือกมัดเธอเอาไว้ให้แน่นหนา แล้วก็ขังเธอเอาไว้ในรถม้าที่ถึกทนนี่ด้วยอีกชั้นนึง เพื่อให้แน่ใจว่าต่อให้จะแก้เชือกออกมาได้ ยังไงเธอก็หนีออกมาไม่ได้ง่ายๆ อยู่ดี
เพราะแบบนั้น เราเลยติดตั้งลงกลอนเอาไว้พร้อมกับรูกุญแจเลย
“ถ- ถ้าเตรียมใจพร้อมแล้วก็เข้ามาได้เลยเจ้าค่ะ! ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องขัดขวางการดูตัวครั้งนี้ให้ได้! ไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ตาม! หากใครที่คิดจะเข้ามาหยุดฉันล่ะก็ ต่อให้จะเป็นรุ่นพี่หรือน้องชายของฉันก็ตาม ฉันก็จะไม่ยั้งมืออย่างเด็ดขาดเลยเจ้าค่ะ!”
“จะใช้พิษก็เชิญเลยค่ะ แต่โปรดจำไว้ด้วยนะคะว่าพิษธรรมดาๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นเวทความมืดของฉันหรือเวทต้านทานของโอรันก็สามารถลบล้างผลของมันได้ แต่ว่า หากใช้พิษรุนแรงเข้มข้นล่ะก็ ไอระเหยของมันก็อาจทำอันตรายกับท่านโนอะได้ ฉะนั้น ก็ขอให้คำนึงถึงสิ่งนั้นเอาไว้ให้ดีเสียด้วยนะคะ”
“อึก! ขี้ขลาดที่สุด! ฉวยเอานายเหนือหัวของตัวเองมาใช้เป็นโล่แบบนี้ นี่คุณยังเป็นข้ารับใช้อยู่อีกหรือเปล่าเจ้าคะ!?”
อยากพูดอะไรก็พูดไปเถอะ
อันที่จริง ท่านโนอะก็สามารถลบล้างผลของพิษได้ด้วยเวทมนตร์สายแสงสว่างอยู่แล้ว คำขู่นั้นก็เลยไม่ได้มีน้ำหนักอะไรขนาดนั้นหรอก แต่กับโอโตฮะที่ยกท่านโนอะเอาไว้เหนือสิ่งใดๆ ทั้งปวงแล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่ทันสังเกตเห็นถึงจุดนั้นเลยนะ
“ก็ได้เจ้าค่ะ! ฉันก็อยากถูกท่านเล่นผูกมัดเบาๆ แบบนั้นนะคะคุณหนู! …โอ๊ะ ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ฉันพูดผิดไป ตลอด 2 ปีมานี้ที่ฉันเติบโตขึ้น การผูกมัดเบาๆ เพียงเท่านั้นมันไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรกับฉันเลยแม้แต่นิดเดียวเจ้าค่ะ! กลับกัน ฉันต่างหากเจ้าค่ะที่จะมัดพวกคุณทั้งสอง และจัดการไม่ให้พวกคุณมาขวางฉันทำลายงานดูตัวนั่นให้ได้!”
โอโตฮะที่เผลอหลุดปากพูดอะไรแปลกๆ ออกมา ตอนนี้ก็เริ่มหุ้มพิษเหน็บชาเอาไว้ทั่วมือทั้ง 2 ข้าง พวกเราเองก็เตรียมตัวด้วยเหมือนกัน
“หึ คุณคิดว่าคุณจะจับฉันมัดได้จริงๆ น่ะเหรอคะ? คุณไม่เคยเอาชนะฉันได้เลยซักครั้งด้วยซ้ำ เป็นมุกตลกที่น่าหัวเราะจริงๆ เลยค่ะ!”
“อย่าพูดเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่คนเดียวที่เติบโตขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี่สิ! ผมจะทำให้ได้เห็นเองว่าผมนี่แหละคือศัตรูตามธรรมชาติของเวทมนตร์สายพิษล่ะ!”
“เข้ามาได้เลยยยยยยย!”
และแล้ว การต่อสู้อันกระจ้อยร่อยก็เปิดฉากขึ้นภายในรถม้าคันนั้นของพวกเราเอง
ฉันกับโอรันร่วมมือกันกำราบโอโตฮะลงให้ได้โดยเร็ว โดยใช้กันแต่เวทมนตร์ระดับต่ำเพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ กับท่านโนอะ ซึ่งตอนนี้ ท่านก็กำลังมองดูพวกเราด้วยท่าทีหงุดหงิดรำคาญ ส่วนสแตก็กำลังเคี้ยวแฮมเบอร์เกอะของเธอตุ้ยๆ อย่างใจเย็น
ตอนที่โอโตฮะใช้อาวุธลับอย่างยากระตุ้นกับตัวเธอเอง เป็นการใช้เวทพิษโดยปรับให้มีผลแต่กับตัวเธอเพียงอย่างเดียวได้อย่างแสนเจ้าเล่ห์ จนทำเอาฉันคิดไปว่าอาจแพ้แค่นี้เลยก็ได้ แต่โอรันก็รับมือกับสิ่งนั้นได้ด้วยการเพิ่มความต้านทานต่อยาของโอโตฮะขึ้น จนเป็นการลบล้างผลของมันออกไป
ผลสรุปก็คือ หมัดอัพเปอร์คัทของฉันซัดเข้าไปเต็มๆ กรามของโอโตฮะ จนส่งให้เธอหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้นรถจนได้
“แฮ่ก แฮ่ก ให้ตาย เป็นนางผู้หญิงตัวปัญหาจริงๆ เลยค่ะ…”
“สมกับเป็นคุณคุโระเลยครับ ตอนนี้ก็รีบมัดเธอเอาไว้ก่อนกันดีกว่า”
“จริงด้วยนะ”
พวกเรามัดโอโตฮะเอาไว้กันจนแน่นเรียบร้อย และเพื่อระบายความหงุดหงิด เราเลยจับเธอห้อยลงมาจากคานหลังคาของรถม้าด้วยซะเลย
“เท่านี้ การเตรียมการของเราก็เรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะค่ะท่านโนอะ”
“ฉันเข้าใจนะว่ามาพูดเอาป่านนี้ก็ดูจะสายไปหน่อย แต่จากที่รู้จักพวกเธอ 2 คนมา ฉันคิดว่าพวกเธออาจจะทดลองวิธีหลอกโอโตฮะและทิ้งเธอเอาไว้ที่อาณาจักรซะอีกนะ”
“คือว่า ถ้าปล่อยเธอไว้คนเดียวแบบนั้น ก็น่าสงสารแย่เลยนะคะ”
“ถึงจะเป็นงานก็จริง แต่ก็นับว่าได้ออกมาเที่ยวไปด้วยนี่ครับ”
“พวกเธอนี่น้า ถึงจะพูดนู่นพูดนี่ แต่จริงๆ ก็รักโอโตฮะกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากที่ได้รับการตอบรับที่หาได้ยากจากท่านโนอะ คฤหาสน์หลังโตก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นอยู่ข้างหน้าพอดีเลย
“อะ นั่นเองสินะคะ”
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
ที่นั่นสินะ ที่ที่ว่าที่คู่หมั้นในอนาคตของท่านโนอะรอพวกเราอยู่
เธอจะเป็นคนแบบไหนกันนะ
ฉันคิดอยู่ในใจแบบนั้นไปพลาง
ใช้กาวทาเสริมให้เชือกที่มัดโอโตฮะเอาไว้ให้ทนทานเข้าไปอีกไปด้วยพลาง
TN: อาระอาระ~ ชอบจัง~ ความ *แปล๊บ* เนี่ย~
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r