[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 6 คู่รักมองหาวิธีใช้เวลาร่วมกันแบบใหม่ๆ
“นี่ อยากจะลองทำอะไรที่ยูซุชอบสักครั้งไหม”
ระหว่างที่กำลังเดินไปห้องชมรมวรรณกรรมตามปกติ
จู่ๆ ผมก็นึกความคิดนั้นออก และเสนอไปให้กับยูซุที่อยู่ข้างๆ ผม
“อะไรนะ หายากไปแล้ว ทำไมจู่ๆ ก็พูดอย่างนี้”
แม้แต่ยูซุก็ดูเหมือนจะคาดไม่ถึง ดังนั้นเธอจึงมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่เบิกกว้้าง
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เกิดสงสัยขึ้นมาว่ามันจะโอเคไหมนะที่มัวแต่มาเล่นกับงานอดิเรกของฉันน่ะ ก็เราคบกันอยู่นี่”
ถึงจะคบกันปลอมๆ ก็เถอะ ผมกลืนคำพูดนั้นทิ้งไป
เนื่องจากทางเดินหลังเลิกเรียนยังเต็มไปด้วยผู้คน ดังนั้นผมจึงไม่อาจพูดอะไรไปแบบ ไม่ระมัดระวัง ได้
“ฉันเข้าใจแล้ว! ในที่สุดยามาโตะคุงก็เริ่มมีสำนึกความเป็นแฟนกับเขาบ้างแล้วสินะ! อื้มๆ อะไรจะดีได้ขนาดนี้!”
ทั้งที่ยูซุน่าจะเข้าใจคำพูดที่ผมกลืนลงไปแท้ๆ แต่เธอกลับพยักหน้าอย่างมีความสุขซะอย่างนั้น
“ถึงจะพูดงั้นก็เถอะ แต่ตามปกติฉันเป็นคนที่ปรับตัวไปตามเพื่อนที่เล่นด้วยน่ะ ถึงจะพูดออกมาอย่างกะทันหันแบบนั้นฉันก็คิดไม่ออกหรอก”
ยูซุกอดแขนแล้วก็เริ่มครุ่นคิด
“ทั้งที่ยูซุเป็นคนที่หลงตัวเองสุดขั้วอย่างนี้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีความคิดริเริ่มใดๆ เลยนะ”
เป็นประเภทที่ปรับตัวเข้ากับคนอื่นเก่งเกินไป จนไม่รู้ว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร
“หืม… ฉํนก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ แต่ถ้านายพูดมาซะขนาดนี้ ฉันก็คงต้องคิดให้ดีแล้ว เพราะสิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของฉัน”
บางทีอาจเป็นเพราะสีหน้าของผมดูผิดหวังเล็กน้อย ดังนั้นยูซุจึงเริ่มขมวดคิ้วแล้วก็คิด
“ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้ เอาสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวแวบๆ ก็พอแล้ว”
แม้ว่าผมจะส่งเรือกู้ชีพออกไป แต่ใบหน้าลำบากใจของยูซุก็ยังไม่คลี่คลาย
“ทำงั้นไม่ได้หรอก ถึงจะยากแต่ก็ต้องหาอะไรที่ยามาโตะคุงสนุกไปด้วยได้น่ะ อย่างเช่นเดินดูของแบบนี้ผู้ชายคงไม่ชอบใช่ไหมล่ะ”
“ไม่หรอก ฉันค่อนข้างจะเข้าใจอยู่นะ”
“เอ๊ะ น่าแปลกใจจังนะ”
ยูซุตอบรับคำพูดของผมด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ RPG ก็คือช่วงที่ไปซื้อของที่ร้านค้า ฉันเองก็ชอบช่วงเวลานั้น”
แบบอย่าง นั่งคิดว่าสิ่งของที่อยู่ในแพ็กเกจนั้นน่าสนใจไหมจากข้อมูลที่มีอยู่เล็กน้อยก็ดี หรือว่าจะเข้าไปที่โฮมเพจของเว็บไซต์ทางการเลยดี
ผมคิดว่าช่วงเวลาที่ใช้ไปกับการครุ่นคิดเหล่านี้เองก็เป็นส่วนหนึ่งของเกมเช่นกัน
“โอ้… ประหลาดใจจังเลย ไม่คิดเลยว่ายามาโตะคุงที่เป็นพวกเก็บตัวจะเห็นพ้องกันได้ด้วย ฉันนึกว่าเราจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลยซะอีกนะนั่น”
“ฉันก็คิดมาหลายครั้งแล้วนะ ว่าทำไมเธอถึงมาคบกับผู้ชายแบบนี้—”
ผมชำเลืองมองยูซุที่ดูประหลาดใจอย่างจริงจัง จากนั้นเธอก็ยิ้มให้ผมราวกับว่าต้องการเอาอกเอาใจ
“น่าๆ นั่นเองก็เป็นข้อดีของยามาโตะคุงไม่ใช่รึไง ถึงแม้งานอดิเรกจะไม่เหมือนกัน ถึงแม้ความสามารถในการสื่อสารจะไม่มี ถึงแม้จะไม่หล่อเท่ แต่…ถึงอย่างนั้นนายก็ยังอ่านอารมณ์ไม่ออกด้วย …ว่าแต่เอ๊ะ แล้วข้อดีของยามาโตะคุงคืออะไรกันนะ”
“อย่ามานึกไม่ออกตรงส่วนข้อดีของฉันสิฟะ! ถ้าเกิดจะเริ่มมาแบบนั้นเธอต้องจบลงที่ข้อดีของฉันสิ! ทำไมมันถึงไปวกวนอยู่แต่กับข้อเสียของฉันล่ะ!”
“ฉันคิดว่าตรงส่วนนี้เองยามาโตะคุงก็มีส่วนผิดนะ”
“ปฏิเสธไม่ได้ซะงั้น!”
แทนที่จะปกป้องผม จู่ๆ เนื้อหามันก็เปลี่ยนไปเป็นการปฏิเสธตัวตนของผมอย่างกะทันหัน
“อะแฮ่ม… เอาเถอะ สรุปคือยามาโตะคุงก็แบบนั้นแหละ แต่ก็ยังดีที่พวกเรามีงานอดิเรกร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ด้วยเหตุนี้วันนี้เราจึงยังคบกันอยู่ค่ะ!”
“ไม่เข้าใจสักนิด… แต่ก็เข้าใจแล้ว”
ผมเห็นด้วยกับยูซุเพื่อให้ให้เธอรีบๆ เปลี่ยนหัวเรื่อง
จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“จะว่ายังไงดี คือว่าเรื่องนี้ทำให้ฉันมีความสุขนิดหน่อยนะ”
“งั้นออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกกันมั้ย”
“นั่นสินะ ฉันเองก็มีสิ่งที่เหมือนกับยามาโตะคุงด้วยสินะ รู้สึกเหมือนได้รู้จักกันมากขึ้นนิดหน่อยเลย มีความสุขจัง”
เมื่อพูดจบ ยูซุก็เข้ามาจับมือผมอย่างไม่ใส่ใจ
“งะ งั้นเหรอ”
ท่าทางที่จริงใจอย่างกะทันหันได้ทำให้ผมรู้สึกเขิน บ้าเอ๊ย รู้สึกเหมือนโดนเซอร์ไพรส์เลยแฮะ
แน่นอนว่ายูซุเองก็ไม่พลาดช็อตนี้ และจ้องมาที่ผมในขณะที่กำลังจับมือกันอยู่
“ตายแล้ว ยามาโตะคุงหน้าแดงไปหมดแล้วนะ อย่าบอกนะว่ากำลังเขินอยู่เหรอจ๊ะ”
“ไม่ได้เขิน”
“จริงเหรอจ๊ะ~”
“จริงอยู่แล้วครับ”
“แต่หูนายมันยังแดงอยู่เลยน้า ให้ฉันใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปให้ดูดีมั้ยจ๊ะ”
“…ขอโทษ เมื่อกี้โกหกน่ะ”
ดูแล้วมันคงจะหนีไม่พ้น ดังนั้นผมจึงได้ตัดสินใจมอบตัว
“ฮะๆๆ! ยามาโตะคุงนี่น่ารักจังเลย”
ยูซุดีใจที่เห็นผมเข้ามุม จากนั้นเธอก็เข้ามาลูบหัวผมอย่างอารมณ์ดี
“อุก…เดี๋ยวสิ”
สักวันฉันจะทำให้เธอเขินจนตายให้ได้เลยคอยดู
“จริงด้วย ยามาโตะคุง ไหนๆ ก็ได้ไปด้วยกันทั้งที่ แทนที่จะเดินดูของเราไปซื้ออะไรกันจริงๆ เลยมั้ย พวกเสื้อผ้าอะไรอย่างนี้”
“เอาเถอะ ไหนๆ ก็เปลี่ยนฤดูกาลแล้ว เอางั้นก็ได้”
เมื่อผมพยักหน้า ใบหน้าของยูซุก็เริ่มตื่นเต้น
“งั้นเดี๋ยวฉันเลือกให้เองนะ เรื่องอย่างแต่งตัวแฟนอะไรแบบนี้ ฉันอยากทำดูสักครั้งมานานแล้ว”
“เอาตามใจเธอเถอะ… แต่ขอที่ไม่แพงมากล่ะ”
“รู้อยู่น่า ฉันไม่เลือกอะไรที่แพงนักหรอก น่าสนุกจังเลย~ แต่งตัวยามาโตะคุง”
มันก็คงดูไม่จืดน่าดูถ้าเกิดเรากลายเป็นตุ๊กตาแต่งตัว ถึงอย่างนั้นยูซุก็ยังดูตื่นเต้นต่อไป
“ต้องแบบไหนถึงจะเหมาะน้า แบบจีบดีมั้ย …อืม หรือว่าจะแบบบานๆ ดีนะ เอาเป็นว่าลองแบบสั้นๆ ไปก่อนก็น่าจะดีแฮะ”
“…หืม เมื่อกี้ฉันได้ยินคำแหม่งๆ อยู่นะ เฮ้ย เธอคงไม่ได้จะกำลังเลือกว่าฉันควรใส่กระโปรงแบบไหนอยู่หรอกใช่มั้ย”
“อ๋อ ฉันแค่กำลังเลือกให้ตัวเองน่ะ”
“งะ งั้นเหรอ”
อย่างนี้นี่เอง …ค่อยยังชั่วที่แค่เข้าใจผิดไป
“งั้นก็ไหนๆ แล้วเราไปเลือกท่อนล่างกันด้วยมั้ย”
“ท่อนล่าง… นี่ เธอหมายถึงเสื้อผ้าผู้ชายใช่มั้ย เธอคงจะไม่ได้หมายถึงกระโปรงหรอกใช่มั้ย”
“น่า เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างมันเถอะ ยิ่งกว่านั้นรีบๆ ไปกันเถอะ!”
“ช่างไม่ได้สิเฟ้ย!? เดี๋ยวๆ อย่าดึงนะ!”
ยูซุฉุดแขนและลากผมออกไป
ส่วนสิ่งที่ได้ใส่หลังจากนั้น เพื่อศักดิ์ศรีของผมจะขอละเอาไว้