[WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS - ตอนที่ 2 คู่รักเริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงจากแบบทดสอบจิตวิทยา
- Home
- [WN] มาคบกับฉันผู้แสนน่ารักซะดีๆ! SS
- ตอนที่ 2 คู่รักเริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงจากแบบทดสอบจิตวิทยา
“นี่ วันนี้ฉันอยากจะทำอะไรแบบคู่รักกันบ้างอะ”
ในวันหนึ่ง ณ ห้องชมรมวรรณกรรม ยซุก็ได้บ่นพึมพำราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา
ผมที่กำลังประกอบเครื่องเกมย้อนยุคที่ศิษย์เก่าทิ้งไว้เข้ากับทีวีเก่า ได้เงยหน้าขึ้นมองตามคำพูดของเธอ
“จู่ๆ ก็อะไรกันน่ะ”
“ไม่ใช่จู่ๆ สิ ก็ฉันกับยามาโตะคุงเริ่มคบกันมาสักระยะหนึ่งแล้วนี่นา แต่ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรไปเล่าให้ฟังตอนอยู่กับเพื่อนเลย”
“โห แล้ว?”
เหตุผลที่เราคบกัน…ไม่สิ เหตุผลที่เราทำ ‘สัญญากัน’ เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ผมจึงตั้งใจฟังอย่างจริงจัง
“แต่เดิมการที่คนน่ารักสุดๆ อย่างฉันกับยามาโตะคุงผู้มืดมนมาคบกันมันก็แทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นฉันก็เลยต้องการพูดคุยแบบคู่รักบ้าง เพื่อที่ผู้คนจะได้ไม่สงสัยว่าพวกเราเป็นคู่รักปลอมๆ กันน่ะ”
“เอาเถอะ ถ้านั่นเป็นเหตุผลฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องให้ความร่วมมือนั่นแหละ แล้วเราต้องทำยังไงกันล่ะ”
“ถ้าพูดถึงคู่รักแล้ว ก็ต้องนี่เลย!”
หลังจากพูดจบ ยูซุก็ได้หยิบมือถือขึ้นมาและโชว์หน้าจอให้ผมดู
“อะไรเนี่ย…แบบทดสอบจิตวิทยา?”
“ใช่แล้ว! มันเป็นแบบทดสอบจิตวิทยาที่แสดงให้เห็นว่าคู่รักรักกันแค่ไหนเชียวนะ ต้องลองดูให้ได้สักครั้งเลยนะ”
“ไม่ล่ะ ต่อให้จะทำแบบนั้นกับคู่รักปลอมๆ ไป…มันก็มีแต่จะเจอกับค่าความรักเป็น 0 เท่านั้นแหละ”
ผมรู้สึกไม่เห็นด้วยกับความคิดของยูซุ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะตื่นเต้นกับมันมากจนคำพูดของผมไม่อาจหยุดเธอได้
“เอาน่าๆ ลองทำดูหน่อยไม่เห็นจะเป็นไรเลย งั้นฉันจะเป็นคนตั้งคำถามก่อน ส่วนยามาโตะคุงก็เป็นคนตอบนะ”
“ไม่มีทางเลือกสินะ…”
ผมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับอย่างช่วยไม่ได้
“งั้นก็ ‘หากคุณโดนวางยาจนไม่อาจขยับไปไหนได้ คุณคิดว่ายานั้นจะถูกใส่ไว้กับสิ่งไหน ในซุป ในน้ำ ในเนื้อ หรือว่าในของหวาน’ ”
รู้สึกกังวลหน่อยๆ แฮะที่ต้องมาตอบแบบทดสอบเกี่ยวกับอะไรไม่รู้…แต่ก็ช่างเถอะ ตอบไปเลยดีกว่า
“งั้นก็… ซุปมั้ง”
ผมตอบไปโดยสัญชาตญาณ
จากนั้นใบหน้าของยูซุก็ได้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอันไม่พึงประสงค์
“โฮ่… โฮ่ๆๆ”
ลางสังหรณ์ของผมรู้สึกถึงความแหม่งๆ จากนั้นยูซุก็ได้เปิดเผยความจริงออกมาด้วยใบหน้ามีความสุข
“สิ่งที่แบบทดสอบนี้บอกมานั่นก็คือ! ‘คุณกำลังตกหลุมรักอยู่’ นั่นเอง!”
“อะ อะไรนะ!?”
“สำหรับคนที่เลือกซุป! คุณเป็นคนประเภทที่ ‘ชอบทำเป็นเก๊ก’ เป็นโรคประเภทที่ไม่สามารถซื่อสัตย์กับตัวเองได้ แม้ว่าภายในจะตื่นเต้นมาก แต่ภายนอกกลับเสแสร้งเย็นชาค่า!”
“บะ บ้าไปแล้ว…!”
ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงทำให้ผมเผลออารมณ์เสีย
จากนั้นยูซุก็ได้ซุกหน้าเข้ามาใกล้ราวกับเจอของเล่นที่ดีที่สุด
“เข้าใจแล้ว ฉันก็คิดมาตลอดนะว่าท่าทางของนายมันเย็นชาจัง แต่บางทีก็แค่อาจจะบอกไปตรงๆ ไม่ได้นี่นา ช่วยไม่ได้นี่เน้อ~ ก็นายเล่นรักฉันมากขนาดนี้ แต่ซื่อสัตย์กับตัวเองไม่ได้ใช่มั้ยล่า~”
“ตะ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ! ฉันขอทำใหม่!”
“ขอปฏิเสธค่ะ! เอ่อ…เมื่อกี้ใครพูดไว้ว่ายังไงนะ? ‘ต่อให้จะทำแบบนั้นกับคู่รักปลอมๆ ไป…มันก็มีแต่จะเจอกับค่าความรักเป็น 0 เท่านั้นแหละ’ ใช่มั้ย? นั่นสิเน้อ~ ค่าความรักเป็น 0% เลยล่ะนั่นแหละเน้อ~”
ยูซุจงใจทำท่าทางเลียนแบบผม อะไรกันฟะยัยนี่! ชักจะน่ารำคาญจนไม่รู้ลิมิตแล้วนะ!
“หมดเวลาแล้ว! ขอเรียกร้องให้เปลี่ยนฝั่งด้วย! คราวนี้ฉันจะเป็นคนถาม แล้วเธอเป็นคนตอบบ้าง!”
ในเมื่อรับรู้แล้วว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงบรรยากาศได้ ผมจึงพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่อง
“แน่นอนว่าต้องได้อยู่แล้ว ก็ในเมื่อยามาโตะคุงที่ซื่อสัตย์กับตัวเองไม่เป็นเป็นคนขอมาเองเลยนี่นา ในฐานะแฟนสาว ฉันไปปฏิเสธนายได้ยังไง”
ยูซุยอมเปลี่ยนมาเป็นคนโดนถามพร้อมด้วยรอยยิ้มอันเล่ห์เหลี่ยม ทั้งที่ตอนผมขอทำแบบทดสอบใหม่เธอยังปฏิเสธแท้ๆ ช่างเป็นคนที่สองมาตรฐานชะมัด
“ถึงมันจะเป็นการเปิดเผยให้เห็นว่าฉันรักยามาโตะคุงแค่ไหนก็เถอะ แต่ก็ไม่มีปัญหาหรอก ก็ฉันบอกรักยามาโตะคุงตลอดเวลาอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”
ยูซุเชิดหน้าอกอย่างไม่ยี่ระ คอยดูเถอะนะ
ผมใช้งานโทรศัพท์ของตัวเอง จากนั้นก็ได้พบกับแบบทดสอบทางจิตวิทยาที่คล้ายคลึงกัน
“งั้นก็ ‘คุณกำลังซื้อเครื่องดื่มจากตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ทว่าเครื่องดื่มที่คุณซื้อนั้นกลับไม่มีฉลากติดอยู่ทำให้ไม่รู้ชื่อของผลิตภัณฑ์ ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังรู้สึกหิวน้ำจนอยากจะซื้อบางอย่างอยู่ดี ถ้าอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้คุณจะซื้อเครื่องดื่มเป็นสีอะไร’ ”
“ถ้าเป็นตอนนี้ก็คงสีน้ำตาลมั้ง พอดีฉันอยากดื่มชาน่ะ”
ยูซุตอบกลับมาแบบดูไม่ค่อยกังวล
เมื่อฟังเสร็จผมก็ได้เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์เพื่อหาคำตอบ
“คำตอบก็คือ…อ๊ะ โทษทีนะ ที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่แบบทดสอบจิตวิทยาคู่รักหรอก แต่มันเป็นแบบทดสอบว่าคุณเป็นโรคจิตหรือเปล่าน่ะ”
“เอาอะไรมาให้ฉันทำกันยะ!?”
“ส่วนคำตอบก็…เห~ อย่างนี้เองเหรอ อื้มๆ”
“อะไรยะ!? นี่นายรู้อะไรเกี่ยวกับฉัน!?”
โอ๊ะ เผลอออกนอกเรื่องไปหน่อย โต้ดๆ
“งั้นก็พอแค่นี้แล้วไปหาอันอื่นดีกว่า”
“จะไปไหนกันยะ!? ฉันไม่ยอมให้นายหนีไปไหนจนกว่าจะได้คำตอบหรอกนะ!”
ยูซุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหากดคำตอบราวกับว่าเธอทนไม่ไหว
ในระหว่างนั้นผมก็ได้ตรวจดูคำตอบของแบบทดสอบจิตวิทยาคู่รักในตอนนั้นไปด้วย
“นี่ เราจะเริ่มทำแบบทดสอบของจริงกันแล้วนะ”
“ค่อยยังชั่ว…ก็ดูดีนี่ เอ้า! หวังว่าคราวนี้นายจะทำให้มันถูกต้องนะ”
ยูซุหันหน้ามามองผมด้วยความโล่งใจเมื่อได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่โรคจิต
ผมเองพอได้ยืนยันคำตอบแล้วก็ละหน้าจอจากโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน
“ ‘คุณกำลังจะมอบดอกไม้ให้กับคนรักด้วยดอกกุหลาบสีแดงและสีขาว โดยในช่อนั้นจะมีทั้งสองสีคละกัน 20 ดอก คุณจะจัดช่อดอกไม้โดยใช้สีละกี่ดอก’ ”
หลังจากอ่านคำถามดังๆ ยูซุก็ได้คิดเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา
“กุหลาบแดง 19 กุหลาบขาว 1 มั้ง เพราะว่าการที่มีกุหลาบที่สีต่างกันมันเด่นดีน่ะ”
ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับคำตอบนั้น
“เอ่อ ความหมายคือ… ‘กุหลาบแดงเป็นตัวแทนของหัวใจที่ทุ่มเทให้กับคู่รัก ส่วนกุหลาบขาวเป็นตัวแทนของหัวใจที่ต้องการจากคู่รัก’ เธอเนี่ย ทั้งที่เป็นคนหลงตัวเองแท้ๆ แต่กลับเป็นประเภทที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับคนรักสินะ”
“พะ พูดเรื่องอะไรกันน่ะ”
สำหรับผมมันเป็นแค่เรื่องเซอร์ไพรส์ธรรมดา แต่สำหรับยูซุดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องที่น่าอายมากจนหน้าของเธอแดงแปร๊ดทันที
เมื่อได้เห็นสิ่งนี้เข้า ต่อให้เป็นผมก็อดที่จะหยอกล้อไม่ได้
“แหมๆ ไม่เห็นจะต้องปิดบังไปเลยนี่นา ฉันผิดที่ไม่ทันสังเกตเอง ไม่คิดเลยว่าเธอจะทุ่มเทเพื่อฉันขนาดนี้”
“มะ ไม่จริงสักหน่อย! ฉันคิดถึงแต่ตัวเองต่างหาก! นั่นก็เพราะฉันรักตัวเองยังไงล่ะ!”
“อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย แม่สาวกุหลาบแดง 19 ดอก เอาจริงๆ แม้แต่แบบทดสอบจิตวิทยานี่เธอก็คงคิดมาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับฉันใช่ม้า ขอบคุณน้ายูซุจัง มีแฟนแบบนี้ฉันนี่ช่างมีความสุขจริงๆ”
“หยุดแหย่ฉันกลับได้แล้ว! นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรเอามาพูดนะ! เบื้องหลังความพยายามของฉัน!”
ยูซุเริ่มยกมือขึ้นมาปิดหน้า แจ๋ว ถ้าทำได้ขนาดนี้เราก็พอใจแล้วล่ะ
“ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าฉันได้เจอสิ่งที่น่าสนใจมาเยอะพอแล้ว ถ้างั้นคงได้เวลาพอแล้วล่ะนะ”
พูดเสร็จผมก็ปิดแบบทดสอบทางจิตวิทยา และเอื้อมมือออกไปยังเครื่องเกมที่อยู่ในขั้นตอนเตรียมการ
ทว่าชายเสื้อของผมกลับถูกดึงจากข้างหลัง
และเมื่อหันหลังกลับไปก็ได้พบเห็นยูซุที่กำลังทำหน้าบวมอยู่
“นี่ ยังมีกุหลาบขาวอยู่ 1 ดอกนะ”
จู่ๆ เธอก็พึมพำออกมาอย่างไม่รู้จุดประสงค์
“เอ๊ะ หมายความว่าไงน่ะ”
“…”
ผมถาม แต่ยูซุไม่ตอบ ดูเหมือนว่าผมคงต้องคิดเอาเอง
กุหลาบขาวก็คือ—ความรู้สึกอยากได้รับสิ่งตอบแทนสินะ
อ๋อ เข้าใจแล้ว
หลังจากถอนหายใจ ผมก็หยุดเตรียมเครื่องเกม และหันหน้าไปเผชิญหน้ากับยูซุ
“ขอบคุณที่เตรียมของมาให้พวกเราได้เพลิดเพลินกันนะ เพื่อเป็นการตอบแทนวันนี้ผมจะรับฟังสิ่งที่ยูซุพูดเองครับ”
“พูดจริงใช่มั้ย”
ทันใดนั้นใบหน้าของยูก็เจิดจ้าขึ้น ยัยคนเปลี่ยนใจง่ายนิ
“พูดจริงๆ”
“ฉันมีร้านคาเฟ่ที่อยากไปอยู่พอดีเลย เพราะคิดว่านายอาจจะไม่ชอบฉันก็เลยไม่ได้ชวนน่ะ”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันจะไปกับเธอเอง”
“อื้ม! ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ!”
จากนั้นผมก็ถูกนำตัวออกไปจากชมรมวรรณกรรมโดยยูซุผู้ที่จูงมือผมอย่างร่าเริง