เมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า
เหล่านกน้อยนกกาเหว่าต่างพากันร้องเพลงสรรเสริญยินดี
ส่วนเหล่าดวงดาวที่เคยเจิดจ้าในยามค่ำคืนพอหมดภารกิจหน้าที่ พวกมันก็ค่อยๆลาลับไปอย่างช้าๆ
จากนั้นผมก็ได้ตื่นขึ้นพร้อมกับขยี้ตาของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าจากการเรียนของเมื่อวาน ก่อนที่จะลุกขึ้นไปห้องน้ำ
หลังจากนั้นผมก็ทำให้เส้นผมที่ฟูฟ่องของตัวเองเปียกน้ำ ก่อนที่จะนำหวีขึ้นมาจัดทรง
“ฟุอา~~”
ยังไม่อยากตื่นเลยอ่ะ
ผมไม่ได้อยากจะโม้หรอกนะแต่ว่าวันนี้ผมตื่นนอนได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งท่านเทพธิดา
ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกเหนื่อยก็เถอะแต่ในความเหนื่อยนั้นก็ยังมีความโล่งใจแฝงอยู่เพราะผมไม่ต้องรับแรงกระแทกจากการบังคับให้ตื่นของท่านเทพธิดา…..ความรู้สึกแบบนี้ช่างซับซ้อนเสียจริง
“เรื่องพวกนี้ก็เป็นผลพวงที่มาจากเธอด้วย ฉันต้องหาเวลาไปขอบคุณเธอหน่อยแล้วละ”
ผมมองตัวเองในกระจกก่อนที่จะดึงแก้มด้านขวาของตัวเอง
ผมไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยนะถ้าเคนอิจิไม่พูดออกมา แต่พอลองเอามาเทียบกับแต่ก่อนแล้วมันก็ดูมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะ
“แล้วก็เรื่องเมื่อวาน….พอคิดๆดูแล้วช่างเป็นวันที่วุ่นวายจริงๆ”
เมื่อไม่กี่วันมานี้ชีวิตของผมได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยละ ถึงจะรู้สึกเหนื่อยไปบ้างแต่ชีวิตของผมก็เริ่มมีสีสันขึ้นเยอะ
แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกที่ราวกับโดนโซ่ตรวนเอาไว้ก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในจิตใจของผมและนี่เองก็เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมตื่นเช้า…
“….ต้องตอบแทนยังไงถึงจะพอละเนี่ย”
ผมหยิบเสื้อที่ถูกพับเอาไว้ออกมาจากตู้เสื้อผ้าซึ่งมันก็ถูกเก็บเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ…สิ่งนี้เองก็คงจะเป็นฝีมือของวาคามิยะเหมือนกันสินะ
แล้วผมจะตอบแทนเธอยังไงดีนะ? หรือจะเลี้ยงโดนัทเธอดี?
ไม่สิคนที่หลักการเยอะแบบเธอคงไม่มีทางรับของจากผมแน่…แล้วผมจะทำยังไงดีละ
[งึกงึกงักงัก~~มันเป็นงึกงึกงักงัก~~]
ในขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นซึ่งคนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเธอคนนั้นก็คือเทพธิดาเรียจูนั่นเอง
ผมได้เหลือบไปมองนาฬิกาก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ถึงเวลาแล้วนะคะ…”
วาคามิยะนั้นมักจะโทรปลุกผมตรงเวลาเสมอไม่ขาดแม้แต่นาทีเดียวบอกตรงๆเลยนะเธออย่างกะเครื่องจักที่มีชีวิตเลยละ
“…อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ โทคิวากิซัง”
วาคามิยะพูดออกมาด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนและเรียบเฉยเหมือนเคบ
“ปลุกตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะเธอเนี่ย”
“ฉันเป็นคนรักษาสัญญาค่ะ พูดคำไหนคำนั้น”
“โห เป็นคนที่เอาใจใส่สุดๆ”
“ยิ่งไปกว่านั้น มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าคะไหงคุณถึงตื่นเช้าขนาดนี้โดยไม่มีฉันปลุกได้เนี่ย”
“เออ ฉันก็แค่อยากตื่นนอนก่อนที่เธอจะปลุกแค่นั้นเอง”
“ว้าววว~~~”
วาคามิยะตบมือพร้อมกับส่งเสียงประทับใจออกมา
“หึ ก็ฉันน่ะเป็นคนประเภทที่ถ้าคิดจะทำก็ทำได้แหละนะ”
“ฟุฟุ ฉันมีความสุขมากค่ะที่ได้ยินแบบนั้น…แต่ก็รู้สึกเหงานิดหน่อยค่ะ”
“หมายความว่าไง?”
“ก็ต่อจากนี้คุณสามารถตื่นเองได้แล้วเพราะงั้นงานที่ฉันตั้งตารอคอยทุกวันมันก็หมดไปหนึ่งอย่างแล้วค่ะ”
“ตั้งตารอ…”
ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงตั้งตารอกับเรื่องแบบนี้แต่ถ้าเธอต้องการละก็
“วันนี้ฉันก็แค่บังเอิญตื่นเช้าน่ะ…เพราะงั้นวันอื่นๆฉันก็ขอรบกวนเธอด้วยนะ”
“เชื่อมือฉันได้เลยค่ะ”
วาคามิยะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆเหมือนเคยแต่มันก็แฝงไปด้วยความรู้สึกดีใจเล็กน้อย
“แล้วโทคิวากิซังกินข้าวรึยังคะ?”
“ยังเลย”
“งั้นถ้าไม่รังเกียจเรามากินด้วยกันมั้ยคะ?”
ถึงผมจะไม่เห็นหน้าเธอตรงๆก็เถอะแต่ถ้าจะให้พูดเรื่องแบบนี้โดยที่ไม่รู้สึกเขินอะไรเลยมันก็คงจะเป็นเรื่องยากเพราะงั้นในขณะที่ตอบออกไปผมก็เอานิ้วขึ้นมาเกาแก้มแก้เขิน
“อื้ม ได้สิ…”
“งั้นรออีกสัก 3 นาทีฉันก็จะไปถึงแล้วค่ะ”
“โอเค”
*****
หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จสรรพผมก็มองไปที่วาคามิยะที่กำลังล้างจานอยู่
โอ้ก็อดดูขาคู่นั้นของเธอสิมันช่างงดงามและบริสุทธิ์ซะเหลือเกิน
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักเรียน ม.ปลาย จะมีสัดส่วนที่ดีขนาดนี้ถ้าเธอบอกผมว่าเธอเป็นนางแบบผมก็เชื่อนะเนี่ย
“ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะคะ ตอนนี้พวกเราไปโรงเรียนกันเถอะค่ะ”
“อื้ม…แต่ถ้าเราเดินไปดูทรงแล้วคงจะไม่ทันแน่”
ตอนนี้ก็เป็นเวลา 7 โมงเช้าแล้ว
ถ้าหากเราเดินไปคงไม่ทันการแน่แล้วอีกอย่างผมก็ไม่อยากให้ผู้หญิงเดินไกลๆด้วย
“ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้ฉันเอาจักรยานมาด้วย”
“เอ๊ะ? งั้นเองเหรอเธอคงจะคำนวณเอาไว้แล้วสินะ”
เทพธิดากับจักรยานงั้นเหรอ
คิดภาพไม่ออกเลยแฮะแต่สภาพคงจะเหมือนกับนักเป่าปี่แห่งฮาเมลินละมั้ง (** ที่มันเป่าปี่แล้วทำให้หนูตามมาเป็นโขยงอ่ะ”
เอาเถอะคิดไปก็ไม่ได้อะไร
“ใช่ค่ะ เพราะเวลาที่คุณจะหนีไปจากฉัน ฉันจะได้ไล่ตามคุณทันไงคะ”
“ฉันไม่ทำหรอกเฟ้ย เธอมองฉันเป็นคนยังไงเนี่ย”
“คนที่ทำเป็นเมินฉันที่ลานจอดจักรยานถึงแม้ฉันจะพยายามเรียกแค่ไหนก็ตาม”
“…ขอโทษครับ”
วาคามิยะพูดออกมาอย่างไม่พอใจ พอผมได้ยินแบบนั้นผมก็กล่าวขอโทษออกมา…พูดตามตรงเลยนะถ้าเธอให้คุกเข่าขอโทษผมก็ทำ
“เพราะงั้นอย่าทำอีกนะคะ ถ้าไม่ฟังกันละก็….ฉันจะทำแบบเมื่อวานโดยไม่ฟังคำโต้แย้งใดๆจากคุณเลยค่ะ”
“อย่าเลยครับ จะทำอะไรก็ได้แต่ขอไม่เอาแบบนั้น…”
พอได้ยินคำขู่ของเธอผมก็ถึงกับไหล่ตกเลยถ้าขืนเธอทำจริงๆละก็ผมคงจะถูกพวกผู้ชายคลั่งไล่ฆ่าแน่ๆ…
“แต่ว่านะ..เกี่ยวกับจักรยานอ่ะ เธอจะไม่เป็นไรแน่เหรอ?”
“ทำไมเหรอคะ? ฉันขี่จักรยานได้ค่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น..”
“แล้วเรื่องไหนล่ะคะ?”
“ก็เธอเป็นผู้หญิง…เธอจะเอาไงกับกระโปรงละนั่น”
ผมพูดออกมาพลางหลบสายตาของวาคามิยะไปด้วยจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของเธอ
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ”
“งั้นเหรอ”
“ค่ะ ดูนี่สิคะ”
“ห๊ะ!?”
ทันทีที่พูดจบวาคามิยะก็ถกกระโปรงขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ลังเล
พอเห็นแบบนั้นผมก็รีบเอามือมาปิดหน้า
….แต่ถึงอย่างนั้นผมก็แอบมองจากช่องว่างของนิ้วตัวเอง
และสิ่งที่เห็นก็คือ—
“…กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินเข้ม…”
“ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ฮ่าๆๆ..”
สมกับเป็นท่านเทพธิดาจริงๆ เธอนั้นใส่กางเกงขาสั้นซ้อนเอาไว้ด้านในกระโปรง ขอบอกตามตรงเธอทำได้สมบูรณ์แบบสุดๆถ้าเธอไม่บอกคือมองไม่ออกเลยละ
ถึงจะโล่งใจก็เถอะแต่ก็ผิดหวังอยู่เหมือนกันสภาพของผมในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนที่พ่ายแพ้หมดรูป
ไม่น่าคาดหวังเลยเรา
MANGA DISCUSSION