[WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ - ตอนที่ 7 สาวออฟฟิศสายซึนเดเระหยุดไม่อยู่
- Home
- [WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ
- ตอนที่ 7 สาวออฟฟิศสายซึนเดเระหยุดไม่อยู่
ตั้งแต่ที่ชั้นไปบาร์ ‘Festa’ ก็ผ่านไปเดือนนึงแล้ว
วันนี้เป็นวันศุกร์
ชั้นดูเวลาผ่านนาฬิกาข้อมือเรือนใหม่ อีกแค่นิดเดียว แปปเดียวจะเลิกงานแล้ว ชั้นเก็บความตื่นเต้นในใจเอาไว้ไม่อยู่
จนเมื่อไม่นานมานี้ชั้นยังทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง เอาแต่จะกลับบ้านไปนอนพักผ่อนอยู่เลย
ชั้นดูเวลาอีกครั้ง
ทันทีที่เข็มยาวชี้ไปที่เลข 12
“ขอบคุณที่เหนื่อยนะคะ! ชั้นกลับล่ะ!”
ชั้นลุกขึ้นและเก็บข้าวของเตรียมออกจากที่ทำงาน
ตัวชั้นในตอนนี้น่ะ จะใครหน้าไหนก็งัดได้ทั้งนั้นแหละ ขณะที่ชั้นกำลังออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียงคุยกัน
“ช่วงนี้คุณโมจิซูกิรีบกลับจังนะ? โดยเฉพาะวันศุกร์”
“คงคบกับผู้ชายล่ะมั้ง?”
“เอ๊ะ? จริงเหรอ?”
เอ่อ…ที่พูดมันก็ถูกครึ่งนึงนะ
แต่ชั้นไม่สนหรอก มาซาโตะคุงกำลังรอชั้นอยู่
แค่ได้คิดแบบนั้นก็รู้สึกว่ามีแรงใช้ชีวิตขึ้นมา
วันหยุดสุดสัปดาห์กลายเป็นวันที่ชั้นใช้เวลาพัฒนาตัวเอง การงานไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ถ้านั่นทำให้ชั้นได้เงินเพื่อไปเจอหน้ามาซาโตะคุง
จริง ๆ ชั้นอยากหาเงินเพิ่มด้วยซ้ำ ขณะที่คิดและเตรียมไปที่นั่น ก็ถูกเรียกจากข้างหลัง
“เซระ!”
คนที่เรียกคือรุ่นพี่ชั้นเอง คุณมิกิ
คุณมิกิรีบวิ่งมาหาชั้น
พอเห็นว่าชั้นหยุดเดินแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็เดินมาหาชั้นเงียบ ๆ
เอ๊ะ? นี่ชั้นทำอะไรพลาดอีกแล้วเหรอ..?
จากนั้นคุณมิกิก็มายืนข้าง ๆ ชั้นแล้วคล้องแขน
“เธอน่ะจะไป ‘ปาร์ตี้’ ใช่มะ?”
“เอ่อ..”
คำว่า “ปาร์ตี้” ในที่นี้หมายถึงบาร์ “Festa”
มันเป็นโค้ดลับที่มีแค่เราเท่านั้นที่รู้ เจ้านายจะได้ไม่รู้ว่าเราจะไปที่บอยบาร์กัน
ซึ่งคุณมิกิก็พูดถูกเผงเลย
ใช่แล้ว ชั้นกะจะไปที่นั่น
ขณะที่กังวลว่าแผนของชั้นจะถูกเปิดเผย คุณมิกิก็กระซิบ
“พาชั้นไปด้วยสิ”
ชั้นอยากให้เขาพูดแบบนี้กับชั้นบ้างจัง (นี่จริงจังนะ)
ดูจากท่าทางของเธอตอนอยู่ที่บาร์ เธอเองก็คงชอบผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน แบบนี้การเงินจะไม่แย่เอาเหรอ
(แต่ก็นะ ชั้นเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน)
แค่คิดว่าจะได้เจอเขา ก็ทำให้ชั้นรู้สึกตื่นเต้นจนตัวลอยแล้วล่ะ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่ชั้นเจอเขา ชั้นก็ไปที่นั้นตลอดไม่พลาดสักครั้ง
ก็แหงล่ะ เขาคือเทวดาของชั้นนี่นา รอยยิ้มที่ไร้เดียงสา สีหน้าที่แสดงออกมา..จะแบบไหนก็เหมาะกับเขาทั้งนั้น คงไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกนี้ดีไปกว่าเขาแล้วล่ะ
ถึงแฟนเก่าชั้นจะทำตัวเป็น–ะก็เถอะ แต่ช่างมันแล้วกัน
หมอนั่นไม่ได้สักเสี้ยวนึงของเขาหรอก
ขณะที่เหม่อคิดอยู่นั่น ชั้นก็มายืนอยู่หน้าร้านแล้ว
คุณมิกิก้าวไปข้างหน้า ตาเป็นประกาย
“มาสิ! สู่โลกแห่งความฝัน!”
“ค-ค่ะ”
นี่ก็ครั้งที่ห้าแล้วที่ชั้นมาที่นี่ แต่ยังรู้สึกประหม่าอยู่เลย
ชั้นไม่ชินกับบรรยากาศของที่นี่ แต่พอเริ่มคุยกับเขาชั้นก็ลืมทุกอย่าง
“ยินดีต้อนรับครับ คุณผู้หญิง..อ๊ะ! มิกินี่นา! ยินดีต้อนรับกลับนะ!”
“ฟุฟุ..ไม่ต้องสุภาพหรอก ยูเซย์ เมื่อวานนี้ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า วันนี้ชั้นจะมาน่ะ”
อืม เอาอีกแล้ว
คุณมิกิเข้าใกล้เขาแบบแนบชิด
ยอมใจเธอเลย ชั้นไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก ชั้นกลัวว่าจะถูกเกลียด
ขณะที่ดูพวกเขาจีบกันอยู่นั้น ผู้ชายก็หันมาที่ชั้น
“คุณคือคนที่เลือกมาซาโตะสินะครับ?”
“…!”
ไม่นะ รู้ด้วยเหรอ…!
น่าอายชะมัด เพราะว่าชั้นเป็นคนที่เลือกแต่มาซาโตะคุงเหรอ…?
เอ๊ะ? แต่แบบนี้ก็ไม่แย่นะ ถือว่าชั้นเป็นลูกค้าประจำแล้วสิเนี่ย ใช่มั้ย?
หลังจากที่ชั้นตอบใช่ เขาก็ยิ้มออกมา
คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง คุณมิกิเลยหลงรักเขา
เอาเถอะ ใจชั้นตกเป็นของมาซาโตะคุงแล้วล่ะ
มีคนนำทางไปที่โซฟา ชั้นกับคุณมิกินั่งห่างกันนิดหน่อย
“คุณมิกิคะ เมื่อวานนี้คุณทำงานไม่ใช่เหรอ? นี่มาหลังเลิกงานเหรอคะ?”
“เอ๋? มะ-ไม่สิ เมื่อวานเป็นวันทำงาน ชั้นไม่ได้มาหรอกนะ”
“เอ๊ะ? แต่ว่า..”
คุณมิกิคุยกับผู้ชายคนนั้นว่า “เมื่อวานนี้ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า วันนี้ชั้นจะมา” แสดงว่าเมื่อวานนี้คุณมิกิแอบมาที่นี่ แต่ว่า..
“อะ-เอิ่ม เรื่องนี้น่ะเป็นเรื่องส่วนตัว…หรือเปล่านะ? หมดคำจะพูดเลยแหะ เอ่อ..ยังไงดีล่ะ? แต่เธอเป็นรุ่นน้องสุดที่รักเพราะงั้นน่าจะบอกได้..”
เดี๋ยวนะ นี่รุ่นพี่ชั้นน่าหงุดหงิดแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?
ก็อยากจะถามอยู่หรอก แต่พอเห็นเธอหยุกหยิกไปมาแบบนั้นรู้สึกหงุดหงิดแปลก ๆ แหะ แต่เธอช่วยชั้นไว้เยอะ ชั้นเกลียดเธอไม่ลงหรอก
คุณมิกิเอนตัวเข้ามาและกระซิบกับชั้นเบา ๆ
“จริง ๆ แล้ว ชั้นน่ะได้เบอร์ติดต่อเขาด้วยแหละ”
“…..!?”
บะ-เบอร์ติดต่อเหรอ..?!
จากนั้นคุณมิกิก็แลบลิ้นใส่ชั้น ปล่อยให้ชั้นอึ้งอยู่อย่างงั้น
ไม่แฟร์นี่นา
ไม่แฟร์เกินไปแล้ว
นี่มันเรื่องส่วนตัวชัด ๆ
ถึงเลิกงานแล้ว ก็ยังคุยกับคนที่ชอบได้
ชั้นก็อยากคุยกับมาซาโตะคุงเหมือนกันนะ…!
“สายัณห์สวัสดิ์ครับ กลับมาอีกแล้วสินะครับ”
ชั้นตัวแข็งทื่อ
เสียงนั่นที่ละลายหัวใจชั้น ไม่ผิดแน่
ชั้นค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นอย่างเคอะเขิน มาซาโตะคุงยืนอยู่ พร้อมรอยยิ้มราวกับเทวดา
…เอ๊ะ วันนี้ไม่ใส่เนกไทมาแหะ แต่ไม่เป็นไร…เดี๋ยวสิไม่ใช่แบบนั้น!
“ชะ-ชั้นว่างพอดีน่ะ”
จริง ๆ ไม่ได้ว่างหรอก แต่ชั้นต้องโกหก เพราะถึงเวลาเลิกงานชั้นก็รีบมาที่นี่ทันที แต่ถ้าเกิดชั้นพูดว่า “พอดีชั้นคิดถึงเธอตลอดทั้งวัน เลยรีบมาหาทันทีหลังเลิกงานน่ะ” มันฟังดูน่าขนลุกจะตาย ชั้นเลยพูดเหมือนกับว่าบังเอิญว่างพอดี
ตอนนั้นเอง..
“มาซาโตะคุ~ง! เซระน่ะหลงเธอหัวปักหัวปำแล้วนะ ดูแลเธอให้ดี ๆ ด้วยล่ะ ฮ่าๆๆๆ”
เดี๋ยวสิรุ่นพี่! พูดแบบนี้ก็แย่สิ!
“เดี๋ยวเหอะ! คุณมิกิ!”
คุณมิกิหน้าแดงหมดแล้ว
ชั้นต้องรีบแก้สถานการณ์..!
“อะแฮ่ม! เอิ่ม คือว่ารุ่นพี่ชวนให้มาน่ะ ชั้นไม่มีทางเลือกเลยต้องมาด้วย ก็เลยเลือกเธอไงล่ะ เข้าใจใช่มั้ย?”
ฟิ้ว คุณมิกิก็อยู่ตรงนี้เหตุผลพอฟังขึ้น แบบนี้คงพอได้
“อะฮะฮะ.. ขอบคุณนะครับ ทั้งที่ผมทำได้แค่นั่งฟังแท้ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ชอบฟังเรื่องที่คุณเล่านะครับ คุณเซระ”
“…!”
สมองชั้นเกือบละลายเพราะความน่ารักนี้
“ธะ-เธอพูดแบบนั้นกับทุกคนเลยสินะ?”
“เอ๊ะ? ไม่นะครับ มีแค่คุณที่เลือกผมนะ คุณเซระ?”
มีแค่ชั้น? งั้นเหรอ แค่ชั้นสินะ?
ถ้างั้นก็ดีเลย แต่ทำไมไม่มีใครเลือกมาซาโตะคุงล่ะ ไม่มีเซ้นเลยแหะพวกเธอเนี่ย
ไม่ว่าจะดูยังไง มาซาโตะคุงนี่แหละเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกแล้ว
แต่อีกใจนึง ชั้นก็ไม่อยากให้เขารู้ตัวว่าเขาวิเศษขนาดไหน ชั้นอยากจะครองรอยยิ้มนั่นไว้คนเดียว
เรายังไม่เดทกันเลยด้วยซ้ำ และชั้นก็เป็นแค่ลูกค้าที่มาบาร์นี้
…เอ๊ะ ทำไมพอคิดแบบนั้น ชั้นถึงอยากร้องไห้ล่ะ?
จากนั้นคำพูดของคุณมิกิก็ผุดขึ้นมา
[จริง ๆ แล้ว ชั้นน่ะได้เบอร์ติดต่อเขาด้วยแหละ]
ถะ-ถ้าเกิดชั้นได้เบอร์ติดต่อของมาซาโตะคุงเหมือนกันล่ะ..
ชั้นคงดีใจจนตัวลอยแน่ ๆ แต่กลับกันถ้าเขาปฏิเสธชั้น ชั้นคงไม่รอดถึงอาทิตย์ต่อไป
จากนั้นเวลาก็ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง
เหมือนกับทุกทีนั่นแหละ การคุยกับมาซาโตะทำให้ชั้นมีความสุขมาก ๆ
ช่วงนั้นบริกรจะเดินมาถาม 4 รอบ ว่าจะขยายเวลามั้ย ซึ่งชั้นก็ตกลงทุกครั้ง
เพราะว่าชั้นไม่สนใจคนอื่น ๆ นอกจากมาซาโตะคุงหรอก แต่ว่าเวลาความสุขนั่นอยู่ไม่นาน
“เซระ~~! กลับกันเถอะ~~!! จะจีบมาซาโตะคุงอีกนานแค่ไหนเนี่ย! ดูเวลาสิ!”
อ๊ะ?! จีบเหรอ?! ไม่ได้จีบกันสักหน่อย!!
แต่ชั้นก็อยากทำแบบนั้นนะ!!
“อะ-อ๊ะ?! ไม่ได้จีบกันสักหน่อย! ไม่ใช่แบบนั้นนะ! ยัยผอมกะหร่อง…ผอมกะหร่อง..”
แย่ล่ะ ชั้นนึกคำด่าอื่นไม่ออกเลยนอกจากคำว่า ‘ผอมกะหร่อง’ เธอเลยตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวน ๆ
“จ้า จ้า ชั้นผอมกะหร่อง ไว้มาใหม่นะ”
เขาจับมือชั้นด้วยล่ะ
ไม่นะ ชั้นรักเขา
แค่เขาจับมือก็ทำให้ใจชั้นเต้นรัวแล้ว แอลกอฮอล์ในร่างกายทำให้ชั้นรู้สึกร้อนไปหมด
ตอนนี้คุณมิกิจ่ายบิลที่เคาน์เตอร์ มาซาโตะคุงกำลังจับมือชั้นอยู่
โอกาสนี้แหละ
ชั้นแกล้งทำเป็นเมาแล้วค่อยเอนตัวหาเขา แบบนี้น่าจะได้ล่ะมั้ง?
ชั้นรวบรวมความกล้าแล้วเอนตัวเข้าหามาซาโตะคุง หัวใจเต้นระรัว ได้กลิ่นหอมหวานเข้ามาที่จมูก
ราวกับร่างกายของชั้นถูกย้อมด้วยทุกสิ่งที่เป็นเขา
“คุณเซระครับ?”
เขาเรียกชื่อชั้น
ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ชั้นไม่กล้าสบตากับเขา จะให้เขาเห็นหน้าสภาพแบบนี้ไม่ได้
ชั้นเลยก้มหน้าลง
“…ไม่ได้นะ”
“เอ๊ะ?”
“เธอจะให้คนอื่นนอกเหนือจากฉันเลือกเธอไม่ได้นะ”
ชั้นรู้ว่ามันฟังดูเห็นแก่ตัว
เขาทำงานที่นี่นะ ถ้ามีคนเลือกเขา เขาก็ต้องบริการให้สิ
แต่แค่ชั้นนึกภาพมาซาโตะคุงบริการลูกค้าคนอื่นก็ทำให้ชั้นปวดใจแล้ว
“สบายใจได้ ผมทำงานแค่วันศุกร์ครับ”
“อือ”
“ในวันศุกร์คนที่เลือกผมก็มีแค่คุณเซระคนเดียว”
“อือ”
ไม่ยุติธรรมนี่นา
ถ้าพูดกันแบบนั้น ชั้นก็มาทุกศุกร์น่ะสิ
เอาเถอะ ถึงเขาไม่พูดชั้นก็มาอยู่ดีนั้นแหละ
พอเราเดินออกจากร้านไปได้สักพัก คุณมิกิกับชั้นก็นั่งลงที่ม้านั่ง
วันนี้มาซาโตะคุงก็เหมือนเทวดา ไม่สิ..พระเจ้าเหมือนเคย
“นี่ เซระ! โมเม้นต์หวานแหววตอนที่ชั้นจ่ายตังค์นั่นมันอะไรน่ะ!!”
“อะ-อะ-เอ๊ะ?! ค-คุณ…คุณเห็นด้วยเหรอ?!”
“…ไม่ได้นะ กระซิก ๆ”
“อ๊าาาาาาาาา!!! ลืมไปเลยนะ!!! ลืมเดี๋ยวนี้เลย!!”
น่าอายเกินไปแล้ว!!!
ตอนที่ชั้นมาร้านนี่เป็นครั้งแรก ชั้นก็ล้อท่าทีคุณมิกิเหมือนกัน แต่แบบนี้คงชั้นล้อใครไม่ได้แล้ว
คุณมิกิหัวเราะออกมา
“ดีจริง ๆ นะว่ามั้ย? งั้นกลับกันดีกว่า? อะ แต่ชั้นเริ่มหิวแล้ว งั้นก่อนกลับหาอะไรกินมั้ย?”
“ได้ค่ะ”
ช่วงนี้รู้สึกว่าชีวิตมีความสุขขึ้นมานิดนึง แน่นอนว่าส่วนมากเป็นเพราะมาซาโตะคุงนั่นแหละ แต่ส่วนนึงก็มาจากรุ่นพี่ที่คอยเอาใจใส่ชั้น รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย
“ขอบคุณที่เหนื่อยนะ~! ไว้เจอกันวันจันทร์”
“ไว้เจอกันค่ะ!”
คุณมิกิกับชั้นกลับกันคนละทาง
เรากะจะกินข้าวด้วยกันก่อนกลับ แต่มันดึกมากแล้ว
แถมขึ้นวันใหม่แล้วด้วย
“ถ้างั้น…”
บ้านชั้นอยู่ห่างที่นี่ไปประมาณสองสถานี
ไม่ค่อยไกลมาก
ขณะที่ชั้นกำลังนึกคิด ถึงความรู้สึกของวันนี้ ชั้นก็มุ่งหน้าไปที่ชานชาลา
ในตอนนั้นเอง
“เอ๊ะ?”
ชั้นยืนอึ้งพูดไม่ออก
ที่ชั้นเห็นคือคนเมาเดินไปมา แล้วก็เด็กหนุ่ม
ชั้นจำไม่ผิดหรอก…เป็นมาซาโตะคุงแน่ ๆ
มาซาโตะคุงในชุดไปรเวท
จู่ ๆ ใจชั้นเต้นรัว
รถไฟเที่ยวสุดท้ายใกล้มาแล้ว ถ้าพลาดก็ต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้าน
แต่ถึงอย่างนั้น
เท้ากลับค่อย ๆ ขยับเดินตามไป
ชั้นแอบเดินตามเขามา
เอาไงดี? เอาไงดี? เอาไงดี?
รู้ตัวอีกทีก็ผ่านสวนสาธาณะใกล้ ๆ สถานีแล้ว ตอนนี้เข้าเขตที่อยู่อาศัยแล้ว
ชั้นกำลังจดจ้องมาซาโตะคุงอยู่
สิ่งที่ชั้นทำอยู่แทบจะผิดกฏหมายเลยก็ว่าได้
(แต่ช่วยไม่ได้…ช่วยไม่ได้นี่นา…!)
ชั้นรู้ว่ามันผิด
รู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้
หัวใจชั้นเต้นไม่หยุด แถมที่หัวก็รู้สึกร้อนราวกับถูกแผดเผา
มาซาโตะคุงเดินมาถึงที่อพาร์ทเม้นท์ห่างจากสวนสาธาณะนิดหน่อย
หรือว่า..นั่น..
“อ๊ะ!”
ขณะที่ชั้นพยายามมองเขาอยู่
เขาก็หันมามองรอบ ๆ
(ถูกเห็นแล้วเหรอ?)
ถ้ามาซาโตะคุงเดินมาทางนี้ แล้วแจ้งตำรวจ ฐานะทางสังคมชั้นได้จบเห่แน่
แก้ตัวไม่ได้แน่
นี่เป็นการแอบตามกันชัด ๆ
ชั้นห้ามใจที่สั่นไหว และค่อย ๆ ดูอีกรอบ เหมือนว่ามาซาโตะจะเข้าห้องไปแล้ว
“เฮ้อออ…!”
ชั้นล้มลงที่ตรงนั้น
ชั้นรู้ว่าตัวเองแย่ แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงขนาดนี้
ทั้งที่รู้สึกผิดแท้ ๆ แต่เท้ากลับเดินไม่หยุด
ชั้นค่อย ๆ เข้าไปในอพาร์ทเม้นท์..จนเดินไปถึงหน้าห้อง
(คาตะซาโตะ มาซาโตะงั้นเหรอ)
ชั้นหยิบมือถือออกมาด้วยมือที่สั่นเทา แล้วเข้าแอพเตือนความจำ
น้ำตาเริ่มไหลออกมา
ชั้นหยุดร้องไห้ไม่ได้ เพราะความ-่ำ-รามของตัวเอง
แต่ร่างกายของชั้นกลับพิมพ์ที่อยู่เรื่อย ๆ
(ชั้นไม่ได้จะเอาไปใช้อะไรสักหน่อย! ไม่ได้ส่งอะไรด้วย! ไม่เอาทำอะไรทั้งนั้นแหละ!)
แล้วชั้นจะจดทำไมล่ะ?
ชั้นไม่รู้!
นี่มันตั๋วไปห้องกรงเที่ยวเดียวชัด ๆ
ในตอนนั้นชั้นก็ได้ยินเสียงจากห้องของมาซาโตะคุง
เป็นเสียงอาบน้ำ
“ฮะฮะ..ฮะฮะ..ฮะฮะฮะ”
เป็นอีกครั้งที่ชั้นล้มลง
เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง
แล้วหลั่งน้ำตาออกมา
แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้
มาซาโตะคุง กำลังอาบน้ำอยู่หลังกำแพงนี่
พอรู้แบบนั้นมันกลับทำให้ชั้น..ตื่นเต้นจนหยุดไม่อยู่
ในที่สุดชั้นก็รู้ตัว
ชั้นเป็นพวกโรคจิตเกินเยียวยา
“นี่ มาซาโตะคุง ชั้นน่ะเกินเยียวยาแล้วล่ะ”
ชั้นห้ามความรู้สึกนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ
TLN : เป็นตอนที่ยาวม๊ากกก