[WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ - ตอนที่ 4 สาวมหาลัยแนวเพื่อนสมัยเด็กได้รับรู้
- Home
- [WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ
- ตอนที่ 4 สาวมหาลัยแนวเพื่อนสมัยเด็กได้รับรู้
มุมมองของโคมิ
รักข้างเดียว มันหมายความว่ายังไงนะ?
คือการที่เห็นใครสักคนเป็นครั้งแรก แล้วตกหลุมรักใบหน้า ออร่า หรือสไตล์ของพวกเขาหรือเปล่า?
ถ้านั่นคือนิยามของคำว่ารักข้างเดียว งั้นตอนนี้ชั้นยังไม่เคยเจอหรอก
—แต่มีครั้งหนึ่งที่ชั้นเจอคน ๆ นึงเป็นครั้งแรก พูดคุย ใช้เวลาด้วยกัน
และช่วงเวลาที่เราต้องบอกลากันในวันนั้น
ในตอนนั้นเองใจของชั้นเต้นไม่หยุด ชั้นถึงได้รับรู้ว่านี่คือความรัก และอาจจะเป็นรักข้างเดียว
ตั้งแต่ที่ชั้นเกิดมาจนถึงตอนนี้ก็เจอผู้ชายมากหน้าหลายตา แต่ชั้นไม่ตกหลุมรักพวกเขาหรอกนะ
อย่างผู้ชาย 3-4 คนในคลาสชั้น หรือผู้เล่นที่เป็นผู้ชายในเกมออนไลน์ที่ชั้นเล่นเป็นงานอดิเรก
แต่ว่ายิ่งชั้นรู้จักพวกเขามากเท่าไหร่ ชั้นก็ยิ่งเบื่อบรรยากาศรอบ ๆ ตัวพวกเขามากขึ้น ราวกับจะพูดว่า “ชั้นต่างหากล่ะที่เป็นฝ่ายเลือก” น่ะ
พวกเขาไม่คิดจะสนใจรูปลักษณ์ของตัวเอง ความสามารถไม่ได้โดดเด่น แถมนิสัยก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
ถึงอย่างนั้น พวกเขากลับส่งสายตาเหมือนจะพูดว่า “ชั้นคือฝ่ายเลือกนะ”
อย่างตอนที่พูดว่า “ชั้นจะยอมเดทกับเธอก็ได้นะ” ชั้นนี่เสียวสันหลังวาบเลย หรือตอนที่พูดว่า “ชั้นจะยอมเป็นเพื่อนกับเธอก็ได้” นี่ยิ่งทำให้ชั้นโกรธเข้าไปใหญ่
ชั้นไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาทนกับอะไรแบบนี้ด้วย
“เฮ้อ…”
หลังเรียนคาบแรกเสร็จที่มหาลัย
ชั้นอิการาชิ โคมิ นอนฟุบโต๊ะแล้วถอนหายใจออกมา
“เป็นอะไรน่ะ โคมิ? ถ้ายังถอนหายใจแบบนั้น เดี๋ยวเธอก็ไม่มีสมาธิเรียนถึงคาบห้าหรอก”
“คงงั้นมั้ง…”
เพื่อนของชั้น โทโนซากิ มิซูโฮะ จ้องมองที่ชั้น แต่ตอนนี้ชั้นยังไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ
“เธอน่ารักนะ โคมิ! ถ้าเอาแต่ถอนหายใจอยู่แบบนั้นจะไม่มีใครชอบเอานะ นี่ก็เพื่อชีวิตในมหาลัยของเรา มาพยายามด้วยกันเถอะ!!”
“เธอนี่ร่าเริงแต่เช้าเลยนะ มิซูโฮะ..”
“แหงล่ะ! การเริ่มต้นชีวิตในมหาลัยคือโอกาสของเรานะ! ต้องหาหนุ่มหล่อ ๆ สักคนให้ได้!”
เพื่อนของชั้นมิซูโฮะ คือพวกบ๊องล่ะ
เธอชอบผู้ชายหล่อ ๆ เมื่อไหร่ที่เจอจะขอเบอร์ติดต่อทันที ถึงส่วนใหญ่จะล้มเหลวก็เถอะ ในฐานะเพื่อนเธอก็นิสัยดีนะ แต่…
พอเห็นจำนวนคนในคลาสลดลงบ้างแล้ว ชั้นจึงยืนขึ้นและเตรียมเดินออกจากห้อง
และตอนที่ชั้นลุกขึ้น มิซูโฮะที่มองมือถืออยู่สักพักก็ทักขึ้นมา
“จะว่าไปนะ โคมิ เธอเล็งใครในชมรมแบดมินตันเหรอ?”
“เอ๊ะ?”
“มา ‘เอ๊ะ?’ อะไรล่ะ เธอไม่มีคนที่ชอบเลยเหรอ?”
มิซูโฮะกับชั้นอยู่ชมรมแบดมินตัน
ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะชั้นเองก็เข้าชมรมเพราะหวังว่าจะเจอผู้ชายดี ๆ เหมือนกัน
แต่ว่า
“ตอนนี้ยังไม่มีหรอก”
“เฮ๊ะ!? จริงเหรอ? แต่คุณเคย์โตะก็หล่อใช้ได้นะ ว่ามั้ย?”
“คงงั้นมั้ง”
“โคมิ ทั้งที่ตัวเองน่ารักแต่กลับไม่ค่อยรุกเลยแหะ ร่าเริงกว่านี้หน่อยสิ เดี๋ยวจะถูกทิ้งเอานะ”
ถูกทิ้งสินะ
ที่มิซูโฮะพูดมาก็ไม่ผิดหรอก
ดูจากจำนวนผู้ชายที่น้อยลง ถึงประเทศกำลังเสนอนโยบายให้ผู้ชายมีภรรยาได้หลายคนก็เถอะ แต่ชั้นว่าคนคงไม่ยอมเปลี่ยนคุณค่าของตัวเองง่าย ๆ หรอก
ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะต้องมีคนถูกทิ้งเอาไว้ อย่างชั้นไงล่ะ
[หญิงสาวที่ไม่พยายามให้ตัวเองถูกเลือก] งั้นเหรอ
เป็นอีกครั้งที่ชั้นถอนหายใจออกมา
“อึก”
ชั้นเดินไปยังห้องที่เรียนคาบสอง พอชั้นเดินเข้าอาคารก็มีข้อความแจ้งเตือนจากมหาลัยเด้งขึ้นมาในมือถือ
[คาบสองที่ห้อง 104 ถูกยกเลิกเนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้สอน]
กะทันหันแหะ
“ยกคลาสเหรอ ตอนนี้ใครมีคาบว่างบ้างนะ….”
มิซูโฮะที่อยู่กับชั้นตะกี้ไปคลาสอื่นแล้ว เพื่อนที่สนิทคนอื่น ๆ ก็ยังไม่มามหาลัยไม่ก็เรียนอยู่
กินข้าวเที่ยงตอนนี้ก็ยังเร็วไป หาอะไรฆ่าเวลาดีกว่า
“ฟิ้ว…หืมมม?”
แสงแดดข้างนอกสาดส่องเข้ามา ฤดูใบไม้ผลิอยู่แท้ ๆ แดดแรงขนาดนี้จะร้อนก็ไม่แปลกหรอก
โชคดีจริง ๆ ที่วันนี้ใส่ขาสั้นมา ขณะที่คิดอย่างนั้นฉันก็เอื้อมไปที่กระเป๋าเป้ หยิบหมวกแก๊ปสีดำใบโปรดออกมา
“ให้ตายสิ ชั้นต้องลงคลาสไหนบ้างเนี่ย..ชีวิตมหาลัยของชั้นจบสิ้นแล้วสินะ…”
อยู่ ๆ ชั้นก็เห็นผู้ชายนั่งที่ม้านั่งตรงโถงทางเดิน กำลังกุมหัวตัวเองขณะที่เปิดแล็ปท็อปอยู่ รู้ตัวอีกทีชั้นก็เดินเข้าไปหาเขาแล้ว
สุดท้ายก็ไปพูดกับเขา
“เอ่อ ลงทะเบียนรายวิชาเหรอคะ?”
“อ๊ะ?!…อา ใช่ครับพอดีผมเข้าเรียนช้ากว่าคนอื่นนิดหน่อย”
หัวใจของชั้นรู้สึกนุ่มฟู คน ๆ นี้ยิ้มให้ชั้น นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจแบบนี้?
เขาไม่ได้สูงมาก แต่น่าจะเกินค่าเฉลี่ยนิดหน่อย ผมสีดำถูกเซตไว้ เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ทับด้วยเสื้อแขนกุดสีข้าวให้ความรู้สึกสะอาดสะอาน
พร้อมด้วยรอยยิ้มของเขา ทำให้ใจชั้นเต้นรัวกว่าปกติ
“ถะ-ถ้าไม่ว่าอะไรให้ชั้นช่วยมั้ย?”
อ๊า! เผลอติดอ่างด้วย! เขาคงไม่มองว่าแปลกใช่มั้ยเนี่ย ชั้นหน้าซีดไปหมดแล้วนะ
อยู่ ๆ ก็โผล่มา ถามว่าให้ช่วยอะไรมั้ย? ถ้าคิดดูดี ๆ แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกตามจีบเลยนี่นา…?
“เอ๊ะ? ได้เหรอ? แต่คาบสองจะเริ่มแล้วนะ”
…ไม่หนีแหะ แบบนี้นับว่าตกลงสินะ?
ชั้นเลยพูดต่อด้วยอาการตื่นตระหนก
“อ๊ะ ไม่สิ! คือคาบสองถูกยกคลาสน่ะ ตอนนี้ชั้นเลยว่าง”
“จริงเหรอ?! ถ้างั้นก็ช่วยได้เยอะเลย! ขอบคุณนะ!”
ในตอนนั้นเอง
เขาก็เขยิบตัวเองไปนั่งข้าง ๆ
เอ๊ะ? ให้ชั้นนั่งข้าง ๆ ได้เหรอ?
เอ๊ะ???
“คือผมอยู่สาขานี้น่ะ”
เอ๊ะ? เขาก็พูดปกตินี่นา? เดี๋ยวนะนั่งได้จริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย? นี่ชั้นไม่ได้กำลังเข้าใจอะไรผิดใช่มั้ย??
ถ้าชั้นนั่งลง เขาคงไม่มองว่าแปลกใช่มั้ย?
“หืมม? เป็นอะไรเปล่า?”
“อะ-อ๋อ เปล่า! งั้นชั้นนั่งนะ อะฮะฮะ..”
รนไปหมดแล้ว นานแค่ไหนแล้วนะที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายขนาดนี้?
ชั้นสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นแล้วนั่งข้างเขา จากนั้นก็สังเกตอะไรบางอย่างบนหน้าจอ
“เอ๊ะ? เราอยู่สาขาเดียวกันนี่นา”
“เอ๊ะ?? จริงเหรอ? ถ้าได้คำแนะนำจากรุ่นพี่คงช่วยได้เยอะเลย!”
เอ๊ะ? ชั้นควรพูดเป็นกันเองกว่านี้เหรอ? แต่ถ้าชั้นพูดเป็นกันเองตั้งแต่แรกมันไม่ดูแย่ไปหน่อยเหรอ?
“เอ่อ ขอโทษนะ จริง ๆ แล้วชั้นก็อยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน”
จะถูกมองว่าอวดดีมั้ยเนี่ย ทั้งที่อยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน แต่ทำเป็นช่วยลงทะเบียน หรืออาจจะมองว่าชั้นพยายามเข้าหาเพราะมีเจตนาแอบแฝงหรือเปล่า…?
ไม่นะ หัวหมุนไปหมดแล้ว
“นะ-นี่”
เขาแสดงสีหน้าเรียบเฉย
อา จบแล้วสินะ
“ธะ-เธอก็อยู่ปีหนึ่งเหมือนกันงั้นเหรอ?! ชั้นไม่รู้จักใครในคลาสเลย! นี่น่ะช่วยได้เยอะเลย! ชั้นคาตะซาโตะ มาซาโตะ เธอล่ะ?”
เขาดูจะดีใจมาก ชั้นไม่รู้หรอกว่าเสแสร้งหรือเปล่า แต่อย่างน้อยในสายตาชั้นเขาดูดีใจมาก ๆ
ชั้นแอบหยิบต้นขาตัวเอง จะทำตัวน่าอายไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ชั้นฝืนใจที่กำลังเต้นรัว จากจุดนี้ไปชั้นต้องสร้างความประทับใจแรก!
“ชั้นอิการาชิ โคมิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”
ชั้นไม่ลืมที่จะยิ้มออกมา ต้องทำตัวเองให้ดูดีมากกว่าครั้งไหน ๆ
“คุณอิการาชิสินะ? โอเค! คือผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องลงคลาสไหนบ้างน่ะ”
ตัวเขา คาตะซาโตะ มาซาโตะ แสดงสีหน้าลำบากใจ พร้อมเลื่อนตารางให้ดู
ตอนนี้ตารางเขาว่างหมดเลย
(เดี๋ยวนะ โอกาสดีเลยไม่ใช่หรือไง?)
มาซาโตะกับชั้นอยู่สาขาเดียวกัน แถมลงวิชาเดียวกัน
ก็หมายความว่า ถ้าเราจัดตารางเรียนเหมือนกัน ก็จะได้เจอกันทุกวันเลยนี่นา…?
“คุณอิการาชิ?”
“อ๊ะ…!”
พอมองไปที่เขาชั้นก็อึ้งเพราะความใกล้ชิด ชั้นรู้สึกร้อนรุ่มที่อก แถมเหงื่อไหลได้สักพักแล้ว
แต่ชั้นต้องทนไว้ นี่ก็เพื่อชีวิตในมหาลัยอันสดใสของชั้น!
“เอ่อ ถ้าเธอไม่ว่าอะไร มาซาโตะคุง เธออยากจะลงคลาสเดียวกันกับชั้นมั้ย?”
เอ๊ะ? พูดแบบนี้ไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอ? ต้องเจอผู้หญิงคนเดิมทุก ๆ วัน แบบนี้ก็ไม่ต่างจากนรกเลยน่ะสิ?
แย่แล้ว ต้องรีบแก้ตัว..! พูดให้เห็นว่าชั้นไม่ได้มีเจตนาแฝง..!
“อะ-เอ่อ ก็แบบชั้นไม่ค่อยคุ้นชินกับคลาสอื่น แต่ถ้าเป็นคลาสที่ชั้นลงก็พอรู้บ้าง ก็อาจจะพอช่วยสอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้เธอได้ ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเธอนะ”
ประโยชน์ต่อเธอบ้านเธอสิ!?!
ชั้นโมโหคำพูดของตัวเอง
ชั้นค่อย ๆ ดูสีหน้าของอีกฝ่าย
“ระ-หรือว่าคุณอิการาชิ…”
อา จบแล้วล่ะ ครั้งนี้จบจริง ๆ แล้วสินะ
คงจะพูดว่า “กำลังเล็งผมอยู่เหรอ?” จากนั้นก็จบสิ้น ขอบคุณที่คู่กับชั้นนะ แต่มันจบแล้วล่ะ จบเห่เลย ถึงเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ชั้นก็มีความสุขนะ
“จะเป็นอัจฉริยะกันแน่?”
เอ๊ะ?
“ช่วยได้เยอะเลย แต่จะดีเหรอ? คุณไม่ได้อะไรเลยนะ คุณอิการาชิ?”
“มะ-ไม่ไม่ไม่! ชั้นได้สิ! ชั้นไม่ว่าอะไรหรอกนะ!”
ก็ชีวิตมหาลัยกับเธอไง!! แค่นั้นก็คุ้มเกินพอแล้ว เอ๊ะ? ชั้นกำลังพูดอะไรเนี่ย?
ถ้านี่เป็นโลกในมังงะตาชั้นคงหมุนเหมือนห้วงน้ำวน ชั้นไม่รู้แล้วว่าตัวเองกำลังพูดอะไร
“งะ-งั้นเหรอ? ถ้างั้น..เอ่อ ผมขอดูตารางเรียนได้มั้ยครับ?”
“ได้สิ!”
ชั้นรีบเปิดมือถือโชว์ตารางเรียนให้เขาดูทันที
“อืมม วันจันทร์คาบแรกวิชานี้ คาบสองวิชานี้ คาบสาม…”
เขารีบจัดตารางอย่างรวดเร็ว เป็นตารางเดียวกันกับชั้น
เอ๊ะ? นี่มันฝึกจับคู่ใช่มั้ยเนี่ย? เสื้อที่ใส่เข้ากันมั้ย? แย่แล้ว ชั้นจะเป็นบ้าจริง ๆ แล้ว..
“ขอบคุณนะ!”
“ไม่เป็นไร ดีใจที่ได้ช่วยนะ!”
ตอนนี้น่าจะผ่านไป 30 นาทีแล้ว แต่รู้สึกว่ามันผ่านไปแปปเดียวจริง ๆ
แต่การได้คุยกับเขา มาซาโตะ มันสนุกจริง ๆ จนชั้นตื่นเต้นพูดจาไม่รู้เรื่อง
“ถ้างั้นผมกลับล่ะ ผมยังไม่มีบัตรนักศึกษา เลยเข้าคลาสไม่ได้”
“งั้นเหรอ ถ้ามีบัตรแล้วไว้เจอกันที่คลาสนะ”
จริงสิ นับตั้งแต่วันนี้เราจะได้เจอหน้ากันตลอด แย่แล้วชั้นหยุดยิ้มไม่ได้ จากนั้นชั้นก็โบกมือบอกลาเขา
แต่เมื่อเขาหันหลังเดินออกไป ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาหันกลับมาทางชั้น
อะไรน่ะ? ลืมของเหรอ?
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“อ่า เอ่อ จะว่าไงดีล่ะคุณอิการาชิ เอิ่ม ผมมีเรื่องจะขอน่ะ…”
เขาลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง พลางเกาแก้มตัวเอง
คำขอเหรอ? ถ้าเป็นเรื่องที่ชั้นช่วยได้ ชั้นยินดีช่วยนะ!
ขณะที่คิดแบบนั้น เขาทำท่าทีรวบรวมความคิดและมองเข้ามาที่นัยตาของชั้น
และคำพูดต่อจากนั้นคือสิ่งที่ชั้นไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
“ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ช่วยเป็นเพื่อนกับผมได้มั้ย?”
คำพูดของผู้ชายที่เคยพูดกับชั้นในอดีตถาโถมเข้ามา
[เอาสิ จะยอมเป็นเพื่อนกับเธอก็ได้]
[เดี๋ยวชั้นเป็นเพื่อนเธอให้ละกัน]
[งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันปะ?]
[ชั้นคุยกันเธออยู่นะ ขอบคุณด้วยล่ะ]
ราวกับคำพูดเหล่านั้นมลายหายไป เหมือนกับทุกสิ่งในตัวชั้นถูกย้อมด้วยสี ๆ เดียว
เสียงที่อยู่รอบ ๆ ตัวก็ด้วย
ชั้นไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น
ชั้นละสายตาจากเขาไม่ได้
“ได้สิ”
ในที่สุดชั้นก็เค้นคำพูดออกมา
เขาตอบกลับด้วยการคลี่ยิ้มออกมา
“ดีล่ะ ขอบคุณนะ! ผมน่ะไม่มีเพื่อนเลย ถ้างั้นไว้เจอกัน! ผมตั้งตาใช้ชีวิตมหาลัย เพราะคุณอิการาชินะ!”
ชั้นดูเขาค่อย ๆ เดินจากไป
จนกระทั่งลับหายไปจากสายตา
จากนั้นชั้นก็ล้มลง เอามือกุมที่อกตัวเอง
แต่ชั้นไม่คิดจะกีดกั้นความรู้สึกนั้น
ชั้นเก็บความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาไม่อยู่
(บ้าน่า นั่นมันอะไรกัน? อย่างกับเจ้าชายเลย)
เขาตรงสเปคชั้นเลย
ไม่ว่าจะนิสัย รูปลักษณ์ ออร่า ทุกสิ่งอย่าง
ใจชั้นเต้นไม่หยุด
“ฮาาา..! ฮาาา..!”
ชั้นอยากได้เขา
ชั้นนึกภาพคนอื่นนอกจากเขาไม่ออกแล้ว
ชั้นอยากได้ทุกสิ่งที่เป็นเขา
“มาซาโตะ…คุง”
ในหัวชั้นพูดพร่ำชื่อของคนในโชคชะตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
TLN : อาการหนักนะเนี่ยสาว