[WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ - ตอนที่ 2 เด็กสาวมอต้นชมรมบาสบางครั้งก็แปลก ๆ
- Home
- [WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ
- ตอนที่ 2 เด็กสาวมอต้นชมรมบาสบางครั้งก็แปลก ๆ
หลังจากเลิกเรียนเสร็จ
วันนี้ผมมีเรียนแค่คาบสองกับคาบสาม เรียนเสร็จก็เพิ่งจะบ่ายสามกว่า ๆ
กว่าจะเข้ากะ ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ผมจึงตัดสินใจทำกิจวัตรประจำวันศุกร์และมุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะใกล้ ๆ หลังจากกลับบ้านได้สักพัก
ถึงเวลานี้จะเลยช่วงที่ร้อนที่สุดไปแล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังร้อนอยู่ดีนั่นแหละ
ผมหยิบผ้าขนหนูจากกระเป๋าเป้ เป็นผ้าสีดำมีขอบสีน้ำเงิน จากนั้นผมก็ใช้ผ้าเช็ดเหงื่อ
อีกนิดเดียวใกล้จะถึงแล้ว
“เอาล่ะ ถึงแล้ว”
ที่มุมสวนสาธารณะอันเขียวชอุ่ม อากาศที่สดชื่น มีห่วงบาสเกตบอลตั้งอยู่
“ข้อเสียของโลกนี้ คือเล่นกีฬาไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
ก่อนที่ผมจะถูกย้ายมาโลกนี้ ผมค่อนข้างชอบกีฬา สนุกกับการออกกำลังกาย และกีฬาที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือบาสเกตบอล และเบสบอล
เพราะงั้น ต่อให้อยู่ในโลกนี้ ก็มีบ้างที่ผมอยากจะเล่นกีฬานั้นเป็นครั้งคราว
“ศูนย์ชุมชนมีแต่ผู้หญิง ขืนเข้าไปเล่นจะชวนอึดอัดซะเปล่า และผมก็ไม่มั่นใจด้วยว่าคนอื่น ๆ จะมีสมาธิกับการเล่นกีฬามั้ย”
ผมเคยจะเข้าไปดูชมรมแบดมินตัน ชมรมที่โคมิอยู่ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง โคมิห้ามผมเอาไว้ เพราะเธอเป็นเพื่อนคนเดียวของผมในมหาลัย ผมจึงยอมทำตามแต่โดยดี
“เอาเถอะ ถ้าเป็นที่นี่คงพอเล่นได้ไม่ต้องกังวล อีกอย่างอย่างแถวนี้ไม่ค่อยมีคนด้วย”
ช่วงวันหยุด ที่นี่จะมีคนเยอะ แต่พอเป็นวันธรรรมดาก็แทบโล่ง ผมวางกระเป๋าเป้ที่ม้านั่ง หยิบลูกบาสออกมา เด้งใส่พื้นหลายครั้ง เช็คว่าสูบลมมาดีมั้ย
“เอาล่ะ”
ตอนอยู่บ้านผมตั้งใจสูบ คงไม่มีปัญหาอะไร
ขณะที่ผมเล็งไปที่ห่วงเตรียมจะทำแต้มแรกของวันนี้อยู่นั้น
“พะ-พี่ชาย!”
”หืม?”
ผมกำลังตั้งท่า “มือซ้ายใช้ประคอง มือขวาชูต” แต่ก็ต้องหันไปดูที่มาของเสียงน่ารักจากด้านหลัง
คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือเด็กสาวใส่ชุดบาสเกตบอล สองมือจับลูกบาสไว้ที่อก ยืนอย่างสง่างาม
เธอมีผมสั้นสีดำ ติดกิ๊บรูปดอกไม้สีฟ้าอันงดงามซึ่งช่วยเพิ่มความเงางามผมสีดำของเธอ
เสื้อสีดำเส้นขอบสีชมพูที่เธอใส่ช่วยเพิ่มความน่ารักและความเป็นหญิงผสานกันอย่างลงตัว แม้เธอจะสูงเพียงระดับอกของผม แต่เธอก็พยายามเต็มที่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอนั้นเหนือกว่าผมด้วยท่าทีที่น่ารัก
“วะ-วันนี้แหละ หนูจะชนะแน่ จากนั้นหนูจะยึดทีนี้!!”
“มาแล้วสินะ หนูน้อย”
“หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ! ยูกะน่ะ อยู่มอต้นแล้วนะ!”
ความสัมพันธ์ของผมกับแม่หนูคนนี้ มาเอดะ ยูกะ ก็ต้องย้อนกลับไปตอนที่ผมมายังโลกนี้ช่วงแรก ๆ
ตอนนั้นผมอยากเล่นบาสมาก เลยซื้อลูกบาสมาแล้วหาที่ที่พอจะเล่นได้ใกล้ ๆ บ้าน จนผมได้มาเจอที่นี่
ตั้งแต่นั้น ผมมักจะมาที่นี่ แต่เหมือนว่ายูกะมักจะเล่นบาสที่นี่ช่วงเย็นเป็นประจำนานแล้ว ทำให้เรามักจะเจอกันบ่อย
เดิมที ผมเป็นฝ่ายพูดอยู่ฝ่ายเดียวประมาณว่า “เธอจะใช้สนามต่อก็ได้นะ เดี๋ยวชั้นจะกลับแล้ว” แต่พอมาถึงจุด ๆ หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นมา “มาเล่นบาสด้วยกันมั้ยคะ?” ตั้งแต่นั้นเราก็สนิทกันมากขึ้น
และตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มันก็กลายเป็นการแข่งกันโดยที่ “ใครก็ตามที่ชนะจะได้สิทธิ์ใช้สนามนี้” ไปซะอย่างงั้น
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ที่นี่เป็นที่สาธารณะนะ
“วันนี้แหละ! หนูจะยึดที่นี่คืนแน่!”
แต่การได้คุยกับเธอก็ไม่ได้แย่อะไร
“ฮ่า ๆๆ เธอเคยชนะชั้นด้วยเหรอ หนูน้อย?”
“วันนี้น่ะ หนูมีไม้เด็ดล่ะ!”
ตอนเจอกันครั้งแรกเธอยังอยู่ปอหกเลย ตอนนี้เธออยู่มอหนึ่งแล้ว
ในฐานะนักศึกษาปีหนึ่ง ผมไม่มีวันแพ้หรอก
เพราะยังมีกำแพงที่เรียกว่า ‘ส่วนสูง’ อยู่ ยูกะเลยเอาชนะผมไม่ได้
แต่ว่า
(เธอเล่นบาสเก่งชะมัด)
ผมไม่รู้มาตรฐานของโลกนี้หรอก แต่ยูกะเล่นบาสเก่งจริง ๆ
ในโลกที่กีฬาอาชีพเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง คงเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้หญิงเล่นกีฬาเก่งขึ้น แต่ถึงจะตัดแนวคิดส่วนนั้นออกไป ยูกะก็ยังเก่งเกินไปอยู่ดีนั้นแหละ
ตอนนี้เธอพยายามใช้ข้อได้เปรียบจากส่วนสูงของตัวเองเพื่อเอาชนะผม แต่เมื่อไหร่ที่เธอโตและตัวสูงกว่านี้ ผมไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผมอาจจะแพ้ก็ได้นะ
“มะ-เหม่ออะไรของพี่น่ะ กฏ 1on1 นะโอเคมั้ย?”
ยูกะมักจะแสดงท่าทีดุดันไม่ก็เขินอาย น่าจะเป็นเพราะว่าเธอไม่รู้ว่าควรวางตัวต่อเพศตรงข้ามที่อายุมากกว่ายังไงล่ะมั้ง ก็ถือเป็นด้านน่ารักของเธอไปอีกแบบ
“โอเค แต่อย่าลืมวอร์มร่างกายนะ บาดเจ็บขึ้นมาจะแย่เอานะ รู้มั้ย?”
“ค่ะ แต่หนูวอร์มเสร็จแล้วล่ะ”
“เอ๊ะ? เธอเพิ่งมาถึงไม่ใช่เหรอ?”
ไปวอร์มที่ไหนมาล่ะเนี่ย?
“เอาล่ะ เข้ามาเลยค่ะ!”
เธอยื่นลูกบาสที่เธอพกมาด้วยให้ผม และตั้งท่าป้องกัน ให้ผมเป็นฝ่ายบุกก่อนสินะ
ขนาดลูกบาสถูกปรับให้พอเหมาะกับมือของยูกะ เพราะลูกบาสที่ผมพกมาด้วยมันใหญ่เกินไปสำหรับเด็กมอต้น
“กะทันหันจังนะ โอเค งั้นลุยล่ะนะ”
ผมรับลูกไว้และย่นระยะห่างกับยูกะด้วยท่าเลี้ยงบอล ลูกบาสเล็กกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ไม่มีผลต่อการจับลูกหรอกนะ
จากนั้นผมก็เคลื่อนไปทางซ้ายมือของยูกะ
“ไม่ให้ผ่านหรอกค่ะ!”
ทันทีที่ผมเคลื่อนไปทางนั้น ยูกะก็บล็อกทางข้างหน้าไว้ ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
“ไม่เป็นไร!”
“อ๊ะ!”
แต่ผมรู้ว่าเธอจะขยับตามผมแน่นอน เพราะผมเคยแข่งกับเธอหลายครั้งแล้ว
ผมเลยสับขาหลอกเคลื่อนไหวไปมา แล้วรีบหยุดอยู่กับที่ จากจุดนี้ผมตั้งท่าแล้วกระโดดชูต และคว้าคะแนนจากการชูตระยะกลาง
“เอาล่ะ ได้มาแล้วแต้มนึง เอ๊ะ? ยูกะ?”
ผมหยิบลูกบาสขึ้นมาหลังจากที่ลงห่วง และเตรียมส่งให้ยูกะ ตอนนั้นเอง ผมก็สังเกตเห็นเธอยืนแข็งทื่อ
มาคิดดูแล้ว ตอนที่ผมกระโดดชูต ผมคิดว่าเธอจะพยายามกระโดดตามเพื่อบล็อกเอาไว้ซะอีก แต่เธอกลับไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“เฮะ?”
เธอหน้าแดงนิด ๆ แหะ ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ย?
“นี่ หน้าแดงแล้วนะ จะเป็นลมเหรอ? พักก่อนมั้ย?”
“อะ-อ๊า!? ไม่ไม่! หนูสบายดี! รีบ ๆ ส่งบาสให้หนูได้แล้ว! หนูจะรีบตีเสมอเดี๋ยวนี้แหละ!”
พอพูดจบ ยูกะรีบกลับไปประจำที่ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?
ผมส่งบาสให้ยูกะ คราวนี้ถึงตาผมเป็นฝ่ายตั้งรับบ้าง
ถ้าผมประมาท ยูกะจะเคลื่อนผ่านผมไปได้ง่าย ๆ แน่ ผมจึงย่อตัวเตรียมบล็อกทางยูกะ
“ลุยล่ะนะ!”
ทันทีที่พูดจบยูกะก็รีบพุ่งมาที่ซ้ายมือผม
เธอมักจะบุกฝั่งนี้ เพราะเธอถนัดมือขวา
“ชั้นกะไว้แล้ว”
ผมบล็อกทางโดยไม่ลังเล ผมเห็นท่านี้จนชินแล้วล่ะ
อย่างไรก็ดี
ยูกะใช้ท่าครอสโอเวอร์สลับบอลที่เลี้ยงอยู่จากมือขวาเป็นมือซ้ายอย่างรวดเร็ว
(อืม ท่านั่นผมก็กะไว้แล้ว)
หนึ่งในเทคนิคที่ยูกะชอบใช้เวลาเธอผ่านผมไปไม่ได้ นั่นคือเทคนิคครอสโอเวอร์
เป็นเทคนิคที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียสมดุล ถ้าเพิ่งเห็นครั้งแรกคงทำอะไรไม่ถูก
แต่ผมเคยเห็นเทคนิคนี้มาก่อน
“สมแล้วที่เป็นพี่ชาย!”
แต่วันนี้ยูกะมีไพ่ในมือเพิ่มมาอีกใบ
“อ๊ะ?!”
หลังจากใช้ท่าครอสโอเวอร์ ยูกะก็หันหลังให้ผมแล้ว
(หมุนตัวเหรอ?)
เทคนิคที่หันหลังให้อีกฝ่าย และหมุนตัวเพื่อหลุดจากการประกบ คือเทคนิคที่เรียกว่า การหมุนตัว
ยูกะหลุดจากการประกบได้สำเร็จ—มันควรจะเป็นแบบนั้น
“อ๊ะ..!”
คงเพราะเธอวอร์มร่างกายไม่พอ
พอยูกะหมุนตัวเสร็จเธอก็สะดุดเท้าตัวเอง ทำให้เสียสมดุลและกำลังล้ม
“คว้าได้แล้ว!”
ผมเองก็ตอบสนองไวเหมือนกันนะเนี่ย
ผมรีบวิ่งไปด้านข้างเพื่อรองรับเธอตอนกำลังจะล้ม จากนั้นก็ใช้ตัวเองเป็นเบาะรองรับแรงกระแทกตอนที่ล้ม
ทุกอย่างเบลอไปหมด ผมจึงหลับตาลง
เพราะสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่หลัง ทำให้ผมแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวออกมา แต่มันก็เจ็บแค่แปปเดียว
“เป็นไรมั้ย ยูกะ?”
“…”
มีเพียงเสียงบาสที่กำลังเด้งออกไป
“ยูกะ..?”
ท่านี้มันแย่แล้วนะ ยูกะกำลังขึ้นคร่อมผม
แต่กลิ่นหอมจัง
เอ๊ะ! ไม่สิ นี่มันแย่ชัด ๆ แบบนี้ผมก็ไม่ต่างอะไรจากพวกโลลิค่อนน่ะสิ!!
“อะ..!”
“อะ?”
ถึงเธอจะไม่ได้หนักก็เถอะ แต่ผมต้องรีบขยับเธอแล้วไม่งั้น
“อะหวาหวาหวาหวา”
“นี่ เป็นอะไรมั้ย?!”
ยูกะหน้าแดงแจ๋ สภาพไม่ต่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าลัดวงจร แต่เธอยังนั่งทับผมอยู่เลย
“อะไรกันเนี่ย…”
เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ผมตัดสินใจอุ้มยูกะไปที่ม้านั่งในที่ร่ม
ผมวางเธอลง จากนั้นก็พับผ้าขนหนูใช้เป็นหมอนให้เธอหนุน
พอมองดี ๆ รูปลักษณ์ของเธอถือว่างดงามมาก ขนตาที่โค้งยาว ผิวพรรณเรียบเนียนและเปล่งประกาย
ตอนนี้เธอยังเด็กอยู่ก็จริง แต่ในอนาคตเธอจะเป็นสาวสวยแน่นอน
(แล้วทำไมผมต้องวิเคราะห์ด้วยเนี่ย?)
ผมยังไม่รู้จักเธอดีพอซะหน่อย
เธอน่ะถึงวัยที่มีแฟนได้แล้วนะ เด็กสมัยนี้โตไวจะตาย
“…ชูตต่ออีกหน่อยดีกว่า”
หลังจากที่ผมพัดให้เธอด้วยสมุดที่พกติดกระเป๋าเป้มาได้สักพัก พอเห็นว่าหน้าเธอค่อย ๆ หายแดงแล้ว ผมจึงตัดสินใจฝึกชูตบาสต่อ