[WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ - ตอนที่ 13 สาวมหาลัยแนวเพื่อนสมัยเด็กรู้สึกกังวล
- Home
- [WN]ในโลกที่ค่านิยมทางเพศสลับกัน อัตราส่วนชายหญิงคือ 1:5 ผมหวังว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ
- ตอนที่ 13 สาวมหาลัยแนวเพื่อนสมัยเด็กรู้สึกกังวล
พอพักเที่ยงที่โรงอาหารมหาลัยก็เต็มไปด้วยผู้คน
เหตุผลหลัก ๆ ก็คือที่นั่งในโรงอาหารมีจำนวนน้อยกว่านักศึกษา เพราะแบบนั้นบางคนเลยออกไปกินข้าวนอกมหาลัยแทน
แต่ที่พากันมากินข้าวในโรงอาหารแบบนี้ เพราะกับข้าวมันถูก รสชาติไม่ได้แย่ด้วย
“โคอุมิ~! เย้เย้เย้~!”
การมีเพื่อนจองที่นั่งให้นับว่าช่วยได้เยอะ
ชั้นค่อย ๆ เดินไปหามิซูโฮะที่โบกมือให้อย่างร่าเริง ขณะที่ถือถาดข้าว
“ขอบคุณนะ มิซูโฮะ! ร่าเริงตลอดเลยนะ”
“ฟุฟุ นั่นสินะ กินกันเถอะ~”
“เดี๋ยวนะ มิซูโฮะ กินคัตสึด้งตอนเที่ยงเนี่ยนะ? ไม่หนักท้องไปหน่อยเหรอ?”
ในบรรดาผองเพื่อนของชั้น มิซูโฮะเป็นคนร่าเริงมากที่สุด
เธอร่าเริง ขี้เล่นตั้งแต่มอปลายแล้ว และนิสัยร่าเริงนั่นก็ช่วยชั้นไว้หลายครั้งเลย
เธอพยายามจีบผู้ชายอยู่หลายครั้ง แต่มักจะล้มเหลวทุกครั้ง ทั้ง ๆ ที่น่ารักขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีแฟนกันนะ?
ผมทวินเทลที่เป็นเอกลักษณ์ และนัยตาสีฟ้า ผอมเพรียวและตัวเล็กกว่าชั้น ดูยังไงก็น่ารักชัด ๆ
เธอใส่เสื้อเชิ้ตทับด้วยเสื้อกันหนาวยีนส์ กางเกงขาสั้นสีดำโชว์สรีระที่ผอมเพรียวของเธอ พร้อมด้วยขาที่เรียวงาม
รอยยิ้มที่เป็นมิตรซึ่งบางครั้งก็ทำให้ชั้นรู้สึกนุ่มฟู แม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน
“ฟุฟุ วันนี้น่ะเป็นสำคัญสุด ๆ ชั้นเลยกินคัตสึด้ง เพื่อเป็นลางว่าชั้นจะชนะไงล่ะ!”
(เพิ่มเติม : คัตสึด้ง มีคำว่า カツ ซึ่งอ่านออกเสียงเหมือนกับคำว่า 勝つ (Katsu) ที่มีความหมายว่า ชัยชนะ ครับ)
“ชนะ? เรื่องอะไรเหรอ?”
“ความรักไงล่ะ!!”
ทั้งที่เธอกำลังมีความรัก แต่ชั้นกลับไม่รู้สึกว่าเธอกำลังตกหลุมรักใครเลย… แบบนี้นับว่าแย่มั้ยนะ?
ชั้นยิ้มแหย ๆ ออกมา
“เธอจะไปสารภาพรักเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ!! ชั้นว่าครั้งนี้โอกาสค่อนข้างสูงเลย! ช่วงนี้เราก็คุยกันบ่อยด้วย!”
“เดี๋ยวนะ ใช่คุณเคย์โตะจากชมรมแบดปะ?”
“ถูกเผง! ช่วงเข้าชมรมเราก็สบตากันบ่อยด้วย ไม่ผิดแน่!”
“มันจะง่ายขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?”
พูดยังกะพวกแฟน ๆ ที่นั่งแถวหน้าในคอนเสิร์ตไอดอลเลย
“อ๊ะ! โคอุมิ เธอกำลังเยาะเย้ยชั้นเพราะว่าช่วงนี้กำลังไปได้สวยสินะ?!”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“อ๊ะ! แอบยิ้มด้วย! ไม่แฟร์นี่นา ไม่แฟร์สุด ๆ !”
รู้สึกแย่แทนเลยแหะ แต่ก็ตามที่เธอพูดนั้นแหละชั้นกับมาซาโตะเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เมื่อวันก่อนเราไปเดทกันด้วยนะ
ก็ตกใจอยู่หรอกตอนที่รู้ว่าเขารับงานเป็นติวเตอร์น่ะ แต่เขาบอกว่าไม่เคยไปหาเธอนอกเวลาติวเลย คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง…
ขณะที่ชั้นเหม่อคิดอยู่นั้น ก็มีมือแตะที่ไหล่
“รอก่อนเถอะ… ถ้าครั้งนี้สำเร็จ มาเดทคู่ด้วยกันนะ!”
“หยุดเลยนะ… ประโยคเดธแฟลกชัด ๆ”
ให้ตายสิ นิสัยไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนอยู่มอปลายเลย เป็นคนร่าเริง เป็นศูนย์กลางของห้อง คอยทำให้คนรอบข้างรู้สึกดีตาม เพราะแบบนี้แหละชั้นเลยอยากให้เธอมีความสุขบ้าง หลังจากที่กินคัตสึด้งเสร็จ มิซูโฮะก็พนมมือขึ้น
“ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ… เอาล่ะ! ชั้นจะไปที่ชมรมละ รอฟังข่าวดีได้เลย!”
“อ๊ะ? ตอนนี้เลยเนี่ยนะ?!”
“เหล็กน่ะต้องรีบตีตอนที่ยังร้อน! โชคชะตาไม่เคยคอยใครหรอกนะ แม่สาวน้อย…”
เธอส่ายนิ้วชี้ไปมาพร้อมท่าทีที่น่ารัก และลุกขึ้นจากที่นั่ง
จากนั้นเธอก็เดินออกไปด้วยความตื่นเต้น
“หวังว่าจะไปได้สวยนะ…”
ชั้นกินพาสต้าพลางนึกคิด
คุณเคย์โตะเป็นรุ่นพี่ในชมรมแบด เขาก็ดูเป็นคนดีนะ แต่ชั้นรู้สึกไม่ชอบมาพากลยังไงไม่รู้
เหมือนจะเดทกับพวกรุ่นพี่ผู้หญิงอย่างเดียวนะ
ชั้นมองนาฬิกาข้อมือ กว่าจะเริ่มคาบสามยังพอเหลือเวลาอยู่
“งั้นแวะไปตึกชมรมแล้วกัน”
ก็อยากจะจองที่นั่งให้มาซาโตะอยู่หรอก แต่ชั้นก็อยากเห็นมิซูโฮะสารภาพเหมือนกัน
ถ้าสำเร็จก็ดีไป ชั้นจะได้ยินดีกับเธอด้วย
พอกินข้าวเสร็จ ชั้นเลยส่งข้อความหามาซาโตะ และเดินไปที่ตึกชมรม
โอเค ถึงแล้ว
ปกติพอหลังคาบสามจะมีคนอยู่เยอะ แต่ตอนนี้ยังโล่งอยู่
ตึกชมรมอยู่ใกล้อาคารบรรยายรวม คนที่มีคาบว่างส่วนใหญ่เลยมากันที่นี่
“…ไม่อยู่นี่แหะ”
ชั้นเดินไปดูที่ห้องชมรมแบดก่อน แต่มิซูโฮะไม่ได้อยู่ที่นี่ คงสารภาพรักเสร็จแล้ว ไม่ก็โดนปฏิเสธไปแล้วล่ะมั้ง
“ไปเรียนคาบสามเลยดีมั้ยเนี่ย”
มิซูโฮะไม่พิมพ์อะไรตอบกลับมาเลย ถ้าสำเร็จจริงเธอคงตอบกลับนานแล้ว
“ฮะ? นี่เธอสารภาพรักกับชั้นเหรอ ฮ่า ๆ”
ชั้นได้ยินเสียงคุย
เพราะสังหรณ์ใจไม่ดี ชั้นเลยเดินไปดูที่มาของเสียง
(…!)
แล้วซ่อนตรงมุมทางเดิน
ตรงสุดทางเดินของตึกชมรม ที่หน้าบันไดหนีไฟ มีคน 2 คนยืนอยู่ ชั้นไม่รู้หรอกว่าใคร
แต่ชั้นจำผมทวินเทลนั่นได้
(…มิซูโฮะแน่ ๆ)
จำไม่ผิดหรอก นั่นน่ะเพื่อนสนิทชั้นแน่ ๆ
“ช่วยออกเดทกับชั้นด้วยค่ะ หาา? จริงจังปะเนี่ย? ฮ่า ๆ ซัตสึกิบอกให้ชั้นลองคุยกับเธอดู ชั้นเห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยทำตาม ฮ่า ๆ แล้วเธอก็เข้าใจผิดจริง ๆ ดิ? น่าหยะแหยงชะมัด”
“…ขอโทษค่ะ”
…ฮะ?
อุณหภูมิในตัวชั้นลดต่ำลง
“อืม เอาเถอะอย่าทำอีกล่ะ เคมั้ย? ฮ่า ๆ ให้ตายดิ น่าขนลุกไม่พอ เสียเวลาอีก ถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูดกับผู้หญิงคนอื่น ชั้นไม่ยกโทษให้แน่ รู้ฐานะตัวเองซะบ้างนะ โอเค๊? ไปละ”
ยกโทษให้ไม่ได้
ยกโทษให้ไม่ได้ยกโทษให้ไม่ได้ยกโทษให้ไม่ได้ยกโทษให้ไม่ได้ยกโทษให้ไม่ได้
ยกโทษให้ไม่ได้ไอ้ข-ะนั่น ทำร้ายความรู้สึกของมิซูโฮะ
…แ-่งเอ้ย น่าจะอัดคลิปไว้เอาไปประจานแ-่ง เอาให้แ-่งอายไปเลย
“เธอแอบฟังด้วยเหรอ?”
“…!… มิซูโฮะ… ขอโทษนะ”
รู้ตัวอีกทีมิซูโฮะก็อยู่ตรงหน้าแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก! เธอมาหาเพราะเป็นห่วงใช่มั้ยล่ะ? ท่านโคอุมิมาหาแบบนี้ ข้าน้อยรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลเลยขอรับ~!”
“มิซูโฮะ…”
เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว แต่ถึงจะสนิทกันไม่นาน ก็ถือว่าสนิทกันอยู่ดี ใคร ๆ ก็ดูออก เพราะแบบนั้นชั้นเลยรู้ว่า
มิซูโฮะในตอนนี้น่ะ กำลังฝืนยิ้มอยู่
“อา~! คิดว่าจะมีโอกาสซะอีก แต่แหม โดนคิลซะงั้น ตอนนี้ HP เหลือ 0 เลยอะ~ อะเฮือก!”
เธอเลียนเสียงถูกดาบฟัน แล้วแลบลิ้นออกมา
“ไม่ราบรื่นเลยเนอะ ท่านโคอุมิ! งั้นเดทคู่คงต้องเลื่อนไปก่อนนะขอรับ☆”
“อืม..มิซูโฮะ เธอต้องหาคนที่ดีกว่ามันได้แน่นอน”
ชั้นเข้าใจ ว่าคำพูดที่ว่างเปล่าแบบนี้เยียวยาหัวใจเธอไม่ได้หรอก
มันแทบไม่มีค่าอะไรเลย
มิซูโฮะเองก็คงเข้าใจ
“อุโว้ววว! ชักเริ่มมีไฟแล้วสิ!! ชั้นจะทำให้เต็มที! เพราะงั้นโคอุมิ เธอเองก็รักษาเขาไว้ให้ดีล่ะ เคมั้ย?”
“อืม…”
ทำไมจู่ ๆ ชั้นอยากร้องไห้กันล่ะ?
ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย? เธอที่ทั้งน่ารัก และจริงจัง แถมใจดีกับทุกคนแบบนั้น…
“นี่ คาบสามเรียนกับเขาไม่ใช่เหรอ? รีบ ๆ ไปสิ”
“มิซูโฮะ แต่ว่า…”
“ชั้นขอสูดอากาศสักพักนะ! อย่าปล่อยให้เขารอสิ! รีบ ๆ ไปเร็ว”
“มิซูโฮะ…”
มิซูโฮะโบกมือให้ชั้นช้า ๆ มีคำพูดมากมายที่ชั้นอยากจะพูดออกมา แต่ต้องฝืนกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป ตอนนี้ถึงพูดไปก็มีแต่จะแย่ลง
ตอนนี้ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวแล้วกัน ชั้นเดินไปที่อาคารเรียนโดยไม่หันมามองมิซูโฮะ
เสียงออดดังขึ้น ชั้นถึงห้องเรียนพอดี
(เกือบไปแล้ว!)
หลังรูดบัตรนักศึกษาแล้ว ชั้นมองรอบ ๆ ห้อง
มองที่แถวหลัง มีเด็กหนุ่มโบกมือให้ชั้นอยู่
(อ๊ะ อยู่นี่เอง)
หัวใจชั้นเริ่มเต้นรัว… แต่ก็นึกถึงเหตุการณ์สารภาพรักขึ้นมา ทำให้ชั้นรู้สึกปวดใจขึ้นมา
ชั้นไม่ยกโทษให้มันหรอก
“ขอบคุณที่จองที่นั่งให้นะ”
“ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันไม่ใช่เหรอ? เธอเองก็เคยช่วยชั้นตั้งหลายครั้ง”
อา~ เท่ชะมัด น่ารักด้วย
คนที่ข้อดีทั้งหมดบนโลกรวมเอาไว้ในตัว พระเจ้าชัด ๆ
เพราะแบบนั้นแหละแค่นึกถึงไอ้ข-ะนั่น ก็ทำท้องชั้นปั่นป่วนไปหมด ความมืดในใจเริ่มก่อตัวอีกครั้ง
สำหรับมิซูโฮะแล้ว….กล้าดียังไงกัน…ยกโทษให้ไม่ได้
“…เป็นอะไรมั้ย? สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย”
“คือว่า…”
คงเห็นว่าสีหน้าชั้นเปลี่ยนไปเลยถามด้วยความเป็นห่วง มาซาโตะเป็นคนดีจัง
ชั้นเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ว่าชั้นมีเพื่อนสนิท และเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ
เล่าว่าชั้นเกลียดรุ่นพี่คนนั้นมากแค่ไหน พยายามลดเสียงแถบแย่แน่ะ
“โห… แย่ชะมัด”
“…ใช่”
นิสัยของมันเกินกว่าคำว่าแย่แล้ว จริงอยู่ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบเบ่ง วางมาด แต่นี่แย่กว่านั้นเยอะ
คนอย่างมันน่ะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย
เขาเองก็ทำหน้าบึ้งจนเห็นได้ชัด
“ชั้นไม่ยกโทษให้มันหรอก ชั้นอยากเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พวกรุ่นพี่ฟัง แต่คงคิดน้อยไปหน่อย”
“มิซูโฮะเป็นคนใจดี เธอคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นแน่ ๆ แต่พูดตรง ๆ นะ ชั้นอยากจะด่าต่อหน้ามันจริง ๆ”
รุ่นพี่คนนั้นมีผู้หญิงชอบเยอะ แถมไม่มีใครรู้ธาตุแท้ของมันด้วย
เพราะงั้นถึงด่าไป ก็ไม่มีใครเข้าข้างชั้นอยู่ดี พอรู้แบบนั้นเลยยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม
“ไม่รู้สิ ชั้นไม่ชอบนิสัยหมอนั่นก็จริง แต่ว่าตอนนี้น่ะ”
มาซาโตะทำท่าคิดสักพักจากนั้นก็ยิ้ม และหันมาที่ชั้น
“เรากำลังมีความสุขกว่าหมอนั่น ใช่มั้ยล่ะ? ก็นับว่าเป็นการเอาคืนที่ดีที่สุดแล้ว หาคนที่ดีกว่าหมอนั่น แสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความสุขแค่ไหน… แบบนี้คงเป็นการเอาคืนที่ดีที่สุดแล้วล่ะ”
…ให้ตายสิ คนที่ชั้นชอบ ดีงามยันจิตใจเลย
“อืม..นั่นสินะ ชั้นเองก็อยากให้มิซูโฮะมีความสุข”
นี่น่ะคือความรู้สึกจากใจจริงของชั้นเลย
เรียนคาบห้าเสร็จก็เลิกเรียน
วันนี้วันพุธ ชั้นหวังว่าจะได้เดทกับมาซาโตะอีก ก็คิดไว้แบบนั้น…
“ขอโทษนะ! มีธุระด่วนเลยต้องรีบกลับ โทษทีนะ!!”
ชั้นหยุดไว้ไม่ได้ เพราะเขารีบวิ่งออกจากมหาลัยเลย
ใครโทรมาน่ะ?! พอถามแบบนั้น เขาบอกแค่ว่า “คนที่เหมือนพ่อแม่” แต่เอาเถอะพรุ่งนี้ก็เจอกันอีก
พอเขาออกไปแล้ว ชั้นเลยเปิดหน้าจอ
ตั้งแต่ตอนนั้นมิซูโฮะไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมาเลย
พยายามโทรหาแล้ว แต่โทรไม่ติด
“…เป็นห่วงจัง…”
ถึงเธอจะโดนปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วก็เถอะ แต่ครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งก่อน ๆ
บางทีมิซูโฮะอาจจะแค่ชอบแนวคิดตกหลุมรักเฉย ๆ แต่เธอไม่ได้ตกหลุมรักจริง ๆ ชั้นมักจะคิดแบบนี้ตลอดตอนที่มองเธอ
ชั้นก็ได้แต่หวังว่าสักวัน เธอจะเจอกับคนที่เธอชอบจากใจจริงนะ
สำหรับชั้นคงเป็นคนอย่างมาซาโตะ
“พรุ่งนี้เลี้ยงพาเฟ่ต์สักหน่อยละกัน”
มิซูโฮะชอบของหวานนี่นะ ชั้นคิดแบบนั้นขณะกลับบ้าน
TLN : ผมขอแก้ชื่อโคมิ เป็น “โคอุมิ” แทนนะครับ ผมแปลผิด แน่นอนว่าผมจะแก้ตอนก่อน ๆ ด้วย แง้ ๆๆ สงสารน้อนอะ ;(