[WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 41 ลูน่า ความเข้าใจผิด และความรู้สึกว้าวุ่น
- Home
- [WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 41 ลูน่า ความเข้าใจผิด และความรู้สึกว้าวุ่น
ตอนที่ 41 ลูน่า ความเข้าใจผิด และความรู้สึกว้าวุ่น
“เอ่อ… คุณคิดว่าฉันเป็นคนรับใช้สารพัดประโยชน์หรือเปล่าคะ? ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่พบกัน คุณจะมาปรึกษาอะไรสักอย่างกับฉันตลอดเลย”
“มะ ไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย…”
ในช่วงพักกลางวันวันถัดมา ฉันที่นั่งอยู่ในพื้นที่อ่านหนังสือของห้องสมุดเผลอสบตาเข้ากับสายตาจิกกัดของลูน่าที่ส่งมาอย่างตรงๆ
“ถ้าไม่คิดอย่างนั้น แล้วทำไมถึงต้องมาขอคำปรึกษาจากฉันบ่อยขนาดนี้คะ?”
“เอ่อ… ต้องพูดด้วยเหรอ? ถ้าบอกเหตุผลไปเดี๋ยวจะอาย เพราะมันค่อนข้างน่าอายสำหรับคนที่เป็นรุ่นพี่”
“คุณเก่งเรื่องบ่ายเบี่ยงนี่นะ ถ้าคุณไม่พูด ฉันจะถือว่าเป็นการปัดความจริง”
ลูน่าหยิบหนังสือขึ้นมาทันที ราวกับจะส่งสัญญาณว่า “ถ้าคุณมองฉันเป็นแค่คนรับใช้ ฉันจะอ่านหนังสือดีกว่า” การกระทำนั้นทำให้ฉันไม่มีทางหนีอีกต่อไป
หลังกลืนความอาย ฉันเริ่มอธิบายเหตุผลอย่างจริงจัง
“…ไม่ใช่ว่าฉันปัดความจริงนะ ลูน่าเป็นคนที่รู้รอบด้านที่สุด มีความคิดเห็นชัดเจน และเชื่อถือได้ ฉันเลยอยากปรึกษาเธอ”
“อืม… อย่างนั้นเหรอ…”
“ใช่”
“ถ้าคุณคิดอย่างนั้น… ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
ลูน่าหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างและตอบกลับอย่างเย็นชา แต่มือที่วางอยู่บนหนังสือกลับขยับเล็กน้อย เธอเองก็คงรู้สึกเขินเช่นกัน
“…ว่าแต่ ที่คุณจะปรึกษา คือเรื่องของสาวใช้ของคุณใช่ไหม”
“ใช่ แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องตัวอักษรที่ฉันอ่านไม่ออก เธอช่วยถอดความให้ฉันหน่อยได้ไหม”
ลูน่าพยักหน้าตอบรับอย่างเงียบๆ ก่อนจะบอกให้ฉันเริ่มพูดถึงเรื่องสำคัญ
“โอเค งั้นเริ่มจากเรื่องของเซียก่อนนะ ฉันอยากช่วยแก้ความเกรงใจที่เธอมีให้ลดลงหน่อย”
“อธิบายต่อไปสิ”
“เมื่อวาน ฉันมีโอกาสคุยกับเซียเกี่ยวกับอนาคตของเธอ ฉันถามว่า ถ้าเธอได้รับการแนะนำให้ไปทำงานในราชวัง เธอจะทำอย่างไร เพราะโอกาสมันค่อนข้างสูง”
“เข้าใจละ เธอปฏิเสธโดยบอกว่าเธออยากเป็นสาวใช้ของคุณต่อไปใช่ไหม”
“อืม… รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
“ก็มีข้อมูลอยู่แล้ว”
“โห…”
สมเป็นลูน่าจริงๆ ที่สามารถเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้โดยไม่ต้องอธิบายเพิ่ม
“ถ้าเธอคิดแบบนั้น ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาตรงไหน”
“แต่ฉันคิดว่ามันมีนะ! การทำงานในราชวังมันมีข้อดีเยอะเลยไม่ใช่เหรอ? ที่นั่นมั่นคง มีเกียรติ และเปิดโอกาสให้ได้พบเจอคนที่มีฐานะหรือมีชื่อเสียง ไหนจะโอกาสที่น้อยคนจะได้สัมผัส”
“ใช่ คุณไม่ได้พูดผิดหรอก”
การตอบรับอย่างเรียบง่ายนั้น ทำให้ฉันไม่ทันได้สังเกตน้ำเสียงที่เหมือนจะซ่อนความนัยอะไรบางอย่าง
“แต่เซียกลับยอมทิ้งข้อดีพวกนั้น เพื่อจะอยู่เป็นสาวใช้ของฉันต่อไป แล้วยังบอกว่าจะอยู่ช่วยฉันจนกว่าฉันจะเจอคนแต่งงานด้วยนะ! ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เธออาจจะพลาดโอกาสแต่งงานไปเลยก็ได้ใช่ไหม?”
“ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะสาวใช้ประจำตัวมักจะไม่ค่อยมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัว”
“เห็นไหม! แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็คงเหมือนคนที่ทำลายชีวิตของเซียไปน่ะสิ…”
“ฟังดูแล้ว คุณไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสินะ”
“ใช่ ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลยจริงๆ ฉันรู้สึกติดหนี้บุญคุณเธอมากจนอยากให้เธอมีความสุข ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนดีและมีข้อดีหลายอย่าง ฉันเลยไม่อยากให้เธอเสียโอกาสอะไรไปเพียงเพราะความเกรงใจหรือความคิดที่ว่าเธอต้องอยู่ช่วยฉัน”
ความกังวลของฉันมันหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันคิดถึงเซียเหมือนครอบครัวคนหนึ่ง และไม่อยากทำลายชีวิตของเธอด้วยการเห็นแก่ตัว
“เพราะอย่างนั้น ฉันเลยอยากขอคำปรึกษาเรื่องนี้ ว่าจะช่วยให้เธอเลิกเกรงใจหรือเปลี่ยนความคิดของเธอได้ยังไงดี”
“ขอถามคำถามหน่อย คุณบอกว่าเธอ ‘เกรงใจ’ หรือ ‘รู้สึกว่าต้องช่วยคุณ’ ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?”
“เอ่อ…พูดแล้วมันก็เขินนะ แต่เธอบอกว่า ‘ไม่มีใครที่ดีกว่าท่านเบเรธอีกแล้ว’ และอยากจะอยู่ช่วยฉันต่อไป…”
“คุณกล้าพูดออกมาจริงๆ นะ”
“อย่าล้อเล่นสิ… นี่ฉันจริงจังนะ”
คำพูดตรงๆ ของลูน่า แม้จะไม่มีอารมณ์ใดๆ แต่ก็เหมือนแทงใจดำ ฉันไอเบาๆ พยายามเรียกสมาธิกลับมา
“เซียน่ะ เพิ่งอายุ 16 ปีเอง เธอเก่งและมีศักยภาพมาก ฉันเลยคิดว่าที่เธอพูดคงเป็นเพราะเธอรู้สึกเกรงใจฉัน หรือมองโลกแคบเกินไป”
“คุณหมายถึง ถ้าเธอได้เจอคนอื่นมากกว่านี้ เธออาจจะเจอใครสักคนที่ดีกว่าคุณ แล้วโอกาสไปทำงานในราชวังก็มีข้อดีที่เห็นได้ชัด เธอจึงไม่น่าจะปฏิเสธ ถ้าไม่ได้เกรงใจคุณอยู่?”
“ใช่เลย!”
ลูน่าที่ฟังอยู่พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดในสิ่งที่ทำให้ฉันตกใจ
“แต่ฉันคิดว่า เธอไม่ได้เกรงใจคุณเลยนะ”
“หา?”
“เซียเป็นสาวใช้ที่ฉลาดและเก่งกาจ เธอน่าจะรู้ข้อดีของการทำงานในราชวังดีกว่าใคร”
“ก็…อาจจะใช่”
“และเธอก็น่าจะรู้ว่า การรับตำแหน่งในราชวังจะส่งผลดีต่อคุณและตระกูลของคุณยังไง เพราะการที่คุณส่งสาวใช้ของคุณไปทำงานในราชวัง ก็เหมือนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับราชวงศ์”
ลูน่าอธิบายอย่างใจเย็น แต่คำพูดของเธอกลับทำให้ฉันตระหนักถึงสิ่งที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน
“แถมยังเป็นโอกาสให้ตระกูลของคุณได้รับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะคนจะเห็นว่าคุณฝึกฝนเธอมาได้ดีแค่ไหน”
“…”
“ดังนั้น การที่เธอปฏิเสธโอกาสนั้นแสดงว่าเธอตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะเกรงใจคุณ เธอคงเลือกทำตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองมากกว่า”
“แปลว่า…ที่เธอบอกว่าอยากอยู่ช่วยฉัน มันมาจากใจจริง?”
“ฉันคิดว่าใช่ และฉันว่าเธอคงคิดมาอย่างดีแล้ว”
ลูน่าพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถึงคุณจะมองว่าเธออ่อนแอหรือขี้เกรงใจ แต่ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองและรู้จักตัดสินใจเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียใจในภายหลัง”
“…”
“และที่สำคัญ…คุณคงไม่เคยคิดเลยสินะว่า การที่เธอปฏิเสธโอกาสใหญ่แบบนั้น อาจเป็นเพราะความรู้สึกที่เธอมีต่อคุณ”
คำพูดนั้นทำให้ฉันนิ่งไปชั่วขณะ
“และฉันต้องบอกเลยว่า มันน่าสงสารมากที่คุณมองข้ามความรู้สึกนั้นของเธอ”
“เอ๊ะ…เดี๋ยวสิ ลูน่า แบบนั้นมัน…”
“ไม่มี ‘เอ๊ะ’ หรือ ‘เดี๋ยว’ ค่ะ คุณเบเรธ การที่คุณไม่เข้าใจสิ่งที่เซียต้องการจะสื่อ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจสำหรับเธอ ถ้าฉันเป็นเซีย ฉันคงร้องไห้ไปแล้ว”
ลูน่าพูดด้วยสายตาคม เธอยังคงจ้องมองฉันราวกับว่ากำลังตำหนิอย่างเงียบๆ แต่เจ็บแสบ
“แต่…มันเป็นเพราะฉันไม่อยากให้เธอตัดสินใจผิดพลาด ฉันเลยคิดแบบนั้น…”
“มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าคุณตั้งใจดีหรือไม่ค่ะ สิ่งสำคัญคือคุณไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเธอจริงๆ”
“…”
“เซียเป็นสาวใช้ประจำตัวของคุณ แต่เธอไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่เธอทำ เธอเลือกมันด้วยหัวใจ และคุณเองก็ควรเคารพการตัดสินใจนั้น”
ลูน่าพูดจบก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“แต่เอาเถอะ ฉันคงไม่ควรจะตำหนิคุณไปมากกว่านี้ เรื่องที่คุณอยากให้ฉันช่วยเกี่ยวกับลายมืออ่านยากของคนที่เขียนจดหมายนั้นใช่ไหม? เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า”
“อ-อืม…ขอบคุณนะ”
ถึงรูน่าจะพยายามช่วยเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนา แต่คำพูดที่เธอทิ้งไว้ยังคงก้องอยู่ในหัวของฉัน
—————
ในขณะที่ลูน่าดูเหมือนจะกลับมาสู่โหมดสงบเสงี่ยมเหมือนเดิม แต่ในใจเธอกลับเต็มไปด้วยความสับสน
“ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้ล่ะ? เซีย…ฉันน่าจะอิจฉาเธอหรือเปล่า?”
ลูน่าล้วงกระเป๋าหยิบที่คั่นหนังสือรูปขนนกออกมา เธอจ้องมองมันราวกับกำลังปลอบใจตัวเอง
“ทำไมฉันถึงรู้สึก…อึดอัดแบบนี้กันล่ะ”
โมเมนต์ที่ลึกซึ้งนี้ทำให้เธอเริ่มเผชิญหน้ากับความรู้สึกในใจที่ไม่เคยยอมรับมาก่อน
เรื่องราวคงจะไม่ได้จบลงง่ายๆ เพราะความรู้สึกที่ซับซ้อนระหว่างคนทั้งสามกำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน…
TLN: ดูแล้วคงได้วันละ 3-10 ตอนนะครับ ด้วยความที่ตอนมันยาว คงไม่ได้ลงถี่แบบเรื่องเก่า