[WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 35 เอเลน่าที่บูดบึ้ง?
- Home
- [WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 35 เอเลน่าที่บูดบึ้ง?
“เอเลน่า วันนี้กลับด้วยกันมั้ย?”
“อะ..อะไรเล่าจู่ๆก็”
หลังจากจบคาบที่ 4 ของช่วงบ่ายก็เป็นเวลาเลิกเรียนพอดี เขาเสนอขึ้นมาขณะที่เดินไปตามโถงทางเดินพร้อมกับเอเลน่า
“ก็แบบว่า..นั่นน่ะ”
“อ๋า…เข้าใจล่ะ นายเริ่มกลัวสิ่งที่ฉันพูดแล้วล่ะสิ? เรื่องจดหมายเชิญของพ่อฉันหน่ะ”
“……ถะ ถ้ารู้อยู่แล้วก็ไม่เห็นต้องพูดออกมาเลยก็ได้นี่”
“อุฟุฟุ~ น่าสมเพชจุง อายุก็ปาไป18แล้วยังกลัวจดหมายแค่นี้อยู่อีก”
เอเลน่าตบไหล่ผมแปะๆ
เมื่อผมหันไปมองก็เห็นเอเลน่าเอามือปิดปากขำและหรี่ตามองมา
ปลอบใจ ไม่ ล้อเลียน ใช่
“เห้ออ พลาดหน่อยไม่ได้เลยนะ”
“ก็อย่างที่บอกไปเมื่อเช้า ใครใช้ให้นายชอบมาแกล้งฉันก่อนล่ะ โดนคืนซะบ้างมันก็สมควรแล้ว”
“เอ๋~ ฉันจำไม่เห็นได้เลยว่าแกล้งเธอแรงขนาดนี้นา”
“ใครบอกล่ะ ปรึกษากับอลันแล้วก็ไม่ยอมบอก ชอบมาทำให้ฉันเป็นบ้าอยู่คนเดียวแล้วยังมายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยใส่ฉันอีก”
เอเลน่าเอียงหัวและขุดเรื่องในอดีตขึ้นมาพูด
“ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าฉันไปยิ้มแบบนั้นใส่เธอตอนไหน”
(โหดร้ายจริง ไม่ใส่ร้ายกันเกินไปหน่อยเหรอนั่น?)
ผมคิดแบบนั้นแต่ก็เก็บไว้ในใจเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ
“แต่ว่าเอเลน่าก็ขี้แกล้งเหมือนกันนี่นา”
“หืมม~ ฉันไปแกล้งนายตอนไหนก่อน? ช่วยบอกมาหน่อยซิ”
“ก็อย่างช็อกโกแลตที่เธอให้เมื่อตอนนั้นมันละลายไปหน่อยๆแล้วนี่นา แค่นี่ยังไม่ถือว่าแกล้งฉันอีกเหรอ”
“นายเนี่ยน้า…. เรื่องขี้ปะติ๋วแค่นี้ก็ยังอุส่าห์เอามาอ้างได้อีกนะ”
“ฮ่าๆ แน่นอนสิ”
เธอรู้ว่าเขาก็แค่พูดเล่น
“ถ้าฉันจะแกล้งนายจริงๆล่ะก็ สู้ไม่ทำให้มันละลายเป็นโจ๊กก่อนแล้วค่อยให้นายไม่ดูเข้าท่ากว่ารึไง”
“อู้วว้าว เป็นการแกล้งที่น่ารักซะจริง”
“หึ แล้วถ้าเป็นนายล่ะจะทำยังไง?”
“ถ้าเป็นฉันล่ะก็ คงจะบอกว่า ‘มีอะไรจะให้น่ะช่วยยื่นมือมาทีสิ’ จากนั้นก็เอาแมลงตัวเบ้งไปวางบนมืออย่างอ่อนโยน”
“……เพราะแบบนี้ไง นายถึงได้มีชื่อเสียอันดับหนึ่งของโรงเรียน”
“ขออภัยด้วยคับ”
ผมเอ่ยขอโทษต่อสีหน้ากดดันของเอเลน่า
อะไรกันเล่า นี่เป็นการแกล้งยอดฮิตของชีวิตก่อนของผมเลยนะ แต่ดูเหมือนในโลกนี่มันจะไม่ใช่แหะ
“….นายเนี่ยนะ ฉันเริ่มแยกไม่ออกแล้วนะว่าอันไหนจริงหรืออันไหนเล่น”
“ขนาดนั้นเชียว?”
“ก็ใช่น่ะสิ นายพูดอย่างกับว่านายเล็งช่วงนั้นไว้อยู่แล้วงั้นแหละ”
“อะฮ่าๆ ก็นะ”
จะถือว่ามันเป็นคำชมก็แล้วกันนะ
“อา พอพูดถึงช็อกโกแลตที่เธอให้แล้ว ฉันก็แบ่งกินกับเชียด้วยนี่นะ มันอร่อยมากจนนึกขอบคุณเธอขึ้นมาเลยล่ะ”
“ฟุฟุ~ พูดเรื่องดีๆก็เป็นเหมือนกันนี่ แล้วปฏิกิริยาของเชียเป็นไงบ้างล่ะ?”
“เธอกัดไปคำน้อยๆแล้วก็พูดขึ้นมาว่า ‘อื้มม! อาหร่อยย’ พร้อมกับเบิกตากว้าง จากนั้นเธอก็รีบยัดส่วนที่เหลือเข้าปากอย่างรวดเร็ว ”
บุคคลิกของเชียค่อนข้างจะซื่อตรงจึงจินตนาการสีหน้าของเธอได้ไม่ยาก
“พอนึกดูแล้วก็เห็นภาพเลย ถ้าชอบขนาดนั้นไว้เดี๋ยวเอามาให้อีกก็แล้วกัน”
“จะ จะดีเหรอ? พูดแบบนี้ก็ยังไงๆอยู่ คือว่าช็อกโกแลตนั่นมันแพงใช่เล่นเลยใช่มั้ยล่ะ?”
“ก็ไม่รู้สิ ยังไงกันน้า …ฉันขอก็อปปี้คำพูดแบบที่นายชอบพูดกับฉันบ่อยๆเลยละกัน”
“แต่ฉันหวังให้เธอบอกมาตามจริงมากกว่านา”
“ถ้าฉันบอกไปเดี๋ยวนายก็คงจะเกรงใจอยู่ดีใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นไม่ต้องรู้แหละดีแล้ว”
“….งั้นเหรอ ขอบใจนะ เชียเองก็น่าจะดีใจเหมือนกัน”
ผมรับข้อเสนอของเอเลน่าด้วยความเต็มใจ
เมื่อรู้แบบนั้นเอเลน่าก็กำชายกระโปรงด้วยความเขินอาย
“บอกไว้ก่อนเลย ห้ามฮุบไว้กินคนเดียวล่ะ”
“ฉันรู้แล้วล่ะน่า”
ถ้าทำแบบนั้นเชียคงจะเสียใจแย่
แต่ว่าหยอกนิดๆหน่อยๆคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“เริ่มออกทะเลไปไกลแล้วสิ กลับเข้าเรื่องละ…..ฉันจะยอมกลับบ้านพร้อมกับนายก็ได้”
“จริงเหรอ!?”
“แน่นอนสิ แต่ฉันขออะไรเป็นการแลกเปลี่ยนหน่อยนะ”
“เอ๊ะ?”
ดีใจได้ไม่ทันไรเงื่อนไขก็ตามมาติดๆ
“ ‘เอ๊ะ’ อะไรกันยะ ก็ขนาดเชียยังได้ของขวัญเลยนี่นา มีแค่ฉันที่ไม่เห็นจะได้อะไรเลยมันไม่แปลกไปหน่อยรึไง”
เอเลน่าพูดด้วยท่าทีเกี่ยงงอนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ ก็เหมือนอย่างที่นายชอบทำกับเชีย ยิ้มกริ่มใส่ในขณะที่คนเค้ากำลังพูดเรื่องจริงจังอยู่แท้ แบบนั้นมันขี้โกงนี่นามีแค่อีกฝ่ายที่ว้าวุ่นอยู่คนเดียว ช่วยใส่ใจความรู้สึกของสาวใช้ตัวเองมากกว่านี้หน่อยเถอะ ”
“ฮ่าๆ พอพูดถึงขนาดนั้นมันก็เจ็บจี๊ดเลยนะเนี่ย”
ถ้าพูดเรื่องที่จริงจังแต่ผมกลับยิ้มเยาะแบบนั้น มันก็น่าสงสารจริงๆนั่นแหละ
เอเลน่าเป็นหนึ่งในคนที่เข้าใจเรื่องนั้นดี
‘ให้ตายสิ โธ่…..’ เอเลน่าทำหน้าเหมือนกับจะพูดแบบนั้น
“แล้วเอเลน่าอยากได้อะไรล่ะ?”
“อืม..นั่นสินะ ฉันอยากได้เวลาว่างของนายน่ะ”
“มะ หมายความว่าไง?”
“ก็ง่ายๆ หลังจากที่คุยกับท่านพ่อเสร็จ ฉันอยากจะใช้เวลาว่างช่วงนั้นกับนาย ห้ามหนีกลับก่อนเด็ดขาด ฉันหมายความแบบนั้นแหละ”
ไม่ต้องเตรียมการหรือสิ่งของใดๆ เป็นของขวัญที่ค่อนข้างแปลกๆที่ดูเหมือนจะง่าย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย
“หรือก็คือ หลังจากพบคุณพ่อของเอเลน่าแล้ว แผนต่อไปของเธอคือตัดทางหนีของฉันว่างั้นเถอะ?”
“ฟุฟุ~ ไม่รู้สิ จะใช่รึเปล่าน้า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำถึงขนาดนั้นหรอกนะ”
“จริงเร้อ?”
“ฉันก็แค่… ก็มันไม่ยุติธรรมเลยนี่นา นายเองก็ต้องมาเล่นกับฉันบ้างสิ”
นํ้าเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างทำให้ดึงความสนใจของผมไปชั่วครู่หนึ่ง
“อยากเล่นกับฉันขนาดนั้นเชียว?”
“พะ..เพราะนายชอบทำแบบนี้ไงฉันถึงได้บอกว่านายมันคนใจร้าย….”
“โทษทีๆ ฉันเข้าใจแล้ว หลังจากที่พบคุณพ่อของเอเลน่าเสร็จ จะไปเล่นกับเธอหน่อยก็ได้”
“อืม— งั้นก็มาเล่นในห้องของฉันก็แล้วกัน……” TN: พระเจ้ารุกแรงมาก
“เข้าใจแล้วๆ ในห้องสินะ อืมม–เอ๊ะ? ไม่ใช่ในห้องรับแขกหรอกเหรอ?”
—ผมตอบกลับไปได้แค่ครึ่งเดี๋ยวแต่ก็รู้สึกตะหงิดๆอะไรแปลกๆ
“กะ ก็….. แค่มาร์คกิ้งเองยอมๆหน่อยเถอะน่า…..ถึงจะเป็นเรื่องแค่นี้แต่มันสร้างความแตกต่างได้มากเลยนะ ”
‘มาร์คกิ้ง’ ของเธอมันฟังดูแหม่งๆสุดๆ จนทำให้เอเลน่าแก้มแดงแจ๋ไปถึงหู
“เอะ อะไรล่ะนั่น? มาร์คกิ้งแบบไหน ไม่สิ….แล้วทำไมต้องเป็นมาร์คกิ้งล่ะ?” //TN: มาร์คกิ้งในที่นี้ก็เหมือนทำเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของนั่นแหละ
“อะ!!! อะ ฉะ ฉะ ฉะฉะฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ!!!! ลองคิดตามเรื่องราวสิ ตามเรื่องราวน่ะ!! ”
ตอนนี้ใบหน้าของเอเลน่าจากที่แดงแค่แก้ม แต่บัดนี้แดงตั้งแต่คอไปถึงหัวราวกับจะมีไอนํ้าโอเวอร์ฮีทและระเบิดดัง ปุ้ง!
“อ๋อเหรอ? แล้วสรุปเป็นมาร์คกิ้งแบบไหนกันล่ะ?”
“อึก อืออ! มะ ไม่พูดด้วยแล้ว! ไอ้คนโรคจิต…..”
“อะไรกันเนี่ย อยู่ดีๆมาด่ากันเฉย”
อยากได้คำชี้แนะจากลูน่าจริงๆ ไม่เข้าใจเลยว่าเอเลน่าหมายถึงยังไงกันแน่ ถ้าผมรู้ข้อเท็จจริงความอับอายของเอเลน่าในครั้งนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น