[WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 118 ความใกล้ชิดของอาเรียและซาเนีย
- Home
- [WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 118 ความใกล้ชิดของอาเรียและซาเนีย
ตอน 118 ความใกล้ชิดของอาเรียและซาเนีย
เวลาเลื่อนย้อนกลับไปเล็กน้อย เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เบเรธและเชียสัญญาเรื่องเดทวันเสาร์ และขึ้นรถม้าเพื่อกลับไปที่คฤหาสน์
———
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณหนูอาเรีย วันนี้มีเรื่องที่ต้องจัดการ…ทำให้การสนทนาใช้เวลานานขึ้น จึงให้คนอื่นไปรับแทน ต้องขออภัยด้วยค่ะ”
“ไม่เป็นไรเลย~ แถมยังต้องขอโทษด้วยที่ฉันโยนงานยาก ๆ ไปให้”
“ไม่เลยค่ะ นี่ก็เป็นหน้าที่ของฉันเช่นกัน”
หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์จากโรงเรียน อาเรียได้พบกับซาเนีย สาวใช้ประจำตัวของเธอในห้องพักส่วนตัว
“วันนี้ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“เหนื่อยมากเลย~ ต้องคอยทักทายคนเยอะมาก มากจริง ๆ เยอะจน…ไม่ไหวแล้ว”
“คุณหนูรับมือได้ดีสินะคะ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันจะไม่ชมเรื่องนี้หรอกค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ควรทำอยู่แล้ว”
“…”
เมื่อซาเนียพูดตัดบทอย่างตรงไปตรงมา อาเรียก็รู้ทันทีว่าเธอต้องการเน้นย้ำประเด็นอะไร จึงได้แต่หงอยลงทันที
แต่ในขณะเดียวกัน——
“ขี้เหนียว”
อาเรียบ่นพร้อมทำหน้ามุ่ย จากนั้นเธอก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอันใหญ่โตและเรียบเนียนไร้รอยยับของเธอ
เมื่อถึงจุดนี้ ทุกอย่างเหมือนสวิตช์ในตัวเธอถูกปิดไปชั่วขณะ ทำให้เธอไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย
“ถ้าสั่งมา ฉันจะชมให้เท่าที่คุณหนูต้องการค่ะ”
“ถ้าชมเพราะโดนบังคับ ฉันก็ไม่ดีใจหรอก”
“ถ้าเช่นนั้น ก็อดทนไปเถอะค่ะ”
“ก็ได้…”
ในบรรดาผู้คนที่สามารถพูดจาเช่นนี้กับลูกสาวตระกูลขุนนางชั้นสูงได้ ซาเนียคือคนเดียวเท่านั้น และความสัมพันธ์ที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันแบบนี้ได้นั้น ถือเป็นสิ่งที่อาเรียพอใจที่สุด
“ว่าแต่ ขอถามสักหน่อยค่ะ คุณหนูได้พูดคุยกับท่านเบเรธเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ?”
“ใช่! ฉันได้พูดขอบคุณเรื่องงานเลี้ยงอาหารค่ำไปแล้ว และยังได้พูดคุยในแบบ ‘ตัวฉันจริง ๆ’ ด้วยล่ะ”
“นั่นก็น่าจะสบายใจได้แล้วนะคะ ทำได้ดีมากเลยค่ะ”
“ข-ขอบคุณ…”
สำหรับอาเรีย การแสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอออกไปไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอต้องใช้ความกล้าหาญ เพราะความรู้สึกกลัวมักเกิดขึ้นเสมอ แต่ซาเนียเข้าใจเธอดี จึงชมเธอในจุดที่สมควรได้รับคำชม
“ว่าแต่ ได้พูดคุยถึงเรื่องวันพิธีจบการศึกษาไปแล้วหรือยังคะ?”
“อื้ม ฉันสัญญากับเขาว่าจะ ‘ใช้เวลาสองต่อสองด้วยกัน’ แล้วล่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ทันสังเกตเหตุผลที่ฉันพูดแบบนั้นเลยก็ตาม…”
“มันก็ช่วยไม่ได้หรอกค่ะ จะให้เข้าใจเรื่องที่คุณหนูสนใจเขาในฐานะคู่ชีวิตน่ะ…”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ…”
“เวลาที่ใช้ร่วมกันยังน้อยเกินไปค่ะ ความสุขของคุณหนูที่เขายอมรับตัวตนจริง ๆ และความรู้สึกดีที่คุณหนูได้รับ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผ่านไปถึงท่านเบเรธทั้งหมดในตอนนี้ ถ้าจะบอกว่าคุณหนูมีความรู้สึกดีต่อเขา เขาอาจจะยังไม่เข้าใจในตอนนี้”
“เหรอ…”
ตามที่ซาเนียกล่าว เบเรธซึ่งเพิ่งรู้จักกันไม่นานนั้น ไม่สามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้
ความจริงที่ว่าเขายอมรับตัวตนที่แท้จริงของอาเรีย รวมถึงการกระทำเหล่านั้นที่ทำให้อาเรียรู้สึกดีมาก ๆ——สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เบเรธอาจยังไม่เข้าใจ
“ที่สำคัญที่สุด คือเป้าหมายที่คุณหนูเลือกไว้นั้นยุ่งยากเสียเองค่ะ ท่านเบเรธไม่ได้สนใจในยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือทรัพย์สินใด ๆ แบบคนที่เขาต้องการไช่ไหมล่ะคะ”
“เขาไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนอะไรจากฉันเลย ทั้งที่ฉันเป็นลูกสาวของตระกูลขุนนางใหญ่…”
“เป็นเรื่องลำบากจริง ๆ ที่ไม่สามารถใช้สิ่งที่ควรจะเป็น ‘อาวุธ’ ของคุณหนูได้นะคะ”
ด้วยฐานะของตระกูลขุนนาง และเกียรติยศในฐานะ ‘นักร้องหญิงผู้งามสง่า’ เพียงแค่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจากทั้งสองนี้ ก็เพียงพอที่จะดึงดูดขุนนางผู้สนใจสู่การเจรจาหมั้นหมายได้มากมาย
การที่อาเรียไม่สามารถใช้ข้อได้เปรียบเช่นตำแหน่งหรือความมั่งคั่งของเธอให้เกิดประโยชน์นั้น ถือเป็นความเสียเปรียบที่ยากลำบากอย่างแท้จริง
“เอ่อ คุณหนูได้บอกเล่าเรื่องที่สนใจในตัวท่านเบเรธให้กับท่านเอเลน่าหรือท่านลูน่าฟังบ้างหรือยังคะ? หากได้บอกไปแล้ว อาจจะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเธอก็เป็นได้”
“ฉันได้คุยกับเอเล่จังช่วงพักกลางวันนิดหน่อย เลยเผลอบอกเธอไปแบบไม่ได้ตั้งใจ… มั้งนะ…”
“แล้วเธอให้การตอบสนองแบบไหนคะ?”
“เธอดูตกใจ แต่ก็ดีใจไปด้วย…มั้ง แล้วก็คิดว่า เธอไม่ค่อยพอใจท่านเบเรธเท่าใหร่…”
“อืม เธอคงรู้สึกว่า ‘ไวเกินไป’ หรือเปล่าคะ เพราะพึ่งจะรู้จักกันไม่นานนี่คะ”
แม้ว่าเบเรธจะต้องรับความหงุดหงิดที่ไม่เป็นธรรมจากเอเลน่า แต่ก็ดูเหมือนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในมุมมองของเธอ
“แต่เอเล่จังก็เตือนฉันด้วยนะ”
“ท่านเอเลน่าบอกเตือนอะไรคุณหนูเหรอคะ?”
“เธอบอกว่าเบเรธเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่นเสมอ เพราะฉะนั้น ห้ามใช้อารมณ์หรือความสงสารในการดึงดูดความสนใจของเขาเด็ดขาด แน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดตรงขนาดนั้นหรอกนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ หมายความว่าถ้าคุณหนูมีความรู้สึกดีต่อเขาจริง ๆ ก็ต้องแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา และไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นคำแนะนำที่มาจากความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ของพวกคุณ”
การที่เอเลน่าเลือกบอกจุดอ่อนของเบเรธให้ฟัง แสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อมั่นในตัวอาเรีย
“การจะพูดแบบนั้นต่อคุณหนูอาเรีย ต้องใช้ความกล้าไม่น้อยเลยทีเดียว ยอดเยี่ยมจริง ๆ ค่ะ”
“ใช่เลย ฉันเข้าใจอีกครั้งว่าเอเล่จังรักเบเรธจากใจจริง และเบเรธเองก็เป็นคนที่น่าทึ่งมาก”
แม้ว่าคำขวัญเรื่อง ‘ความเท่าเทียม’ จะเป็นหลักการของโรงเรียน แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นเพียงคำพูดลอย ๆ
ถ้าไม่ให้ความสำคัญกับสถานะหรือความสัมพันธ์ ก็อาจเกิดการตอบโต้ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นได้
“คนที่น่าทึ่งมักจะดึงดูดผู้คนที่น่าทึ่งเช่นกันค่ะ อันที่จริง ผู้คนรอบตัวท่านเบเรธส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนจะเป็นคนที่สามารถยอมรับในตัวตนของคุณหนูอาเรียได้ด้วยนะคะ”
“แต่การที่จะแสดงตัวตนแบบนี้มันน่าอายมากเลยนะ…”
“ถ้ามันช่วยให้คุณหนูมีโอกาสได้ครอบครองอนาคตที่สดใส ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรไม่ใช่เหรอคะ?”
“อืม…”
“งั้นตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่การพยายามค่ะ ฉันเชื่อว่าท่านลูน่าก็คงทราบถึงความรู้สึกของคุณหนูแล้วเช่นกัน”
“โอเค…!”
อาเรียยืดแขนและขาออกบนเตียงเพื่อแสดงความมุ่งมั่น แต่ด้วยความสูงที่ไม่มากของเธอ การเคลื่อนไหวนี้ดูไม่ค่อยจะน่าเกรงขามเท่าไร
(TLN:🗿?)
“อ๊ะ ซาเนีย ฉันยังมีคำถามอยู่อีกอย่างนะ”
“เรื่องที่เราพูดถึงกันใช่ไหมคะ?”
“เรื่องนั้นแหละ”
“แต่ด้วยจังหวะที่คุณหนูเพิ่งมีกำลังใจขึ้นมา ฉันขอแนะนำว่าอาจจะยังไม่เหมาะที่จะพูดในตอนนี้ค่ะ”
“ยังไงก็อยากฟังอยู่ดี…”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
แม้อาเรียจะไม่พอใจเล็กน้อยกับคำแนะนำของซาเนีย แต่เธอก็ตั้งใจฟังคำรายงาน
“ฉันได้เสนอชื่อท่านเบเรธเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคู่ชีวิตสำหรับคุณหนูไปแล้วค่ะ แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะไม่ตอบรับอย่างที่หวัง เพราะพวกเขาต้องการคู่ที่มีสถานะเท่าเทียมกัน หรือสูงกว่าเรา”
“โธ่…”
“ถึงอย่างนั้น ฉันไม่ได้กังวลอะไรเลยค่ะ ถ้าสามารถพิสูจน์สถานะและศักยภาพในอนาคตของท่านเบเรธได้ ฉันมั่นใจว่าโอกาสของเราก็มีอยู่แน่นอนค่ะ”
“จริงเหรอ!?”
อาเรียหันมาทางซาเนียด้วยความสนใจเต็มที่ เพราะซาเนียไม่ใช่คนที่จะพูดปลอบใจแบบขอไปที
“ปัจจุบัน เราได้ขอให้มีการตรวจสอบคำแนะนำของท่านเบเรธเกี่ยวกับการดูแลคอในงานเลี้ยงอาหารค่ำแล้วค่ะ เนื่องจากอาการของคุณหนูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผลลัพธ์เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ เมื่อผลสำเร็จ เราจะได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น และถ้าเบเรธอยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธเขาได้”
“โอ้ โอ้~”
“ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังของเบเรธยังมีตระกูลเลแคลร์ที่เชี่ยวชาญด้านการค้า และตระกูลเปเรนเมลที่มีชื่อเสียงในด้านความฉลาดหลักแหลม เมื่อคุณหนูเข้าร่วมด้วย ศักยภาพในอนาคตก็ยิ่งชัดเจนขึ้นค่ะ”
“จริงด้วย… ฉันเข้าใจแล้ว”
สิ่งที่เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับอาเรีย คือการได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ของเธอที่มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจทั้งหมด
แต่เมื่อได้ยินคำอธิบายจากซาเนีย เธอก็เริ่มเห็นความหวังที่ชัดเจน และสามารถมั่นใจในโอกาสนี้ได้มากขึ้น
“ฉันเชื่อว่าคุณหนูอาเรียจะสามารถดึงดูดความสนใจจากท่านเบเรธได้ค่ะ ถึงแม้ความขี้เกียจของคุณหนูจะเป็นข้อเสีย แต่ก็มีสิ่งที่สามารถชดเชยข้อเสียนั้นได้ค่ะ”
“อยากให้พูดให้กำลังใจมากกว่านี้จัง…”
“ขอโทษค่ะ”
เมื่อบทสนทนาสิ้นสุดลง ซาเนียดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอาเรียจนทั่ว
“ตอนนี้คุณหนูเหนื่อยแล้ว ลองพักสักหน่อยนะคะ ฉันจะปลุกเมื่อถึงเวลาอาหารเย็นค่ะ”
“อืม…”
พอถูกคลุมด้วยผ้าห่ม อาเรียก็เหมือนจะเข้าสู่โหมดพักผ่อนทันที เธอเริ่มรู้สึกง่วงและเคลิ้มหลับอย่างรวดเร็
“…ซาเนีย ขอบคุณมากจริง ๆ”
“ในเมื่อฉันทำถึงขนาดนี้แล้ว คุณหนูก็ต้องมีความสุขให้ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นฉันคงลำบากแน่”
“ฮะฮะ…”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ของซาเนีย อาเรียก็รู้สึกโล่งใจ และไม่นานก็หลับไปด้วยความรู้สึกที่สบายใจ
TLN: เป็นของขวัญปีใหม่อีกชิ้นที่คนแต่งเขากลับมาเขียนต่อครับ สาเหตุที่เขาหายไปเพราะยุ่งกับการตีพิมพ์หนังสือครับ ส่วนเรื่องนี้ผมจะลงตามดิบเลยไหม บอกไม่ได้ครับ งานที่รร.ก็เยอะ ยังมีงานพาร์ทไทม์อีก วันไหนว่างๆดะมาลงตามให้นะครับ สวัสดีปีใหม่ครับ~~