[WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น? - ตอนที่ 110 ในห้องบรรณารักษ์ 1
- Home
- [WN]เกิดใหม่เป็นขุนนางสารชั่ว แต่ดันเป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ซะงั้น?
- ตอนที่ 110 ในห้องบรรณารักษ์ 1
ตอนที่ 110 ในห้องบรรณารักษ์ 1
“เหตุผลที่ฉันตอบรับทุกคำพูด…นั่นก็เพราะว่า ฉันมีคนสำคัญแล้วค่ะ”
“เอ๊ะ!?”
เบเรธเผยสีหน้าประหลาดใจอย่างชัดเจนเมื่อได้ยินเสียงที่สั่นเครือและคำพูดนั้นของลูน่า ก่อนที่เธอจะพูดต่อไป
“การที่ฉันเคยให้ความสำคัญกับ ‘การอ่านหนังสือ’ เป็นอันดับแรก บางครั้งก็ทำให้คนอื่นมองฉันในแง่ลบค่ะ และถึงกับมีการพูดถึงฉันในทางเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีบางคนที่ระบายความไม่พอใจใส่ฉันเพราะไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบมาที่ตัวฉันคนเดียว”
“…”
“แต่หลังจากที่ฉันเริ่มคบกับคุณแล้ว มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปค่ะ การกระทำในชีวิตประจำวันของฉัน อาจส่งผลให้คุณได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการที่คุณต้องได้ยินคำพูดเสียหายเกี่ยวกับฉัน หรือผลกระทบอื่นๆ ฉันอาจจะพูดเหมือนคนเห็นแก่ตัว แต่ฉันอยากหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นมากที่สุดค่ะ”
ที่ผ่านมา ลูน่าเคยให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือเป็นอันดับแรกเสมอ
เธอไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะมองเธออย่างไร ขอเพียงแค่เธอได้อ่านหนังสืออย่างเต็มที่เท่านั้น นั่นคือแนวทางที่เธอเลือกเดินมาตลอด
——แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ ไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นเบเรธ
“นอกจากนี้ การที่ฉันตอบรับคำพูดของผู้อื่น ยังช่วยให้ฉันฝึกแก้ไขการพูดที่ติดขัดและนิสัยไม่ชอบเข้าสังคมของตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่าคุณคงจะภูมิใจในตัวฉันถ้าฉันทำสำเร็จค่ะ”
“แล้วผลลัพธ์ก็คือ…เธออ่านหนังสือได้ไม่เต็มที่ จนถึงขีดจำกัด ก็เลยต้องหนีมาอยู่ที่ห้องบรรณารักษ์ที่ปลอดภัยแบบนี้?”
“…ค่ะ”
“อ่า…”
คำอธิบายของลูน่า และคำพูดของเบเรธตอนนี้ ทำให้จุดต่างๆ เชื่อมต่อกันจนเป็นเส้นเดียวกัน
เหตุผลที่ลูน่าแอบมองจากห้องบรรณารักษ์ที่ตอนแรกฉันไม่เข้าใจ ตอนนี้พอได้ฟังทั้งหมดแล้ว ก็รู้สึกว่านี่เป็นการกระทำที่สมกับเป็นตัวตนของเธอ
“แบบนี้มัน…! ไม่เห็นต้องเสียใจขนาดนั้นเลย จริงๆ นะ ตอนเช้าฉันก็พูดไปแล้วนี่ว่าทำอะไรตามจังหวะของตัวเองก็พอ”
“…ขอบคุณค่ะ ฉันอยากได้ยินคำนี้อีกครั้งจริงๆ”
“ก็ดีแล้ว”
เบเรธตอบกลับด้วยรอยยิ้มให้กับลูน่าที่ดูเหมือนว่าใบหน้าจะผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“แล้วอีกอย่างนะ ยังมีเรื่องอีกตั้งเยอะที่เราอาจจะชมกันและกันได้ เพราะงั้นเรื่องที่ไม่ถนัดก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ค่อยๆ ทำไปดีกว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่เธอพูดไม่คล่องนี่นา อีกอย่าง ฉันเองก็อยากเห็นลูน่าที่ยังคงสนุกกับการอ่านหนังสือตามปกติ ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเราจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม”
“……”
“พูดแบบเอาเปรียบหน่อยนะ ถ้าคบกับฉันแล้วทำให้ลูน่าไม่สามารถทำสิ่งที่เธอชอบได้ ฉันก็คงไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น”
“ฮิฮิ คุณพูดเอาเปรียบตามที่บอกจริงๆ ด้วยค่ะ”
“จริงด้วยใช่ไหม!? ตอนพูดออกไปก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นเลย”
ถ้าลูน่าไม่ได้หัวเราะออกมา บรรยากาศคงจะเงียบสนิท และคงจะอึดอัดไม่น้อย
“…การมีความรักนี่มันเป็นเรื่องยากจริงๆ นะคะ ยิ่งคิดถึงอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำอะไรให้ถูกใจเขาได้ยากขึ้น”
“จริงที่สุดเลยล่ะ”
ความกังวลแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยถ้าคบกันแบบผ่านๆ ไป
ลูน่าที่เหมือนจะเข้าใจเรื่องนี้ดี แสดงสีหน้าที่ดูจะมีความสุขเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้น…ขอฉันเสนอทางออกแบบประนีประนอมได้ไหมคะ?”
“โอ๊ะ อะไรเหรอ?”
“ฉันขอรับความเมตตาจากคำพูดที่ว่า ‘ค่อยๆ ทำไป’ ของคุณ ด้วยการเริ่มต้นแบบจำกัดขอบเขต ฉันจะตอบรับเฉพาะในบางกรณีเท่านั้น แบบนี้ถึงจะยังมีโอกาสที่คุณจะเดือดร้อน หรือได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ผู้หญิงน่าเบื่อ’ แต่…ฉันก็ยังสามารถมีสมาธิกับการอ่านหนังสือได้ และยังได้ฝึกแก้ไขการพูดที่ติดขัดของตัวเองด้วย”
“แน่นอนว่าโอเคเลยล่ะ เพราะที่ผ่านมาที่เธอพยายามตอบรับทุกคนจนถึงตอนนี้ ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นแบบนี้แล้วใช่ไหมล่ะ? ฉันว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วล่ะ”
“ขอบคุณค่ะ…”
“ไม่เป็นไรๆ”
ลูน่าก้มศีรษะลงต่ำเพื่อขอบคุณอย่างจริงจังจนเบเรธเกือบจะพูดว่า “ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก” แต่เขาก็เข้าใจว่าเธอรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ
“ถึงจะพูดตอนนี้มันอาจจะสายไปหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการสร้างปัญหาให้ฉันเลยนะ? ยิ่งเรามีความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว ฉันยิ่งอยากให้เธอปฏิบัติต่อฉันโดยไม่ต้องเกรงใจอะไรเลย”
“คุณไม่ได้แสร้งพูดใช่ไหมคะ?”
“แน่นอน”
“แล้วจะไม่เปลี่ยนคำพูดเมื่อกี้ใช่ไหมคะ?”
“อืม”
“…ถ้าอย่างนั้น เข้าใจแล้วค่ะ”
ลูน่าตรวจสอบคำพูดของเขาเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะมีท่าทีเหมือนทำใจยอมรับได้ในที่สุด
ในขณะที่เบเรธกระพริบตาถี่ๆ พร้อมกับเอียงคอสงสัย ลูน่าก็เอ่ยคำพูดที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนออกมา
“ถ้าอย่างนั้น…ช่วยทำสิ่งนี้ให้ฉันได้ไหมคะ?”
“หา?”
เธอยกมือเล็กๆ ที่ดูบอบบางขึ้นแตะศีรษะของตัวเอง เป็นการบอกใบ้ถึง‘สิ่งนี้’ที่เธอต้องการให้เขาทำ
“เมื่อเช้านี้ คุณสัมผัสศีรษะของฉัน ฉันอยากให้คุณทำแบบนั้นอีกครั้งค่ะ”
“……”
เบเรธจ้องลูน่าที่เงยหน้าขึ้นสบตาเขา ขณะที่เธอลดมือลงจากศีรษะ ใบหน้าเธอฉายแววลังเลเล็กน้อย
“……ฉันคิดทบทวนเรื่องนี้หลายครั้งแล้วค่ะ ถ้าถูกปฏิเสธ ฉันคงไม่กล้าสู้หน้าคุณอีกเลย”
“ไม่ใช่ว่าฉันจะปฏิเสธอะไรแบบนั้นหรอกนะ… เอ่อ ก็…ได้สิ แค่เรื่องนี้เอง”
“……ถ้าอย่างนั้นช่วยทำให้หน่อยนะคะ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันอาจจะสบายใจมากขึ้นกว่าครั้งก่อนค่ะ”
หลังจากพูดจบ ลูน่าก็เขย่งปลายเท้าแล้วยื่นศีรษะของเธอมาใกล้ๆ ราวกับกำลังรอสัมผัสจากเขา
เบเรธนึกสงสัยว่าเธออยากรู้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างระหว่างตอนที่มีคนอยู่รอบข้างกับตอนที่ไม่มีคนอยู่หรือเปล่า หรืออาจเป็นเพราะเธอแค่ต้องการลองทำอะไรใหม่ๆ หลังจากที่เขาบอกให้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องสร้างปัญหา
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกว่า การได้เห็นลูน่าที่พยายามแสดงความอ่อนหวานในฐานะคนรักของเขานั้น เป็นสิ่งที่น่ารักและน่ายินดี
“งั้น…เริ่มเลยนะ”
เช่นเดียวกับเมื่อเช้า เขายื่นมือขวาขึ้นแล้ววางเบาๆ ลงบนเส้นผมที่เรียบลื่นและนุ่มของเธอ
เมื่อเขาเริ่มเคลื่อนมือเบาๆ ลูน่าก็ผ่อนคลายร่างกายก่อนจะพิงตัวลงมาที่อกของเขา
“……”
“……”
ภายในห้องสมุดส่วนตัว เบเรธสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ร่างกายบอบบาง และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของลูน่า บรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่นกำลังล้อมรอบพวกเขา จนกระทั่ง…
แกร๊ก
เสียงประตูห้องสมุดเปิดออกดังขึ้น พร้อมกับเสียงพูดคุยของผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิดในเวลานี้
‘นายแน่ใจเหรอว่าได้คุยกับเธอจริงๆ?’
‘ใช่สิ แน่นอน ฉันกล้าพูดเลยว่าเธอยอมเลิกอ่านหนังสือเพื่อมาคุยกับฉัน’
‘เพราะข่าวลือมันน่าเหลือเชื่อ ฉันก็เลยคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้นะ…’
‘งั้นฉันจะพิสูจน์ให้ดู ว่าเธอสนใจฉันจริงๆ’
เสียงพูดคุยของชายสามคนดังเข้ามาในห้อง