[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 98 สระน้ำ 9
ตอนที่ 98 สระน้ำ 9
หลังจากเหตุวุ่นวายเกี่ยวกับโลชั่นกันแดดจบลง ทุกคนก็สนุกกับการเล่นน้ำในสระกันอย่างเต็มที่
พูดตรงๆ มันสนุกมากจริงๆ แต่เรื่องตลกคือ โอสึกิพยายามเล่าให้เรโอะฟังว่าผมทำอะไรกับเธอบ้าง ทว่าแทนที่เรโอะจะโกรธ เขากลับดีใจ
เรโอะบอกว่า เขาดีใจที่ผมเริ่มเข้าใจเสน่ห์ของโอสึกิ ดูเหมือนเขาเป็นคนเดียวที่เชื่อใจผม แต่แน่นอนว่าฝ่ายหญิงทั้งหมดต่างพากันส่ายหน้าใส่ผม
และแล้วก็มาถึงเวลาอาหารกลางวัน
“เรโอะคุง อ้า~”
“ฮั่ม~ อื้ม! อร่อยสุดยอดเลย”
คู่รักหวานแหววกำลังป้อนข้าวกัน ส่วนผมกลับต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่ต่างจากสนามรบ
“เรียวมะ นี่ อ้า~”
“เรียวมะ เพื่อนสนิทอย่างอาริสะจังกับเพื่อนสมัยเด็กอย่างฉัน นายจะเลือกใคร? อ้า~”
“หยุดทำให้ผมลำบากใจด้วยคำถามแบบนี้เถอะ”
เมื่อครู่เป็นอาริสะที่ป้อนผม ครั้งนี้ผมเลยเลือกที่จะรับคำป้อนของสึมุกิแทน
ถึงอาหารจะอร่อยแค่ไหน แต่ผมก็รู้สึกเหมือนไม่ได้กินจริงๆ อยู่ดี
สำหรับมื้อนี้ เป็นอาหารกล่องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเมนูหลากหลายแบบเดียวกับตอนที่เราไปเที่ยวสวนสนุกครั้งก่อน สึมุกิก็ช่วยทำด้วย ดูเหมือนคุณภาพอาหารจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ฮิโยริจัง กินเยอะๆ นะ”
“อื้อ!”
“นี่ ฮิโยริจัง อ้า~ แล้วลองบอกสิว่าฝีมือใครอร่อยกว่ากัน ระหว่างพี่ชายของเธอกับฉัน”
จู่ๆ โอสึกิก็เปิดศึก
“ของพี่ชายอร่อยกว่า”
“…ฮึ่ก”
“หึหึ”
โอสึกิทำหน้าเจ็บใจจนผมรู้สึกสะใจ
“พี่ชายบอกให้ฮิโยริตอบว่าแบบนั้นล่วงหน้า ถ้าเกิดมันอร่อยขึ้นมา”
“เดี๋ยวก่อนนะ โคกุเระคุง นายไปสอนอะไรเด็ก 5 ขวบเนี่ย!”
“คนที่พูดอะไรทำนองนี้ควรจะเป็นโอสึกิไหมล่ะ”
“แต่จริงๆ แล้วอาหารของพี่ชายกับพี่โอสึกิก็อร่อยเท่าๆ กันนั่นแหละ”
ระหว่างที่ผมกับโอสึกิยังคงจุดประกายแห่งสงครามกันอยู่ อาริสะก็ถอนหายใจ
“เฮ้อ ชิซุกุกับเรียวมะ พวกนายช่วยเลิกทะเลาะกันสักทีไม่ได้เหรอ? ตอนเจอกันครั้งแรกก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีแท้ๆ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้?”
“ก็เพราะตอนนั้นฉันไม่คิดว่าเรียวมะจะนิสัยแย่แบบนี้”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน!”
“ชิซุกุกับเรียวมะ ทั้งคู่คือคนสำคัญสำหรับฉัน โปรดเข้ากันได้ดีเถอะนะ”
คำพูดของเรโอะทำให้บรรยากาศเงียบงันลงเล็กน้อย ความรู้สึกของผมที่มีต่อโอสึกิคืออะไรบางอย่างคล้ายความไม่ลงรอยกัน ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนไม่ดีหรอก แต่…มันแค่ไม่เข้ากัน?
ในขณะที่บรรยากาศยังอึดอัด สึมุกิก็พูดขึ้นมา
“ทั้งโอสึกิจังและเรียวมะเองก็เป็นแบบนั้น แล้วจริงๆ แล้วอาริสะจังกับเรโอะเองก็ไม่ถูกกันใช่ไหมล่ะ?”
อาริสะหันไปมองสึมุกิ
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้”
“อ่า ฉันเองก็ไม่ค่อยชอบสึมุกิเท่าไหร่ แต่ในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก เธอก็เชื่อใจได้ ส่วนอาซาฮินะนี่ไม่ไหวเลย ฉันไม่คิดว่าจะเข้ากับเธอได้เลย”
สองคนที่ควรจะช่วยประสานความสัมพันธ์ระหว่างผมกับโอสึกิ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ถูกกันยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก
สึมุกิที่เปิดประเด็นถึงกับรู้สึกผิดจนหน้าเสีย
อาริสะกับเรโอะนี่มันเกลียดกันจริงจังเลยสินะ ทั้งคู่เอาแต่แข่งกันเอาชนะตลอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่าจะบานปลายได้ขนาดนี้ ทั้งที่นิสัยเหมือนกันแท้ๆ
“อื้อ! ทุกคนต้องเข้ากันได้ดีสิ”
มีเพียงฮิโยริที่เป็นดั่งนางฟ้าตัวน้อยและดูเหมือนจะเป็นที่รักของทุกคน
“กินต่อไม่ไหวแล้ว…”
“ท้องฉันเต็มแล้ว…”
เรโอะที่กินจุและอาริสะต่างก็ยอมแพ้
โอสึกิที่ชอบทำอาหารจนล้นตลอดก็คงไม่เปลี่ยนนิสัยนี้ง่ายๆ เห็นแล้วชวนให้นึกถึงคุณยาย ถ้าผมพูดออกไปแบบนั้นคงโดนเธอต่อยแน่ๆ
“ว่าแต่โอสึกิ ตอนเย็นวันศุกร์ครูเรียกเธอไปทำอะไรเหรอ? ฉันลืมถามเลย”
“ไม่มีอะไรหรอก”
โอสึกิรินน้ำชาใส่แก้วให้เรโอะ และเขาก็ยกขึ้นดื่มจนหมด
ทั้งคู่ดูสนิทสนมเหมือนคู่สามีภรรยา ทั้งที่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน
“เรื่องงานเทศกาลวัฒนธรรมหลังปิดเทอมหน้าร้อนที่จัดร่วมกับโรงเรียนอื่นน่ะ ฉันถูกเลือกให้เป็นกรรมการจัดงาน”
อ๋อ โรงเรียนนี้ชอบจัดกิจกรรมแบบนั้น ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องเทศกาลอะไรเท่าไหร่ เลยไม่ได้ตามข่าว
“แล้วเราจะจัดกับโรงเรียนไหนเหรอ?”
สึมุกิถาม และโอสึกิก็ทำท่าคิดหนัก
“จำชื่อโรงเรียนไม่ได้แล้วล่ะ… แต่รู้ชื่อประธานนักเรียนของโรงเรียนนั้นนะ เป็นคนที่สวยมากเลย ดูเหมือนจะชื่อคุณโคโนฮานะล่ะมั้ง… เรโอะคุงกับโคกุเระคุง เป็นอะไรกันเหรอ?”
“…ไม่มีอะไรหรอก แค่ชื่อมันฟังดูคุ้นๆ ก็เลยเผลอทำหน้าแบบนั้นไป นะ เรียวมะ”
ชื่อที่เธอพูดมานั้น ผมก็รู้จักเหมือนกัน
ถ้าเป็นประธานนักเรียน ก็น่าจะเป็น… คนคนนั้นสินะ
เอาเถอะ ถ้าผมไม่ได้เป็นกรรมการจัดงานด้วย ก็คงไม่มีโอกาสไปยุ่งเกี่ยวด้วยอยู่ดี ยังไงผมก็กำลังอยู่ในช่วงต้อง “ชดใช้” อยู่
“เขาบอกว่าคนไม่พอ ถ้าใครอยากมาช่วยงานเป็นกรรมการกับฉันก็บอกได้นะ ยกเว้นเรโอะคุงกับอาริสะ”
“ทำไมล่ะ! ฉันอยากช่วยชิซุกุนะ!”
“มันจะกลายเป็นปัญหาอื่นน่ะสิ แล้วถึงจะเป็นสึมุกิก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี”
หน้าตาแบบอาริสะนี่คงจะเป็นที่พูดถึงในงานแน่ๆ ส่วนเรโอะ คงเพราะเธอไม่อยากให้เขาไปปรากฏตัวที่ไหนมากนัก นั่นแหละเหตุผลของเธอ
แต่… คุณโคโนฮานะงั้นเหรอ… ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีกครั้งจริงๆ
อ้อ เดี๋ยวก่อน… ชุดว่ายน้ำของผมเลอะนิดหน่อย คงต้องเช็ดออกแล้ว
“สึมุกิ ขอผ้าเปียกหน่อย”
“ได้เลย~ นี่จ้ะ”
สึมุกิหยิบกระปุกผ้าเปียกที่อยู่ใกล้ตัวแล้วโยนมาให้ผม
ตอนที่มันลอยอยู่กลางอากาศ ผมพยายามจะรับไว้ แต่สายตาของผมมันพร่ามัวไปหมด
“อ๊ะ!”
ผมยื่นมือไปรับกระปุกนั้นมาได้ แต่ดูท่าทางจะลนลานไปหน่อย
“ไม่เห็นต้องรีบคว้าแบบนั้นเลยนี่นา”
“โคกุเระคุง… หรือว่า”
โอสึกิดูเหมือนจะเริ่มสังเกตอะไรบางอย่าง
“เห็นไม่ชัดเหรอ?”
“ชิซุกุ เรื่องนั้นมัน…”
ถึงแม้เรโอะจะพยายามหยุด แต่ผมยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณว่าไม่เป็นไร
ถ้าอยู่ในกลุ่มนี้ ก็บอกไปเถอะ
“ไม่ได้มองไม่เห็นหรอก แค่มองเห็นไม่ค่อยชัดน่ะ”
ผมยกมือขึ้นปิดตาซ้ายตัวเอง
“ตอนมัธยมต้น ฉันเคยประสบอุบัติเหตุ หลังจากนั้น ตาซ้ายของฉันก็เลือนลางไป”
สายตาเลือนลางในที่นี้หมายถึงอาการที่ไม่สามารถแก้ไขให้มองเห็นชัดได้เต็มที่ สำหรับผม แม้จะใช้แว่นหรือคอนแทคเลนส์ ตาซ้ายก็ยังคงมองเห็นไม่ชัด
ส่วนตาขวายังปกติอยู่ แต่ตาซ้ายทำให้การมองเห็นโดยรวมลำบากขึ้นนิดหน่อย
“ตอนนี้ยังต้องสังเกตอาการต่อไป แต่ในอนาคตอาจจะขับรถไม่ได้เลยก็ได้นะ”
“งั้นเหรอ… หรือว่านี่เป็นเหตุผลที่เรียวมะไม่ค่อยยิงลูกตอนซ้อมบาสเกตบอล?”
“ใช่ บางครั้งมันยากที่จะประเมินระยะทางด้วยสายตา เลยทำให้การยิงลูกกลายเป็นจุดอ่อน”
อาริสะถามขึ้น ผมจึงตอบตามตรง การส่งลูกเองก็เคยมีปัญหาเหมือนกัน แต่ผมฝึกฝนจนสามารถชดเชยจุดอ่อนนั้นได้
แต่ด้วยข้อจำกัดด้านร่างกาย ผมจึงไม่สามารถเล่นเต็มเวลา 40 นาทีได้ ส่วนจะเป็นตัวจริงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถล้วนๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น!
“ขอโทษนะ… ฉันไม่รู้เลย”
“ฉันเองก็ ขอโทษนะที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป”
สึมุกิกับโอสึกิดูเหมือนจะรู้สึกผิดจนก้มหัวขอโทษ
ทั้งคู่เป็นคนอ่อนโยน คงกังวลมากกว่าที่ควรจะเป็น
“ยังไงก็ต้องรู้สักวันอยู่ดี และมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันขนาดนั้น ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
หลังจากนั้น บรรยากาศก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น และพวกเขาก็ดูเหมือนจะสงบใจลงได้
ในส่วนของผมเอง ก็ไม่อยากให้บรรยากาศดูแย่ไปมากกว่านี้เหมือนกัน