[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 33 การปรองดอง 2 : มุมมองอาริสะ
- Home
- [WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม
- ตอนที่ 33 การปรองดอง 2 : มุมมองอาริสะ
ตอนที่ 33 การปรองดอง 2 : มุมมองอาริสะ
หลังจากที่เราร้องไห้กันไปสักพัก ชิซึกุก็อธิบายเหตุผลที่เธอมาหาฉันในตอนเช้า
คำอธิบายนั้นทำให้ใจฉันเต้นแรงอีกครั้ง
“โคกุเระคุงบอกกับชิซึกุเหรอ?”
“อืม บอกในตอนเช้าทันทีเลยว่าอาริสะมีไข้ ฉันตกใจมากเลย”
“ตอนที่ร่างกายแย่ก็เป็นตอนดึกๆ นั่นแหละ ไม่มีทางเลือกเลย ก็เข้าใจนะ งั้นโคกุเระคุงคือคนที่…”
“อืม เขาคือคนที่ทำให้เราได้ทำความเข้าใจกันใหม่”
หมายความว่าเขาคือคนที่ช่วยให้ชิซึกุและฉันคืนดีกันเมื่อคืน เขาได้ช่วยฉันในทุกๆ เรื่องตั้งแต่การให้ความช่วยเหลือจนถึงการทำอาหารเช้าให้ พร้อมทั้งทำให้เราสามารถคืนดีกันได้โดยไม่แสดงท่าทีอะไรเลยก่อนที่จะกลับไป…
“นี่มันหล่อเกินไปแล้ว”
“อาริสะน่ะ ตอนนี้ดูจะสนิทกับโคกุเระคุงมากขึ้นเยอะเลยนะ”
“หะ!?”
“จะบอกฉันทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไช่ไหม?”
ชิซึกุเริ่มขุดคุ้ยทุกอย่างมาให้ฉันพูดออกมา ซึ่งฉันก็ต้องบอกไปตามที่เกิดขึ้นจนหมดทุกอย่าง แล้วชิซึกุก็ถอนหายใจใหญ่
“ถึงจะบอกว่าไม่ตั้งใจ แต่ก็ไม่ควรจะให้ผู้ชายเข้ามาในห้องนอนนะ”
“อืม… เข้าใจแล้ว…”
“อาริสะต้องรู้ตัวว่าตัวเองน่ารักกว่านี้นะ หุ่นแบบนี้ ผู้ชายต้องชอบแน่”
“หะ… ชอบ!?”
“ถ้าโคกุเระคุงทำอะไรเธอขึ้นมาจริงๆ อาริสะก็จะเจ็บตัวไปด้วย แล้วฉันเองก็จะโทษตัวเองที่เป็นคนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้นะ”
“ชิซึกุ…”
คำพูดของชิซึกุอาจจะถูกต้อง แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าไม่น่าจะเกิดอะไรแบบนั้นขึ้นหรอก
“ไม่ต้องห่วงหรอก โคกุเระคุงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”
“อืม… แต่ฉันอาจจะไม่ชอบโคกุเระคุงก็ได้นะ”
“ห๊ะ!? โคกุเระคุงไม่ใช่คนเลวเลยนะ! เขาเป็นคนที่พึ่งพาได้ น้องสาวเขาน่ารักมาก แล้วก็ทำอาหารเก่งด้วย มือก็ใหญ่และแข็งแรง…”
ตอนนั้นฉันก็เริ่มสังเกตเห็นชิซึกุที่มองฉันด้วยสายตาที่สงบ
“อาริสะ จริงๆ เธอเริ่มชอบโคกุเระคุงแล้วใช่ไหม?”
“หะ!? ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้ชอบเขา!”
“เหรอ? แล้วไม่ใช่ว่าบอกว่าจะไม่มีอะไรปิดบังกันแล้วเหรอ?”
“ยังไม่ได้ชอบเลย! แค่เขาดีกับฉันนิดหน่อย ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบเขาได้ง่ายๆ หรอก!”
“รู้ตัวเองใช่ไหม? ยังไงก็เถอะ ครั้งนี้ฉันจะปล่อยผ่านไปแล้วกัน”
แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น! ฉันไม่ได้ชอบเขาจริงๆ หรอก แล้วก็ไม่ควรที่จะชอบด้วย
เพราะว่าคนที่โคกุเระคุงชอบน่ะ คือชิซึกุ
แม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่ต้องฝืนเชียร์ให้พวกเขาเป็นแฟนกันแล้วก็ตาม แต่ฉันยังคงต้องตอบแทนที่เขาช่วยฉันไว้ ฉันตัดสินใจไปแล้วว่าจะสนับสนุนความรักของเขา
…แต่ถึงอย่างนั้น ทำไมกันนะ ทำไมถึงรู้สึกเจ็บในอกแบบนี้
“แล้วก็ ที่ฉันบอกว่าไม่ชอบน่ะ จริงๆ มันเป็นแค่ความหึงหวงเพราะความรู้สึกถูกแย่งไปเฉยๆ ก็เท่านั้นเอง”
“หา?”
“ใช่แล้วล่ะ อย่างน้อยในเรื่องทำอาหาร ฉันก็ไม่อยากแพ้ใครแน่ๆ บางทีอาจจะลองทำแกงกะหรี่ดูก็ได้”
“แต่เมื่อคืนฉันเพิ่งกินแกงกะหรี่มานะ”
“แกงกะหรี่ของฉันต้องอร่อยกว่าโคกุเระคุงแน่ๆ เชื่อสิ อาริสะ กินดูหน่อยสิ”
“ค-ค่ะ… กินค่ะ”
เมื่อเป็นแบบนี้ ฉันไม่มีทางขัดชิซึกุได้เลย ถึงจะต้องกินแกงกะหรี่สองวันติดกัน แต่ก็ตัดสินใจกินมัน
“นี่ อาริสะ”
“อะไรเหรอ”
“คือว่า… ถ้าหากไม่รังเกียจ จะชวนโคโคโระมากินข้าวด้วยกันสามคนดีไหม?”
“เอ่อ…”
“ฉันอยากฟังว่าเธอกับชิซึรุซังคบกันยังไง แล้วก็อยากคุยกันแบบสมัยก่อนที่พวกเราสามคนเคยคุยกัน”
“อื้ม! งั้นฉันจะชวนโคโคโระ เขาต้องมาแน่ๆ”
พวกเราจึงติดต่อโคโคโระ เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ให้ฟัง แล้วเขาก็ยอมสละเวลาให้เรา
ระหว่างที่กินอาหารที่ชิซึกุทำ พวกเราสามคนก็คุยกันเหมือนแต่ก่อน
เราสามคนไม่เป็นไรแล้วล่ะ มิตรภาพของพวกเราจะคงอยู่ตลอดไป ตอนนี้เหลือเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ต้องจัดการ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ…”
เย็นวันจันทร์หลังเลิกเรียน ฉันมาเจอกับโคกุเระคุงที่คาเฟ่
แน่นอนว่าฉันโทรขอบคุณเรื่องที่เขาช่วยฉันในวันเสาร์ไปเรียบร้อยแล้ว
ถึงเขาจะหัวเราะแล้วบอกว่าไม่ได้ทำอะไรใหญ่โต แต่ช่วงเวลาที่ได้คุยกับเขาทางโทรศัพท์กลับทำให้ฉันรู้สึกดีใจมาก
และวันนี้ โคกุเระคุงเป็นคนเรียกฉันมาหาเอง เพราะไม่มีชมรมและเขามีเรื่องสำคัญจะปรึกษา เราจึงมาที่คาเฟ่ที่ฉันชอบไป ฉันไม่ได้เจอเขาแบบตัวต่อตัวตั้งแต่วันเสาร์ แต่ทำไมวันนี้ฉันถึงไม่กล้ามองหน้าเขาเลยนะ
เมื่อแอบชำเลืองมอง ฉันก็สบตากับดวงตาอ่อนโยนของโคกุเระคุงเข้า
เอ๊ะ เขาดูหล่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รอยยิ้มเขินอายนั่นก็ดูน่ารักมากด้วย
ไม่ได้สิ ฉันต้องไม่คิดแบบนั้น ฉันเคยทำตัวรุนแรงกับผู้ชายมาตลอด
แต่โคกุเระคุงกลับแตกต่างจากคนพวกนั้น…
นี่ฉันกับโคกุเระคุงมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่นะ?
“ดูเหมือนว่าอาการไข้จะหายดีแล้วนะครับ ดีจังเลย”
“ใช่ ก็เพราะโคกุเระคุงช่วยไว้คืนนั้นน่ะ ขอบคุณมากๆ เลย”
“ผมไม่ได้ทำอะไรใหญ่โตหรอกครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวันอาทิตย์คุณได้คืนดีกับโอสึกิซังนี่แหละ”
คำพูดที่เขาพูดออกมาแบบสบายๆ แบบนี้กลับทำให้ใจฉันสั่นไหวอีกครั้ง
นี่ฉันมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ พอคิดว่าเขามีจุดหนึ่งที่ดี ก็เผลอคิดไปว่าทุกอย่างในตัวเขาดีหมดเลย
“ที่ผมเรียกคุณมาวันนี้เพราะมีเรื่องที่อยากพูดครับ”
“อื้ม นายบอกในไลน์ไว้แบบนั้นนี่”
อะไรกันนะ หรือว่าจะบอกว่าอยากหยุดเจอกันสองต่อสองแบบนี้แล้ว
บอกว่าจะเดินหน้าจีบชิซึกุเอง เพราะฉะนั้นฉันไม่จำเป็นอีกต่อไป ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงไม่อยากฟัง
ฉันเคยทำให้เขาลำบากมากมาย เลยตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักของเขาประสบความสำเร็จ
“บางที คงพูดได้แค่ตอนนี้เท่านั้นครับ”
“อื้ม บอกมาเถอะ”
ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมา… ฉันก็จะพยักหน้ารับโดยไม่หวั่นไหว แต่ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากเกี่ยวข้องกับเขาต่อไป
จนกว่าฉันจะเข้าใจความรู้สึกในใจนี้อย่างชัดเจน
“ต้องขอโทษด้วยครับ ความจริงแล้ว ผมไม่ได้ชอบโอสึกิซังเลยสักนิด”
“…หา?”
คำพูดนั้นเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคาดคิดเลย