[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 29 คืนที่มีแค่เราสอง 3
- Home
- [WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม
- ตอนที่ 29 คืนที่มีแค่เราสอง 3
ตอนที่ 29 คืนที่มีแค่เราสอง 3
“ผมเข้าใจแล้ว หวังว่าจะปรับความเข้าใจกันได้นะครับ”
“ปรับความเข้าใจกันไม่ได้หรอก ฉันกลัวที่จะเจอชิซึกุอีก ถ้าถูกมองด้วยสายตาเย็นชาแบบนั้นอีกครั้ง ฉันคงทนไม่ไหว”
“……”
“เธอบอกว่าเสียใจที่ฉันโกหก ถึงฉันจะขอโทษแค่ไหนก็อาจจะไม่ได้รับการให้อภัย”
คำพูดปลอบโยนอย่าง “ไม่มีทางหรอก” ก็คงเป็นเพียงคำพูดปลอบใจเท่านั้น
สิ่งที่จำเป็นคือต้องให้โอสึกิซังกับอาซาฮินะซังได้คุยกันตรง ๆ มิฉะนั้นปัญหานี้จะไม่สามารถแก้ไขได้
และสิ่งที่ผมควรทำตอนนี้มีหนึ่งอย่าง…
“อ้าว…? “
อาซาฮินะซังจับศีรษะตัวเอง สีหน้าดูเลื่อนลอย และใบหน้าของเธอแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“มีปรอทวัดไข้ไหมครับ?”
“อยู่ตรงนั้นค่ะ”
ผมเปิดลิ้นชักและหยิบปรอทวัดไข้ส่งให้เธอ เมื่อเธอวัดอุณหภูมิแล้วผมก็ตรวจดูตัวเลข
ประมาณสามสิบเจ็ดต้น ๆ…
“พอกินข้าวเข้าไปแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เลยอาจจะเหนื่อยจนไข้ขึ้นก็ได้”
“วันนี้คุณควรเข้านอนเลยนะครับ กลับไปที่ห้องพักเองได้ไหมครับ?”
“…อืม แต่ว่า… ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้นายอยู่ด้วย”
ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียวจริง ๆ
ในค่ำคืนวันเสาร์ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลย พ่อแม่ของเธอไปทำงาน ส่วนพี่ชายก็อาศัยอยู่ในหอพัก
ถ้าไม่มีโอสึกิซังอยู่ เธอคงต้องอยู่คนเดียวตลอด
ระหว่างที่อาซาฮินะซังเปลี่ยนชุดเตรียมตัวเข้านอน ผมก็เตรียมของที่ช่วยบรรเทาอาการไข้ไปด้วย
“…ไม่นึกเลยว่าจะได้เข้าห้องผู้หญิงในสถานการณ์แบบนี้”
จะให้พูดตรง ๆ ก็อยากให้มันเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้ แต่หนีไปตอนนี้ก็คงไม่ได้
ผมถือของที่เตรียมไว้ขึ้นไปยังหน้าห้องของอาซาฮินะซังที่ชั้นสอง และเคาะประตู
“เข้าไปได้ไหมครับ?”
“อืม ได้ค่ะ”
ผมค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ นี่คือห้องส่วนตัวของอาซาฮินะ อาริสะ
โอ้โห กว้างมาก! ใหญ่กว่าห้องของผมสองเท่าได้มั้ง…
“ขอโทษนะที่ทำให้นายต้องมาทำแบบนี้แทนที่ชิซุึกุ”
“โอสึกิซังบอกว่าเธอทำงานพิเศษอยู่สินะครับ ถ้าอย่างนั้นผมก็สมัครเป็นพนักงานแทนบ้างดีไหม?”
“ถ้าชิซึกุไม่มาอีกแล้ว… ฉันจะจ้างนายแทนก็ได้นะ”
คำพูดที่ดูเศร้าแบบนั้นไม่เหมาะกับอาซาฮินะซังเลย
แต่ในขณะเดียวกันชุดนอนที่เธอใส่ก็ช่างน่ารักและเผยให้เห็นความอ่อนโยนของรูปร่าง
แม้ในขณะที่เธอกำลังป่วย แต่ความน่ารักและเสน่ห์ของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลย
ถ้าไม่ใช่ผม คนอื่นอาจจะอดใจไม่ไหวไปแล้วก็ได้
อาซาฮินะซังนั่งลงที่เตียง
“โคกุเระคุง นั่งไกลแบบนั้นคุยกันไม่ได้หรอกนะ มานี่สิ”
“อึ๊ก… หรือว่าคุณคิดว่าผมเป็นผู้หญิงหรือไง?”
“เปล่านะ โคกุเระคุงเป็นผู้ชายนะ ตอนที่นายอุ้มฉันเมื่อกี้ ทั้งแข็งแรงแล้วก็…ดูเท่มากเลย”
“อ๊ะ อื้ม…”
ถูกพูดตรง ๆ แบบนี้มันทำให้เขินจนแทบอยู่ไม่สุขเลย…
คืนนี้อาซาฮินะซังดูน่ารักเกินไปจริง ๆ
พูดตรง ๆ ผมรู้สึกว่าเธอดูดีกว่าตอนที่เธอแสดงท่าทีเย็นชาและสร้างกำแพงกับผู้ชายด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“กรี๊ด!”
อาซาฮินะซังรีบเอามือปิดหู ตอนอยู่ในห้องนั่งเล่นเรายังเปิดเพลงกลบเสียงได้ แต่ในห้องนอนทำแบบนั้นไม่ได้
“นี่ โคกุเระคุง ขออะไรสักอย่างได้ไหม?”
“ถึงขั้นนี้แล้ว อะไรก็ได้ครับ”
“…ช่วยจับมือฉันจนกว่าฉันจะหลับได้ไหม?”
“เอ่อ…”
อาซาฮินะซังล้มตัวลงไปในผ้าห่ม
นี่เธอกลายเป็นเด็กขี้อ้อนอีกแล้วเหรอ?
หรืออาจจะเป็นเพราะเธออ่อนแอจนเหมือนถอยกลับไปสู่วัยเด็ก?
เหมือนตอนที่ต้องดูแลฮิโยริยังไงยังงั้น
การจับมือมันมีความหมายพอสมควรนะสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง…
“ถ้าไม่สะดวก จะนอนด้วยกันเหมือนกับที่ฉันเคยนอนกับชิซึกุก็ได้นะ”
“จับมือเถอะครับ”
อาซาฮินะซังคงมีไข้จนสติเลือนรางไปแน่ ๆ ถ้าฟื้นขึ้นมาเธออาจจะฆ่าผมก็ได้
ดังนั้นผมต้องปฏิเสธความเย้ายวนทุกอย่างในคืนนี้ให้ได้
แต่ถึงอย่างนั้น การจับมือก็ดูเป็นอะไรที่…สำคัญอยู่ดี
ผมบอกแล้วว่าผมเป็นผู้ชายนะ
ผมค่อย ๆ จับมือที่ยื่นออกมาจากอาซาฮินะซัง
“มือของโคกุเระคุง…ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากเลย”
“ก็ดีแล้วล่ะครับ”
“มือของผู้ชายมันแปลกดีนะ เพราะปกติฉันเคยจับแต่ของชิซึกุเท่านั้น”
ในใจผมเต้นแรงจนไม่เป็นสุขเลย นี่มันไม่ดีต่อสุขภาพหัวใจเลยจริง ๆ…
แต่มือของเธอช่างเนียนนุ่ม สะอาด และสวยมาก
ผมนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอพิงกำแพงจนกว่าเธอจะหลับสนิท
“ฉันคิดว่า…”
เสียงของอาซาฮินะซังแผ่วเบาเหมือนใกล้จะหลับเต็มที
“ฉันคิดว่าคนที่โคกุเระคุงชอบ…”
“……”
“ถ้าไม่ใช่ชิซึกุ…ก็คงดี…”
“เอ๋? หมายความว่าไงครับ?”
“ฟี่… “
“หลับตอนนี้เลยเหรอครับ… แต่ก็ดีแล้วล่ะ”
—
อาซาฮินะซังตอนนี้อาจจะไม่มีใครพึ่งพิงได้ และบังเอิญว่าผมคือคนที่เธอไว้ใจที่สุดในตอนนี้…
ถึงอย่างนั้น…
“เฮ้อ…”
นี่มันทำให้ใจผมเต้นจนไม่เป็นสุขเลยจริง ๆ
ระหว่างที่เธอกำลังหลับ ผมเผลอคิดถึงตอนที่ต้องดูแลฮิโยริเวลาป่วย
เธอบอกว่าถ้าได้ลูบหัวเวลามีไข้จะรู้สึกดีขึ้น…
การลูบหัวผู้หญิงตอนที่เธอกำลังหลับอยู่แบบนี้มันไม่ควรทำเลย…
แต่เธอดูเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องการการดูแลจริง ๆ
“นอนให้สบายครับ”
ผมวางผ้าชุบน้ำไว้บนหน้าผากของอาซาฮินะซัง และลูบหัวเธอเบา ๆ เหมือนที่เคยทำกับฮิโยริ
ผมลูบอย่างอ่อนโยน หวังว่าเธอจะฟื้นตัวและกลับมาเป็นอาซาฮินะซังคนเดิมในวันพรุ่งนี้
ไข้ของเธอไม่ได้สูงมากนัก คาดว่าคงจะลดลงในเช้าวันรุ่งขึ้น
เธอได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอแล้ว
ฝนดูเหมือนจะหยุดในช่วงดึกนี้… ถ้าตอนเช้าก็คงไม่มีปัญหา
แต่ตอนกลางคืนจะให้ปล่อยบ้านไว้โดยไม่ได้ล็อกกุญแจแล้วกลับบ้านคงไม่เหมาะสม
บางทีผมน่าจะพักที่โซฟาในห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางนั่นสักคืน
พอตื่นขึ้นมาค่อยเตรียมตัวไปทำธุระที่วางแผนไว้
“พูดตรง ๆ… ผมค่อนข้างโกรธอยู่นะ”