[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 26 ความเชื่อใจ : มุมมองอาริสะ
- Home
- [WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม
- ตอนที่ 26 ความเชื่อใจ : มุมมองอาริสะ
ตอนที่ 26 ความเชื่อใจ : มุมมองอาริสะ
ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเรื่องไหน ความคิดในหัวของฉันมันลื่นไหลไปหมด ร่างกายที่ถูกฝนสาดเข้ามาทำให้ตัวฉันสั่น
“วันนี้นะ ตอนกลางวันมีคนกลับมาที่บ้านนี่แหละ อาริสะบอกว่าจะไม่กลับจนถึงเย็นเลยใช่ไหม เลยคิดว่าบางที… คงจะเป็น… ชิซึรุซัง”
พี่ชายของฉันกลับมาบ้านแล้ว จริงๆ บ้านฉันที่นี่ไม่มีปัญหาหรอก แต่ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีอย่างนี้นะ
“ข้างๆ ชิซึรุซังนั้น… มีคนที่หน้าตามีความสุขชื่อว่า โคโคโระ”
“!!”
“ฉันไม่รู้มาก่อนนะว่าชิซึรุซังกับโคโคโระเป็นแฟนกัน ดูเหมือนจะเหมาะสมกันจริงๆ”
“…”
“อาริสะรู้ไหม?”
“ฉัน… ฉัน…”
“แน่ละว่าเธอรู้ใช่ไหม? ฉันรู้สึกชอบชิซึรุซังจริงๆ แต่มันคงเป็นรักที่ไม่สมหวังอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทอย่างโคโคโระ ฉันก็ยินดีและอวยพรให้แบบนี้แหละ แต่…”
คำพูดของชิซึกุกลับหนักแน่นขึ้น ทำให้ฉันไม่สามารถตอบกลับอะไรได้
“ฉันคิดว่าการซ่อนความจริงแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ? เธอคิดว่าจะทำลายความสัมพันธ์ของชิซึรุซังกับโคโคโระเหรอ?”
“ไม่ใช่! ฉันขอโทษที่ปิดบังนะ ฉันแค่…”
“ถ้าเธอห่วงใยฉันจริงๆ ก็น่าจะพูดออกมาตรงๆ นะ”
“…อ่ะ”
“เธอไม่เชื่อใจฉันสินะ”
ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา ฉันได้ยินคำพูดนั้นจากชิซึกุ ก่อนที่เธอจะเดินกลับบ้านของตัวเองไป
หลังจากที่พี่ชายกับโคโคโระเริ่มคบกัน ฉันกลัวว่าความสัมพันธ์ของเราทั้งสามจะหายไปเลยบอกให้โคโคโระและชิซึรุไม่พูดอะไรออกไป
ฉันแค่ต้องการให้ความสัมพันธ์ที่เรามีอยู่ตอนนี้มันคงที่และไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ก็อย่างที่ชิซึกุพูด… ถ้าฉันพูดออกไปแต่แรกก็อาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้
ฉันคิดว่าคงไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก เพราะเขาทั้งสองเรียนในโรงเรียนประจำแล้วก็ยุ่งกับกิจกรรมต่างๆ มากจนไม่ได้ออกไปเดตกันบ่อยๆ
ทำไมกัน พวกเขาถึงกลับมาที่บ้านพร้อมกันแบบนี้? ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย…
แต่จริงๆ ปัญหามันก็เกิดจากการที่ฉันไม่พูดออกไปแต่แรกเอง ฉันผิดเองทั้งหมด
ฝนตกหนักทำให้ฉันเปียกไปทั้งตัว ก่อนที่จะกลับมาถึงบ้าน ฉันล้มตัวลงนอนบนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่ไม่มีแสงไฟ
ฉันไม่เคยมีปัญหากับชิซึกุเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกัน ดวงตาของเธอที่มองฉันด้วยความเย็นชา… ฉันรู้สึกเหมือนจะไม่ได้กลับไปเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิมได้แล้ว
ในตอนนั้น เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างแรง
“อ๊ะ!”
ร่างกายของฉันสั่นเทิ้มและกุมศีรษะไว้
แสงสว่างวาบเพียงเสี้ยววินาที ตามด้วยเสียงที่กึกก้อง ฉันมีความทรงจำเกี่ยวกับฟ้าผ่าตั้งแต่เด็กจนทำให้ฉันกลัวมันมาก
ฉันไม่สามารถทนได้ถ้าไม่มีชิซึกุอยู่ข้างๆ ในวันที่ฟ้าผ่า
“แต่ว่า!”
ชิซึกุไม่สามารถมาหาได้ ฉันทำร้ายเธอไปแล้ว
ฝนตกทั้งคืน เสียงฟ้าผ่าก็ดังอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่ฟ้าผ่า ฉันต้องปิดหูตัวเองและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
กลัว กลัว กลัว… แต่ฉันต้องทนให้ได้
ทุกคนคงรู้สึกเสียใจเพราะฉัน ไม่ใช่แค่ชิซึกุ แต่โคโคโระและพี่ชายก็ต้องเป็นห่วงฉันเหมือนกัน ฉันเป็นคนผิดทั้งหมด แต่มันก็กลัวเกินไป ใครสักคนช่วยฉันที
‘ถ้า… ฉันเป็นไข้หรืออะไรแบบนั้น นายจะเป็นห่วงฉันไหม’
‘ต้องห่วงสิครับ นี่มันเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ’
‘ถ้าเป็นเรื่องที่ผมทำได้ ผมจะช่วยเต็มที่’
ฉันนึกถึงคำพูดของเขาด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นในหัวใจ ฉันหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาแล้วกดโทรหาหมายเลขของโคกุเระคุง ด้วยความหวังว่าคงจะมีใครมาช่วย
และแล้วสายก็เชื่อมต่อ
“ครับ… อาซาฮินะซัง มีอะไรเหรอครับ?”
“ฉัน… อ๊ะ!”
ทันทีที่พูดออกไป เสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ความตกใจทำให้สมาร์ทโฟนหลุดมือและตกไปที่ข้างหน้าต่าง
ฉันพยายามยื่นมือไปหยิบมัน แต่แสงสว่างจากฟ้าผ่าเข้ามาจับตาฉัน และเสียงกึกก้องตามมา
ถึงจะอยากไปหยิบโทรศัพท์ แต่ร่างกายก็ไม่ยอมขยับไปที่หน้าต่างได้ และ… สายก็ถูกตัดไป
ใช่แล้ว คงเป็นเรื่องเสียมารยาทที่โทรไปแต่ไม่พูดอะไร ไม่แปลกที่จะโดนตัดสายไป
ฉันปิดหูแล้ว… เอาหัวก้มลง… นั่งอยู่ที่พื้นกับความหวาดกลัวที่คุกคามตัวเอง
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน… สิบ นาที? หรือเป็นชั่วโมง?
จนกระทั่งเสียงกริ่งประตูดังขึ้น
ในสายฝนที่ตกหนักขนาดนี้ ใครจะมาที่นี่? หรือว่าจะเป็นชิซึกุ?
มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก… เพราะเราทะเลาะกันแล้ว และชิซึกุก็น่าจะมีกุญแจสำรองอยู่แล้ว
ฉันไม่มีกำลังที่จะตอบรับเสียงกริ่งนั้นเลย แต่…
“อาสึฮินะซางง! อยู่ในบ้านไหมครับบ!? โคกุเระเองครับ! ถ้ามีอะไรที่ต้องการความช่วยเหลือ กรุณาเปิดประตูด้วยครับ!”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง
มันคือเสียงของเขาที่อยู่กับฉันตลอดทั้งวัน ฉันลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปที่ประตู
ฉันเปิดประตูออกและเห็นเขายืนอยู่ในชุดกันฝนเปียกโชกไปทั้งตัว… ฉันตะโกนออกมาพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดเขาเหมือนในตอนเช้า
TLN: ปรับอารมณ์ไม่ทัน