[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 13 สาวน้อยผู้โดดเดี่ยว 2 : มุมมองอาริสะ
- Home
- [WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม
- ตอนที่ 13 สาวน้อยผู้โดดเดี่ยว 2 : มุมมองอาริสะ
ตอนที่ 13 สาวน้อยผู้โดดเดี่ยว 2 : มุมมองอาริสะ
ฉันวางสมาร์ทโฟนลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเด็กสาวที่ส่งเสียงมาทันที
“ชิซึกุ! รออยู่นะ!”
“กรี๊ด! พอแล้ว~”
ด้วยความสูงที่ต่างกันประมาณสิบเซนติเมตร ทำให้พอฉันโอบด้วยสองมือ ร่างเล็กๆ ของชิซึกุก็เหมือนจะจมหายไปในอ้อมแขนฉัน
โอสึกิ ชิซึกุ เพื่อนสมัยเด็กและเพื่อนสนิทที่สุดของฉันได้มาหาแล้ว
“วันนี้เธอไม่กลับบ้านพร้อมฉัน ฉันเหงานะ”
“ขอโทษนะ อาริสะ”
“อืม~ งั้นถ้าปลอบฉันหน่อย ฉันจะยกโทษให้”
“วันนี้ฉันเตรียมแกงกะหรี่ที่เธอชอบมากๆ ไว้แล้วนะ มากินด้วยกันเถอะ”
“เย้!”
ฉันชอบแกงกะหรี่ฝีมือชิซึกุมากๆ!
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนเดินเข้าไปในครัว
ฉันเลยรออย่างใจเย็นจนกว่าอาหารจานโปรดของฉันจะเสร็จ
“เธอนอนแผ่หลาบนโซฟาอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย ชุดนักเรียนยับหมดเลยนะ”
“ก็… มันว่างนี่นา”
“ล้างมือรึยัง? ต้องบ้วนปากให้เรียบร้อยด้วยนะ”
“ค่า~ แม่”
“ฉันนี่น่าจะพร้อมเป็นแม่คนได้เลยล่ะ”
ปกติในโรงเรียนฉันจะวางตัวเรียบร้อย แต่พออยู่บ้านกลับเป็นคนติดชิซึกุสุดๆ
ชิซึกุเป็นเพื่อนสนิทและคนสำคัญที่สุดที่ฉันไว้ใจได้มากกว่าใคร
ทั้งอ่อนโยน น่ารัก และเก่งไปซะทุกอย่าง
“ชุดนักเรียนที่ถอดก็วางไว้ตรงนั้นนะ เดี๋ยวฉันรีดให้ทีหลัง แต่ไม่ต้องถอดตรงนี้!”
“…อาริสะ หน้าอกใหญ่ขึ้นอีกแล้วเหรอ?”
“อืม… ดูเหมือนจะใช่”
“งั้นเราต้องไปซื้อชุดชั้นในใหม่กันอีกแล้วสิ ไปกันวันเสาร์อาทิตย์หน้านะ”
“อื้ม!”
อา~ ชิซึกุช่างพึ่งพาได้จริงๆ
…แต่ก็นะ บางทีฉันอาจจะเป็นคนที่ขี้เกียจเกินไปเอง
ที่ชิซึกุคอยดูแลฉันแบบนี้ก็มีเหตุผลอยู่
ตอนที่พี่ชายของฉันย้ายออกไปเรียนมัธยมปลาย ฉันตั้งใจจะเริ่มทำอาหารเอง แต่ดันทำไฟเกือบไหม้บ้านซะก่อน
ทั้งงานบ้านและการซักผ้าของฉันก็แย่มากๆ จนชิซึกุซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทนไม่ไหว เลยยื่นมือเข้ามาช่วย
เดิมทีเธอเป็นคนชอบดูแลคนอื่นอยู่แล้ว แต่กับฉันที่ดูเปิ่นแบบนี้ เธอคงปล่อยให้เป็นแบบนั้นต่อไปไม่ได้
หลังจากคุยกับพ่อแม่ของฉันแล้ว เราก็ตกลงจ้างชิซึกุเป็นแม่บ้านช่วยทำงานให้
พอดีกับที่เธอกำลังมองหางานพาร์ทไทม์ตอนเข้ามัธยมปลาย เลยกลายเป็นว่าต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์
ชิซึกุเลยช่วยดูแลงานบ้านในวันเสาร์อาทิตย์และทำอาหารให้ฉันในวันธรรมดา
ถึงจะดูเหมือนงานหนัก แต่เธอบอกว่าช่วงวันธรรมดามีแม่บ้านมาช่วยงานอื่นอยู่แล้ว เธอเลยรับผิดชอบแค่เรื่องอาหาร
กลิ่นแกงกะหรี่หอมๆ ลอยมาเตะจมูก
พูดถึง “รสชาติของบ้าน” ของฉัน มันจะเป็นแกงกะหรี่ของชิซึกุเสมอที่ถูกจดจำในหัวไปตลอดกาล
“ตอนขากลับวันนี้ ฉันเจอโคโคโระด้วยล่ะ ตอนเดินกลับบ้านพร้อมเขาน่ะ”
“เธอยังสบายดีอยู่เหรอ?”
“เหมือนเดิมเลย ดูเหมือนจะยังหมกมุ่นกับชมรมเหมือนเคย”
“อย่างงั้นเหรอ ถ้าโคโคโระเรียนโรงเรียนเดียวกับเรา เราก็คงได้กินข้าวสามคนเหมือนเมื่อก่อนไปแล้วเนอะ”
ฉันกับชิซึกุและโคโคโระ เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็กและอยู่ด้วยกันจนจบมัธยมต้น
แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านว่ายน้ำ โคโคโระเลยไปเรียนโรงเรียนกีฬาชื่อดังเหมือนพี่ชายของฉัน
พวกเราต่างรู้ดีว่าเมื่อขึ้นมัธยมปลายแล้ว การแยกย้ายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่เพราะฉันกับชิซึกุไม่ได้มีเพื่อนเยอะ ก็เลยอดเหงาไม่ได้
เสียงชิซึกุตะโกนบอกว่าแกงกะหรี่เสร็จแล้ว ฉันเลยนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
“ยังไงเธอก็ดูสบายดี ฉันก็ไม่กังวลแล้วล่ะ แต่พักนี้เธอส่งข้อความหาฉันน้อยลงเลยแอบเป็นห่วงนิดหน่อย”
“อืม…”
“แต่ข้อความในแชทของฉันก็มีแต่ของอาริสะเต็มไปหมด เลยไม่รู้สึกเหงานะ ว่าแต่…”
ชิซึกุวางจานแกงกะหรี่ไว้ตรงหน้าฉัน
กลิ่นหอมมาก น่าจะกินได้เยอะเลย!
แต่เพราะมีแพนเค้กอยู่ในท้องแล้ว คงกินได้ไม่เกินสามจานมั้ง
ชิซึกุยังยืนนิ่งอยู่ ฉันเงยหน้ามองเธอ เห็นว่าเธอยิ้มอยู่
“เธอบอกว่าเดินกลับมาพร้อมใคร ตอนนี้อยากบอกฉันไหมล่ะ?”
“อึก!”
ฉันพูดบางสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป แต่ฉันไม่สามารถปิดบังอะไรจากชิซึกุที่ฉันรักที่สุดได้
“วันนี้นะ ฉันมีเวลาเหลือเลยไปเรียกโคกุเระคุงออกมา ถามว่าเขามายุ่งกับชิซึกุทำไม”
“หา!? จริงเหรอ!? เธอทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ!? ให้ตายสิ! แค่ปรึกษาไว้ กลับเรียกออกมาคุยทันทีเลยเหรอ”
“ถ้าเขาคิดจะทำอะไรไม่ดีกับเธอ ฉันก็ต้องจัดการให้เร็วที่สุดสิ”
“ก็จริง… แต่ถ้าถึงขั้นเดินกลับบ้านด้วยกัน ก็หมายความว่าโคกุเระคุงไม่ได้เป็นภัยอะไรใช่ไหมล่ะ”
“นั่นสินะ… คงเป็นแบบนั้น”
“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดี”
โคกุเระคุงเหรอ…
เขาเป็นเพื่อนผู้ชายในห้องเดียวกัน ก่อนหน้านี้ฉันแทบจะไม่รู้สึกถึงตัวตนของเขาด้วยซ้ำ เป็นเหมือนนักเรียนธรรมดาที่ไม่มีพิษมีภัย
แต่… การพูดคุยกับเขามันกลับทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมาก
“ใช่ เขาไม่เลวร้ายหรอก”
“หา? โอ้โห ถึงกับพูดอย่างมั่นใจเลยเหรอ แต่ว่าคนที่เกลียดผู้ชายอย่างอาริสะจะยอมเดินกลับบ้านด้วยกันนี่หายากนะ”
“นั่นล่ะ โคโคโระเองก็พูดแบบนั้นเหมือนกัน”
ฉันเป็นคนที่ระวังตัวกับผู้ชายที่มีท่าทีสนใจฉันเสมอ
ที่ผ่านมา มีผู้ชายกี่คนแล้วนะ… อาจจะเป็นสิบ เป็นร้อย หรืออาจจะถึงสามหลักที่มองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
เพราะแบบนั้น ฉันถึงได้ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่มีวันเชื่อใจผู้ชายพวกนั้นเด็ดขาด
ถึงแม้ว่าฉันจะสนใจเรื่องความรักในระดับปกติ มีอ่านการ์ตูนรักของชิซึกุอยู่บ้าง และบางครั้งก็แอบคิดว่าอยากมีความรักแบบนั้น
แต่ตัวฉันเองไม่เคยมีความรักมาก่อนเลย อาจเป็นเพราะทุกครั้งที่เจอผู้ชาย ฉันจะเริ่มต้นจากความระแวงก่อนเสมอ
และจริงๆ ฉันก็คิดว่าการมีความรักตอนเรียนมัธยมปลายไม่จำเป็นนักหรอก
เพราะคู่รักในวัยมัธยมที่ไปถึงขั้นแต่งงานกันได้จริงๆ มันมีอยู่น้อยมาก
ฉันเลยตั้งใจว่าจะเริ่มสนใจเรื่องความรักตอนมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็หลังเริ่มทำงานไปแล้วก็ยังไม่สาย
ฉันค่อนข้างมั่นใจในฐานะทางบ้านและรูปลักษณ์ของตัวเอง
ถ้ารอถึงตอนนั้น ฉันน่าจะมีโอกาสเลือกผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้แน่ๆ
แต่ฉันก็สงสัย… ทำไมถึงไว้ใจโคกุเระคุงได้ขนาดนั้น
ทั้งๆ ที่ฉันตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เปิดใจให้ผู้ชายคนไหนง่ายๆ
หรืออาจเป็นเพราะฉันรู้ว่าเขาไม่ได้สนใจฉัน แต่สนใจชิซึกุแทน ฉันเลยสบายใจ?
“ถ้าอาริสะไว้ใจได้ขนาดนั้น ก็คงไม่ใช่คนเลวจริงๆ นั่นแหละ ตอนแรกฉันยังคิดเลยว่าเขาอาจเข้ามาคุยกับฉันเพราะเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่สินะ”
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
ที่ผ่านมา ผู้ชายที่เข้ามาวุ่นวายกับชิซึกุไม่ได้มีน้อยเลย
และเกือบทุกครั้งจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือการใช้ชิซึกุเป็นทางผ่านเพื่อเข้าใกล้ฉัน
เพราะแบบนั้น ฉันถึงลงโทษพวกเขาแบบเหมาะสมเสมอ
แต่สำหรับโคกุเระคุง เขาดูเหมือนจะกลัวฉันด้วยซ้ำ
“แต่ตอนจบเหมือนเขาดูถูกฉันยังไงไม่รู้ เลยหงุดหงิดหน่อยๆ”
“หา? หมายความว่ายังไง?”
“ไม่มีอะไรหรอก เขาบอกว่าแค่คุยกับเธอเพราะบังเอิญนึกขึ้นมา แต่ชิซึกุน่ะน่ารักที่สุดในโลก เขาเลยอาจจะเริ่มสนใจเธอก็ได้นะ”
“เฮ้อ~ พูดแบบนี้ มีแค่เธอกับโคโคโระเท่านั้นแหละที่ชมฉันแบบนี้ ฉันไม่ได้ดีขนาดนั้นสักหน่อย”
ฉันยังบอกไม่ได้หรอกว่าโคกุเระคุงชอบชิซึกุ
ก่อนอื่นฉันต้องพยายามให้ทั้งสองคนก้าวข้ามความสัมพันธ์แค่เพื่อนกันไปก่อน เพราะว่า…
เสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนดังขึ้น ฉันหันไปดูข้อความที่เพิ่งเข้ามา
“อ๋อ… จากชิซึรุนี่เอง”
“หา? ชิซึรุซังเหรอ!?”
ชิซึกุยิ้มกว้างจนหน้าสดใสขึ้นมาทันที
อา… น่ารักมาก ฉันชอบเห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอจริงๆ
ชิซึรุคือพี่ชายของฉันที่แก่กว่าฉันหนึ่งปี และตอนนี้อาศัยอยู่ที่หอพัก เลยไม่ค่อยได้กลับมาบ้านบ่อยนัก
เราสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และถึงจะพูดแบบลำเอียงในฐานะน้องสาว แต่พี่ชายของฉันดูเหมือนจะมีเสน่ห์ดึงดูดมาก
ไม่มีใครในโรงเรียนของเราที่จะเทียบพี่ชายฉันได้เลย
ฉันอ่านข้อความจากเขา
“ชิซึรุบอกว่าพรุ่งนี้จะแวะมาบ้าน ควรจะชวนเขาทานข้าวเย็นดีไหมนะ”
“จริงเหรอ! ฟุฟุ… ถ้างั้นต้องทำอาหารอร่อยๆ แล้วสิ ไม่ได้เจอชิซึรุซังตั้งนานแน่ะ”
ชิซึกุหน้าแดง มือวางไว้ที่หน้าอกอย่างเขินอาย
เธอแอบชอบชิซึรุมาตั้งแต่สิบปีที่แล้ว เธอรักษาความรักนี้ไว้มาตลอดอย่างจริงใจ
แต่ความรักนี้มันอันตรายเกินไป
ฉันต้องรีบ… ถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่าง ชิซึกุอาจจะรู้ความจริงเข้า
และถ้าเธอรู้ ทุกอย่างระหว่างเราสามคน—มิตรภาพในฐานะเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก—อาจพังทลายลง
ฉันต้องจุดชนวนบางอย่างให้เกิดขึ้น ระหว่างคิดแบบนั้น ฉันก็เห็นว่ามีข้อความในไลน์ที่ยังไม่ได้อ่าน
อ๋อ… ลืมไปเลยว่าแชทกับโคกุเระคุงยังไม่จบ
โคกุเระ เรียวมะ : “ผมแนบสูตรซอสคาราเมลสำหรับราดแพนเค้กมาให้ด้วยครับ ลองทำแล้วกินกับคุณโอซึกุดูนะครับ”
“นี่ ชิซึกุ”
“อะไรเหรอ?”
“พรุ่งนี้เช้า ฉันอยากกินอะไรบางอย่าง”
ฉันต้องพยายาม… ต้องทำให้โคกุเระคุงเริ่มสร้างแรงสั่นสะเทือนในจิตใจของชิซึกุให้ได้
“แพนเค้ก! ส่วนมื้อเย็นขอเป็นไก่ทอดนะ”