[WN]หนุ่มผู้ไม่เชื่อใจใครกับแกลสาวไร้เพื่อน - ตอนที่ 4 คำสารภาพรัก มันไม่ใช่เกมหรอกนะ
[มาโกโตะ ลูกจะเข้ามหาลัยอะไรหรอลูก? ลูกควรที่จะเลือกเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่ดี แต่ลูกกลับเลือกที่จะเข้าโรงเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆ….ลูกไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องเงินนะ]
แม่เลี้ยงและน้องสาวของผมกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่
น้องสาวของผมยังคงมีสีหน้าง่วงนอนขณะกำลังกัดขนมปังคำเล็กๆเข้าปาก
ผมคิดเพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าและไปโรงเรียน
ผมไม่เคยที่จะกินข้าวกับครอบครัวเลย
มันจะมีความเงียบและบรรยากาศที่น่าอึดอัดถ้าผมทำแบบนั้น
[ไม่เป็นไรครับ แบบที่คุณเคยพูด ผมจะต้องออกไปอยู่คนเดียวตอนที่ผมเรียนจบ ผมไม่ต้องการรบกวนอะไรคุณมาก]
ใบหน้าของแม่แสดงความขมขื่นขึ้นอีกครั้ง
ผมยังคงจำได้ในตอนนั้น…
[จ่ายค่าเทอมเด็กตั้งสองคนมันก็ไม่ไหวนะ และหนึ่งในนั้นยังเป็น ‘เด็กมีปัญหา’ ด้วย] (TSL : คงรู้นะว่าใครฮาฮา)
[เด็กชายคนที่ทำร้ายผู้หญิงคนนั้น มันไม่ใช่ลูกของฉัน!]
[แก…แก!! ไอสัตว์ประหลาด ใช่ ออกไปจากบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้!!!!!!!!]
นี่คือคำพูดที่ผมได้ยินในตอนเด็ก…
คำพูดนี่ยังคงฝังอยู่ในใจผม ผมไม่สามารถถอนมันออกได้และมันยังคงฝังรากลึกและเน่าจากภายใน
แม่ของผมมองผมด้วยสายตาที่ขมขื่น
[นั่นมันเป็นเพราะตอนนั้นแม่อารมณ์เสียและพูดด่าไปโดยไม่ได้คิด…ลูกยังคงเป็นลูกของแม่เสมอ ดังนั้นลูกควรแข็งแกร่งและเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องสาว…นั่นเพราะลูกเป็นพี่ชายคนโต]
อ่า…พี่ชายคนโตสินะ
ผมไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ผมได้ยินคำพูดนี้ ทุกครั้งที่ได้ยินผมก็จะรู้สึกเจ็บปวด
แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรกับมันอีกแล้ว
[อืม ผมเข้าใจแล้ว]
น้องสาวที่ยังง่วงนอนของผมพึมพำเบาๆขณะที่ในปากยังคงมีขนมปังอยู่
[อึก หนูจำอะไรไม่ได้เลยเมื่อคืน….หนูลืมมันไปหมดหลังจากที่หนูนอนหลับ…หนูง่วงมาก…โอนี่จัง จะออกจากบ้านหรอ? พี่ชายจะไปเที่ยวที่ไหน?]
แม่เลี้ยงผมเช็ดปากของน้องสาวผม
แม่เลี้ยงของผมยังคงทำเหมือนน้องสาวของผมเป็นเด็กเสมอ ในสายตาของเธอ เธอคงมองว่าน้องสาวของผมยังเป็นเด็กและยังไม่ใช่เด็กมัธยมปลาย
[ลูกไม่ต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่แม่พูดหรอก เร็วเข้า เตรียมตัวไปโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวไปสายเอาหรอก]
[ฟุอ่า…พี่ชายยย รอหนูด้วยย]
ผมหยิบกระเป๋าของผมแล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่น
ผมไม่ชอบวันที่ผมต้องไปโรงเรียนเลย
มันมีนักเรียนเยอะมากที่โรงเรียน แต่ก็คงไม่มีใครคุยอะไรกับผมหรอก
ไม่มีใครเดินเป็นเพื่อนผมตอนไปโรงเรียน
แม้ว่าจะมีนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับผมเต็มไปหมด
มันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกโดดเดี่ยว
มันจะเป็นยังไงนะ–ถ้าผมได้ไปต่างโลก?
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มเขียนนิยายต่างโลก
เช้าวันนี้ ผมรู้สึกว่าแตกต่างจากทุกวันเล็กน้อย
ผมไม่ได้ดูมือถือของผม แต่ผมกลับไม่รู้สึกที่อยากจะดูเพจของผมในเว็บนิยาย
ผมไม่เคยหวังอะไรกับมัน นิยายเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ผมตั้งใจเขียนด้วยความต้องการของผมเอง
ผมพบว่าตอนนี้ผมกำลังเช็คเพจนิยายของผมอยู่
-ไม่มีการแจ้งเตือนเลย หืม?
ไม่มีข้อความใหม่มาหาผม แต่ข้อความของโปเมโกะกำลังสะท้อนกลับมาหาผมอีกครั้ง
เรื่องมันเกิดตอนที่ผมถึงหน้าประตูโรงเรียน
เพื่อนสมัยเด็กของผมที่ชื่อ ชิซูกะ มิยาซูกิ และผู้หญิงแปลกหน้าอีกคนกำลังรอใครบางคนอยู่ที่นั่น
ผมรู้สึกว่าผมควรหยุดและไม่เดินไปที่นั่น แต่ผมพูดกับตัวเองว่า
‘ไม่ต้องกังวลหรอก มันไม่อะไรเกิดขึ้นหรอก มีหลายคนอยู่ที่นั่น พวกเธอคงไม่ทำอะไรบ้าๆหรอก’
ผมสัมผัสได้ถึงดวงตาของพวกเธอที่มองมาที่ผม ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจมัน
นี่คือโลกที่ผมยอมรับ ปล่อยมันไปและ—
[เดี๋ยวก่อน! มาโกโตะ! ฉันต้องการจะคุยกับนาย! นายต้องได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน]
[นายคือชินโจ-คุง ใช่ไหม? ฉันเป็นเพื่อนของ ชิซูจิ ชื่อว่า โมโมะ คุโรซาว่า คุณรู้ไหม? ชิซูจิ เธอจริงจังนะ เรื่องที่อยากเป็นเพื่อนกับนายojt ?]
ชิซูกะจังก็เห็นชัดแล้วนิว่า ผมไม่สามารถกลับไปเป็นแบบนั้นได้อีก ผมคิดพร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มจอมปลอม
….บทสนทนาของเราดึงดูดสายตาอยากรู้อยากเห็นของหลายๆคนที่กำลังเดินเข้าโรงเรียน
มิยาซากิเป็นผู้หญิงที่โด่งดัง เธอยังน่ารักอีกด้วย และนั่นคงเป็นเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้คนอื่นสนใจ
มิยาซากิมองผมด้วยสีหน้าที่เสียใจ ถ้าเธอมองชายใดด้วยท่าทีเช่นนี้ ผมเชื่อว่าชายชาตรีร้อยทั้งร้อยต้องตกหลุมรักเธออย่างแน่นอน…..แต่ขอยกเว้นผมไว้คนนึง
[ฉ…ฉันไม่ได้โกหกนะที่ฉันสารภาพไป ฉันรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนายมากมาย แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว มองไปข้างหน้าสิ ทำไมนายถึงไม่ไปดูหนังกับฉันละ? มันน่าจะทำให้นายรู็สึกดีขึ้น]
[เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากเลยนะ ชิซูกะจัง]
คุโรซาว่าพยายามที่จะช่วยมิยาซากิ น้ำเสียงที่เธอพูดออกมานั้นเริ่มแฝงไปด้วยความโกรธ
[ฉันหมายถึง..นายคิดว่านายเป็นใคร? ห้ะ? ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาก่อน แต่เป็นฉัน ฉันจะช่างหัวอดีตนั่นซะ ไม่ว่านายจะก้าวร้าวหรือว่าเป็นตัวประหลาดแค่ไหน แต่ชิซูกะจัง บอกว่าเธอรักนาย นายคิดว่าเธอจะโกหกกับคำสารภาพแบบนี้หรอ? นายมันบ้า!]
[พอแล้ว! โมโมะจัง! ฉันไม่เป็นไร…]
ผมไม่เก็บคำของคุโรซาว่ามาคิดด้วยซ้ำ
ถ้าเป็นพวกคุณ คุณคิดว่าคุณจะฟังคำพูดพวกนี้จากคนที่แม้แต่จะไม่รู้จักกับคุณ ทั้งยังไม่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยซ้ำไหม? (TSL : ใช่ครับ เป็นผม ผมไม่ฟังแน่นอน)
มันไม่มีผลอะไรต่อใจของผมอีกต่อไปแล้ว
มิยาซากิไม่เคยที่จะแก้ข้อกล่าวหาที่ผมได้รับด้วยซ้ำ…
ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน? ผมถามหน่อย?
มันมีเพียงแค่คนที่เคยเจอเหตุการณ์นี้เท่านั้นที่จะเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดของผมเป็นอย่างดี
นั่นเป็นเหตุการณ์ก่อนที่ผมจะพบกับนานาโกะ
ผมใช้ชีวิตในแต่ละวันของผมอยู่อย่างเงียบๆในตอนนั้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับไซโตะซังยังคงตราตรึงอยู่ในใจของผม และผมใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับการที่จะไม่พูดคุยกับใครเลย
วันหนึ่งผมได้พบกับกลุ่มผู้หญิงโดยบังเอิญ
ในผู้หญิงกลุ่มนั้น มีผู้หญิงอยู่คนนึงที่ผมเคยคุยด้วยก่อนที่…จะเกิดเหตุการณ์..กับไซโตะซัง
ชื่อของเธอคนนั้น ถ้าจำไม่ผิด เธอชื่อว่า..คิซารากิซํง มันเป็นเรื่องง่ายที่ผมจะจำชื่อเธอได้ เพราะผมเคยคุยกับเธอบ่อยๆ
คิราซากิซังยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางของเธอดูเหมือนว่าไม่รู้จะทำตัวอย่างไร…
เธอสูดหายใจเข้าก่อนที่จะพูดออกมา…
[ฉัน…ชอบนายมานานแล้ว ได้โปรด..คบกับฉันได้ไหม…]
[ห้ะ? ผมหรอ? ทำไมละ? คุณไม่ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับผมหรอ?]
[ฉyนเชื่อในตัวนาย…นั่นเป็นเพราะฉันเป็นเพื่อนกับนายมาก่อนยังไงล่ะ]
คิซารากิซังมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน (TSL : พระเอกสมัยก่อนน่าจะโดนตกด้วยสายตาแบบนี้)
โอเคร ไม่เป็นไร ผมก็ไท่ได้เกลียดเธอ งั้นผมจะ…
[…เป็นเพื่อนกันมาก่อนงั้นหรอ อืม งั้นก็ได้ ผมเข้าใจแล้ว]
หลังจากที่ผมพูดออกไป คิซารากิซังก็ยิ้มด้วยอาการที่ผ่อนคลายลง
ผมคิดว่าเธอคงกังวลเรื่องที่จะสารภาพรักกับผม
แต่หลังจากนั้น ผมก็รู้ว่า ผมคิดผิด…
พวกเราส่งข้อความให้กัน ว่าจะกลับบ้านด้วยกัน 2 คน และนั่นเป็นความลับระหว่างเรา ที่ไม่ควรบอกให้ใครรู้
วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมได้คบกับเธอ ผมรู้สึกว่าหัวใจผมเต้นแรงจนเหมือนกับมันจะหลุดออกมาจากอกของผม
ในตอนที่ผมมาถึงจุดที่นัดพบกัน ผมพบกับกลุ่มผู้หญิงที่มาจากห้องเดียวกันกับผม
[เธอทำได้ คิราซากิ]
[ในที่สุด เธอก็ทำได้]
[ฮาฮาฮา [เราจะมองถึงอนาคตข้างหน้า] หยะแหยงวะ]
คิซารากิซังยืนอยู่กับพวกหล่อนด้วยท่าทางน่าสงสัย
[อืม…มาโกโตะ…ฉันขอโทษ…]
[ใช่ บอกมันออกไปซะ คิซารากิ]
ผมเข้าใจในทันที ผมถูกหลอก คำพูดของคิซารากิเป็นการยืนยันสิ่งที่ผมคิด
[มันเป็นเกมลงทัณฑ์…ตอนนี้ฉันกำลังสับสนกับความรู็สึกของฉัน ที่จริงแล้ว…]
ครั้งนึงผมเคยอกหักกับไซโตะซังมาแล้ว ผมเคยคิดที่จะไปอควาเรี่ยมและไปดูหนังกับเธอ
ผมอยากจะทำมันอีกครั้งกับคิราซากิซัง ผมจะไม่ทำอะไรที่มากเกินไปนั่นเป็นเพราะเราอยู่เพียงม.ต้น ผมแค่อยากจะมองไปยังอนาคตและคบกันต่อไปเรื่อยๆแค่นั้น…
ผมไม่สามารถให้อภัยกับความไร้เดียงสาของตัวผมเองได้…
มันมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นภายในใจของผม
ผมไม่ต้องการที่จะแสดงมันให้ใครเห็น
ผมหันหลังให้กับพวกหล่อนและเริ่มออกวิ่ง
ผมได้ยินเสียงหัวเราะตามมาข้างหลังผม
ผมโอเคร ผมจะแข็งแกร่งขึ้น
ผมรีเซ็ตมือถือของผม ในขณะที่กำลังวิ่งอยู่
[มาโกโตะเป็นอะไรหรือเปล่า? หน้านายดูซีดนะ…”]
[โอ้ ชิซูกะน่ารักที่ซู้ดดดดด แตกต่างจากนาย ห น้ า มื อ กั บ ห ลั ง ตี น เลย!!!]
ผู้หญิงไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนี้หรอก
มิยาซากิซังทำให้ผมเข้าใจถึงความน่ากลัวของคำพูดเหล่านี้ ผมควรที่จะขอบคุณเธอจากใจจริง
เมื่อผมคิดแบบนั้น รอยยิ้มจอมปลอมก็เริ่มปรากฎที่ใบหน้าของผม
ใจของผมกลับไปว่างเปล่าอีกครั้ง
[มิยาซากิ…]
[พวกแกกำลังขวางทางฉัน หลบไป]
มันเป็นเสียงที่ผมเคยได้ยินมาก่อน น้ำเสียงก็ยังคงเป็นเช่นเดิมแต่ผมรู้สึกได้ว่ามันแข็งกร้าวขึ้นตามอารมณ์ของคนพูด
[โอ้…ชิโนซูกะซัง! เดี๋ยว อย่าทำให้ฉันกลัวสิ้ เห้! พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ ฉันไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับเธอเลยนะ]
ผมรู้สึกว่าอุณหภูมิรอบๆตัวผมกำลังลดต่ำลง
ชิโนซูกะซังพูดด้วยน้ำเสียงโทนเย็นยิ่งกว่าที่แล้วๆมา
[เพื่อน? ดูปากณัชชานะคะ! ตู…ไม่…ใช่…]
[ฉันเชื่อเธอนะ ชิโนซูกะ! ฉันเชื่อว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดี เธอไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีเลย -จริงสิ! ทำไมพวกเราไม่ไปดูหนังด้วยกันละ ใช่นายด้วย ชินคุง]
เชื่ออีกแล้วเรอะ?
คำๆนั้นเป็นตัวกระตุ้นตัวผมอีกครั้ง…
สติของผมขาดสบั้นอีกครั้งหลังได้ยินคำนั้น
[เอ๋? เป็นอะไรไปมาโกโตะ]
[…มาโกโตะ แกจะทำอะไร?]
แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว…
ผมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป…
[ขอโทษนะ ชิโนซูกะ ผมอยากขอให้คุณ หุ บ ป า ก ตอนนี้ผมกำลังจะคุยกับเธอ มิยาซากิ และเธอด้วย คุโรซาว่า เอาล่ะ ผมอยากถามคำถามเหล่านี้กับพวกคุณ คุณเคยถูกกล่าวหาไหม? คุณเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเลว ทั้งๆที่คุณแค่ปกป้องผู้หญิงคนนึงไหม? คุณเคยโดนใครบางคนหักหลังไหม? คุณกำลังคุยกับคนที่คุณไม่เคยเข้าใจอะไรเกี่ยวกับเขาเลย! คุณไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขาบ้าง! ผมมีคำขอเพียงคำขอเดียว อ ย่ า ม า เ สื อ ก เ รื่ อ ง ข อ ง ผ ม แ ล ะ อ ย่ า ม า ยุ่ ง กั บ ผ ม มันคงไม่ยากเกินไปหรอกเนอะ สำหรับคุณ?]
ผมยิ้มด้วยรอยยิ้มจอมปลอมของผมอีกครั้ง และพูดต่ออย่างสุภาพ
[มันสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขสิ่งเหล่านั้น… อย่ามายุ่งกับผมอีก]
ผมได้ยินเสียงร้องไห้
พอผมเงยหน้าขึ้นมา ผมพบว่าเพื่อนสมัยเด็กของผม มิยาซากิ คนที่ผมเคยรัก กำลังร้องไห้ เธอสะอื้นและปล่อยคำพูดที่เศร้าโศกออกมา คุโรซาว่าพยายามพูดปลอบขณะที่มิยาซากิกำลังร้องไห้
ชิโนซูกะซังสูดหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปยังห้องเรียน
ผมมองเพื่อนสมัยเด็กของผมร้องไห้ แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรอีกแล้ว…
ห้องเรียนก็เป็นเหมือนกับทุกๆวัน
ผมอ่านหนังสือของผม และเช่นเคยภายในห้องก็ยังคงมีเสียงพูดคุยที่น่ารำคาญและยังคงวุ่นวาย สิ่งที่แปลกไปคงเป็น ชิโนซูกะซัง ที่ปกติจะอ่านหนังสือ แต่ตอนนี้เธอกำลังอ่านหนังสือจากมือถือของเธอ ผมคิดว่า เธอคงกำลังอ่านเรื่องแต่งของนักเขียนที่เธอชอบ เพราะตอนนี้เธอมีสีหน้าที่ผ่อนคลายมาก ซึ่งต่างจากปกติไปโดยสิ้นเชิง
ทุกครั้งตอนพักกลางวัน เธอและผมก็ไม่เคยคุยกับใคร
ทุกครั้งที่พวกเราเข้าใกล้ชิดกับใคร พวกเราก็จะถูกหักหลัง
ดังนั้น จึงไม่มีใครที่พวกเราอยากใกล้ชิดด้วย
มันไม่มีใครที่น่าเชื่อถือ–
ชิโนซูกะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
[…เยี่ยม มันควรเป็นแบบนั้น]
ผมแปลกใจมากที่ได้ยินน้ำเสียงที่น่ารักมากกกกกจากเธอ ผมไม่เคยได้ยินน้ำเสียงนี้ของเธอมาก่อน
หลังจากนั้น เธอก็เหมือนจะเริ่มพิมพ์อะไรบางอย่าง
ขณะที่ผมกำลังมองเธออยู่นั้น อยู่ดีๆก็มีเสียงแจ้งเตือนมาจากเพจนิยายของผม มันก็ช่วยไม่ได้ที่ผมจะเปิดดูมัน
ผมคิดว่าคงไม่เป็นไร ถ้าผมเปิดดูมันเพียงเล็กน้อย
[หืม??]
มันมีจุดสีแดงแสดงขึ้นที่กล่องจดหมาย ซึ่งหมายความว่ามีข้อความส่งถึงผม
[ในที่สุด ฉันก็มีเวลาอ่านนิยายของอาจาร์ยในเช้านี้ ตอนล่าสุดน่าสนใจมาก
! ฉันรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยตอนที่จะใช้อิโมจิรูปหัวใจเพราะฉันไม่เคยใช้มันมาก่อน แต่ตอนล่าสุดมันน่าสนใจมากจริงๆ ฉันเจอกับที่เรื่องเลวร้ายในเช้าวันนี้ แต่เป็นเพราะนิยายของอาจารย์ เลยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ขอให้คุณโชคดีกับการอัพเดทครั้งต่อไป! ขอให้งานของคุณยังคงคุณภาพแบบนี้ต่อไปนะคะ!]
ผมรู้สึกว่าพลังงานผมที่สูญหายไปในตอนเช้ากำลังได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง ผมดีใจที่เธอชอบผลงานของผม
ผมควรจะตอบกลับข้อความของเธอ….ไม่ ถ้าผมตอบกลับเธอ ผมคิดว่าเธอคงจะไม่ชอบมัน
แต่…ตอนนี้ผมอยู่ในอารมณ์ที่อยากจะตอบกลับข้อความนั้น…
ผมอยากขอบคุณเธอคนนั้นที่ติดตามผลงานผมมาตลอดและจะพูดถึงแผนการอัพเดทนิยายของผมในอนาคต แม้มันจะเป็นการตอบกลับที่ดูแข็งกระด้างไปบ้างแต่มันออกมาจากใจจริงของผม
-ตอนที่ผมกำลังจะส่งข้อความตอบกลับนั้น…
ผมสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมาของชิโนซูกะซัง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่หายากมากที่เธอจะมองใคร
หลังจากที่ผมพิมพ์เสร็จ ผมก็หันไปมองที่ชิโนซูกะซัง
เธอกำลังมองมาที่มือถือของผม!
เธอเหล่มองมาทางผมและขมวดคิ้วเล็กน้อย…
มือของเธอกำลังพิมพ์อะไรบางอย่างเช่นกัน
-หืม? เกิดอะไรขึ้น? เธอคิดว่ามันแปลกที่ผมพูดจาหยาบคายในตอนเช้าหรอ??
โอ้ มีข้อความถูกส่งมาทางผมอีกครั้ง
‘…หรือว่าจะเป็น?’
-หรือว่าจะเป็น?? หมายความว่าไงฟร้ะ??
ผมถอดหูฟังของผมออก…หรือว่าจะเป็น…ไม่จริงหรอกน่า!!!!
ผมหันไปมองที่ชิโนซูกะซังในทันใด
เคสมือถือของชิโนซูกะซังมีบางสิ่งที่ผมเคยมองข้ามไปอยู่ นั่นคือรูปของหมาปอมเมอรีเนียนที่โดดเด่น
[[เอ๋!?!?!?!?!?!?!?]]