[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 99 สระน้ำ 10
ตอนที่ 99 สระน้ำ 10
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ถึงเวลาเล่นสนุกกันต่ออีกครั้ง
เรโอะกับโอสึกิพาฮิโยริไปเล่นสไลเดอร์สำหรับเด็ก เพราะว่าสไลเดอร์ที่เป็นจุดเด่นของสวนน้ำแห่งนี้มีข้อจำกัดเรื่องอายุและความสูง พวกเขาจึงไม่สามารถพาน้องสาวผมไปเล่นได้
ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้รังเกียจเครื่องเล่นแนวหวาดเสียวอะไรนัก ถือว่ามาที่นี่ทั้งที ก็อยากลองเล่นดูสักครั้ง
“สึมุกิ ไปเล่นสไลเดอร์สูงสุดกันไหม?”
“ไปสิ!”
สึมุกิชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวมาตั้งแต่เด็ก ไม่แปลกใจเลยเพราะเธอเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่ชอบเล่นท่ากลางอากาศบ่อยๆ
เมื่อก่อนเธอเคยลากผมไปเล่นด้วยกันหลายครั้ง เพราะอยาก ‘เอาชนะ’ เรโอะที่กลัวความสูง เธอบอกว่าถ้าขึ้นไปที่สูงๆ ก็จะได้เล่นอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครแย่ง
ขณะที่ผมกับสึมุกิกำลังจะไปเล่นด้วยกัน เสียงของคนหนึ่งดังขึ้นมา
“ฉันไปด้วย!”
เสียงของอาริสะทำให้ผมหันกลับไปหาเธอ
ทั้งที่เมื่อครู่อาริสะบอกว่าจะพักเพราะกินเยอะเกินไป แต่ตอนนี้เธอกลับวิ่งมาพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้น
ผมเดินเข้าไปหาเธอ
“มันสูงมากเลยนะ อาริสะ เธอไหวเหรอ?”
ผมรู้ดีว่าอาริสะกลัวความสูงมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้เราไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน และผมเห็นเธอกลัวเครื่องเล่นสูงขนาดไหน
“แต่ว่า!”
อาริสะพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“สไลเดอร์นั่นมันเล่นเป็นคู่ใช่ไหมล่ะ?!”
“ก็ใช่”
“สองคนจะได้นั่งในเรือลื่นลงไปด้วยกันใช่ไหมล่ะ!”
“อืม”
“แล้วตอนจบ มันจะกระแทกน้ำจนคนกระเด็นออกมาใช่ไหม!”
“แต่ในน้ำปลอดภัยนะ”
“แล้วเรียวมะก็จะต้องอุ้มสึมุกิแบบเจ้าหญิงเพื่อช่วยเธอใช่ไหม! ฉันรู้นะ!”
“คิดว่าไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก…”
“แล้วทั้งสองคนก็จะเดินไปด้วยกันตอนพระอาทิตย์ตก!”
“อุ้มแบบนั้นแล้วเดินกลับบ้านในชุดว่ายน้ำเนี่ยนะ!?”
“…นั่นแหละคือแฮปปี้เอนด์”
“ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นมั้ง”
บางครั้งผมก็ทึ่งกับจินตนาการของอาริสะ
(TLN:….)
“เพราะงั้นฉันจะไปด้วย!”
“ไปกันเถอะ อาริสะ ไปเล่นด้วยกันมันสนุกนะ”
สึมุกิที่ไม่รู้ว่าอาริสะกลัวความสูง ดึงตัวเธอไปยังทางเข้าสไลเดอร์โดยไม่ลังเล
ผมอดห่วงไม่ได้
เราเข้าคิวที่ด้านหลังสุด รอจนถึงตาเรา
ตอนแรกอาริสะกับสึมุกิก็คุยกันสนุกสนานดี แต่เมื่อเข้าใกล้ทางเข้าเรื่อยๆ…
“อาริสะจัง ดูเหมือนหน้าซีดนะ… ไหวแน่เหรอ?”
“ไหวสิ แค่มีที่ให้ยืนก็คงปลอดภัย”
“แต่สไลเดอร์มันไม่มีที่ให้ยืนนะ?”
คำพูดของสึมุกิทำให้อาริสะหน้าซีดกว่าเดิม
สึมุกิหันมาทางผม
“อาริสะจังไหวไหมเนี่ย? เหมือนจะกลัวความสูงพอๆ กับเรโอะเลยนะ”
“นั่นแหละ จุดที่เหมือนกันจนฉันอดคิดไม่ได้”
เมื่อก่อนตอนเด็กๆ สึมุกิเคยท้าให้เรโอะขึ้นไปที่สูงๆ จนเขาเกือบจะร้องไห้ แต่ตอนนี้เรโอะไม่ต้องเจอเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว เพราะมีโอสึกิคอยดูแลอยู่ตลอด
“…ว้าว…สวยมากเลย”
“แต่ตัวเธอสั่นไปหมดแล้วนะ?”
เมื่อใกล้จะถึงคิว อาการสั่นของอาริสะก็ดูจะหนักขึ้นจนผิดปกติ ผมเลยคิดว่าจะรอให้อาริสะสงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่า ผมจับแขนของอาริสะเอาไว้
“เรียวมะ”
การสั่นของอาริสะลดลงเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้ ถ้าเธอยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องรีบ”
“ดูเหมือนฉันจะสงบลงแล้วล่ะ”
“เร็วไปไหม!?”
อาริสะขยับเข้ามาใกล้
“พอเรียวมะอยู่ข้างๆ ฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา”
“อุ๊บ”
คำพูดของเธอทำให้ผมใจเต้นแรง แค่เธออยู่ในชุดว่ายน้ำใกล้ๆ ก็ทำให้ผมประหม่าแล้ว แต่นี่…
แต่ผมจะถอยตอนนี้ไม่ได้
“เฮ้อ”
สึมุกิถอนหายใจ
“งั้นฉันจะไปเล่นสไลเดอร์โซนเดี่ยวที่มันอันตรายกว่านี้ก่อนนะ ดูน่าสนุกดี”
“เดี๋ยวสิ สึมุกิ?”
“ไว้เจอกัน!”
สึมุกิรีบเดินไปยังโซนสไลเดอร์เดี่ยวโดยไม่รอ ผมสงสัยว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจจากที่อยู่ใกล้ผมเมื่อกี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“อาริสะ ใกล้ถึงตาแล้ว เธอจะรอหรือจะเล่นต่อดี? ถ้าไม่ไหวก็พักก่อนได้นะ”
“ฉันก็กลัวอยู่นะ ตอนเด็กๆ ฉันเคยโดนชิซึรุลากขึ้นที่สูงแล้วปล่อยทิ้งไว้ มันทำให้ฉันกลัวที่สูงตั้งแต่นั้นมา”
“ชิซึรุทำแบบนั้นกับเธอเหรอ? แย่จังเลยนะ”
“ใช่ มันแย่มาก แต่ฉันต่อยหน้าเขาไปสามครั้งหลังจากลงมาแล้ว”
“เขาได้รับบทเรียนแล้วสินะ”
คิดดูแล้ว ถ้าเป็นอาริสะ เธอคงต่อยเต็มแรงแน่ๆ แต่เรื่องที่เธอกลัวขนาดนี้ก็สมเหตุสมผล
แม้จะมีโอกาสรอ แต่สุดท้ายอาริสะก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปพร้อมจับมือผมไว้แน่น
“ถ้าเรียวมะจับมือฉันไว้จนจบ ฉันคิดว่าฉันจะเอาชนะความกลัวนี้ได้”
“โอเค ฉันจะไม่ปล่อยมือแน่นอน”
“อื้ม!”
อาริสะเกาะติดผมแน่น ราวกับว่าเรากำลังเป็นคู่รักกัน ความรู้สึกจากผิวสัมผัสของเราที่แนบกันส่งต่อมาถึงผม ผมพยายามไม่แสดงความตื่นเต้น เพราะหากผมสั่น เธอจะรู้สึกได้
“เชิญคนถัดไปค่ะ”
พนักงานเรียกเราไปนั่งบนเรือสำหรับสองคน ผมนั่งด้านหน้า ส่วนอาริสะนั่งด้านหลัง
“จับตรงด้านหน้าให้แน่นๆ นะคะ”
“ค่ะ!”
“อุ๊บ!”
อาริสะกอดผมแน่นจนรู้สึกถึงแรงกดบริเวณหลัง
“ไม่ต้องกอดแน่นขนาดนั้นก็ได้…”
“แผ่นหลังของเรียวมะทำให้ฉันสงบจังเลย ฉันอยากกอดแบบนี้ไปตลอดชีวิต”
“อย่าถึงขนาดนั้นเลย! อุ๊บ!”
พนักงานปล่อยเรือลงไปในท่อสไลเดอร์ น้ำไหลแรงและเร็วเกินกว่าที่ผมคิดไว้
ผมจับที่จับของเรือไว้แน่น
“อ๊ากกกก! แรงกว่าที่คิดอีก! อาริสะ จับมือไว้ให้แน่นนะ!”
เสียงน้ำและความเร็วทำให้ผมไม่แน่ใจว่าเธอได้ยินหรือเปล่า หลังจากผ่านท่อที่ยาวและเต็มไปด้วยความหวาดเสียว เรือก็พุ่งลงสู่สระน้ำ
“โอะ”
ตอนที่ผมถูกเหวี่ยงลงสระน้ำ ภาพตรงหน้าก็คือร่างของอาริสะที่กระเด็นตามมาด้วย แม้ว่าจะอยู่ในน้ำซึ่งปลอดภัย แต่สองมือของผมกลับยื่นไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว
“โอ๊ะ!”
ในที่สุดก็กลายเป็นว่าผมจับตัวอาริสะในท่าเหมือนเจ้าหญิง
“อาริสะ เป็นอะไรไหม?”
“อือ…นี่เรียวมะ…ช่วยฉันไว้เหรอ?”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะอยู่ข้างๆ เธอ”
“…”
ดูเหมือนแรงกระแทกทำให้อาริสะมึนๆ ไป ผมอยากจะวางเธอลง แต่คงไม่เหมาะถ้าจะปล่อยลงในน้ำ งั้นพาไปขึ้นฝั่งก่อนดีกว่า
แต่ก่อนจะไป…
“มองหน้าฉันจังเลย มีอะไรติดอยู่เหรอ?”
“นี่เป็นครั้งที่สองที่นายอุ้มฉันแบบนี้ใช่ไหม?”
“อืม ครั้งก่อนคือตอนไปดูโชว์คุเระคุเระ ที่สวนสนุกใช่ไหม?”
ตอนนั้นพวกเรายังเป็นแค่คนรู้จักกัน แต่หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ก็พัฒนาเป็นเพื่อนสนิท และตอนนี้…
บางทีผมอาจเป็นคนเดียวที่ได้อุ้มอาริสะในแบบนี้ ไม่รวมครอบครัวเธอ
น้ำที่เปียกตัวเธอทำให้ดูน่ารักขึ้นไปอีก และทันใดนั้น อาริสะก็เอาแขนโอบรอบตัวผม
“อาริสะ!?”
“นายเคยบอกนี่ว่าทำแบบนี้จะจับถนัดขึ้น”
ถึงจะใช่…แต่แบบนี้มันดูเหมือนพวกเรากำลังกอดกัน
สายตาของคนรอบๆ ที่มองมาทำให้ผมรู้สึกเขินจนต้องเร่งฝีเท้าพาเธอออกจากน้ำ
“จะวางลงแล้วนะ”
“เดี๋ยวก่อน!”
อาริสะร้องขอให้หยุดก่อน เธอขยับตัวออกเล็กน้อยแล้วเอามือทั้งสองข้างวางบนไหล่ของผม
“ฉันคิดว่าตอนนี้ทำได้”
“ทำอะไร?”
“ขอบคุณนะ เพราะเรียวมะอยู่ข้างๆ ฉันเลยไม่กลัวเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก…”
ก่อนที่ผมจะพูดจบ อาริสะก็โน้มตัวเข้ามา และจุ๊บเบาๆ ที่แก้มของผม
สัมผัสอ่อนนุ่มนั้นทำให้ผมตื่นตกใจอย่างมาก
“เดี๋ยวๆๆ!”
“อ๊า! น่าอายจังเลย ทำไมคนอื่นถึงทำเรื่องแบบนี้ข้างนอกกันได้นะ!”
อาริสะพูดพร้อมกับเอามือปิดหน้าด้วยความเขิน
จูบที่แก้ม… ผมนึกถึงครั้งก่อนที่สึมุกิทำแบบนี้ และอาริสะเคยบอกว่าเธอยังไม่พร้อม
แต่ครั้งนี้ เธอทำออกมาทั้งๆ ที่อยู่ท่ามกลางคนเยอะๆ บางทีอาจจะทำไปโดยไม่ทันคิด
แม้ผมจะรู้สึกตกใจ แต่เพราะต้องอุ้มเธอไว้ ผมจึงพยายามควบคุมตัวเอง มองดูอาริสะที่หน้าแดงจนแทบลุกเป็นไฟ ผมคิดว่าเธอคงทำไปด้วยความหุนหัน
ถึงแม้เธอจะน่ารักและดึงดูดสายตาผู้คน แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
ผมค่อยๆ วางเธอลงใต้ร่มพาราซอล ระหว่างนั้น ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก ผมเริ่มคิดว่า ถ้าผมจูบเธอบ้าง เธอจะทำหน้ายังไง…
ไม่ ไม่ดีกว่า
ผมนั่งลงบนเสื่อข้างๆ เธอ อาริสะพูดเบาๆ
“นี่”
“อะไรเหรอ?”
“ทำไมเรียวมะไม่ทำบ้างล่ะ?”
“…”
“เมื่อกี้นายลังเลใช่ไหม? ฉันคิดว่านายอาจจะทำ…”
“…”
“หือ…?”
“ขอเวลาอีกหน่อยได้ไหม?”
“ได้สิ”
อาริสะยิ้มตอบ
“ได้เห็นเรียวมะหน้าแดงขนาดนี้ ฉันก็พอใจแล้ว”
พักหลังๆ นี้ อาริสะดูเหมือนจะไม่ปิดบังความรู้สึกของเธออีกต่อไป และผมคิดว่าเธอรู้ ว่าผมรับรู้ความรู้สึกนั้น
แต่เธอก็ยังเว้นระยะห่างเล็กๆ ไว้ บางทีการก้าวข้ามเส้นนี้อาจขึ้นอยู่กับตัวผม
“ถ้าเป็นเรียวมะ ไม่ว่านายจะทำอะไรก็คงยอมล่ะมั้ง”
“ถ้างั้น…ถ้าฉันผลักเธอล้มลงล่ะ?”
ผมพูดเหมือนไม่จริงจังนัก อาริสะเอามือแตะปากแล้วทำท่าครุ่นคิด
“อาจจะตกใจแล้วต่อยนายสักทีนึง”
“งั้นก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสินะ”
ผมจะจดจำไว้
หลังจากนั้น ไม่นาน คนอื่นๆ ก็กลับมาสมทบ สึมุกิอยู่กับฮิโยริและคนอื่นๆ ดูเหมือนเธอจะสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของผมกับอาริสะ และยิ้มอย่างพอใจ
จากนั้น เราทั้งหกคนก็ใช้เวลาที่เหลือในสระน้ำจนเกือบค่ำ
ไม่ว่าจะเป็นการลอยตัวในสระวนหลายรอบ การที่อาริสะและสึมุกิถูกหนุ่มๆ จีบจนพวกเราต้องใช้เรโอะเป็นโล่ หรือเสียงหัวเราะที่ดังไม่ขาดสาย
ในที่สุด เวลาที่สนุกสนานก็เดินทางมาถึงจุดจบ…