[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 5 การถูกคนที่ดังที่สุดในโรงเรียนเพ่งเล็ง 1
- Home
- [WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม
- ตอนที่ 5 การถูกคนที่ดังที่สุดในโรงเรียนเพ่งเล็ง 1
ตอนที่ 5 การถูกคนที่ดังที่สุดในโรงเรียนเพ่งเล็ง 1
“ขอโทษนะ แต่ช่วยเดินห่างจากฉันสักประมาณห้าเมตรได้ไหม? ถ้าหนีไป นายรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใช่ไหม?”
รอยยิ้มงดงามของสาวสวยตรงหน้าแม้จะดูดี แต่กลับแฝงไว้ด้วยความน่ากลัวอย่างมาก
แรงกดดันที่แผ่ออกมาทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้เลย มันเหมือนกำลังจะเข้าสู่ฉากบอสไฟต์ในเกมจริงๆ
อาซาฮินะ อาริสะ เด็กสาวที่ได้รับความนิยมที่สุดในโรงเรียนกำลังเดินนำหน้าอยู่ และผมเองก็เดินตามเธอไป
พูดตามตรง ผมอยากจะหนีไปให้พ้น แต่ถ้าจุดประสงค์ของอาซาฮินะซังเกี่ยวข้องกับเรื่องระหว่างผมกับ โอสึกิซังล่ะก็ ยิ่งไม่มีทางหนีไปได้เลย
พวกเราเดินออกจากอาคารเรียน ผ่านประตูหลัง และเดินตามแนวต้นไม้ที่เรียงรายข้างอาคาร หลังจากนั้นก็เลี้ยวไปทางที่แตกต่างจากเส้นทางปกติที่นักเรียนคนอื่นใช้เป็นทางกลับบ้าน
ทั้งที่มีถนนสายตรงสองเส้นที่เชื่อมจากประตูหน้าและประตูหลังโรงเรียนไปยังถนนใหญ่ แต่เธอกลับเลือกเดินเส้นนี้
ไม่มีนักเรียนคนไหนเลือกใช้เส้นทางที่เธอกำลังเดินตอนนี้เลย ไม่ใช่ว่าเธอจะพาผมมาที่เปลี่ยวเพื่อข่มขู่หรืออะไรแบบนั้นใช่ไหม…?
ทันใดนั้นเอง อาซาฮินะซังหยุดเดินและหันมามองผม จากนั้นเธอก็สำรวจรอบๆ เหมือนกำลังเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารหลังหนึ่ง ดูเหมือนเธอจะบอกให้ผมตามไป
ผมรีบก้าวเท้าตามไป และพบว่ามีร้านกาแฟเล็กๆ ซ่อนอยู่
“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีร้านกาแฟแบบนี้อยู่ใกล้โรงเรียน” ผมพึมพำ
ร้านนี้ดูเก่าแก่ ตัวอาคารมีลักษณะเหมือนถูกสร้างมาหลายสิบปีแล้ว ที่นี่ยังตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่ค่อยมีนักเรียนแวะมา
ถึงจะเข้าเรียนมาหลายเดือนแล้ว แต่ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีร้านกาแฟแบบนี้อยู่แถวนี้ เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ก็ได้ยินเสียงดนตรีฮีลลิ่งที่แสนไพเราะ
“ยินดีต้อนรับครับ”
เสียงทุ้มห้าวของเจ้าของร้านผู้สูงวัยดังขึ้น ด้านหน้าเห็นอาซาฮินะซังยืนอยู่
“คุณลุง ขอใช้ที่เดิมได้ไหมคะ? เขาแค่ติดตามมาด้วยค่ะ”
“ได้เลย เชิญตามสบาย”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอช่างแตกต่างจากน้ำเสียงที่มักฟังดูแข็งกร้าวในโรงเรียน
ดูเหมือนเธอจะสนิทกับเจ้าของร้านมาก
“ตามมานี่สิ”
ลูกค้าคนอื่นในร้านส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นหญิงวัยกลางคน นี่อาจเป็นสถานที่พักผ่อนของคนในละแวกนี้
ถึงตัวอาคารจะดูเก่า แต่ภายในร้านกลับสะอาดสะอ้านและตกแต่งอย่างมีเสน่ห์
ไม่ใช่สถานที่ที่นักเรียนทั่วไปจะแวะมาได้ง่ายๆ
“นั่งตรงนี้”
“อ่า…ครับ”
เธอเลือกโต๊ะมุมร้าน โดยเธอนั่งด้านใน ส่วนผมนั่งฝั่งทางเข้า เมื่อหันไปมองหน้าเธอในระยะใกล้ ผมก็รับรู้ถึงเสน่ห์ที่เหลือเชื่อของเธอ
ผมพึมพำออกมาเบาๆ
“อึก…”
“มีอะไร?”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
อาซาฮินะ อาริสะ คนนี้ไม่ใช่แค่สวยธรรมดา
ผมมองใบหน้าของเธอซึ่งมีผมสีบลอนด์แพลตินั่มยาวสลวยและดวงตาสีเขียวมรกต จมูกที่โด่งและใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ ช่างดูเหมือนนางฟ้าที่หลุดออกมาจากภาพวาด
ถึงจะเคยได้ยินมาว่าคนที่เป็นลูกครึ่งไม่ได้สวยทุกคน แต่สำหรับอาซาฮินะซังแล้ว คำพูดนั้นไม่มีผลอะไรเลย
“ว่าแต่ ทำไมถึงเรียกผมมาเหรอครับ? พูดคุยที่โรงเรียนไม่ได้หรือครับ?”
เธอถามกลับ
“ก่อนจะพูดเรื่องนั้น ฉันขอถามก่อน นายรู้จักร้านนี้มาก่อนหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีร้านกาแฟบรรยากาศดีแบบนี้ใกล้โรงเรียน”
เธอพยักหน้า
“งั้นเหรอ ฉันก็ว่าอยู่ ไม่มีนักเรียนคนไหนรู้จักที่นี่เลย ฉันเองก็ไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกัน”
พูดจบเธอก็โน้มตัวเล็กน้อย และมองออกไปข้างนอกเพื่อสำรวจอีกครั้ง ท่าทางระมัดระวังของเธอทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจ
แต่ขณะที่เธอขยับตัว ผมกลับเผลอสังเกตส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอโดยไม่ตั้งใจ ผมรีบหลบตาเพื่อไม่ให้เธอจับได้
เธอช่างงดงามอย่างเหลือเชื่อ ทั้งรูปร่างและความงามของเธอนั้นแทบจะเป็นการเล่นไม่ซื่อ…
“ฟู่ว… ไม่มีใครอยู่เลยสินะ”
อาซาฮินะซังดูเหมือนจะระมัดระวังเป็นอย่างมาก พูดถึงเรื่องนี้ ที่นั่งที่เธอเลือกในร้านก็อยู่มุมในสุด ซึ่งเป็นจุดที่คนภายนอกมองเข้ามาไม่เห็น
จำได้ว่าซูซูกิกับซาโต้เคยพูดกันว่า อาซาฮินะ อาริสะ ไม่ได้เข้าร่วมชมรมใดๆ และมักจะรีบกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน ยิ่งไปกว่านั้น พอออกจากตัวอาคารเรียน เธอก็เหมือนจะหายตัวไป ทำให้เพื่อนๆ ที่อยากชวนเธอไปเที่ยวหลังเลิกเรียนต้องล้มเลิกความตั้งใจ
หรือบางทีเธออาจตั้งใจหลบหน้าคนอื่นๆ?
“ที่นี่เป็นที่ที่เธอไม่อยากให้ใครรู้ใช่ไหม?”
“ใช่เลย เวลาฉันอยู่ที่โรงเรียนก็มีคนพยายามหาวิธีมาชวนไปนั่นไปนี่ตลอด มันน่ารำคาญมาก”
เธอได้รับความนิยมมากเสียขนาดนี้ คงมีอีกหลายคนที่พยายามชวนเธอ
“แล้วทำไมไม่ลองเข้าชมรมล่ะ? ใช้เวลาช่วงเย็นอยู่กับชมรมก็อาจจะช่วยได้”
“ตอนแรกฉันก็คิดจะเข้าชมรมเดียวกับชิซึกุ ชมรมจัดสวนไง แต่พอช่วงทดลองเข้าชมรม ดันมีคนแห่มาที่ชมรมเต็มไปหมด โดยเฉพาะพวกผู้ชายที่มาตามฉันน่ะ”
“อื้อหือ…”
“มันทำให้ทุกคนลำบาก ฉันก็เลยไม่เข้าชมรมไหนเลย”
อาซาฮินะซังถอนหายใจเบาๆ และมองไปทางอื่นด้วยแววตาหม่นหมอง
“ต่อให้หนีไปที่ห้องสมุด พวกนั้นก็ตามมาอยู่ดี ทำให้ฉันไม่มีที่ให้อยู่ในโรงเรียนเลย จนกระทั่งฉันพบที่นี่”
“เข้าใจละ ตรงที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้ก็เป็นจุดที่มองไม่เห็นจากข้างนอกด้วย เป็นที่ที่เหมาะจะใช้เวลาเงียบๆ จริงๆ”
เรื่องนี้ดูจริงจังและหนักหนากว่าที่ผมคิดไว้
“แล้วแบบนี้เธอคิดดีแล้วเหรอที่บอกผมเรื่องนี้?”
“จริงๆ มันไม่ดีเลยล่ะ ที่นี่เป็นที่ที่ฉันไม่อยากให้ใครรู้ แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก ต้องคุยกับนายให้ได้”
ถึงขนาดยอมเสี่ยงให้ผมรู้สถานที่ลับนี้ อาซาฮินะซังคงคิดมาหนักมาก
“ผมจะไม่บอกใครหรอก”
“หา?”
ถ้าเธอไว้วางใจขนาดนี้ ผมก็ควรให้เกียรติเธอ
“ผมสัญญา ผมจะไม่พูดเรื่องนี้กับใครเลย”
“ทำไมล่ะ? นายไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดบังนี่นา”
“เพราะเพื่อนของผมก็เคยเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี”
เพื่อนสนิทของผม เรโอะ ก็เคยเจอสถานการณ์คล้ายกันตอนเรียนมัธยมต้น
หลังจากที่เริ่มโตขึ้น หน้าตาของเขาดูหล่อเหลาและตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาโดนผู้หญิงตามติดอย่างหนัก พวกเธอตามเขาไปทุกที่ บางคนถึงขั้นสะกดรอยตามเขา
ผมที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาก็โดนหางเลขไปด้วย ถึงขั้นมีครั้งหนึ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งเอามีดมาขู่ผม เพราะคิดว่าผมไม่เหมาะจะอยู่ใกล้เรโอะ(TLN:??)
ผมเคยคิดว่าเรื่องแบบนี้มันตลก แต่เอาเข้าจริง มันทำให้ผมกลัวผู้หญิงที่มีท่าทีแข็งกร้าวไปเลย
จนถึงตอนนี้ เรโอะก็ยังไม่มีแฟนเลย เพราะเขายังคงมีปมในใจเกี่ยวกับผู้หญิง ในเมื่อเพื่อนผู้ชายของผมยังโดนขนาดนั้น แล้วอาซาฮินะซังที่เป็นผู้หญิงคงจะยิ่งน่ากลัวกว่านั้นอีก
“ขอบคุณนะ ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ถ้านายบอกเรื่องนี้ไปจริงๆ ฉันคิดว่านายจะเจอเรื่องเลวร้ายแน่ๆ”
“เอ๊ะ?”
“อยากรู้ไหมล่ะ?”
“ไม่ดีกว่าครับ”
เธอเป็นทั้งเด็กผู้หญิงที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโรงเรียนและยังฉลาดมาก วิธีที่จะทำให้ผมเดือดร้อน เธอคงคิดได้สารพัดแน่ๆ