[WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม - ตอนที่ 32 การปรองดอง 1 : มุมมองอาริสะ
- Home
- [WN]ผมที่ปรึกษาเรื่องความรักของเพื่อนสนิท อยู่ๆเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบก็มาตีซี้กับผม
- ตอนที่ 32 การปรองดอง 1 : มุมมองอาริสะ
ตอนที่ 32 การปรองดอง 1 : มุมมองอาริสะ
ฉันตื่นขึ้นมา
ทำไมรู้สึกเหมือนฝันยาวนานมากเลยนะ
หัวยังมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่ไข้ดูเหมือนจะหายดีแล้ว
ผ้าชุบน้ำที่เอามาเช็ดหน้าผากและเครื่องดื่มกีฬาในที่ที่ยืดมือไปถึงมันช่วยได้มากจริงๆ
ปกติแล้วชิซึกุจะทำให้ แต่เมื่อคืน…
“หะ!?”
พอความคิดเริ่มชัดเจนขึ้น ฉันก็เริ่มจำเรื่องเมื่อคืนได้อย่างแจ่มชัด
ใช่แล้ว ฉันทะเลาะกับชิซึกุแล้วร้องไห้จนเรียกโคกุเระคุงออกมา
ฉันทำอะไรลงไป
กินซุปและแกงที่โคกุเระคุงทำให้ในห้องนั่งเล่น มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
ตอนนั้นยังมีสติอยู่ แต่พอรู้สึกโล่งใจและไข้ขึ้นมาใหม่ จิตใจก็เริ่มมึนงง…
ฉันรู้สึกเหมือนว่าได้ขอสิ่งที่มักจะขอจากชิซึกุจากโคกุเระคุง
สิ่งที่แย่ที่สุดคือการให้เด็กผู้ชายเข้ามาในห้องของตัวเอง
แม้แต่พี่ชายฉันยังไม่อยากให้เข้ามา แล้วทำไมฉันถึงคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะให้โคกุเระคุงเข้ามาในห้องฉันนะ! ฉันนี่มันโง่จริงๆ!
“แต่…”
ตอนนั้นมันรู้สึกดีมาก จนฉันไม่รู้สึกไม่สบายตัวอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะความอ่อนโยนของเขาก็ได้ แต่…
‘……ขอจับมือจนกว่าจะหลับได้ไหม? ไม่ได้หรอ?’
‘ถ้าไม่ได้ก็เหมือนที่ทำกับชิซุกุ บนเตียงก็ได้’
‘มือของโคกุเระคุงทำให้รู้สึกมั่นใจจริงๆ’
หยุดเถอะ! ทำไมความทรงจำที่ฉันเคยลืมไปแล้วมันกลับมาชัดเจนขนาดนี้นะ ทำไมฉันถึงไปออดอ้อนขอจากเด็กผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนแต่เป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนกันนะ
“อ๊าาา…”
หน้าฉันร้อนขึ้นมา…แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ก็ทำให้หัวใจเต้นแรง
‘หลับให้สบายนะ’
เสียงที่อ่อนโยนและมือที่นุ่มนวลลูบหัวฉันที่เหลืออยู่ในความทรงจำก่อนที่ฉันจะหลับไป มันทำให้หัวใจฉันเต้นแรงจนแก้มร้อนขึ้นมา
ฉันลงไปข้างล่างแล้วเดินไปที่ครัวที่เปิดอยู่ บนโต๊ะครัวมีจานใหญ่ที่มีแซนด์วิชและโน้ตวางอยู่
[ทำไว้เยอะเลย กินได้เลยนะ วันนี้รักษาตัวดีๆ ด้วยล่ะ]
ฉีกพลาสติกออกแล้วหยิบแซนด์วิชหนึ่งชิ้นขึ้นมาหยิบเข้าปาก
แซนด์วิชที่มีผักกาดสดๆ และไข่ทำเป็นแบบมิโมซ่าใส่ลงไป แม้มันจะดูเรียบง่ายแต่ก็อร่อยมาก
เพราะหิวมากเลยทำให้แซนด์วิชค่อยๆ ไหลลงไปในท้อง
ในโน้ตยังเขียนเอาไว้ว่า มีข้าวโพดซุปทำเพิ่มอีก ถ้าอุ่นแล้วก็กินด้วยนะ
มันดูเหมือนจะเตรียมตัวดีมากจริงๆ
โคกุเระคุงนอนดึกกว่าฉัน แต่เขากลับตื่นและทำอาหารเช้าให้ฉันก่อนเลย
“งั้นหมายความว่าโคกุเระคุงนอนที่บ้านนี้เหรอ!?”
เขานอนที่ไหนกันนะ
ปกติก็น่าจะนอนที่โซฟาในห้องนั่งเล่น แต่ที่นี่ดูสะอาดสะอ้านจนไม่มีร่องรอยอะไรเลย
หรือจริงๆ แล้ว… พ่อแม่ฉันรู้หรือเปล่า ถ้าให้ผู้ชายมานอนบ้านสองคนแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องใหญ่
ฉันนี่มันไร้ความระมัดระวังจริงๆ ถ้าผิดพลาดไป อาจจะโดนทำร้ายก็ได้
แต่โคกุเระคุง เขาก็ไม่ทำอะไรเลย แค่ทำให้ใจฉันสงบลง ตอนนี้ต้องขอบคุณเขา
ตอนนั้นเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น
จะเป็นโคกุเระคุงหรือเปล่านะ ฉันรีบเช็คดูว่าตัวเองดูดีพอหรือยัง แล้วก็เดินไปที่ประตูและเปิดมันออก
“เอะ… ชิซึกุ?”
“อรุณสวัสดิ์ อาริสะ”
ที่ยืนอยู่ที่ประตูคือชิซึกุ เพื่อนรักของฉัน ทำไมมาตอนเช้าแบบนี้ล่ะ
หรือว่าเรื่องเมื่อวานยังไม่พอ แล้วจะมาบอกว่าฉันโกหกอะไรแบบนี้อีกไหม
กลัวจัง
ฉันเคยรักชิซึกุมากที่สุดในโลก แต่ตอนนี้ก็กลัวที่จะเจอหน้าเธอ
ฉันยืนนิ่งไปตอนที่ชิซึกุค่อยๆ เดินเข้ามาหา ก่อนที่ฉันจะเผลอหลบตา เธอก็กระโจนเข้ามากอดฉัน
“ว้าย!”
“ขอโทษนะ ที่ทำให้กลัวเมื่อวาน ขอโทษที่ทิ้งเธอไป ขอโทษที่ทำแบบนั้น ฉันผิดเอง”
“…ไม่โกรธเหรอ”
“ฉันโกรธที่อาริสะโกหกนะ แต่ก็แค่นั้นแหละ เรื่องนั้นมันคนละเรื่องกับเรื่องนี้”
“ชิซึกุ…”
น้ำตาเริ่มรินไหลจากตาฉัน ฉันคิดว่าเธอคงเกลียดฉันแล้ว คงไม่สามารถให้อภัยฉันได้
สิ่งที่ฉันทำมันทำให้ชิซึกุเจ็บปวดมากมาย แต่เธอก็ยังยอมให้อภัยฉัน
“ชิซึกุ ขอโทษนะ ฉันจะไม่โกหกเธอหรือซ่อนอะไรจากเธออีกแล้ว!”
“อืม… อืม”
เราทั้งสองคนยืนอยู่หน้าประตูและขอโทษกันไปมา
เพราะเรารักกันมากเกินไป เราจึงสามารถคุยกันและกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกันได้อีกครั้ง