Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา - ตอนที่ 25 ถูกบังคับจนคนดีต้องกลับกลายเป็นเลว
บทที่ 25 ถูกบังคับจนคนดีต้องกลับกลายเป็นเลว
มาแล้ว!
หลี่ต้าเป่าดวงตาเปล่งประกาย ก่อนจะรีบลุกขึ้น จากนั้นก็จัดแจงสูทให้เรียบร้อย
พี่เขยพาเขามาในที่แบบนี้ แน่นอนว่าจะเอาเขามาฝากอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าเกิดว่าสามารถได้รับการสนับสนุนของแขกใหญ่คนนั้น การงานหลังจากนี้ของเขาก็จะง่ายขึ้นแล้ว
“หึๆ เฉินตง ฉันพึ่งพาพี่เขยของฉัน เพียงแค่ฉันเต็มใจจะปีนขึ้นไป ใช้แรงเพียงนิดหน่อยก็ได้แล้ว แล้วคุณล่ะ?ถึงจะซื้อไท่ติ่งมา ก็ถูกฉันบี้ตายอยู่ดี!”
หลี่ต้าเป่าคิดออก เลยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างภูมิอกภูมิใจ
เมื่อเขาเห็นคนสองคนที่เข้ามาในห้องรับรองของโรงแรมไท่ซาน หัวสมองของเขาก็มีเสียงตึงตังขึ้นมา
รอยยิ้มบนใบหน้ากลับหายไปในทันตา ทำหน้าบู้บี้ ด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
“ทำ ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ?”
มีเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ จนเสียงสะท้อนในห้องรับรองของโรงแรมไท่ซาน
“ต้าเป่า คุณเรียกบ้าอะไร?” พี่เขยดันแว่นขอบทองบนจมูก ก่อนจะยิ้มแหะๆ แล้วเปิดที่นั่งสำคัญญให้ “ขอโทษที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับๆ ท่านหลงเฉินตง เชิญนั่งลงก่อน”
“พี่เขย นี่ นี่……”
หลี่ต้าเป่าแทบบ้า ทำไมเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าแขกที่พี่เขยบอกว่าน่าเคารพมากที่สุดคนหนึ่ง จะเป็นเฉินตง
“ตกใจมากใช่ไหม?”
เฉินตงเดินไปข้างหน้าหลี่ต้าเป่า ก่อนจะยิ้มเบาๆ
สีหน้าของหลี่ต้าเป่าซีดลง ก่อนจะมองพี่เขยสักพัก เขาพยายามอดทน และนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ในใจกลับรู้สึกไม่ดีเลย
เพียงแวบเดียว เฉินตงที่ถูกเขามองเป็นหมาน้อยตัวหนึ่ง กลับกลายเป็นแขกคนสำคัญของพี่เขยเสียอย่างนั้น
ถ้าอย่างนั้นที่พึ่งพาของเขา ยังจะมีอะไรได้อีก?
สิ่งที่ยิ่งทำให้เขารู้สึกรังเกียจมากกว่า ก็คือพี่เขยนั้น พาเขามารับใช้เฉินตง!
“มีตาหามีแววไม่”
ชายวัยกลางคนปรายตามองหลี่ต้าเป่า ก่อนจะแอบขบปากเบาๆ
งานเลี้ยงในวันนี้ เขารู้ถึงที่ไปที่มาแล้ว
ในตอนแรกรู้ว่าท่านหลงช่วยเฉินตงซื้อไท่ติ่ง เขาก็ขายไท่ติ่งทิ้งอย่างไม่ลังเล ส่วนเหตุผลหลักๆ นั้น ก็คือไม่อยากจะมีเรื่องกับท่านหลง
ส่วนเรื่องกำไรหรือขาดทุนของไท่ติ่งนั้น เขาไม่ได้สนใจเลย
เพราะว่าบริษัทอสังหานี้เป็นสิ่งที่เขาใช้ในการฆ่าเวลาน้องชายของภรรยาที่ไร้ประโยชน์คนนี้
หลังจากขายไท่ติ่งทิ้ง เขาเองก็เคยบอกหลี่ต้าเป่ากลายๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ต้าเป่าจะไม่เข้าใจ แล้ววิ่งวุ่นไปมีเรื่องกับเฉินตง
มันเลยทำให้ท่านหลงมาถามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง!
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าท่านหลงเป็นเพียงคนสำคัญของเฉินตง เพราะถึงอย่างไรความสามารถของเฉินตง ในสามปีนี้ เขาก็รู้จักเป็นอย่างดี
คนมีความสามารถแบบเฉินตง ไม่มีทางอยู่ที่บริษัทนาน ถ้าเกิดเจอคนที่ดีกว่า เขาก็คงจะไปแล้ว
แต่เพราะว่าอุปสรรคของการโยกย้ายทางภาคตะวันตกของเมือง เลยทำให้ท่านหลงมาถามด้วยตัวเอง นี่มันไม่ใช่การพึ่งพากันของคนสำคัญแล้ว แต่กลับเป็นเขามาช่วยเฉินตงทุกอย่าง มันมีความแตกต่างยังเห็นได้ชัดอีกด้วย!
คืนนี้ภายในห้องรับรองไท่ซาน เขาอยากจะปรับความเข้าใจ และให้หลี่ต้าเป่าขอโทษซะ
แต่เมื่อเฉินตงกับท่านหลงเดินเข้ามา หลี่ต้าเป่านั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนเป็นเจ้านายอย่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเลย
“ประธานโจว คุณเป็นคนยุ่งมากสินะ” ท่านหลงยิ้มเบาๆ
“ท่านหลงล้ออะไรเล่นเนี่ย เมื่อเทียบกับคุณแล้ว ฉันโจวเย่นชิวก็ไม่เท่าไหร่หรอก?” วัยกลางคนหยอกเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
ในขณะนั้นเอง โจวเย่นชิวมองไปทางเฉินตง ก่อนจะยิ้มให้: “ไอน้อง!ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณเนี่ยอนาคตไกล สามารถซื้อไท่ติ่งได้ ฉันดีใจด้วยนะ!”
“ขอบคุณประธานโจว” เฉินตงพยักหน้าอย่างถ่อมตัว “ฉันมีวันนี้ได้ ก็เพราะการปลูกฝังของเจ้านายทั้งนั้นเลย”
สำหรับโจวเย่นชิว เขารู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ
ในสามปีนั้น สามารถทำให้เขาเปลี่ยนจากพนักงานธรรมดาให้มาเป็นรองผู้บริหารได้ เป็นเพราะความเห็นดีเห็นงามและการปลูกฝังของโจวเย่นชิวทั้งนั้น
มันไม่เหมือนกับการปลูกฝังให้ทำเรื่องไม่ดีเหมือนกันตอนที่เป็นผู้ช่วยให้กับหลี่ต้าเป่า นี่มันเป็นการนำพาของเจ้านายกับลูกน้องจริงๆ !
โจวเย่นชิวหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะเชิญท่านหลงกับเฉินตงมานั่ง
แต่ทว่า จริงๆ ด้วยฐานะของท่านหลงควรจะนั่งหัวโต๊ะหลัก แต่ตอนที่นั่งลง ท่านหลงย้ายไปอีกที่หนึ่ง แล้วให้เฉินตงนั่งตรงหัวโต๊ะ
ฉากนี้ มันทำให้โจวเย่นชิวม่านตาหดลง และหัวใจก็เต้นเร็วขึ้น
วินาทีต่อมาก เมื่อเขามองตาเฉินตง ก็มีแต่ความสงสัยและตกใจ
เมื่อนั่งลง โจวเย่นชิวมองหลี่ต้าเป่าด้วยสายตาเย็นชา: “หลี่ต้าเป่า เมื่อครู่ฉันพูดอะไรกับคุณ?”
หลี่ต้าเป่าแทบเป็นบ้า
ให้เขามารับใช้เฉินตง จะเป็นไปได้อย่างไร?
ที่บ้าน เขาหยิ่งจะตายไป ในตอนนี้มาเจอคำตำหนิของพี่เขย เลยเถียงกลับไป: “พูดอะไร?ให้ฉันมาเทเหล้าให้เฉินตงเหรอ?ทำไมต้องทำ?ก่อนหน้านี้ที่ไท่ติ่ง เขาตามตูดฉันมาติดๆ !”
เมื่อพูดออกไป ทั้งห้องรับรองก็เงียบสงัดลง
โจวเย่นชิวถลึงตา โกรธจนควันออกจมูก
ปัง!
โจวเย่นชิวตบโต๊ะเข้าอย่างจัง จนจานชามมันกระทบกันเสียงดัง
“หลี่ต้าเป่า ถ้าเก่งนักก็ทำอีกทีสิ ฉันเป็นพี่เขยคุณนะ!”
หลี่ต้าเป่าเถียงคอเป็นเอ็น: “คุณเป็นพี่เขยฉันแล้วยังไง?เชื่อไหมว่าฉันสามารถโทรไปหาพี่ฉันได้ตอนนี้เลย?”
โจวเย่นชิวหยุดการกระทำนั้นลง
หลายปีมานี้ เขาเป็นคนโดดเด่นภายนอก ในวงการธุรกิจก็รุ่งไม่น้อย
แต่ในบ้านนั้น เขากลับไม่กล้าปริปาก และยอมภรรยาตลอดเวลา หลี่ต้าเป่าเองก็อยู่ใต้การดูแลของภรรยาเขา อยู่ในบริษัทของเขากินๆ นอนๆ มาจนอายี่สิบกว่า
เพียงแต่ว่า วันนี้เขามาออกงานสำคัญแบบนี้ เพื่ออะไรกันนะ?
ไม่ใช่เพื่อให้หลี่ต้าเป่าได้ชดใช้และขอโทษหรอกเหรอ?
ท่านหลงไม่กล้ามีเรื่องด้วยด้วยซ้ำ คนไร้ประโยชน์อย่างหลี่ต้าเป่า จะมากล้าแบบนี้ได้อย่างไร?
เฉินตงนั่งตรงหัวโต๊ะอย่างนิ่งเฉย ปฏิกิริยาของหลี่ต้าเป่านั้นเป็นไปตามที่เขาคาด
แต่ทว่า เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำคอเป็นเอ็นของโจวเย่นชิว จู่ๆ เขาก็เห็นใจขึ้นมา
ดูๆ ไปแล้วประธานโจวอยู่ในบ้านคงจะเป็นรองน้องชายไม่น้อยเลย
ท่านหลง จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา: “ประธานโจว นี่เป็นวิธีแก้ไขปัญหา ที่คุณบอกในสายเหรอ?”
คำพูดหยอกนั้น มันทำให้ทุกอย่างผ่อนคลายลง
กลับทำให้คนนอบน้อมมากขึ้น
มันไม่เหมือนกับการเจอความสดใสจากเฉินตงเลย
“ท่านหลง ขอโทษ”
โจวเย่นชิวรีบขอโทษ ก่อนจะกัดฟันแล้วพูดกับหลี่ต้าเป่า: “หลี่ต้าเป่า ความจริงแล้ว ที่คืนนี้ฉันพาคุณมา ก็เพราะอยากให้คุณขอโทษเฉินตง แล้วฉันอยากให้คุณรีบจบเรื่องที่เกิดขึ้นทางภาคตะวันตกของเมืองที่คุณทำเอาไว้!”
“ไม่อย่างนั้น……”
“ไม่อย่างนั้นอะไร?” หลี่ต้าเป่าเอามือทั้งสองข้างรองหัวเอาไว้ด้านท้ายทอย โดยที่ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจเฉินตงกับท่านหลงเลยด้วยซ้ำ
เขาพิงเก้าอี้ ก่อนจะหลับตาแล้วยิ้มเยาะ: “พี่เขย ฉันไม่สัญญา คุณจะมาทำร้ายฉันหรือเปล่านะ?”
“คุณ……”
โจวเย่นชิวโกรธเป็นอย่างมาก ฐานะของเขา ปกติต้องรักษาการกระทำเป็นอย่างมาก
อีกอย่าง ในฐานะนักธุรกิจ ต้องไม่แสดงสีหน้าท่าทาง
แต่ปฏิกิริยาของหลี่ต้าเป่า ทำให้เขาควบคุมต่อไปไม่ได้จริงๆ เขาพูดออกมาทั้งๆ ที่กัดฟันว่า: “คุณ คุณมันไร้ประโยชน์ ไม่มีอะไรมาช่วยคุณได้อีกแล้ว!”
เมื่อพูดจบภายใต้แววตาที่เต็มไปด้วยความตกใจของเฉินตงกับท่านหลง
จู่ๆ โจวเย่นชิวก็ลุกขึ้นมาปลดกระดุมคอเสื้อออก ก่อนจะหยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา แล้วสาวเท้าก้าวไปหาหลี่ต้าเป่า
ปัง!
ขวดเหล้าที่มีเหล้าอยู่เต็มถูกคว้ามา จากนั้นก็ฟาดไปที่หัวของหลี่ต้าเป่า