Winner is king ผู้ชนะเลิศคือราชา - ตอนที่ 109 หวางหนันหนันที่เป็นโรคประสาท
บทที่ 109 หวางหนันหนันที่เป็นโรคประสาท
หนึ่งสัปดาห์ถัดมา
สำหรับเฉินตงแล้ว มันช่างสงบเหลือเกิน
คลื่นเดียวที่มี ก็คือสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้นานแล้ว
ร้านวัสดุก่อสร้างทั้งหมดได้ร่วมมือกันคว่ำบาตรไท่ติ่ง
ครั้งที่แล้วโจวเย่นชิวที่เป็นคนออกหน้า ช่วยไท่ติ่งผ่านอุปสรรคไปได้ แต่ครั้งนี้ก็ยังเป็นโจวเย่นชิวที่เป็นผู้นำในการทำเรื่องนี้
ในเวลาสั้นๆ เฉินตงไม่เคยมาก่อนเลยผู้ขายวัสดุจะยินยอมพร้อมใจคว่ำบาตรพร้อมกัน
โชคดีที่ยังมีบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ที่ขายวัสดุให้ไท่ติ่ง ทำให้โครงการย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง ไม่ถึงกับต้องหยุดการก่อสร้าง
ในเวลาเดียวกันโครงการสามแห่งที่จะเปิดให้จองล่วงหน้านั้น เฉินตงก็ยังไม่คิดที่จะระงับโครงการนี้
ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือเงินทุน เพื่อใช้มันมาสร้างโครงการที่ใหญ่กว่า
อีกอย่าง ในเมื่อเฉินเทียนเซิงประกาศสงครามแล้ว แผนแรกก็ใช้มีดอย่างโจวเย่นชิวมาจี้คอเขา
หากเป็นแบบนี้ต่อไป โครงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองก็ต้องใช้ระยะเวลาก่อนสร้างที่เพิ่มมากขึ้น ในระหว่างนี้ใครจะไปรู้ว่าเฉินเทียนเซิงนั้นจะมาไม้ไหนอีก?
อีกฝั่งหนึ่ง ที่โรงพยาบาลลี่จิง
ในห้องผู้ป่วย บรรยากาศตึงเครียด
หวางหนันหนันยังไม่ตาย สามารถรอดชีวิตมาได้ และก็ได้ตื่นนานแล้ว หน้าผากยังพันด้วยผ้าพันแผล แต่ว่าสติยังไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก
นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทั้งวันเอาแต่จ้องเพดานห้อง น้ำตาไหลเป็นระยะแล้วบ่นพึมพำ “สกปรก……. สกปรก………”
ภาพนี้ ทำให้คนที่เฝ้าไข้อย่างหวางเต๋อเหมือนโดนมีดกรีดที่ใจ
ตั้งแต่วันนั้นที่หวางหนันหนันฆ่าตัวตาย ในที่สุดทั้งครอบครัวก็ได้สงบลงมาแล้ว
ในฐานะที่เป็นพ่อ หวางเต๋อไม่กล้าที่จะคิดเลย วันนั้นหวางหนันหนันนั้นรู้สึกแย่ขนาดไหน
แม้กระทั่งหวางเต๋อยังไม่รู้เลย ว่าครอบครัวของเขาเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงได้กลายเป็นแบบนี้?
เคยทำเวรทำกรรมอะไรไว้เหรอ?
มองดูหวางหนันหนันที่พูดคนเดียวอยู่บนเตียง หวางเต๋อตาแดง มือสั่น สงสารจนอยากจะไปกอดหวางหนันหนัน
แต่ยังไม่ทันได้กอด หวางหนันหนันก็ตัวสั่น จู่ๆก็หดตัวเป็นก้อน สั่นสะท้านไปทั้งตัว
ภาพนี้ ทำให้ใบหน้าที่อ่อนล้าของหวางเต๋อน้ำตาไหลเป็นทาง
พรึบ!
ประตูห้องถูกเปิดออก
จาวซิ่วจือกับหวางเห้าเดินเข้ามา
หวางเต๋อก็รีบเช็ดน้ำตาบนหน้า แต่ก็ยังถูกจาวซิ่วจือเห็นเข้า
จาวซิ่วจือมองบน แล้วก็บ่น “ไม่ได้เรื่องเลย ทำตัวเหมือนผู้หญิงไปได้ ร้องไห้ฟูมฟาย”
หวางเต๋อรู้สึกขุ่นเคือง สีหน้าขุ่นมัว
ตามมาด้วย จาวซิ่วจือก็ชี้ไปที่เตียงของหวางหนันหนัน พูดกลับหวางเห้าอย่างเย็นชา
“หวางเห้า ยังไม่ไปเรียกพี่แกกินข้าวอีก?”
หวางเห้าอึๆอะๆ ก็อดไม่ได้ที่จะพูด “แม่ พี่ก็เป็นแบบนี้แล้ว แม่พูดจาให้มันเพราะๆหน่อยเถอะ”
“เพราะห่าอะไรล่ะ หากไม่ใช่มัน บ้านเราจะกลายเป็นแบบนี้มั้ย?”
จาวซิ่วจือจ้องหวางเห้าอย่างหงุดหงิดแวบหนึ่ง: “ตอนนี้เป็นไง มันคนเดียวที่เป็นประสาท ทำให้คนทั้งบ้านต้องมาดูแลมัน ชาติที่แล้วฉันทำเวรกรรมอะไรไว้?”
หย่ากับเฉินตง ถูกเฉินเทียนเซิงทิ้ง
ทั้งสองเรื่องทำให้จาวซิ่วจือเก็บไว้ในใจมาโดยตลอด เธอมีโอกาสที่จะเป็นคุณนาย ตั้งสองครั้ง!
แต่ทั้งหมดถูกหวางหนันหนันทำพัง!
ลำบากมาครึ่งค่อนชีวิต จาวซิ่วจือที่อยู่ต่อหน้าตระกูลหวางหรือบ้านของตัวเอง ไม่เคยได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผยมาก่อน ต้องกล้ำกลืนฝืนทน เธอหวังเพียงว่าลูกสาวจะมีสามีรวยทำให้เธอสุขสบายได้!
หวางเห้าก็เลยไม่พูดต่อ ถือปิ่นโตเดินไปที่ข้างกายหวางหนันหนัน: “พูดเบาๆ พี่ครับ ทานข้าวได้แล้ว”
หวางหนันหนันที่หดตัวเป็นก้อนอยู่จู่ๆก็ตัวสั่นขึ้นมา จ้องมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ทันใดนั้น เธอเหมือนกับถูกไฟช็อก ดีดตัวขึ้นมา กอดหวางเห้าไว้แน่นๆ
“น้อง น้องไม่ต้องกลัวนะ……… พี่อยู่ตรงนี้…….. พี่ต้องช่วยนายอย่างแน่นอน………”
ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้หวางเห้าตกใจจนร้องเสียงดัง
หวางเต๋อที่อยู่ด้านข้างไม่ทันจะตั้งตัว
แต่กลับเป็นจาวซิ่วจือที่วิ่งตอบสนองอย่างรวดเร็ว
เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับใบหน้าที่ดุร้าย ยกมือไปตบที่หน้าของหวางหนันหนัน: “เธอปล่อยเสี่ยวเห้าเดี๋ยวนี้!”
เพี้ยดังขึ้นหนึ่งที เสียงดังชัดเจน
จนใบหน้าของหวางหนันหนันเอียง ใบหน้าก็ปรากฏด้วยรอยฝ่ามือ
“แม่ แม่ทำอะไรน่ะ?” หวางเห้าตกใจมากดก
ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด หวางหนันหนันที่กอดเขาไว้ “ฮือ” ก็ร้องไห้ด้วยเสียงดัง
เสียงที่แสบหู เจ็บปวดและสิ้นหวัง
จาวซิ่วจือฟังแล้วก็หงุดหงิด ไปกระชากผมของหวางหนันหนัน ก็ตบตีเธออย่างโหดร้าย พลางตีพลางด่า
“ไอ้ลูกบ้า เป็นสินค้าที่ขาดทุนยังไม่พอ ตัวเองมาเป็นโรคประสาทอีก ยังมาทรมานลูกชายฉันอีกเหรอ?”
“ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อยไง ทำให้เสี่ยวเห้าเจ็บแล้ว วันนี้ฉันจะส่งเธอไปเจอยมบาล”
“ไอ้สินค้าที่ขาดทุน ไอ้ลูกชั้นต่ำ เธอดูสิว่าเธอให้ครอบครัวแย่ขนาดไหน?”
……
เพี้ยๆๆๆ……..
เสียงตบบ้องหูที่ดังและแรง
ในห้องผู้ป่วย เละเป็นโจ๊ก
หวางเห้าอยากจะห้าม แต่เพราะถูกหวางหนันหนันกอดไว้อย่างแนบแน่น ไม่สามารถที่จะห้ามจาวซิ่วจือได้เลย
หวางหนันหนันถูกตบจนตัวสั่นสะท้าน ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ทันใดนั้น
“คุณอาละวาดพอหรือยัง? ปล่อยหนันหนันเดี๋ยวนี้?!”
หวางเต๋อที่โกรธก็ลุกขึ้น กางฝ่ามือที่ใหญ่ ตบไปที่หน้าของจาวซิ่วจือ
ตบเต็มกำลัง ไม่ปรานีเลย
เพียงฝ่ามือเดียวก็ตบจนจาวซิ่วจือถอยหลัง อึ้งจนตาค้าง
พริบตาเดียว ใบหน้าครึ่งหนึ่งของจาวซิ่วจือก็บวมขึ้นมาทันที
กลับไม่ได้ตอบโต้กลับทันที ทำเพียงจ้องมองหวางเต๋อด้วยความหวาดกลัวและโกรธ เห็นได้ชัดว่าถูกฝ่ามือนี้ทำให้อึ้งไปแล้ว
แต่ไหนแต่ไร หวางเต๋อตามใจเธอมาโดยตลอด ยอมให้เธอกดขี่
อยู่ในบ้าน จาวซิ่วจือจึงเป็นผู้ที่ใหญ่ค้ำฟ้า
แต่วันนี้ หวางเต๋อที่ลงมืออุกอาจ มากพอที่จะทำให้จาวซิ่วจือกลัว
ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ
จู่ๆจาวซิ่วจือก็กรีดร้องขึ้นมา แล้วนอนลงบนพื้นกลิ้งตัวไปมา “โอ๊ย ไม่มีเหตุผล ไม่มีเหตุผลจริงๆ หวางเต๋อคนมันคนไร้ความสามารถที่เก่งแต่กับคนในบ้าน ฉันแต่งงานกับคุณ ถือว่าซวยไปแปดชาติ!”
หวางเต๋อโกรธจนตัวสั่น ถูกไฟโกรธแผดเผา
เขามองหวางหนันหนันที่ตัวสั่นอยู่บนเตียงอย่างสงสาร
คนที่เป็นพ่อ มีใครที่ไม่รักลูกสาวของตัวเอง?
แต่จาวซิ่วจือที่เป็นแม่ กลับไม่คิดถึงสถานการณ์ของลูกสาวตอนนี้เลย!
ทนกัดฟัน หวางเต๋อที่โกรธเคืองพูดกับจาวซิ่วจือ “หุบปากเดี๋ยวนี้ บ้านนี้มีคุณมันถึงได้เป็นแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะหลงลาภยศสรรเสริญ ทะเยอทะยาน บ้านจะเป็นแบบนี้มั้ย?”
จาวซิ่วจือกำลังจะแก้ตัว หวางเต๋อกลับยกฝ่ามือขึ้น
“ไสหัวไป คุณไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามารบกวนการพักฟื้นของหนันหนัน!”
“หากคุณไม่ไป วันนี้ผมจะตีคุณให้ตาย หย่ากับคุณ!”
น้ำเสียงเหมือนเสียงฟ้าร้อง โกรธอย่างมาก
หวางเต๋อที่อ่อนแอ ในที่สุดก็กล้าลุกขึ้นมาสักครั้ง
มากพอที่จะทำให้จาวซิ่วจืออึ้ง สุดท้ายภายใต้การเกลี้ยกล่อมของหวางเห้า ก็จากไปด้วยความเศร้าหมอง
ในห้องผู้ป่วย หวางหนันหนันจู่ๆก็ร้องไห้กอดหวางเต๋อเอาไว้ “พ่อ หนู หนูกลัว………หนู หนูสกปรกแล้ว…….หนูช่วยเหลือน้องไม่ได้อีกแล้ว……..”
ได้ยินคำพูดนี้ หวางเต๋อลุกขึ้นพร้อมกันน้ำตาที่เห็นได้ยากของเขา
ด้านนอกโรงพยาบาน
จาวซิ่วจือด่าหวางเห้าอย่างไม่ปรานี “ไอ้เต่าหัวหด ทำไมต้องให้แม่ออกมา ทำไมไม่ขวางพ่อนายเลย!”
“แม่ พอได้แล้ว!”
หวางเห้าโมโหจนทุบหน้าอกและกระทืบเท้า “บ้านเราก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว เรารอให้พี่สาวหายดีก่อนค่อยคุยกัน ได้มั้ย?”
“จะให้แม่พอได้ยังไง? ต้องเป็นพี่แกทำอะไรผิดอย่างแน่นอน ล่วงเกินเทียนเซิง ไม่อย่างนั้นคนดีๆแบบเทียนเซิงจะเอาเงินล้านมาล้อเล่นพวกเราเหรอ?” จาวซิ่วจือขมวดคิ้วจนเป็นสระอี
ใช่!
เทียนเซิง!
หวางเห้าทำหน้าจริงจัง โกรธอย่างมาก
“ใช่ พี่สาวเป็นแบบนี้เพราะเขา ผม ผมจะไปหาเขา!”