ตอนที่ 3 ส่วนที่ 3/3 // บทเรียนสำหรับคนพิเรนทร์
“เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกแล้ว อย่ามาคุยกับชั้นอีกล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นออกจากปากของอิบุกิคุง ฉันรู้สึกได้ถึความเย็นยะเยือกที่วิ่งผ่านภายในผ่านสันหลัง พร้อมเหงื่อเย็นๆที่ไหลออกมา
“อะ…”
แย่แล้ว นี่มันแย่สุดๆแล้ว
ฉันติดเล่นเกินไป
ขณะที่อิบุกิคุงกำลังจะเดินลงจากดาดฟ้า ฉันเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดวิ่งตามเขาไป
“ด-เดี๋ยวก่อน! แค่แกล้งเล่นเอง…ฉันแค่หยอกเล่นเฉยๆ”
“…”
ฉันตะโกนสุดเสียงไปหาอิบุกิคุงในขณะที่เขากำลังค่อยๆก้าวเท้าลงบรรไดไปทีละขั้น
ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาอิบุกิคุง พยายามปั้นรอยยิ้มให้น่ารักที่สุดแล้วเงยหน้าขึ้นมองอิบุกิคุง…
…สีหน้าของเขาดูไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ…
ทำให้ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและหนังหน้าเกร็งไปหมด
“อ่า ฉ-ฉันทำเบนโตะมาด้วยวันนี้! มีคาราเกะของโปรดของนายด้วย…อยากลองชิมดูไหมอิบุกิคุง?”
“…”
อิบุกิคุงยังคงเมินตัวฉันและพยายามเร่งฝีเท้าหนี
“ด-เดี๋ยวก่อนสิ!”
ฉันยื่นมือไปจับแขนเสื้อของอิบุกิคุงไว้ แต่เขาก็สลัดทิ้งโดยไม่เอ้ยพูดเลยสักคำเดียว
ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างทิ่มอยู่กลางอก เจ็บแปลบไปหมด
“น-นายจะกินทั้งหมดเลยก็ได้! มีไข่ม้วนด้วยนะ ฉันยกให้นายหมดเลย!”
“…”
ฉันเอื่อมตัวเกาะแขนเขาไว้ แต่ก็อย่างเคย เขาสะบัดตัวฉันออกอย่างแรง
มุมมองที่ฉันเห็นเริ่มเบลอขึ้นเพราะน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมาเคลือบช้าๆ
“ฉันขอโทษ! ฉันเล่นเกินไปเอง! มันเป็นความผิดของฉันเอง…ยกโทษให้ฉันได้ไหม?”
“…”
ฉันใช้แขนเกาะเอวของอิบุกิคุงไว้
ฉันจะไม่ปล่อยเด็ดขาด จะไม่ปล่อยให้เขาหนีไปอย่างนี้แน่ๆ…
ฉันกอดตัวเขาไว้แน่น
ในที่สุดอิบุกิคุงก็หยุดเดินแล้วหันมามองที่ตัวฉันพร้อมขมวดคิ้ว
ฉันตะโกนออกไป “ขอร้อง! ยกโทษให้ฉันเถอะ! ฉันจะยอมทำทุกอย่าง ขอแค่ให้นายเป็นเพื่อนกับฉันต่อไป!”
“…เห่อ…”
อิบุกิคุงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
※
“ป-เป็นไงบ้าง อิบุกิคุง? มันอร่อยไหม? ฉันทำเองเลยนะ…” ฉันเอ้ยถามเขาอย่างประหม่าขณะที่เขากำลังนั่งกินเบนโตะของฉันเงียบๆ
ฉันค่อนข้างมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตัวเองพอตัวเลย
อิบุกิคุงเงยหน้ามองขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์
“-คุง?” เขากล่าวขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว
สถานะของเราตอนนี้คงยังไม่ได้กลับไปเป็นเพื่อนล่ะนะ
“อ-อิบุกิซัง…ก-กับข้าวอร่อยมั้ย…?”
“ใครบอกให้เธอเรียกชื่อชั้นได้?”
เรียกชื่อต้นก็คงไม่ได้สินะ
“ค-คาซามิซัง…อาหารถูกปากรึปล่าว?” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงุสภาพกว่าเดิม
“อื้ม อร่อยดี” อิบุกิคุงคุงตอบอย่างห้วนๆ
ฉันเผลอปรบมือออกมาด้วยความยินดี
“จริงหรอ!?”
“แต่ชั้นไม่ได้บอกนะว่าจะยกโทษให้แล้ว”
“ข-ขอโทษอย่างยิ่งค่ะ”
พอถูกอิบุกิคุงใช้น้ำเสียงเย็นชาใส่อย่างงี้แล้วรู้สึกปวดใจจังนะ
อิบุกิคุงนั่งกินเบนโตะของฉันเงียบๆ จากนั้นสักพักเขาก็ส่งกล่องกลับคืนมาให้กับฉัน
“อร่อยมาก” เขาพูดห่วนๆ
ในที่สุด…เขาต้องยกโทษให้ฉันแล้วแน่ๆ
“อ-อื้ม ขอบคุณมาก!”
คืนมาพอได้ยินอย่างงั้นแล้วทำให้รู้สึกโล่งใจมากเลยละ ฉันยื่นมารับเบนโตะ
วันนี้คงต้องอดข้าวเที่ยงสินะ
ก็คิดไว้แล้วแหละว่าต้องเป็นงี้แน่ๆแต่พอต้องมาอดจริงๆก็ทรมานอยู่ดี
“….นี่…”
อิบุกิคุงยื่นเบนโตะของเขามาให้ฉัน
ฉันเงยมองหน้าของเขาสลับกับเบนโตะไปมา
“เอาไปสิ”
“…ได้เหรอ?” ฉันถามกลับไปอย่างลังเล
“ถ้าเธอไม่อยากกินก็…” อิบุกิคุงพูดขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว
“ฉ-ฉันจะรับไว้เอง!”
ฉันรับเบนโตะของอิบุกิคุงไว้แล้วเริ่มกินมันพลางสังเกตสีหน้าของเขาไว้ด้วย
สีหน้าของเขาดูจริงจัง คิ้วขมวดอย่างไม่สบอารมณ์ แต่พักนึงก็…
“ ฮ่าๆ…”
เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ
ในที่สุดอิบุกิคุงก็ยกโทษให้ฉัน
“…ฟู่…” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
“อย่าทำอะไรอย่างงั้นอีกล่ะ”
ฉันยิ้มตอบแล้วพยักหน้า
“อื้ม ครั้งหน้า…จะบอกก่อนนะ”
“อ่า ชั้งมันเถอะ ไม่ได้ติดอะไรหรอก” อิบุกิคุงยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
ฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะแกล้งเขาโดยไม่ได้บอกก่อนว่าเป็นเรื่องหยอกล้อเล่นเฉยๆ ถ้าเกิดฉันบอกก่อนเหมือนที่อิบุกิคุงทำก่อนหน้าเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
เดี๋ยวนะ…นี่ฉันเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า??
ปกติแล้วอิบุกิคุงคงไม่โกรธฉันเพราะแค่เรื่องอะไรแบบนี้หรอก ถึงจะโกรธเขาก็คงจะยอมให้อภัยทันทีด้วย หรือเพราะว่าฉันหยิบยางลบของเขาไปแล้วไม่ยอมคืนให้เลยทำให้เขาโกรธ เพราะอารมณ์งั้นเลยทำให้อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนขึ้นไปดาดฟ้าแล้วสินะ
“ขอโทษที่เอายางลบของนายไปนะ”
“ช่างมันเถอะ ได้คืนมาแล้วด้วย ลืมๆมันไปเถอะ” อิบุกิคุงพูดพลางโบกมือไปมา จากนั้นอิบุกิคุงก็พูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“แล้วก็เรื่องก่อนหน้านี้น่ะ…ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องหยอกล้อเล่นเฉยๆก็เถอะ แต่อย่าไปเล่นงี้กับคนอื่นนะ ตกลงไหม?”
“—เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากนะ แล้วก็มีคนที่หลงไหลในตัวเธอมากมายในโรงเรียนนี้—”
“—มีผู้ชายอยู่ไม่น้อยที่สนใจในตัวเธอ—”
“—ถ้าพวกเขาเหล่านั้นเกิดเข้าใจผิดขึ้นมามันจะแย่เอา พวกนั้นอาจจะพยายามขืนใจเธอก็ได้ สุดท้ายก็อาจจะเกิดเหตุการ์ณที่เลวร้ายมากๆขึ้น—”
“นี่ อิบุกิคุง” ฉันพูดแทรกขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว
ฉันรู้ว่าอิบุกิคุงเป็นห่วงฉัน แต่มันก็…ทำให้รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย
“ว่าไง?”
“เออ แค่จะบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้จะพูดเล่นหรือแกล้งอะไรแล้ว ฉันหมายความตามที่จะพูดจริงๆ”
ฉันตั้งใจเรียบเรียงคำพูดอย่างระมัดระวัง เพราะฉันพึ่งทำให้เขาโกรธไปก่อนหน้า…
“ถ้าไม่ได้ติดเล่นอะไรชั้นก็ไม่โกรธหรอก เพราะฉะนั้นก็พูดออกมาเถอะ”
“…ฉันจะไม่ทำอะไรอย่างงี้กับใครนอกจากอิบุกิคุงหรอก โอเคมั้ย?”
“อ-เออ…”
อิบุกิคุงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
มีอะไรน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอ?…นั้นตะหงิดใจฉันนิดๆ
“ก็นายเป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉันหนิ แล้วฉันก็เชื่อใจนายด้วย…เพราะฉะนั้นฉันเลยคิดว่าไม่น่าเป็นไรน่ะ นายก็รู้หนิว่าฉันคงไม่เป็นทำกับงี้กับผู้ชายคนอื่นอยู่แล้ว…ถึงนายจะไม่ได้ถามเรื่องนี้แต่ฉันก็แค่อยากจะบอกให้รู้เรื่องนี้ไว้ให้รู้” ฉันพูดออกมาอย่างหนักแน่น
“ร-รู้อยู่แล้วหน่า!”
ใบหน้าของอิบุกิคุงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
มันน่ายินดีขนาดนั้นเลยหรอที่ได้รู้ว่าฉันเชื่อใจเขาน่ะ?
“อ-เออ…แค่อยากจะบอกเผื่อไว้น่ะ ไม่ใช่ว่าชั้นจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทที่ว่า…จะทำอะไรอย่างนั้นกับคนอื่นหรอก” อิบุกิคุงพึมพัมออกมาเบาๆ
“อื้ม เข้าใจแล้ว”
ฉันพยักหน้าแล้วเริ่มทานเบนโตะของเขาต่อ
※
ก-เกือบไปแล้ว…
ผมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แน่นอนว่าผมไม่คิดหรอกว่าไอริจะเป็นผู้หญิงประเภทที่ว่าจะทำแบบนั้นกับคนอื่นไปทั่ว ที่เธอทำงั้นกับผมคงเพราะความเชื่อใจในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก
แต่ก็นะ…ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องหรอกที่เราจะทำร่วมกันได้
“แต่ว่านะไอริ ชั้นคิดว่ามันก็มีบางเรื่องที่เธอไม่ควรทำเหมือนกันถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นชั้นก็เถอะ”
“หมายถึงเรื่องยางลบหรอ?”
“ไม่…ไม่ใช่เรื่องนั้น”
ไอริเอียงคอสงสัย ครุ่นคิดจนคิ้วขมวดแต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี
…ผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีกรอบเลยแต่ก็นะ…
“เออ ก็เรื่องเมื่อเช้าน่ะ…หลังคาบว่ายน้ำ”
“อ-อ่าา เรื่องนั้นนี่เอง”
แก้มของไอริย้อมเป็นสีแดงอ่อนๆ
เหมือนวันการพูดเรื่องอะไรแบบนั้นก็ยังเป็นเรื่องน่าอายสำหรับไอริเหมือนกัน ถึงจะแค่หยอกเล่นก็เถอะ แต่นั้นก็ทำให้ผมโล่งใจล่ะนะ
“ก-ก็จริงแหละที่ฉันกอดนายแบบนั้น…ต-แต่ก็ไม่คิดเลยว่านายจะมาห่วงอะไรเรื่องแบบนี้ด้วย”
ไม่ ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นสักหน่อย
“ชั้นเข้าใจที่เธอจะสื่อนะ…แต่จริงๆชั้นไม่ได้ติดอะไรเรื่องนั้นหรอก”
“แต่จากที่ฉันเห็นแล้วไม่น่าใช่อย่างที่นายพูดนะ”
“ชั้นไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย”
แน่นอนว่าผมโกหกอยู่แล้ว หัวใจเต้นแรงแทบหลุดอกแล้วเนี่ย จุดประสงค์ของเธอคืออะไรกันแน่เนี่ย
“อ-อ่า แล้ว…”
ไอริไม่ได้พยายามจะเล่นอะไรแพลงๆตามเคย คงเพราะเราเพิ่งจะทะเลาะกันมา
ผมกระแอมเสียงเบาๆ
“เออ…จริงๆมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอทำหรอกแต่เป็นสิ่งที่เธอพูดมากกว่า…”
“ที่ฉันพูดหรอ?”
“ก-ก็…”
ผมพยายามครุ่นคิดว่าจะเรียบเรียงคำพูดออกมายังไงดี เอาจริงๆมันไม่ใช่เรื่องที่ผมควรพูดตอนไอริทานข้าวอยู่เลย จริงๆผมไม่ควรเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาแต่แรกด้วยซ้ำ
“ฉันไม่มีทางรู้หรอกนะถ้านายไม่พูดออกมาสักทีเนี่ย”
“ก-ก็เรื่องที่เธอพูดถึงอะไรที่มันแข็งๆ หรืออะไรทำนองนั้นน่ะ…”
“แข็งๆหรอ? อื้ม ก็พูดจริงๆนั้นแหละ”
ไอริเอียงหัวพร้อมทำสีหน้าว่างปล่าว
…นี่ไอริไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยหรอ? เป็นผมคนเดียวหรอที่คิดมากไปคนเดียว?
ไม่สิ ไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้อยู่แล้ว
“ก-ก็แบบว่า เรื่องที่เธอพูดถึงน่ะ ชั้นไม่อยากให้เธอพูดเรื่องอะไรแบบนี้…”
“หืมม?”
“ล-แล้วก็ชั้นไม่คิดว่าเราควรจะ เออ ‘ฝึก’ เรื่องแบบนั้นด้วยกันน่ะ ถึงจะแค่ล้อเล่นก็เถอะ…แต่ก็ไม่ควรอยู่ดรีใช่มั้ยล่ะ?”
หลังจากที่ไอริได้ยินแบบนั้น เธอก็ยกมือขึ้นมาจับคางแล้วเอียงคิดสงสัย
“ไอการฝึกกล้ามเนื้อด้วยกันเนี่ยมันดูไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ?”
…ห๊ะ?
“ฝึกกล้ามเนื้อ?”
“ก็ใช่น่ะสิ แต่ถ้านายไม่อยากขนาดนั้นก็ไม่เป็นไร”
ฝึกกล้ามเนื้อหรอ? แบบว่าฝึกเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้ออะไรแบบนั้นอะนะ? แล้วไอเรื่องที่เธอบอกว่า ‘แข็ง’ ก็หมายถึงเรื่องนี้หรอ? เธอกำลังพูดถึงกล้ามของผมหรอ?
“นี่เธอ หมายถึงเรื่องนี้หรอ?”
“นายมีปมหรือไม่มั่นใจในร่างกายของตัวเองหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขอโทษละกัน” ไอริพูดพร้อมทำสีหน้างุนงง
นี่ผมเข้าใจผิดเองมาตลอดเลยหรอ
ไม่สิ มันก็ต้องแน่อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ไอริไม่ได้ไปสัมผัสกับร่างกายส่วนล่างของผมเลย…ไอริจับแค่ส่วนบน
เธอก็ต้องพูดถึงกล้ามเนื้อออยู่แล้วสิ!
“ป-ปล่าว ไม่มีอะไร! ฝึกกล้ามเนื้อหรอ? ใช่แล้ว…ครั้งหน้าเดี๋ยวเราไปด้วยกันก็ได้! แล้วก็มาคิดดูแล้วเราพูดถึงเรื่องไปสระว่ายน้ำหนิ? จะไปวันไหนดีล่ะ? ถ้าจะไปชั้นคิดว่าเราควรจะไปก่อนที่อากาศมันจะหนาวกว่านี้นะ…”
ผมรัวคำพูดออกไปด้วยความร้อนลน
ไอริมองมาที่ผมด้วยความสงสัย
“นี่ฉันเข้าใจอะไรผิดไปหรือปล่าว?”
“ไม่ ไม่เลย”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีอะไรแล้ว! ชั้นยกโทษให้เธอทุกเรื่องเลย!” ผมพูดแทรกไอริด้วยความร้อนลน
ผมต้องรีบตัดบทเรื่องนี้ออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ไอริรู้ว่าผมตีความสิ่งที่เธอพูดผิดพลาดไปเชิงนั้น
ถ้าไอริจับได้ว่าผมตีความไปเชิงนั้น เธอก็จะรู้ด้วยว่าบางทีผมก็จินตนการถึงไอริในนั้นเหมือนกัน…เพราะฉะนั้นแล้ว ผมต้องทำให้เธอคิดว่าสิ่งที่เราคุยกันก่อนหน้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการฝึกกล้ามเนื้อ!
“เราจะไม่พูดถึงเรื่องการฝึกกล้ามเนื้อกันอีกแล้ว โอเคนะ?” ไอริยิ้มเบี้ยวๆแล้วพยักหน้า
ท้ายที่สุดแล้วเหมือนว่าความพยายามของผมจะสำฤทธิ์ผลสินะ…
ผมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แต่ถ้าสังเกตดีๆแล้ว หูของไอริได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด แต่ คาซามิ อิบุกิ ก็ไม่ได้สังเกตเห็น เขาคงไม่ได้โชคดีขนาดนั้น
※
“อิบุกิช่วงนี้เรื่องเรียนเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็เหมือนเดิมนั้นแหละครับ” ผมตอบคำถามของแม่ไปอย่างซื่อตรง
แทนที่แม่จะโกรธที่ผมตอบคำถามแบบธรรมดาๆ แต่เธอกลับพยักหน้าอย่างมีความสุข เหมือนว่าจะพอใจกับมัน
“งี้นี่เอง แม่ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ”
ถ้าให้ผมพูดแล้ว เกรดของผมไม่ได้แย่ แล้วโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในละแวกนี้ ในการสอบเก็บคะแนนผมไม่เคยอยู่ต่ำกว่าที่สาม ในวิชาที่ไม่ได้ถนัดก็ไม่เคยอยู่ต่ำกว่าที่ห้า ฉะนั้นผมไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการเรียนใดๆ ถ้าให้เดานั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่แม่ดูพึงพอใจกับคำตอบของผม
“แล้วกับไอริล่ะ?”
“…”
มือของผมที่ถือตะเกียบอยู่หยุดนิ่ง
ในชั่วพริบตานั้นทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมจูบกับไอริ
“…ก็เหมือนเดิมนั้นแหละ”
“ถ้าเป็นงั้นก็แย่เลยสิ” แม่ตอบกลับมาพร้อมถอนหายใจ คิ้วของผมขมวดขึ้นเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ทำไมเป็นงั้นล่ะ?”
“ก็พวกลูกดูไม่คืบหน้ากันเลยหนิ พวกลูกทะเลาะกันตลอด…ถึงจะเห็นอย่างนั้นแล้วอบอุ่นหัวใจแต่ก็นะ…”
“…”
ผมพึ่งทะเลาะกับไอริวันนี้ ดังนั้นจะสวนอะไรกลับไปก็ไม่ได้ ผมคิดว่าแม่แค่แกล้งพูดหยอกผมเล่นผมเลยแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วนั่งกินอาหารเย็นต่อ
“ในฐานะแม่ของลูกแล้วก็อยากเห็นพัฒนาการสำคัญๆในความสัมพัธ์ของลูกเหมือนกันนะ เช่นการไปเดตกันหรือจูบกัน…”
“…”
“นี่คุณคะ ลูกของเราแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแหละ พูดอะไรหน่อยสิคะ”
แม่ของผมส่งไม้ต่อไปที่พ่อ
พ่อของผมยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“มันไม่ใช่เรื่องดีหรอที่พวกลูกๆยังเข้ากันได้ดีอยู่เหมือนเคย?”
“ก็ฉันกังวลหนิว่าถ้าไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ไอริจังก็น่ารักมากด้วย…ในที่สุดแล้วอาจจะโดนเด็กผู้ชายคนอื่นแย่งไปก็ได้นะ”
“ก็อาจจะจริงแต่เราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ใช่มั้ยล่ะ?”
“อย่างน้อยเราก็ให้คำแนะนำเขาได้นะคะ”
“เด็กๆรุ่นของลูกก็อาจจะรู้สึกเขินเวลาคุยเรื่องความรักกับพ่อแม่ใช่มั้ยล่ะ?”
“คุณคิดอย่างนั้นหรอคะ?”
“ครับ สิ่งที่เราทำได้ก็มีแค่คอยสนับสนุนพวกเขาจากระยะไกลๆ แล้วก็อีกอย่าง พวกเขาจะจบการศึกในอีกครึ่งปีแล้ว ฉะนั้นอิบุกิก็น่าจะเริ่มรู้สึกตัวแล้วแหละ”
“ฉันก็หวังอย่างงั้นนะคะ”
“บางทีลูกอาจจะวางแผนว่าจะสารภาพรักในวันจบการศึกษาก็ได้”
“หูว โรแมนติกจัง! แม่คอยเชียร์ลูกอยู่นะอิบุกิ!”
“คุณพ่อคนนี้ก็เหมือนกันนะ!”
ผมลุกขึ้นยืนขึ้นเงียบๆเดินไปที่ห้องครัว หยิบถาดรอง วางจานอาหารลงบนนั้นแล้วเดินตรงไปที่ห้องของผม
“เอาจานมาเก็บตอนกินเสร็จด้วยนะ!”
“รู้แล้วหน่า” ผมตอบกลับไปเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเอง
ผมวางถาดอาหารลงบนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง
“เห่ออ! น่ารำคาญชะมัดเลย! ให้ตายสิ…”
ตอนนี้ผมรู้สึกหงุดหงิดมาก
‘เด็กๆรุ่นลูกอาจจะรู้สึกเขิน—’
ถ้ารู้อยู่แล้วจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม? ไม่เห็นเข้าใจเลย
“ถ้าตะค่อกใส่ไปสักทีจะรู้ดีขึ้นไหมนะ”
นั้นคือสิ่งที่ผมคิด แต่ไม่มีทางที่ผมจะทำแบบนั้นกับพ่อแม่หรอก ที่ทำได้ก็มีแค่มานั่งบ่นกับตัวเองนี่แหละ
“…ไอริก็เป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กนั้นแหละ”
ก็จริงที่ไอริทั้งสวยและน่ารัก แถมยังหุ่นดีสุดๆ ผมไม่ได้เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนน่ารักไปกว่าไอริอีกแล้ว
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามผมไม่ได้ชอบเธอในเชิงนั้น
ไม่มีทางที่ผมจะตกหลุมรักเพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง
“…อีกอย่าง ผมไม่คิดว่าเธอจะชอบผมในเชิงนั้นด้วย”
พูดตามตรงแล้ว ไอริเปรียบเสมือนเป็นพี่สาวของผม ต่อหน้าผมอาจจะต่อล้อต่อเถียงไปแต่ก็เป็นความจริงที่เป็นผมที่จะคอยต้อยๆตามเธอ ผมคอยตามเธอไปทุกที่ตลอดตอนเด็กหรือแม้กระทั่งตอนนี้
นั้นคือเหตุผลที่ทำให้ให้ผมคิดว่าไอริตัวเองอยู่นอกสายตาของไอริ แล้วเธอก็ไม่มีทางมาสนใจหรือชอบผมในเชิงนั้น
เพราะถ้าเธอสนใจผมในแง่นั้น เธอคงไม่หยอกล้อเล่นอะไรเหมือนที่ทำในวันนี้
ถ้าหากว่า…
“ช่างมันเถอะ ยังไงทุกอย่างในตอนนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม ขอแค่ยังรู้สึกสนุกแบบนี้ก็พอแล้ว”
ผมหยุดคิดเรื่องอะไรแบบนั้นกลางทาง
เรื่องแบบนั้นยังไงก็ไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว ยังไงก็ทำอะไรกับมันไม่ได้อยู่แล้ว แถมที่สำคัญตอนนี้ผมก็ยังคงรู้สึกพอใจกับสถานการ์ณรอบตัวอยู่
―ถ้าหากว่า…ถ้ามีโอกาสเพียงน้อยนิด ที่ไอริจะชอบผมจริงๆ
―ถ้าเกิดว่าไอริสารภาพว่าเธอชอบผมจริงๆล่ะ?
ช่างเถอะ ยังไงคิดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว ยิ่งคิดไปเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บใจเท่านั้นแหละ…
(Tl/ หายไปยาวเกือบอาทิตย์เลยหวังว่าจะมีคนตามอยู่นะ ช่วงนี้วุ่นจริงครับ
เหมือนเดิมครับ งานแปลนี้แปลจาก Eng FTL: Fungus Translations นะครับ)
Chapters
Comments
- ตอนที่ 5.1 ช่วงเวลาที่สิ้นหวังกับมิตรภาพที่ขาดสะบั้น สิงหาคม 15, 2023
- ตอนที่ 4.2 ส่วนที่ 2/2 // แข่งว่ายน้ำแบบ Best of Three สิงหาคม 1, 2023
- ตอนที่ 4 ส่วนที่ 1/2 // แข่งว่ายน้ำแบบ Best of Three สิงหาคม 1, 2023
- ตอนที่ 3.2 ส่วนที่ 2/3 // บทเรียนสำหรับคนพิเรนทร์ กรกฎาคม 11, 2023
- ตอนที่ 3 ส่วนที่ 3/3 // บทเรียนสำหรับคนพิเรนทร์ กรกฎาคม 17, 2023
- ตอนที่ 3 ส่วนที่ 1/2 // บทเรียนสำหรับคนพิเรนทร์ กรกฎาคม 6, 2023
- ตอนที่ 2.2 ส่วนที่ 2/2 // ที่ใจเต้นแรงเป็นเพราะกำแพงรึเปล่านะ? กรกฎาคม 4, 2023
- ตอนที่ 2 ส่วนที่ 1/2 // ที่ใจเต้นแรงเป็นเพราะกำแพงรึเปล่านะ? มิถุนายน 30, 2023
- ตอนที่ 1.4 มิถุนายน 28, 2023
- ตอนที่ 1.3 มิถุนายน 27, 2023
- ตอนที่ 1.2 มิถุนายน 26, 2023
- ตอนที่ 1.1 มิถุนายน 26, 2023
- ตอนที่ 0.5 มิถุนายน 26, 2023
MANGA DISCUSSION