When I Made The Cheeky Childhood Friend Who Provoked Me With “You Can’t Even Kiss, Right?” Know Her Place, She Became More Cutesy Than I Expected - ตอนที่ 1.4
ฉัน คามิชิโระ ไอริ ตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าบ้านของฉัน ฉันปล่อยมือของเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังจับกันอยู่ก่อนหน้าแล้วก้าวนำออกมา
จากนั้นก็หันหลังกลับไปมองอิบุกิคุง
“เจอกันพรุ่งนี้นะอิบุกิคุง”
“อ่า เจอกันพรุ่งนี้”
ฉันโบกมือเบาๆให้อิบุกิคุง แล้วเดินเข้าบ้าน
หลังปิดประตูเรียบร้อย ฉันยกมือขึ้นมากุมหน้าอก หัวใจเต้นโครมครามจนน่ารำคาญ
ยกมือขึ้นมาสัมผัสริมฝีปากตัวเอง รสสัมผัสยังคงอยู่
※
『ชั้นรักเธอ』
『ฉันก็เหมือนกัน』
จูบแรกของฉันมีรสหวานอมขม
“หืมม—”
ฉัน คามิชิโระ ไอริ ปิดหนังสือโชวโจวมังงะแล้วล้มลงนอนบนเตียง
ฉันยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง
“รสชาติของมันไม่เห็นหวานอมขมเลย”
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ฉันพึ่ง…จูบกับเพื่อนสมัยเด็ก อิบุกิคุง พอนึกถึงเรื่องตอนนั้นแล้วรู้สึกได้เลยว่าหน้ารุ่มร้อนขึ้น
ทั้งๆที่เป็นแค่เรื่องแค่นี้แท้ๆ
“แล้วทำไมฉันถึง…”
ฉันนอนขดตัวบนเตียง ยกมือขึ้นกดริมฝีปากกับหน้าท้องของตัวเองไว้
สัมผัสริมฝีปากของเขา ความรุ่มร้อนที่ปะทุออกมาจากภายในจนทำให้ตาลายสมองเบลอไปหมด
“ มัน…รู้สึกดี”
สำหรับฉัน คาซามิ อิบุกิเปรียบเสมือนเป็นน้องชายของฉัน
ไม่ใช่พี่ชายแน่นอนอยู่แล้ว!
ฉันจูบกันน้องชายไปหรอ?
ฉันข้ามเส้นที่ไม่ควรข้ามไปมาแล้ว
ด้วยความจริงตรงหน้า ฉันรู้สึกผิด…รู้สึกว่ามันผิดศีลธรรม แต่ก็รู้สึกใจเต้น
ฉันรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นอะไรบางอย่าง แรงกระตุ้นอันหอมหวานที่ทำให้รู้สั่นสะท้านไปทั้งสันหลัง
มันเป็นความจริง…ฉันรู้สึกใจเต้นจนเข่าอ่อนยืนแทบไม่ไหว
“ทรุดลงไปเพราะแค่จูบอะนะ อ่อนแอเกินไปหรือปล่าวตัวฉัน?”
อ่อนแอเกินไปแล้วนะเธอน่ะ ล้มลงไปกับอีแค่จูบธรรมดาๆเนี่ยนะ
อิบุกิคุงคงคิดอะไรแบบนี้แน่เลย
“ฉ-ฉัน…ไม่ได้อ่อนแอซะหน่อย เพราะมันครั้งแรกหนิ…เป็นจูบแรก…มันก็เลยยังรู้สึกแปลกๆอยู่ น-นอกจากนี้แล้ว…”
ไม่ใช่เพราะเป็นอิบุกิคุงซะหน่อย
ไม่มีทางที่ฉันจะรู้สึกอะไรอย่างงั้นกับเพื่อนสมัยเด็กแน่ๆ
“อา…โถ่เอ้ย นี่มันแย่แล้ว”
ฉันถอนหายใจออกมา
เพราะแค่ฉันประหม่าเกินไปแค่นั้นแหละ
เหตุผลนี้คงใช้ได้
แต่ต่อให้อิบุกิคุงเชื่ออย่างงั้น แต่ก็ยังเป็นความจริงที่ฉันล้มฟุบลงไปต่อหน้าเขา
“ฉัน…ถูกคนอย่างอิบุกิคุงช่วยไว้ ด้วยอ้อมแขนนั้น อย่างนุ่มนวล…”
ร่างกายของอิบุกิคุงมีกล้ามเนื้อแน่นและแข็งแรง
ฉันสัมผัสได้ถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของอิบุกิคุงผ่านเสื้อของเขา
ถ้าเขาพยายามจะทำอะไร ฉันคงขัดขืนอะไรไม่ได้แน่
“ด-เดี๋ยวสิ นี่ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย!”
ฉันรีบสบัดเรื่องก่อนหน้าออกจากหัว
ไม่มีทางหรอกที่อิบุกิคุงจะทำอะไรอย่างงั้น
ไม่สิฉันไม่ควรคิดอะไรอย่างงั้นกับเพื่อนสมัยเด็กแต่แรก
“เป็นเพราะจูบนั้นแหละ ฉันเลยมีความคิดแปลกๆอยู่เต็มหัวเลยเนี่ย”
ฉันจะไม่จูบกับเขาเป็นรอบสอง
ไม่สิ จะไม่จูบเขาเป็นรอบสองอย่างแน่นอน
“จะไม่มีรอบต่อไปแล้ว” ฉันปฏิญาณกับตัวเองเบาๆ
※
ในขณะกำลังทานอาหารเย็น
“นี่ ไอริจัง ก่อนหน้านี้ลูกจูบกับอิบุกิคุงหรอ”
“ค่อกแค่ก…” (TL/ ไอยังไงดีวะ)
อยู่ดีๆคุณแม่ก็โพล่งถามขึ้นมา
แม่รู้ได้ไงเนี่ย?
อิบุกิเป็นคนบอกแม่หรอ?
เขาได้บอกแม่หรือปล่าวว่าฉันล้มฟุบลงไปเพราะแค่จูบธรรมดาๆ
“ม-แม่รู้ได้ไง”
“โอ้! นี่ลูกๆทำลงไปจริงๆหรอเนี่ย?! คืบหน้าขึ้นสักทีนะ”
แม่ปรบมือพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข
ฉันรู้ตัวแล้วว่าโดนหลอกถาม แต่มันก็สายไปแล้ว
“อ-อ่า ไม่…ร-เราไม่ได้จูบ…หรือทำอะไรกันสักหน่อย”
ฉันรู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่เห็นต้องปิดกันเลยนี่ มันก็เป็นเรื่องปกติที่แฟนกันจะจูบกันอยู่แล้ว…ลูกทำเรื่องที่ลูกควรทำแล้ว แม่รู้สึกโล่งใจมากเลยนะ”
ใช่แล้ว แม่ของฉันเข้าใขผิดว่าฉันกับอิบุกิคุงตกหลุมรักกัน
ไม่ใช่แค่แม่
แต่รวมถึงพ่อของฉัน…และพ่อแม่ของอิบุกิคุงด้วย
…นี่มัน กลายเป็นเรื่องยุ่งยากซะแล้ว
“หยุดเลยนะ ไม่มีทางที่หนูจะ…ทำอะไร…อย่างงั้นกับคนอย่างอิบุกิคุงหรอก เราไม่ได้คบกันด้วยซ้ำ…อย่าถามคำถามบ้าๆอย่างงั้นสิ” ฉันแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพื่อแสดงว่าฉันกำลังโกรธอยู่
แม่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ว่ายังไงแม่ก็ไม่ได้สนใจว่าฉันกำลังรู้สึกยังไง
“โถ่ ไอริจัง…ถ้าลูกยังทำตัวอย่างงี้กับอิบุกิคุง อาจจะโดนคนอื่นตัดหน้าแย่งไปก็ได้นะ”
“ใครจะแย่งไปล่ะ?”
“ก็เด็กผู้หญิงคนอื่นไง ลูกก็รู้ใช่มั้ยล่ะ ว่าอิบุกิคุงก็หล่อเหมือนกัน สูง แถมยังฉลาดอีก คิดว่าจะไม่มีเด็กผู้หญิงสนใจเขาเลยหรอ?”
“ต-แต่ว่า”
เขาอ่อนแอ ขี้แง เปราะบาง แถมยังขี้อายอีก
เขาทำอะไรไม่ได้หรอกถ้าไม่มีฉันอยู่ด้วย เขาจะคอยตามติดฉันตลอด ไม่ว่าเราจะทำอะไร เขาก็จะไม่ทิ้งฉัน นั้นแหละคืออิบุกิคุง
…แต่นั้นก็คือตัวตนในอดีต
ก่อนฉันจะรู้ตัว อิบุกิคุงก็สูงกว่าฉันแล้ว
ร่างกายแข็งแรงสมชาย
ใบหน้าที่น่ารักก็แปรเปลี่ยนเป็นวัยรุ่นชายเต็มตัว
แถมความฉลาดก็…ก็ฉลาดแหละมั้ง
ฉันก็รู้ว่ามีเด็กผู้หญิงคนอื่นชอบอิบุกิคุงอยู่ไม่น้อยเลย
…แต่ทุกคนก็ต่างคิดว่าเขาเป็นแฟนของฉัน
ฉันรู้มากกว่าคนไหนๆว่าอิบุกิคุงเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูด
ไม่มีเด็กผู้หญิงคนไหนรู้จักอิบุกิคุงไปมากกว่าฉัน
รวมถึง…
“ยังไงก็ตาม พวกเราไม่ได้คบกัน”
มันก็ขึ้นอยู่กับตัวอิบุกิคุงว่าเขาอยากจะเลือกคบกับใคร
ไม่ใช่ฉัน มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะตัดสินได้
“สำหรับหนู อิบุกิคุงเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็ก ไม่ใช่เรื่องของหนูซะหน่อยว่าอิบุกิคุงจะคบกับใคร”
ก็อย่างที่พูด ฉันจินตการภาพไม่ออกเลยละว่าอิบุกิจะไปติดใครอื่นนอกจากฉัน
อีกอย่าง ไม่มีทางที่อิบุกิคุงจะทิ้งเด็กผู้หญิงที่น่ารักอย่างฉันแล้วไปคบกับเด็กผู้หญิงคนอื่นหรอก…
“ลูกโกหกความรู้สึกตัวเองอยู่ใช่มั้ย?”
แม่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กน้อย
หลังจากที่พ่อของฉันนั่งเงียบอ่านนั่งสือพิมพ์มานาน ก็เงยหน้าขึ้น
แล้วทำหน้ามุ่ยอย่างน่าสงสัย
“ไอริ…มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างลูกกับอิบุกิคุงหรอ? ไม่ได้มีเด็กผู้ชายหลายคนที่เป็นเด็กดีอย่างงี้นะ”
“ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหรอก”
เรื่องที่ฉันกังวลที่สุดตอนนี้คือเพราะอิบุกิคุงเป็นคนที่วิเศษที่สุด
ฉันจินตการไม่ออกเลยว่าจะมีใครวิเศษไปกว่าเขาอีก
บางครั้งเราก็ทะเลาะกันบ้าง…แต่มันก็สนุกดี
ดังนั้นฉันไม่ได้รู้สึกขัดอะไรกับความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเรา
“เพราะฉะนั้นมันดีอยู่แล้วที่จะคงสถานะปัจจุบันของเราไว้”
ถ้าเรากลายเป็นคู่รักกัน…ความสัมพันธ์ของเราอาจจะพังทลายลงก็ได้
นั้นคือเรื่องที่ฉันกังวล
แต่เหนือสิ่งใด
“มันก็เป็นอีกเรื่องนะถ้าอิบุกิคุงมางอแงแล้วขอหนูคบเป็นแฟน”
ไม่มีทางที่ฉันจะเป็นฝ่ายขอคบไปก่อน ไม่มีทางที่ฉันจะเป็นฝ่ายตกหลุมรักอิบุกิคุงก่อนแน่ๆ
ถ้าจะมีใครคนหนึ่งสารภาพรักก่อน คนๆนั้นต้องเป็นอิบุกิคุง
ไอริได้โปรดคบกับชั้นเถอะ!
ถ้าเขายอมคลานเข่าขอร้องฉันอย่างงั้น…
ถ้าเกิดเรื่องอย่างงั้นขึ้น ฉันก็อาจจะยอมคบด้วยก็ได้ ฉันก็คงรู้สึกแย่เหมือนกันถ้าไปหักอกเขาหลังจากเขารวบรวมความกล้าสารภาพออกมา
ไม่ใช่เพราะชอบเหมือนกันหรอกนะ
“หนูไม่ได้ชอบอิบุกิคุง…แล้วหนูก็ไม่รู้ด้วยว่าอิบุกิคุงรู้สึกยังไงกับหนู”
หลังฉันพูดอย่างงั้นออกไป
““เห่อ””
ทั้งพ่อและแม่ต่างถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
※
หลังรับประทานอาหารเย็น
“ใช่แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าฉันชอบอิบุกิคุงหรืออะไรหรอก”
ฉันกลับมาที่ห้อง แล้วเริ่มพึมพัมเรื่องนี้ออกมาอีกครั้ง
ฉันเนี่ยนะชอบอิบุกิคุง? นั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วสิ
หัวใจเริ่มเต้นตึ่กตักอีกแล้ว อะไรกันตึ่กตักๆใหญ่เลย
ฉันอยากจูบอีกหรอ?
หึงหวงเขาเนี่ยนะ?
“เป็นไปไม่ได้”
ถ้าอิบุกิคุงเป็นคนตกหลุมรักฉันก่อนมันก็อีกเรื่อง
“ไม่หน่า มันก็แค่จิตปรุงแต่งไปเองแค่นั้นแหละ แค่เข้าใจผิดไปเอง…แค่กังวลอะไรไปเรื่อย ไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักหน่อย”
ฉันยกมือสัมผัสที่ริมฝีปากอีกรอบ ความร้อนรุ่มกับจังหวะหัวใจก็เริ่มสงบลง
ฉันพึมพัมเรื่องเดิมซ้ำไปมา
—เวลาที่เหลือจนกว่าคู่บ่าวสาวจะแต่งงานแล้วอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข : 6 ปี
เส้นทางยังอีกยาวววไกล
(TL/ วันนี้รู้สึกแปลล่วกๆหน่อย กะจะเกลาเพิ่มอีกนิดแล้วค่อยลงพรุ่งนี้แต่ก็ขี้เกียจอะ ถ้าอ่านแล้วขัดๆใจตรงไหนก็เม้นไว้ได้เดี๋ยวมา Edit ให้ (ถ้าไม่ขี้เกียจอะนะ)
แล้วก็ผมอัพลงแค่ใน Nekepost นะไม่มีเพจไม่มีอะไรเลย เจอที่ไหนก็มากระซิบได้
ตามเคย งานแปลนี้แปลจาก Eng FTL: Fungus Translations นะครับ)