Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2433 เจ้านั้นไม่มีสิทธ
…“เลวนัก! พวกเจ้ามันพูดจาให้ร้ายอย่างไร้เหตุ! ในเวลานี้ผลลัพธ์มันชัดเจนขึ้นมาแล้ว! เจ้าจึงคิดจะกำลังท่านทิ้งเมื่อท่านหมดประโยชน์แล้วหรือ?” ในโถงใหญ่นั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ร้องออกมาอย่างสุดเสียง
ที่แห่งนี้มันอยู่ไม่ไกลจากเขาแห่งถงเทียนนัก เป็นวังพำนักของเต๋าบรรพกาลชีวิต
ในเวลานี้โถงมันอัดแน่นไปด้วยผู้คน แต่ละคนที่มานั้นล้วนแล้วแต่มีคลื่นพลังรุนแรงสะท้านสวรรค์
ในที่แห่งนี้มันไม่มีใครที่พลังบ่มเพาะต่ำกว่าห้าทลายเลย!
แม้แต่แม่ทัพใหญ่ของมนุษย์อย่างหนี่ซวนเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นเองก็ยังได้แต่ไปยืนอยู่ในมุมด้านหลัง
บนบัลลังก์ของโถงใหญ่นั้นมีเต๋าบรรพกาลชีวิตมองดูทั้งโลกหล้าอยู่
เมื่อได้ฟังเสียงร้องลั่นของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นเขาก็ตอบกลับไป “เฉียนจี้ เจ้าใจเย็นๆ ก่อน การปล่อยให้เทียนเหอถูกช่วยเหลือไปต่อหน้าทุกผู้คนอย่างไม่ทำอะไรนั้น เย่หยวนย่อมจะต้องอธิบายที่ไปที่มาให้เราฟังมิใช่หรือ?”
เฉียนจี้หัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “อธิบาย? เจ้าต้องการให้อธิบายอย่างไรเล่า? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าโลกทุกวันนี้มันเกิดขึ้นมาเพราะใคร? ตอนที่เย่หยวนแทบตายอยู่บนสนามรบนั้นพวกเจ้าเหล่าเต๋าบรรพกาลมันไปมุดหัวกันอยู่ที่ใดเล่า? ตอนที่เผ่าเทวามันมาจับตัวคนรักของเย่หยวนไปนั้นพวกเจ้ามันอยู่ที่ใด? เวลานี้คิดจะให้เย่หยวนมาอธิบายเรื่องราว? ข้ออ้างช่างน่าขัน!”
เวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นไม่มีความเยือกเย็นอยู่กับตัวแม้แต่น้อย ใบหน้าและท่าทางของเขานั้นมันรุ่มร้อนด้วยความคับแค้นใจ
หลังจากเยวี่ยเมิ่งลี่เอาตัวเทียนเหอไปนั้น สงครามสิ้นโลกมันก็มาถึงจุดสิ้นสุดลงด้วย
ศึกครั้งนี้เป็นชัยที่เด็ดขาดของทัพผสม
เผ่าเทวาไม่เหลือกำลังพอที่จะเปิดศึกใดๆ อีก
สิ่งเดียวที่เหลือนั้นก็คือการปะทะกันของเหล่าผู้นำทั้งหลาย
ถึงเวลานี้สถานการณ์ในฝ่ายมนุษย์มันกลับพลิกกลับ
เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลับเปิดประเด็นโจมตีเย่หยวนในเรื่องที่ปล่อยให้เทียนเหอหนีไป คิดใช้มันเป็นข้ออ้างในการตัดอำนาจทุกช่องทางของเย่หยวน
และเขานั้นยังถึงขั้นจะคิดถอนเย่หยวนออกจากตำแหน่งนักบุญฟ้าครามเพราะเย่หยวนคิดสุมหัวกับศัตรู!
ฉากละครในวันนี้มันทำให้ยอดคนของมหาพิภพถงเทียนทั้งหมดต้องมารวมตัวประชุมหารือ
การตัดอำนาจของเย่หยวนนั้นมันไม่ยาก
แต่การจะถอนตำแหน่งนักบุญฟ้าครามของเย่หยวนนั้นมันลึกล้ำจนเกินกว่าที่คนไม่กี่คนจะตัดสินใจลงได้
นักบุญฟ้าครามและมายาล้ำนั้นมันคือนามที่ลือเลื่อง
คิดอยากทำลายตำแหน่งนี้ลง มันต้องยากเย็นแค่ไหน?
แต่ผู้นำเรื่องในวันนี้มันกลับเป็นผู้นำของเก้าเต๋าบรรพกาล เต๋าบรรพกาลชีวิต
มันจึงมิอาจจะจบลงได้ง่ายๆ
ไม่ว่านามของนักบุญฟ้าครามนั้นจะลือเลื่องแค่ไหน เวลานี้เขาก็ยังไม่ได้มีพลังมากล้น
แต่เต๋าบรรพกาลนั้นมันคือตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกหล้า!
แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร
เขานั้นคือบุตรของนักบุญมายาล้ำ ผู้นำตระกูลเจียนและยังเป็นหนึ่งในยอดคนผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียน
เพราะฉะนั้นวินาทีที่เต๋าบรรพกาลชีวิตคิดเปิดประเด็นนี้ ตัวเขาจึงรีบมุ่งหน้ามาทันที
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นร้อนรุ่มอย่างมากแต่ตัวเต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลับยิ้มตอบกลับมา “หึๆ แค่ขยะของเผ่าเทวามันจะมีผลใดกับศึกสงครามมากมาย? เจ้าบอกว่าความดีความชอบนี้มันยิ่งใหญ่มากหรือ? นั่นมันจะไม่เป็นการยกย่องเกินจริงไปหน่อยหรือ? ต่อให้เผ่าเทวามันจะปกครองมหาพิภพถงเทียนได้ทั่ว มันจะยังเป็นปัญหาใดต่อคนระดับเรากัน?”
คำพูดของเขานั้นย่อมดูหยิ่งยโสไม่สนโลก
แต่ที่เขาพูดมามันย่อมถูกกต้อง!
เพราะแม้จะเป็นเผ่าเทวาแต่ทหารทั่วๆ ไปนั้นก็เป็นได้แค่มดปลวกต่อหน้าเต๋าบรรพกาล
ไม่ว่ามันจะมีมากมายแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์!
คำพูดสั้นๆ นี้มันกลับทำลายความพยายามและความสำเร็จของเย่หยวนลงหมดสิ้น
“ใช่แล้ว หากมิใช่เพราะพวกเรานั้นไปทำร้ายเทียนชิงจนบาดเจ็บสาหัสมีหรือที่เย่หยวนจะได้มีโอกาสมาออกหน้าใด? แน่นอนว่าพวกเราทั้งสามนั้นไม่ได้คิดสนใจชื่อเสียงใดๆ จึงไม่ได้ออกมาพูดกล่าวแย่งชิงกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แต่มันก็เท่านั้น เรื่องที่เกิดขึ้นคือเขานั้นได้ปล่อยให้ศัตรูร้ายเผ่าเทวาหนีไปต่อหน้าต่อตา! เรื่องนี้เราจะปล่อยไว้ได้อย่างไร!” เต๋าบรรพกาลไฟผู้มีเส้นผมสีแดงสดกล่าวขึ้น
“ที่เต๋าบรรพกาลไฟว่ามันย่อมถูกต้อง! หากให้พูดถึงความสำเร็จแล้วการที่พวกเราทั้งสามไปหยุดเทียนชิงไว้นั้นมันย่อมจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่า! แต่ก่อนหน้านี้เราเคยออกมากล่าวเอาหน้าใด? หากให้พูดถึงเจ้าหนุ่มเย่หยวนนี้เขาย่อมมีพรสวรรค์เหนือใคร หากวันหนึ่งเขากลับไปเข้าฝ่ายเผ่าเทวาเพราะหญิงสาวคนนั้นเล่า ถึงวันนั้นมันคงกลายเป็นความฉิบหายของมนุษย์เราแล้ว!” เต๋าบรรพกาลน้ำกล่าวเสริม
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้แทบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน เขานั้นกลับไม่นึกฝันว่าเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นจะร่วมหัวกันมาเช่นนี้
เพราะเดิมทีนั้นเต๋าบรรพกาลทั้งเก้านั้นมักจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างกันเสมอ
หลายปีมานี้พวกเขานั้นต่างแยกชิงผลประโยชน์ของกันและกันเสมอ
เขานั้นไม่นึกฝันว่าวันหนึ่งคนทั้งหลายนี้กลับมารวมหัวกันจัดการเด็กหนุ่มคนหนึ่ง!
เรื่องราวในวันนี้มันใหญ่หลวงกว่าที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้คาดคิดไว้!
คิดมาได้ถึงตรงนี้ จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ก็รู้สึกปวดร้าวขึ้นมาในใจ
เต๋าบรรพกาลชีวิตเตรียมการมาดี!
แต่มันเป็นเพราะอะไรเต๋าบรรพกาลชีวิตถึงได้คิดจะตัดอนาคตของเผ่าพันธุ์อย่างเย่หยวนทิ้งแทนที่จะชุบเลี้ยงดูแลเขากันเล่า?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการลงมือของเต๋าบรรพกาลชีวิตครั้งนี้มันกลับมิใช่แค่จะตัดอำนาจของเย่หยวนลงแต่คิดจะถึงขั้นถอดตัวเขาจากตำแหน่งนักบุญฟ้าคราม!
นักบุญฟ้าครามและมายาล้ำนั้นมันคือสองคนที่สร้างความรุ่งเรืองให้คนรุ่นหลัง ที่หลากเผ่าพันธุ์มีทุกวันนี้ได้มันก็เพราะว่าตัวเย่หยวนและพ่อของเขานั้น
สมคบกับศัตรู?
หึ บ้าบอสิ้นดี!
คนอื่นๆ นั้นอาจจะไม่รู้แต่เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นเป็นคนชุดแรกที่ได้เข้าไปในมิติลับสวรรค์ เขาเป็นคนที่เกือบขึ้นถึงระดับของมหาบรรพกาลได้!
คนอย่างเขามีหรือจะไม่รู้?
เฉียนจี้นั้นรู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องบางอย่างที่เขาไม่รู้มาจูงใจอีกฝ่าย
แล้วเต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลัวอะไร?
“ข้านั้นก็คิดว่าคำของเต๋าบรรพกาลทั้งหลายถูก! เย่หยวนนั้นสร้างคุณไว้อย่างแน่นอน แต่การสมคบกับศัตรูนั้นมันย่อมจะเกินกว่าที่จะรับได้! เราจะมานั่งปล่อยเรื่องราวมันผ่านไปเช่นนี้ไม่ได้!” เจ้าฟ้าดินห้าทลายคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาเสริม
“ข้าเห็นด้วย!”
“ข้าเองก็เห็นด้วย!”
…
มีเสียงคนอีกกว่าครึ่งดังขึ้นมาสนับสนุนคำของเต๋าบรรพกาลชีวิต
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นแทบต้องอ้าปากค้างขึ้นเมื่อได้ยิน ดูท่าเต๋าบรรพกาลชีวิตจะวางแผนวันนี้ไว้ยาวนาน
หากเหล่าบรรพกาลทั้งหลายนี้เห็นดีเห็นงามด้วยกอปรกับตัวเต๋าบรรพกาลทั้งเก้า นามของนักบุญฟ้าครามมันย่อมจะสั่นคลอนได้จริง!
เป็นแผนการที่ร้ายกาจนัก!
มีหรือที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นจะไม่เข้าใจ? เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นคงได้จัดการเจรจากับคนทั้งหลายนี้มาก่อนแล้วด้วยราคาที่มหาศาล
ไม่เช่นนั้นมีหรือที่เฒ่ามากเล่ห์ทั้งหลายนี้จะยอมเห็นดีเห็นงามกับเต๋าบรรพกาลชีวิตในทันทีเช่นนี้?
จากนั้นมันก็เกิดความกลัวน้อยๆ ขึ้นมาในจิตใจของเฉียนจี้
ตอนที่เขาและเย่หยวนลงทุนลงแรงวางแผนมากมายเพื่อช่วยหลากเผ่าพันธุ์นั้น เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายมันกลับได้มาวางแผนร้ายตลบหลังพวกเขา!
นี่มันทำให้เฉียนจี้เสียวสันหลังขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม!
ไม่รู้ว่าหากเย่หยวนได้ยินเรื่องนี้แล้วเขาจะคิดอย่างไร
คิดมาถึงตรงนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ก็แทบจะอกแตกตายลงเสียให้ได้
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
ในยุคก่อนนั้น มีหรือที่เรื่องเช่นนี้มันจะเกิดขึ้นได้?
ในหมู่ของพวกเขานั้น ยิ่งเป็นคนเก่งจะยิ่งได้รับการสนับสนุน!
แต่เวลานี้มันช่าง…!
“ข้าไม่ยอมรับ! หลินเฉาเถียน เจ้านั้นเป็นคนชุดแรกที่ได้เข้าไปยังมิติลับสวรรค์! จะบอกว่าเจ้านั้นเป็นศิษย์ของท่านักบุญฟ้าครามก็ยังไม่ผิด! แต่เวลานี้เจ้ากลับคิดร่วมมือกับผู้คนริบนามนักบุญฟ้าครามไป! เจ้ายังรู้จักคำว่ายางอายหรือไม่? แล้วก็ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นได้สร้างรากฐานให้แก่ยุคสมัยแห่งความรุ่งเรือง ต่อให้ตอนนี้เจ้าจะเป็นเต๋าบรรพกาลแล้วแต่เจ้าจะมีสิทธิใดมาถอนนามนั้นของนักบุญฟ้าคราม? เจ้านั้นไม่มีสิทธิ!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้กล่าวสวนขึ้นมาอย่างหนักแน่น
เขานั้นรู้ว่าคำพูดใดๆ มันคงไม่มีประโยชน์ แต่เขาก็ต้องสู้ไม่ถอยเท่านั้น!
นักบุญฟ้าครามและมายาล้ำนั้นถูกหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง เรื่องที่เย่หยวนเคยทำไว้ในครานั้นเขายังคงจำมันมาได้จนถึงวันนี้
เขานั้นจะไม่ยอมปล่อยให้นามของนักบุญฟ้าครามถูกคนข่มแหงรังแก!
………………………