Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 3092 บรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้!
“มันยังมีอีกสิบหกกระบวนท่า ใช้มันออกมาให้หมด ข้าจะรับมันให้ดู!” เย่หยวนหันไปตะโกนใส่ฉือชางอย่างมั่นใจ
ฉือชางนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดเพราะตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจเรื่องชื่อเสียงหน้าตาใดๆ แล้ว
“โจมตีมันพร้อมกัน! เจ้าเด็กนี่มันคงคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้แน่นอน จะให้มันทำสำเร็จไม่ได้! สังหารมันลง!” ฉือชางร้องลั่นขึ้นสั่ง
เยียวเลอและเหมิงจินนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ มีหรือที่พวกเขาจะยังกล้ายืนเฉยมองดูเรื่องราวอีก?
ความเก่งกาจของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าสิ่งใดที่พวกเขาเคยได้รู้ได้เห็น
คนเขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แต่ครั้งนี้เมื่อได้เห็นเข้ากับตัวเองแล้วพวกเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมบรรพบุรุษและท่านอี้เฉียนั้นต่างให้ค่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมากมายขนาดนี้
เพราะเพื่อจัดการกับเขาคนนี้ พวกเขากลับเลือกที่จะใช้งานประคำขจัดเลือดออกมา!
เพราะว่าประคำขจัดเลือดนี้มันเป็นของมีค่าแม้แต่กับตัวบรรพบุรุษท่านเอง
การเก็บกักเลือดของยอดเต๋าต่างๆ จากทุกสวรรค์นั้นมันคือหน้าที่ของประคำขจัดเลือด
ประคำขจัดเลือดแต่ละชิ้นนั้นมันต้องกลืนกินเลือดผู้คนไปกว่าแสนๆ ล้านถึงจะใช้งานออกมาได้
ตอนที่พวกเขาทั้งสามได้ยินว่าบรรพบุรุษท่านนั้นคิดใช้ประคำขจัดเลือดจัดการเย่หยวนนั้นพวกเขาทั้งสามต่างจะคิดว่ามันเหมือนการเอาปืนใหญ่มายิงมด เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนอย่างแท้จริง
แต่เป็นเวลานี้เองที่พวกเขานั้นได้เข้าใจว่ามันไม่ได้เกินเลยไปเลย!
“ไม่แปลกใจเลยว่าอี้เฉียนั้นมันส่งเจ้ามาเป็นผู้นำ เจ้ามันฉลาด! ใช้แล้ว ข้านั้นคิดจะบรรลุเต๋าด้วยการต่อสู้ แต่ข้าจะบรรลุได้ก่อนหรือว่าพวกเจ้าจะสังหารข้าลงได้ก่อนนั้นมันก็ต้องดูกันไป!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป
ตอนนี้เย่หยวนนั้นยังไม่อาจจะจัดการฉือชางลงได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการรับมือสามเจ้าโลกพร้อมๆ กันเลย
เพราะฉะนั้นนี่มันจึงเป็นเส้นทางที่ไม่อาจหันกลับ
ต้องตายกันไปข้าง!
ในเวลาเดียวกันนี้พวกฉือชางทั้งสามเองก็ไม่กล้าจะออมมือใดๆ อีก
คนทั้งสามนั้นลงมาล้อมเย่หยวนไว้ตรงกลาง
เมื่อพวกเขาลงมือแล้วมันย่อมจะก่อให้เกิดพลังงานรุนแรงจนน่าตกตะลึง
“สังหารเก้าชั่วโคตร!”
“ขวานผ่าสวรรค์!”
“ระเบิดโลหิตราตรีทมิฬ!”
เมื่อพวกฉือชางทั้งสามร่วมมือกันโจมตีออกมาแล้วพลังของมันย่อมจะรุนแรงจนแทบไม่อาจหายใจ
เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเครียดใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาพร้อมแยกเขาแดนอนันต์ออกจากกัน
“ค่ายกลเอกภพ!”
เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกออกเป็นเจ็ดส่วนและกลายเป็นจุดเชื่อของค่ายกลเอกภพรับการโจมตีของคนทั้งสามไป
การโจมตีแต่ละครั้งที่กระแทกเข้ามานั้นมันย่อมจะทำให้เย่หยวนรู้สึกได้ถึงเสียงกระดูกที่ลั่นขึ้นในกาย
เขาแดนอนันต์นั้นมันแยกเป็นเจ็ดส่วน ย่อมจะไม่มีพลังรุนแรงหนักหน่วงเหมือนตอนที่มันรวมเป็นหนึ่ง
แต่เมื่อสามเจ้าโลกโจมตีเข้ามาจากสามทิศ เย่หยวนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแยกมันออกมารับ
เวลานี้นอกจากพลังอันรุนแรงของพวกฉือชางแล้วมันยังมีพลังเสริมคลื่นกำเนิดเลือดจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอีกด้วย!
คนทั้งสามนั้นผสานพลังทำให้การโจมตีนี้มันรุนแรงล้ำ
เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันอยู่ใต้การโจมตีต่อเนื่องของคนทั้งสาม
ฉือชางนั้นเองก็ตกตะลึงสุดหัวใจเพราะเย่หยวนกลับยังสามารถรับมันไว้ได้!
เพราะต่อให้จะเป็นเขา ตัวเขาก็คงไม่อาจจะรับการโจมตีเช่นนี้ไว้ได้แล้ว
“เจ้าเด็กนี่มันคงเจ็บหนักแล้ว เร่งมือเข้า! กระบวนท่าที่สิบห้า โลหิตตะวันเที่ยง!”
ฉือชางฟันดาบในมือออกมาอีกครั้งด้วยคลื่นพลังสีแดงเลือดราวกับว่ามันจะกลืนกินทุกสิ่งอย่างไป
การโจมตีนี้ปะทะกับค่ายกลเอกภพเข้าอย่างแรง
ตูม!
เย่หยวนนั้นแทบสิ้นสติลงไปต้องกระอักเลือดรุนแรงขึ้นมารู้สึกได้ทันทีว่าอวัยวะภายในมันแตกสลาย
ฉือชางนั้นใช้วรยุทธวิชาดาบออกมาจนถึงกระบวนท่าที่สิบห้า พลังของมันย่อมจะรุนแรงจนน่ากลัว
วิชาดาบนี้มันทรงพลังอย่างมากแต่ยิ่งใช้ไปหลายกระบวนท่าเท่าไหร่มันก็จะยิ่งเป็นภาระให้แก่ร่างของผู้ใช้งานด้วย
เพราะฉะนั้นกระบวนท่าที่สิบห้านั้นมันคือขีดจำกัดที่ฉือชางจะใช้ได้อย่างไม่มีผลข้างเคียงแล้ว
หากใช้กระบวนท่าที่สิบหกขึ้นไปนั้นตัวเขาเองก็จะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน
ฉือชางเองก็ไม่คิดว่ามหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งมันกลับจะสามารถทำให้เขาต้องลงมือจนสุดตัวเช่นนี้
แต่ว่าเขาก็เห็นชัดเจนถึงท่าทางอ่อนแรงของเย่หยวนภายในค่ายกลและค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง
ภายในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันมีแต่เสียงระเบิดดังขึ้นไม่มีหยุด
เย่หยวนนั้นบาดเจ็บสาหัสหากเป็นคนอื่นๆ นั้นพวกเขาคงหมดสติไปนานแล้ว
การคิดบรรลุภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันไม่มีใครสามารถทำได้
แต่เย่หยวนนั้นกลับมีจิตใจที่สงบอย่างมาก
ภายใต้การโจมตีอันบ้าคลั่งนี้เขากลับกำลังนั่งสัมผัสพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาอย่างลึกซึ้ง!
นี่มันคือคลื่นกำเนิดเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดบนโลก!
ภายในร่างของเย่หยวนนั้นสายเลือดทั้งสี่มันถูกคลื่นกำเนิดเลือดควบคุมและใช้งานไปด้วยคลื่นกำเนิดเลือดเสมอๆ
จนดูเหมือนสายเลือดทั้งสี่นั้นผสานกันไปอย่างดี
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะได้รับคลื่นกำเนิดเลือดมาจากศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแต่ความเข้าใจต่อเลือดของเขามันกลับแตกต่างจากศิลาโลหิตโกลาหลไปมากนัก
เพราะว่าคลื่นกำเนิดเลือดของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันรุนแรงและชั่วร้าย มันแสดงหาเพียงแค่พลัง
แต่เย่หยวนนั้นได้สร้างเต๋าแห่งเลือดของตัวเองขึ้นมา
ในเวลานี้เย่หยวนนั้นกำลังประกอบเต๋าของตัวเองขึ้นด้วยการศึกษาพลังจากมหาค่ายกลโลหิตเมฆาทีละน้อยๆ ค่อยๆ ลบล้างจุดอ่อนและสร้างความเข้าใจใหม่ขึ้นมา
“เลือด มันคือสิ่งที่เป็นลางร้ายเสมอมา”
“เลือด มันคือตัวแทนของความบาดเจ็บ ความตาย”
“แต่เลือดนั้นมันก็คือส่วนหนึ่งของทุกชีวิต! ในโลกใบนี้ทุกสิ่งที่มีเนื้อนั้นต่างมีเลือด! มันคือชีวิต! นอกจากนั้นมันยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิต!”
“ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นดึงพลังเลือดนี้จากทุกชีวิตบนสวรรค์เพื่อไปเสริมพลังของตัวเองทำให้ตัวมันนั้นก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไป แต่พลังของมันก็ยังมิใช่คลื่นกำเนิดเลือดทั้งหมด!”
“โกลาหล คลื่นกำเนิดเลือด พลังสายเลือด! สิ่งที่ให้กำเนิดเลือดมานั้นสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความโกลาหล!”
เย่หยวนนั้นยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยพลังสายเลือดในร่างที่เดือดพล่านขึ้นมา
สายเลือดทั้งสี่ในร่างของเขานั้นมันสามารถใช้งานออกมาได้แต่ก็ยังแยกกันอยู่ตลอด
สายเลือดสี่รูปแบบนั้นมันทรงพลังและไม่อาจจะเข้ากันได้เหมือนน้ำกับน้ำมัน
แต่ในเวลานี้มันกลับแสดงท่าทีว่าจะผสานกันเป็นหนึ่งได้จริงๆ!
แต่ว่าการผสานนี้มันทำให้เกิดพลังงานรุนแรงในร่างเย่หยวนจนเขารู้สึกราวกับร่างกายจะทนรับไม่ไหว!
ตูม!
คลื่นพลังสายเลือดปะทุขึ้นมาจากร่างของเขา
“โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก! โฮ่ก!”
ด้านหลังเย่หยวนนั้นมันมีสี่เงาร่างใหญ่ร้องลั่นขึ้นมาพร้อมด้วยพลังงานที่รุนแรงสะท้านฟ้าดิน!
พร้อมๆ กันนั้นร่างกายของพวกมันก็ดูชัดเจนขึ้นอย่างมาก
ในเวลานี้มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์แดงและเต่าดำทั้งสี่นั้นต่างปรากฏออกมาชัดเจนเหมือนราวกับเป็นภูตแท้ตัวจริง!
ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกตะลึงนั้นฉือชางก็ต้องผงะไปร้องขึ้น “นี่…นี่มันสายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหล! เป็นไปได้อย่างไรกัน? ร่างกายของคนกลับสามารถพัฒนาขึ้นไปสู่สายเลือดภูตแท้ระดับโกลาหลได้?”
เยียวเลอเองก็ผงะไปอย่างตกตะลึง “ภูตแท้โกลาหลกำเนิด พวกมันนั้นมีเพียงแค่ห้าคนในโลกหล้านี้! สามจากห้านั้นได้ตายลงไปด้วยมือของบรรพบุรุษท่านแล้ว! มันย่อมไม่มีทางใดที่ร่างกายหลังกำเนิดนั้นจะเปลี่ยนแปลงเป็นถึงระดับโกลาหลได้! มันทำได้อย่างไร?”
หลังหายตกตะลึงฉือชางก็ขนลุกตั้งร้องสั่งขึ้น “เร็วเข้า! รีบใช้ไม้ตายของพวกเจ้าออก! เราจะปล่อยให้มันพัฒนาสำเร็จไม่ได้!”
ฉือชางนั้นไม่กล้าคาดเดาเลยว่าหลังจากที่สายเลือดสี่ภูตแท้นั้นพัฒนาไปจนถึงระดับโกลาหลและผสานเข้าด้วยกันมันจะต้องทรงพลังแค่ไหน
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดรอดู!
ต่อให้จะต้องเจ็บสาหัสเขาก็พร้อมจะแลก!
ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดงเลือดออกมาปกคลุมท้องฟ้าพร้อมด้วยดาบเลือดในมือที่กลายเป็นสีแดงฉานดูชั่วร้ายอย่างที่สุด!
พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังจากร่างของฉือชางมันก็ทะยานผ่านระดับขึ้นไปถึงเจ้าโลกระดับสูง!
ฉือชางในตอนนี้มันกลายเป็นดั่งเทพปีศาจ!
“กระบวนท่าที่สิบแปด เทพโลหิตพิโรธ!”
อีกฝั่งนั้นเยียวเลอและเหมิงจินเองก็ต้องทำหน้าเครียด ตอนนี้พวกเขานั้นไม่อาจจะเก็บซ่อนไม้ตายใดๆ ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
หลังจากใช้งานไม้ตายนี้ออกมาพวกเขานั้นจะต้องเหนื่อยอ่อนหมดสภาพต่อสู้หรือไม่ก็อาจทำให้ตัวเองบาดเจ็บสาหัสไม่อาจรักษากลับมาได้ง่ายๆ
เทพโลหิตพิโรธของฉือชางนั้นเป็นอย่างหลังแต่ไม้ตายของเยียวเลอและเหมิงจินนั้นเป็นอย่างหน้า
แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อใช้มันออกมาแล้วฟ้าดินจะต้องสั่นสะเทือน!
สามคลื่นพลังรุนแรงนั้นกระแทกเข้ามาใส่ค่ายกลเอกภพของเย่หยวน
………………………..