Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2984 เขาเติบโตได้มากกว่า!
ชีหยูนั้นเบิกตากว้างขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากร่างเย่หยวน
แต่เขาไม่กลัว
เพราะว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขานั้นยังไม่ได้ใช้สุดยอดไม้ตายของตัวเองออกมาเช่นกัน!
“ฮ่าๆ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วข้าคงต้องใช้ไม้ตายของตัวเองออกมาบ้างแล้ว! ดูให้ดี นี่คือเคาะเทพมังกร!”
ด้านหลังชีหยูนั้นมันเกิดปีกสีแดงงอกขึ้นมาพร้อมด้วยพลังสายเลือดที่ถูกรีดเค้นออกมาจนถึงที่สุด!
นี่มันคือสุดยอดไม้ตายของเขา
ต่อสู้กับเย่หยวนตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เขาไม่คิดจะใช้มันออกมา
เมื่อเห็นภาพเช่นนั้นคนที่มองดูอยู่รอบๆ ก็ต้องร้องขึ้นมาอีกครั้ง
“เคาะเทพมังกร! ท่านชีหยูใช้มันออกมาจนได้!”
“ไม่สิ นี่มันไม่เหมือนเคาะเทพมังกร! พลังของมันนั้นเหนือล้ำกว่าเคาะเทพมังกรที่ท่านชีหยูเคยใช้มาสิ้นเชิง!”
“เจ้ามันช่างไม่เข้าใจอะไรเสียเลย! ท่านชีหยูนั้นได้วิชาของเจ้าเด็กนั่นมามาก แน่นอนว่าท่านย่อมจะผสานมันเข้ากับพลังของเคาะเทพมังกรด้วย!”
“เป็นเช่นนั้นเอง! ท่านชีหยูเก่งกาจนัก!”
…
กระบวนท่านี้มันมีชื่อเสียงมากในเผ่ากรุงมังกร
เมื่อชีหยูคิดใช้มันออกมามันย่อมจะทำให้ผู้คนแตกตื่นไปตามๆ กัน
ราวกับว่าความพ่ายแพ้ของเย่หยวนนั้นมันเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว
ชีหยูนั้นงอตัวขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้าใส่ทางเย่หยวน
ตูม!
ท้องฟ้าแหวกออกทันที!
คลื่นพลังงานรุนแรงที่ไร้ตัวตนนั้นมันทะลุผ่านห้วงมิติเข้าใส่ร่างของเย่หยวน
นี่มันคือการผสานระหว่างพลังสายเลือดและห้วงมิติอย่างลงตัว!
ที่สำคัญไปกว่านั้นชีหยูนั้นเป็นยอดอัจฉริยะที่แท้จริง
เขานั้นสามารถผสานพลังกฎแห่งห้วงมิติที่เรียนรู้มาจากเย่หยวนเข้าใส่ท่าไม้ตายของตัวเองนี้ได้อย่างรวดเร็ว!
พลังของมันในตอนนี้จึงรุนแรงล้ำฟ้า!
ในเวลาเดียวกันนั้นเย่หยวนก็ขยับตัว!
แต่ว่าเทียบกับคลื่นพลังรุนแรงของชีหยูแล้วกระบวนท่านี้ของเย่หยวนมันช่างดูปกติธรรมดา
แน่นอนว่ามันย่อมจะเกิดเสียงเย้ยหยันดูถูกขึ้นทั่วเผ่ากรุงมังกร
นี่คือไม้ตายของเจ้า?
จะอ่อนแอเกินไปแล้ว!
ตูม!
ห้วงมิติแหวกออกพร้อมพลังงานที่รุนแรง!
ห้วงมิติที่แหวกออกนั้นมันค่อยๆ ไหลไปเหมือนเป็นคลื่นน้ำพุ่งเข้าใส่ตัวของชีหยูอย่างแผ่วเบาสมชื่อคลื่นซัดทราย
ห้วงมิติที่แตกสลายออกกลายเป็นเม็ดเล็กๆ นั้นได้ไหลไปตามกระแสของคลื่นปรากฏเป็นภาพที่ดูสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นวิชายุทธ
สองสุดยอดวิชาที่สองยอดอัจฉริยะสร้างขึ้นมานี้มันปะทะกันเข้าอย่างไม่มีแสงสีใดๆ เกิดขึ้น
ตูม!
แผ่นดินสั่นสะท้าน ขุนเขาสั่นไหว
คนที่พลังบ่มเพาะต่ำหน่อยแทบไม่อาจจะยืนมั่นได้
พริบตาต่อมาคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!
เพราะว่าบนท้องฟ้านั้นชีหยูกลับเป็นฝ่ายกระอักเลือดและไม่อาจจะยืนหยัดต่อไปได้ร่วงลงมาสู่แผ่นดิน
ตูม!
พื้นดินที่เขาตกลงมานั้นระเบิดออกจนเป็นหลุมใหญ่
“พ…แพ้?”
“บ้าน่า! ท่านชีหยูจะแพ้ได้อย่างไร?”
“ท่านชีหยูรีบๆ ลุกขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวมันจะตามมาซ้ำแล้ว!”
“แค่พลาดไปกระบวนท่าเดียว มันยังไม่แพ้หรอก!”
“ท่านชีหยู รีบๆ ลุกขึ้นมาจัดการเจ้าเด็กนี่เร็ว!”
…
ในเผ่ากรุงมังกรนั้นมันมีเสียงเรียกเกิดขึ้นจากทั่วทุกมุมเมือง
แต่ภายในหลุมใหญ่นั้นชีหยูกลับไม่ตอบใดๆ มา
คนทั้งหลายที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มด้วยความกังวล
เย่หยวนค่อยๆ ทิ้งตัวลงตามมาและยืนหอบอยู่นานเช่นกัน
ศึกนี้มันยากเย็นอย่างยิ่ง
แต่ว่าเพราะชีหยูคนนี้เขาจึงสามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างสุดตัว
นอกจากจะบรรลุระดับสายเลือดแล้วยังสามารถสร้างวิชาห้วงมิติที่เป็นของตัวเองขึ้นมาได้ด้วย
แปดรูปแบบห้วงมิติของหมี่เทียนนั้นมันทรงพลังก็จริง
แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นสิ่งที่คนอื่นสร้างขึ้นมาเป็นเต๋าของหมี่เทียน
สิ่งที่เป็นของตัวเองต่างหากที่มันจะทรงพลังได้ที่สุด
ภายใต้แรงกดดันจากตัวชีหยูนั้นเย่หยวนก็สามารถพัฒนาแปดรูปแบบห้วงมิติไปจนถึงที่สุดและสร้างกระบวนท่าทรงพลังอย่างคลื่นซัดทรายนี้ขึ้นมาได้!
เพียงแค่ว่าตอนที่เย่หยวนใช้กระบวนท่านี้ออกมาเขานั้นใช้เทคนิคการเก็บกักพลังภายในทำให้คนนอกไม่อาจสัมผัสถึงพลังของมันได้
แต่ตัวชีหยูที่เป็นเป้าหมายการโจมตีนั้นย่อมจะต้องรับแรงกระแทกหนักหน่วงล้ำสวรรค์ไป!
ภายใต้การโจมตีนี้ตัวเขาจึงไม่เหลือแรงจะต่อสู้ใดๆ อีกต่อไป
ชีหยูนั้นเป็นยอดอัจฉริยะมากพรสวรรค์ทำให้ความสามารถในการวิเคราะห์ทำความเข้าใจของเขานั้นเหนือล้ำผู้คนนัก!
แต่หากพูดถึงความสามารถในการวิเคราะห์และเรียนรู้แล้วเย่หยวนเองก็ย่อมจะไม่แพ้ให้แก่ใครแน่นอน!
ตั้งแต่เริ่มเดินทางมาจนถึงวันนี้สิ่งที่เขาพึ่งพาเสมอมานั้นมันมิใช่สายเลือด
มิใช่พรสวรรค์หรือโชคใดๆ
แต่เป็นความสามารถในการวิเคราะห์และเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างรอบตัวนั้นต่างหากที่ทำให้ศัตรูของเขาต้องสิ้นหวัง!
เต๋าโอสถ เต๋าค่ายกล เต๋าห้วงมิติ คลื่นกำเนิดต่างๆ หากไม่มีความสามารถในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจที่ล้ำฟ้าแล้ว
มีหรือที่เย่หยวนจะสามารถก้าวขึ้นมาจากภพของสามัญชนจนมาถึงภพของเหล่าเทพปกครองโลกหล้าเช่นนี้?
ชีหยูนั้นเติบโตขึ้นด้วยการต่อสู้ แต่เย่หยวนเองก็เช่นกันมิใช่หรือ?
“ข้า…แพ้แล้ว!” เสียงเบาๆ ของชีหยูดังขึ้นมาจากหลุมดินนั้น
ตั้งแต่เขาเริ่มท้าขุนเขามานั้นเขายังไม่เคยพ่ายแพ้ลงแม้สักครั้ง!
ชีหยูนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมากความพ่ายแพ้นี้มันย่อมจะทำให้เขาเจ็บใจไม่น้อย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเผ่ากรุงมังกรก็แตกตื่นไปทันที!
ผู้ใหญ่คนนั้นได้แต่ยืนนิ่งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เฟิ่งชิงซวนนั้นเองก็อ้าปากค้างอยู่เช่นกัน ดูท่าแล้วนางเองก็คงไม่อยากจะเชื่อผลลัพธ์ตรงหน้านี้
แต่ชีหยูยอมรับความพ่ายแพ้ออกมาแล้ว จะยังเป็นเรื่องปลอมแปลงไปได้?
เฟิ่งชิงซวนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกว้าง “อัจฉริยะที่พวกท่านภาคภูมิกันหนักหนานั้นมันดูเหมือนจะแพ้แล้วนะ? ผู้ใหญ่ เทียบกันแล้วชายที่ข้าติดใจสงสัยคนนี้มันเหนือล้ำยิ่งกว่าอัจฉริยะของพวกเขาไปมากนัก”
ผู้ใหญ่นั้นได้แต่ต้องบ่นขึ้นในลำคอ “แต่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? ชีหยูนั้นพัฒนาไปอย่างไม่น่าเชื่อในศึกครั้งนี้แล้วแท้ๆ!”
เฟิ่งชิงซวนจึงยิ้มตอบกลับไป “เพราะว่าเย่หยวนเติบโตได้มากกว่ายังไงเล่า! ชีหยูนั้นเก่งกาจ เขานั้นเก่งกาจกว่าผู้มีสายเลือดระดับสวรรค์แห้งหลายๆ คนด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะเขาเก่งกาจเช่นนี้เย่หยวนจึงต้องพัฒนาตัวขึ้นมาเทียบกับเขา!”
“เรื่องนั้น…เรื่องแบบนั้น…”
ผู้ใหญ่นั้นย่อมจะไม่อยากเชื่อแต่อายุขนาดเขาแล้วเขาย่อมเข้าใจลึกๆ ว่าคำพูดของเฟิ่งชิงซวนมันคือความจริง
การพัฒนาสายเลือดระหว่างต่อสู้นั้นมันมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะทำได้
มันจะมีอะไรที่เหนือล้ำกว่านี้ไปได้อีก?
เดิมทีเขานั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่หินให้ชีหยูเหยียบ
แต่เป็นตอนนี้เองที่เขาได้เข้าใจว่าชีหยูต่างหากเล่าเป็นหินที่ช่วยลับคมให้แก่เย่หยวน!
การพัฒนาได้มากกว่ามันย่อมจะหมายความว่าเขานั้นมากพรสวรรค์กว่า!
“นี่…มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? ท่านชีหยูกลับยอมแพ้หรือ?”
“ท่านชีหยูนั้นต่อสู้นับพันศึกและไม่เคยพ่ายแพ้ลงสักครั้ง! วันนี้ท่านกลับยอมรับความพ่ายแพ้?”
“ข้าไม่อยากเชื่อ! ข้าขอไม่เชื่อ! ท่านชีหยูไม่มีทางแพ้!”
…
ดูท่าแล้วชีหยูนั้นจะยังมีคนรักในเผ่ากรุงมังกรนี้อยู่มาก
ต่อให้ชีหยูจะยอมแพ้ออกมาจากปากเอง
มันก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ขอเชื่อว่าเทพสงครามของพวกเขานั้นจะพ่ายแพ้ให้แก่คนนอก
เพราะในจิตใจของพวกเขานั้นชีหยูไร้เทียมทาน!
ไร้เทียมทานย่อมจะไม่รู้จักคำว่าแพ้!
ในหลุมดินนั้นชีหยูไม่อาจจะขยับได้อีกต่อไปแล้ว
เย่หยวนค่อยๆ เดินไปที่ขอบหลุมและมองก้มลงไป
“ข…ขอบคุณที่ไว้ชีวิตข้า!” ชีหยูกล่าวขึ้นด้วยเสียงแหบๆ
เย่หยวนมองดูชีหยูที่นอนอยู่กลางหลุมและกล่าวขึ้น “เจ้านั้นเก่งกาจ การตายไปก็น่าเสียดายเปล่า ให้เจ้าอยู่ต่อไปมันก็จะสร้างประโยชน์ให้เผ่าพันธุ์ได้อีกมาก แปดรูปแบบห้วงมิตินี้ถือเสียว่าเป็นของขวัญจากข้าแล้วกัน”
ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันกำลังจะตื่นขึ้นแล้ว ทุกสวรรค์ย่อมจะเข้าสู่หายนะแน่เมื่อถึงเวลานั้น
การที่ยอดอัจฉริยะอย่างชีหยูคนนี้อยู่ด้วยมันย่อมจะเป็นเรื่องดีกว่าไม่มี
ชีหยูนั้นแม้จะเป็นคนคลั่งศึกแต่เขาก็มิใช่คนชั่วร้าย
เขาไม่ได้คิดจะสังหารเย่หยวนลง และยังแนะนำให้เย่หยวนยอมแพ้ไปตอนที่เห็นว่าเย่หยวนคงไม่อาจสู้ได้แล้ว
เพราะฉะนั้นเย่หยวนเองก็ไม่คิดจะสังหารเขาลงเช่นกัน
เขาจึงรั้งมือไว้ในจังหวะสุดท้ายทำให้ชีหยูรอดชีวิตมาได้
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยพลังของคลื่นซัดทรายนั้นชีหยูคงได้กลายเป็นแค่ซากศพ
ส่วนแปดรูปแบบห้วงมิตินั้นเย่หยวนก็ไม่ได้คิดหวงมันแม้แต่น้อย
กระบวนท่าทั้งแปดนี้ต่อให้จะตั้งใจสอนกันมันก็ใช่ว่าคนเรียนรู้จะสามารถเรียนรู้ได้
คนที่เข้าใจกฎแห่งห้วงมิติถึงระดับที่จะเรียนกระบวนท่านี้ได้มันมีเพียงแค่หยิบมือ
“ข…ขอบคุณมาก!” ชีหยูกล่าวขึ้น
ความพ่ายแพ้ให้แก่เย่หยวนนี้ย่อมทำให้เขาเจ็บใจอย่างมาก
แต่เขาก็ย่อมจะไม่นั่งยอมรับชะตากรรมไม่ทำอะไรต่อไป
เขานั้นเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง มิใช่แค่เด็กน้อยไม่รู้จักความพ่ายแพ้
ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่เขาจะก้าวมาจนถึงวันนี้ได้?
ความพ่ายแพ้นั้นมันเป็นเหมือนยากระตุ้นสำหรับเขาเสียมากกว่า
แต่ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเย่หยวนอยู่ไม่น้อย