Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2661 คำเชิญ
“ในเมื่อเจ้าไม่อยากได้แล้วก็ไสหัวไปเสีย!”
เย่หยวนนั้นพาตัวเด็กน้อยเดินจากไปอย่างเย่อหยิ่ง
คนทั้งหลายนั้นได้แต่มองตามหลังคนทั้งสองนั้นด้วยปากที่ยังอ้าค้าง
บนพื้นนั้นตัวเถี่ยซินยังคงนอนร้องโอดโอยอยู่ไม่หาย
แม้ว่ามังกรน้ำทั้งหลายนั้นมันจะสังหารเขาลงไม่ได้แต่มันก็ทำให้เขาบาดเจ็บหนักหน่วง
“คนทั้งสองนี้ร่วมมือกันแล้วมันกลับเป็นดั่งจอมมาร!” ชุยถงกล่าวขึ้น
ซูยี่เองก็ได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้นตาม “ใช่ไหมเล่า? พลังนี้คนที่จะเอาชนะลงได้มันคงมีแต่ท่านเจ้าเมืองสวรรค์ใต้เท่านั้น คนอื่นๆ มันย่อมจะไม่มีทางต่อต้านได้แน่”
“นี่มันคือท่านรองเจ้าเมืองเถี่ยซิน ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุดแต่เขานั้นกลับยังพ่ายแพ้ลงเช่นนี้ ให้ตายเถอะ…” ซุนหยุนจิงนั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
…
“พี่ พี่เก่งจริงๆ เลยอะ! พี่เป็นมนุษย์จริงหรือเปล่า? ทำไมพลังสายเลือดของพี่มันถึงได้บริสุทธิ์ปานนี้?”
“ข้ามีสายเลือดมังกรอยู่ครึ่งหนึ่ง”
“พี่ๆ พี่นึกดูสิ ตอนนี้เราได้กลายเป็นสหายร่วมรบกันแล้วมิใช่หรือ? ข้าขอร้องพี่ล่ะ อย่าส่งข้ากลับบ้านเลยนะ?”
“เจ้าเองก็ได้ยินไปแล้วนี่ว่าหากเจ้าไม่กลับข้าจะตาย?”
“แต่มันไม่มีทางอื่นเลยหรือ? ข้าอุตส่าห์แอบออกมาได้ ข้าไม่อยากจะกลับไปจริงๆ!”
“ขอโทษด้วย แต่มันไม่มีทางอื่นแล้ว”
“พี่ทำพันธะวิญญาณดั่งเดิมกับพี่ข้าไว้มิใช่หรือ? เช่นนั้นหลังจากพี่คืนสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกให้เขาไปแล้วพี่ช่วยข้าหนีออกมาอีกครั้งได้หรือไม่?”
…
ระหว่างทางมานั้นเด็กน้อยคนนี้ได้กลายเป็นเหมือนดั่งเครื่องเสียงที่กล่าวพูดเรื่องราวต่างๆ ออกมาไม่มีหยุด
เพียงแค่ว่าตอนนี้ใบหน้าของนางนั้นมันไม่มีความเกลียดชังหรือเย้ยหยันใดๆ สายตาที่นางใช้มองเย่หยวนนั้นมันกลับเปี่ยมไปด้วยความเคารพ
ในความคิดของนางนั้น นางคงนับถือเย่หยวนเป็นพี่ชายไปแล้วจริงๆ
ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กน้อยคนนี้ตัวเย่หยวนเองก็ต้องถอนใจยาวออกมา
เด็กน้อยผู้นี้ยังเป็นแค่เด็กตัวน้อยอย่างแท้จริงไม่มีความคิดแยกแยะดีชั่ว สิ่งที่นางทำไปทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นมันเกิดขึ้นมาจากอารมณ์ชั่ววูบทั้งสิ้น
ที่สำคัญไปกว่านี้เด็กน้อยผู้นี้ยังมีสายเลือดมังกรที่สุดแสนบริสุทธิ์ทั้งยังมีฝีมือต่อสู้เหนือล้ำ นางคงจะยังไม่เคยพบเจอใครที่เก่งกาจกว่าตน เพราะฉะนั้นตัวนางจึงยิ่งมีท่าทางเย่อหยิ่งไม่เห็นหัวใคร แต่ทุกสิ่งอย่างนั้นมันจางหายไปสิ้นตั้งแต่ที่นางพ่ายให้แก่เย่หยวน
หนึ่งนั่นคือการที่เขาสั่งสอนและอีกอย่างคือการที่เขาเปิดเผยพลังสายเลือดออกมา
เพราะฉะนั้นเด็กน้อยคนนี้จึงยอมรับนับถือเขาขึ้นมาทันที
เวลานี้ ณ นอกชายฝั่งกองทัพเผ่าทะเลกำลังตรึงกำลังรออยู่
เย่หยวนนั้นปล่อยเด็กน้อยองค์หญิงมังกรพูดมากไว้และพุ่งตัวออกมาถึงเบื้องหน้าของกองทัพ
เมื่อองค์ชายมังกรฮุ่ยหนิงได้เห็นเด็กน้อยนั้นตัวเขาก็ต้องผงะไปเช่นกัน
แต่ไม่นานสีหน้าของเขามันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความเคืองโกรธ
“จิงเฟย! เจ้ากลับกล้าหนีขึ้นมาบนบกหรือ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสด็จพ่อนั้นเป็นห่วงเจ้ามากมายแค่ไหน?” ฮุ่ยหนิงกล่าวขึ้นมา
แต่เด็กน้อยนั้นกลับไม่คิดยอมรับความผิดและตอบกลับเขาไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ก็วังมังกรมันน่าเบื่อนี่นา! ในทะเลมันมีแต่อะไรซ้ำๆ เดิมๆ น่าเบื่อ! ข้าอยากจะขึ้นมาเที่ยวเล่นบนบกบ้าง! พี่จะทำอะไรข้าได้?”
“เจ้า!” ฮุ่ยหนิงนั้นต้องกัดฟันแน่น
เย่หยวนที่ได้เห็นภาพนี้ก็แทบจะต้องหลุดหัวเราะออกมา
ดูท่าแล้วในทะเลหนามใต้นี้มันคงไม่มีใครเอาเด็กน้อยคนนี้อยู่
“เอาล่ะ กลับไปจัดการเรื่องของพี่น้องเจ้ากันเอาเองเถอะ! นี่สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยก ข้าคืนมันให้แก่เจ้าแล้ว! ทีนี้เจ้าก็เอาเด็กตัวเหม็นนี้กลับไปด้วย พวกเราถือว่าหายกัน”
เย่หยวนโยนสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกกลับไปให้ฮุ่ยหนิงทันที
ฮุ่ยหนิงนั้นหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาตกตะลึง
เพราะเขานั้นรู้จักน้องสาวตนเองดี
ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยพลังของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกในมือแล้วตัวนางย่อมจะเก่งกาจกว่าเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั่วๆ ไปด้วยซ้ำ
แต่เจ้าหมอนี่มันกลับแย่งเอาสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกมาคืนได้
และดูจากสีหน้าท่าทางของน้องสาวเขาแล้ว นางเองก็ไม่ได้มีทีท่าจะขัดขืนมากมาย
“โอหัง! เจ้ากล้ามาเรียกองค์หญิงท่านว่าเป็นเด็กตัวเหม็นหรือ! เด็กน้อย เจ้าไม่รู้จักคำว่าตายเสียแล้วหรืออย่างไร?” เมื่อแม่ทัพฉลามดำได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นมาทันที
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจฉลามเสียงดังผู้นี้และหันหลังเดินกลับไป
ด้านหลังของเย่หยวนนั้นมันมีกองทัพของมนุษย์รอรับเขาอยู่
ฮุ่ยหนิงขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันหลังกลับไปสั่งการทหารทั้งหลาย “เอาล่ะ ถอยทัพกลับไปยังเมืองหลวง!”
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้น
เพราะเด็กน้อยนั้นยกมือขึ้นมาวาดบนอากาศก่อนจะร้องลั่น “จงมา!”
สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นถูกนางดึงกลับไปจากมือของฮุ่ยหนิงและพุ่งเข้าไปหาตัวเด็กน้อยทันที
จากนั้นตัวนางก็พุ่งขึ้นน้ำมาเหมือนดั่งลูกศร
“ฮี่ๆ พี่ ตอนนี้พันธะวิญญาณดั่งเดิมมันก็ถูกชำระแล้ว พี่ไม่ต้องตายแล้ว! ตอนนี้ข้าหนีออกมาด้วยตัวเองอีกครั้ง ท่านจะพาข้าไปเล่นบนบกได้หรือยัง?”
พริบตาเดียวนั้นเด็กน้อยก็กลับมายืนเกาะขาเย่หยวนอีกครั้ง
เย่หยวนนั้นไม่คิดตกตะลึงใดๆ หากว่านางไม่มานั้นมันถึงจะน่าตกตะลึง
แต่เย่หยวนนั้นก็ส่ายหัวออกมา “เจ้าไปเล่นคนเดียวเถอะ ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า!”
เด็กน้อยนั้นจึงตอบกลับมาด้วยแก้มป่อง “หึ! พี่ขี้เหนียว!”
“จิงเฟย! กลับมานี่! หากเจ้ายังไม่กลับมาเสด็จพ่อจะต้องบุกมายังเมืองสวรรค์ใต้อีกครั้งแน่!” ฮุ่ยหนิงนั้นร้องตามหลังมา
เด็กน้อยนั้นแลบลิ้นตอบกลับไป “เรื่องของพ่อสิ มันเกี่ยวอะไรกับข้าเล่า?”
ฮุ่ยหนิงนั้นไม่รู้จะไปลงที่ไหนจึงได้หันมากล่าวใส่เย่หยวน “เด็กน้อย เจ้าโกง! เจ้าและจิงเฟยคิดรวมหัวกันมาก่อน!”
เย่หยวนที่ได้ยินจึงต้องตอบกลับไปอย่างเหนื่อยหน่าย “เจ้าโง่มากหรือ? หากข้าร่วมมือกับนางมาแต่แรกแล้วมีหรือที่ข้าจะคลายพันธะวิญญาณดั่งเดิมลงได้? เจ้าจัดการน้องตัวเองไม่ได้แล้วเวลานี้กลับคิดมาหาเรื่องข้าแทน? นี่เจ้าลืมสมองไว้ที่บ้านหรือ?”
ฮุ่ยหนิงนั้นต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขานั้นรู้ดีว่าคำพูดของเย่หยวนมันคือความจริง
พันธะวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันคือสิ่งที่ถูกเต๋าสวรรค์จับตามอง
หากเย่หยวนร่วมหัวกับจิงเฟยมาก่อนแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหลบซ่อนสายตาของเต๋าสวรรค์ได้ สุดท้ายพลังของพันธะมันก็จะถูกเปิดใช้งานออกมา
ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยนิสัยของจิงเฟยน้อยนี้แล้ว ย่อมจะไม่แปลกหากนางคิดทำอะไรเช่นนี้ขึ้น
“เรื่องนั้น…น้องชาย เจ้าจะช่วยข้าจับตัวนังเด็กคนนี้กลับไปได้หรือไม่?”
หลังจากตั้งสติได้ฮุ่ยหนิงก็กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “เสด็จพ่อนั้นเอาใจเด็กคนนี้มาก ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าเองก็ได้เห็นนิสัยของนางแล้วใช่หรือไม่เล่า? หากนางขึ้นบกไปแล้วมันคงได้กลายเป็นตัวปัญหาก่อเรื่องวุ่นวายไม่เว้นวันแน่!”
เมื่อตัวจิงเฟยได้ยินเช่นนั้นนางก็รู้สึกได้ทันทีว่าไม่ได้การก่อนจะคิดพุ่งตัวหนีไป
แต่นางนั้นช้าเกินไป เย่หยวนนั้นรวบคอของนางไว้ได้แล้ว
“พี่คนดี ข้าขอล่ะ ปล่อยข้าไปเถอะนะ?” เด็กน้อยรีบกล่าวขึ้น
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ข้าคิดว่าคำพูดขององค์ชายมังกรนั้นมันก็มีเหตุผล อ่า…หากเจ้าไม่กลับไปแล้วบนแผ่นดินมันคงไม่ได้รู้จักความสงบกันแน่ ที่สำคัญไปกว่านั้นเสด็จพ่อของเจ้าเองก็คงจะขึ้นมาทำสงครามอีกครั้งเพื่อเอาตัวเจ้ากลับไป เพราะฉะนั้นเจ้าจงยอมกลับไปเสียแต่โดยดีเถอะ”
“หากข้าไม่อยากกลับเล่า?”
“หืม?” เย่หยวนหรี่ตาลงมองเด็กน้อยจนทำให้นางตัวสั่นขึ้นทันที
“เอาล่ะๆ ข้าจะกลับไปก็ได้ พี่ตัวเหม็น พี่ขี้แกล้ง!” เด็กน้อยนั้นไม่คิดจะขัดขืนอีกต่อไป
นางนั้นมองดูเย่หยวนด้วยทั้งความเกรงและความเคารพ
ที่สำคัญไปกว่านั้นสายตาที่ดุร้ายของเขานั้นมันยังทำให้นางรู้สึกเจ็บก้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะตอบกลับไป “เจ้ากลับไปดีๆ เสียเถอะ หากเจ้าลอบกลับขึ้นมาและถูกข้าจับได้อีกเจ้าจะได้รู้ว่าข้านั้นมือหนักแค่ไหน!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองจนตัวเด็กน้อยต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดก้นตัวเองไว้และวิ่งออกไป “ได้ๆ ข้าเข้าใจแล้ว!”
แต่ทางด้านเหล่าชาวทะเลทั้งหลายนั้นพวกเขาต่างต้องอ้าปากค้างไม่เข้าใจภาพตรงหน้านี้ รวมไปถึงตัวฮุ่ยหนิงด้วย
เด็กน้อยที่ไม่รู้จักกฎเกณฑ์หรือเกรงกลัวใครนั้นกลับกลัวเย่หยวนราวกับเป็นเสือร้าย!
ร้อยปีตั้งแต่เด็กน้อยคนนี้มันถือกำเนิดขึ้นมานั้นทะเลหนามใต้ไม่เคยจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข
แม้แต่ตัวราชามังกรน้ำดำเองก็ยังไม่อาจจะจัดการนางได้อยู่หมัด
แต่เวลานี้นางกลับยอมฟังคำพูดของมนุษย์ผู้หนึ่ง!
“แต่ว่าพี่นั้นต้องสัญญากับข้าก่อน! ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะกลับขึ้นมาแน่!” แต่นางนั้นยังไม่คิดหยุดพูดและรีบกล่าวเงื่อนไขขึ้นมาต่อราวกับกลัวว่าเย่หยวนจะปฏิเสธ
เย่หยวนที่ได้ยินต้องรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “ว่ามา!”
เด็กน้อยนั้นยิ้มกว้างขึ้นทันทีที่ได้ยิน “ข้าอยากให้พี่ลงไปเที่ยวเล่นในวังมังกรภายในหนึ่งปี! ไม่เช่นนั้นแล้ว หึ! เสด็จพ่อจะต้องบุกขึ้นมาทำลายเมืองสวรรค์ใต้ลงสิ้นแน่!”
…………………………