Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2451 เจ้าจะยอมแพ้หรือยัง
“เด็กน้อย แน่จริงก็อย่าหนีสิวะ! หากเจ้าเป็นลูกผู้ชายก็จงมาต่อสู้กันอย่างซึ่งหน้ากับเฒ่าคนนี้!” เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วร้องขึ้น
เขานั้นใช้พลังและวิชาทั้งหมดที่มีออกมารวมทั้งปล่อยวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ออกมาจนสิ้น
วรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ของเขานั้นมันสามารถจะคาดเดาการเคลื่อนไหวต่อไปของศัตรูได้อย่างแม่นยำยิ่ง
น่าเสียดายที่ว่ามันไม่อาจจะใช้งานต่อตัวเย่หยวนได้เลย
เขานั้นไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่าเย่หยวนจะไปปรากฏตัวขึ้นที่ใด!
หากจะใช้คำใดมาอธิบายมันคงต้องบอกว่าเย่หยวนนั้นไปมาเหมือนผีร้าย
มิติใดๆ ที่ถูกปิดกั้นหนักแน่นนั้นมันไร้ประโยชน์ต่อหน้าเย่หยวน ตัวเขานั้นสามารถที่จะหลบรอดการโจมตีปิดกั้นได้สิ้น
เจ้าสวรรค์หมี่ลั่วนั้นแทบจะเสียสติไป
เย่หยวนที่ได้ยินคำของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วต้องยิ้มตอบกลับมา “เจ้าเฒ่า คิดจะมาทำเป็นลูกผู้ชายกับข้า? หากเจ้าเก่งกาจจริงก็ลองกดพลังบ่มเพาะของตนลงมาในอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นต้นสิ ข้าขอสาบานเลยว่าข้าจะกระทืบเจ้าจนมันไม่เหลือเค้าเดิมให้เอง!”
มุมปากของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วสั่นกระตุกขึ้นมาอย่างแทบจะระเบิดออก
ด้วยพลังฝีมือของเย่หยวนนั้นหากเขามีพลังบ่มเพาะในระดับเดียวกันแล้วมันคงมีแต่ความตายรออยู่!
เขาไม่อาจจะหาคำใดมาเถียงไป!
ไม่อาจทำร้ายได้และยังแพ้ฝีปาก เช่นนี้จะตอบโต้อย่างไร?
ที่ด้านข้างตัวเยวี่ยเมิ่งลี่เองก็ต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่อาจอ่านใจได้ว่ากำลังคิดอะไร
แต่นางนั้นไม่ได้ขยับห้ามใดๆ มองดูคนทั้งสองปะทะกันไป
ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นในจากส่วนลึกในถ้ำ
“หมี่ลั่ว ให้มันเข้ามาเถอะ เจ้าทำอะไรมันไม่ได้หรอก”
สีหน้าของเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วเปลี่ยนสีไปทันทีแต่สุดท้ายก็ยังกัดฟันตอบรับกลับไป “ก็ได้!”
เย่หยวนหันไปมองเขาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “โทษตัวเจ้าเองต่อไปเถอะ ให้ดี… เจ้าลองโทษตัวเองไปอีกสักหมื่นล้านปี เผื่อว่าถึงเวลานั้นแล้วโทษของเจ้ามันจะลดเบาลงได้บ้าง อ่า… แน่นอนว่าหากเจ้าอยากไถ่โทษแล้ววันหน้าข้าจะเป็นคนช่วยจัดการให้เอง”
พูดจบเขาก็เดินผ่านหน้าหมี่ลั่วที่มีใบหน้าแดงก่ำเข้าไป
เยวี่ยเมิ่งลี่ลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะเดินตามเข้าถ้ำไป
นางนั้นเดินนำทางให้เย่หยวนเข้ามาลึก
จนเวลานี้ที่ด้านหน้าของคนทั้งสองนั้นเย่หยวนสัมผัสได้ถึงพลังงานโบราณปะทะเข้ากับหน้าอย่างแรง
คลื่นพลังรุนแรงเช่นนี้มันเหมือนกับตัวตนที่อยู่ล้ำทุกชีวิต!
ยิ่งเข้ามาลึกเท่าใดความรู้สึกถึงคลื่นพลังโบราณนั้นมันก็ยิ่งทำให้เย่หยวนแทบจะอยากก้มลงกราบ!
จนสุดท้ายที่ด้านหน้าของเย่หยวนนั้นมันก็ปรากฏให้เห็นโถงกว้าง
ที่ด้านหน้าของเย่หยวนนั้นมันมีชายคนหนึ่งนั่งคุกเข่าลงต่อหน้ารูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปด
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องเลิกคิ้วสูงมองดูรูปปั้นทั้งแปดนั้นด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด!
เพราะในเวลานี้สิ่งที่เขาสัมผัสได้มันคือพลังสูงล้ำเหนือกว่าชีวิตใดๆ
รูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปดนั้นมันเหมือนมีชีวิตและกำลังมองดูมาที่ตัวเขา!
และสายตาของพวกมันนั้นมันทะลุทะลวงหัวใจเข้าไป!
ในเวลานี้เย่หยวนกลับเกิดความรู้สึกอยากจะก้มลงกราบขึ้นมา!
รูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปดนี้มันทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้!
เย่หยวนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายรีบใช้พลังเต๋าสวรรค์จากเขาน้อยแห่งถงเทียนออกมารับมือพลังตรงหน้าทันที
ฟุบ!
วินาทีเดียวกันนั้นชายที่นั่งหันหลังให้ก็พุ่งตัวเข้ามาต่อยเย่หยวน!
พริบตาเดียวนี้เขากลับมาปรากฏต่อหน้าเย่หยวนแล้ว
คลื่นพลังรุนแรงที่แทบจะบดขยี้เย่หยวนลงเป็นเศษเนื้อมันได้ทำให้หน้าของเย่หยวนซีดขาวลงทันที!
แข็งแกร่ง!
แต่จะอย่างไรตัวเย่หยวนก็เร็วไม่แพ้กัน เขารีบใช้พลังของแนวคิดแห่งห้วงมิติออกมา!
ตูม!
จุดที่เย่หยวนยืนอยู่นั้นมันเกิดแรงสั่นไหวเข้ามาถึงระดับมิติ
แต่ตำแหน่งของเย่หยวนและชายคนนั้นมันได้สลับกันไปแล้ว!
ชายคนนี้โจมตีพลาดแต่ก็ไม่ได้คิดไล่ตามใดๆ แต่ดึงพลังของตนกลับมายืนมือไพล่หลังแทนก่อนจะจ้องมองดูเย่หยวนด้วยสายตาสนใจ
“สมชื่อว่าเป็นนักบุญฟ้าครามจริง! การโจมตีของบรรพกาลผู้นี้ต่อให้จะเป็นเต๋าบรรพกาลมันก็คงไม่มีทางหลบเลี่ยงได้! ไม่นึกเลยว่าเจ้านั้นกลับจะทนทานพลังสวรรค์ของแปดรูปปั้นเทพเจ้าและยังหลบการโจมตีของข้าพร้อมๆ กันได้! ข้าล่ะสงสัยเสียจริงว่าเจ้าทำมันได้อย่างไร?” ชายคนนั้นกล่าวถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
การโจมตีเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ออมมือใดๆ!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือที่แห่งนี้มันเป็นต่อหน้ารูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปดทำให้มิตินั้นหนักแน่นเกินกว่าจะเคลื่อน
ภายใต้สภาวะมิติเช่นนี้แล้วหากคิดใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติหลบเลี่ยงใดๆ มันคงนับว่ายากยิ่ง
ทั้งยังมีเรื่องของพลังอำนาจสวรรค์จากตัวรูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปดอีกด้วย
ต่อให้จะเป็นเต๋าบรรพกาลแต่หากมาอยู่ที่นี่มันก็คงไม่พ้นต้องถูกสะกด
การโจมตีเมื่อสักครู่นี้มันสามารถฆ่าสังหารได้ทุกสิ่งอย่าง
ใครจะไปนึกฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับหลบเลี่ยงมันได้!
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหันไปหาชายคนนั้น “เจ้าคือเทียนชิง?”
ชายคนนั้นจึงตอบกลับมา “ใช่ ข้านี่แหละ! จะว่าไปบรรพกาลผู้นี้เองก็ต้องขอบคุณเจ้าด้วยที่ช่วยฟื้นฟูมิติเวลาให้ทำให้บรรพกาลผู้นี้สามารถกลับมาจากการถูกเนรเทศในห้วงมิติเวลา”
ชายคนนี้คือจุดสุดยอดของเผ่าเทวาผู้ทำให้ทั้งมหาพิภพถงเทียนต้องสั่นสะท้าน ยอดฝีมือสิบลายเพียงหนึ่งเดียว เทียนชิง!
การโจมตีเมื่อครู่นี้มันอาจจะดูเหมือนหมัดเปล่าๆ แต่แท้จริงอันตรายยิ่ง!
เย่หยวนนั้นสัมผัสถึงมันได้อย่างเปี่ยมล้น!
เพราะว่าการโจมตีเมื่อครู่นี้มันถึงขั้นส่งผลต่อพิภพโกลาหลของเขา!
เวลานี้พลังภายในของเย่หยวนมันปั่นป่วนอย่างมากทำให้เกิดความหายนะบนพิภพโกลาหลไม่น้อย
แค่นี้ก็พอจะเห็นได้แล้วว่าหมัดก่อนหน้ามันทรงพลังแค่ไหน!
เย่หยวนนั้นตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องกล่าวขึ้นด้วยเสียงถอนใจ “ข้ายังประเมินยอดคนแห่งโลกหล้าต่ำเกินไป! พลังของหมัดนี้มันเทียบเคียงได้กับพลังของเต๋าและมากพอที่จะหลุดผ่านปมห้วงมิติเข้าไปถึงพิภพโกลาหลของข้า! ช่างรุนแรงเสียจริง!”
โชคยังดีที่เทียนชิงนั้นไม่ได้มีความคิดตามมาซ้ำโจมตีไม่เช่นนั้นแล้วเย่หยวนก็ไม่แน่ใจว่าตนจะออกจากมิตินรกนี้ไปได้จริงๆ หรือไม่!
ดูท่าแล้วตัวเทียนชิงเองก็คงระแวงเย่หยวนไม่น้อย
ก่อนหน้านี้เขาแค่ทดสอบดูว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจเหมือนที่ได้ยินมาหรือไม่
หากเขาสังหารเย่หยวนลงได้จริง มันก็ถือว่าจบเรื่องกันไป
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าเขานั้นกลับพลาด?
เย่หยวนนั้นไม่อาจจะถูกฆ่าสังหารแม้ตอนอยู่ในดินแดนบรรพบุรุษ หากไปอยู่กันในโลกภายนอกแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงไปกันใหญ่
แต่ว่าที่ด้านข้างของตัวเขานั้นทั้งเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วทั้งเยวี่ยเมิ่งลี่ต่างอ้าปากค้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเจ้าสวรรค์หมี่ลั่วที่ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อาจหุบลงได้
เขาไม่เคยเห็นเทียนชิงพลาดมาก่อน!
ต่อให้จะเป็นตอนที่ปะทะกับมหาบรรพกาลมิติเวลานั้นเองตัวเทียนชิงก็ไม่เคยจะโจมตีพลาดเป้า!
ไม่มีใครเคยหลบหมัดของเขานั้นได้!
มหาบรรพกาลมิติเวลานั้นบ่มเพาะฝึกฝนแนวคิดแห่งมิติเวลามาจนถึงขั้นสุดแต่ก็ยังไม่อาจหลบเลี่ยง!
แต่เย่หยวนผู้นี้กลับหลบได้!
เรื่องนี้จะไม่ให้ตกตะลึงได้อย่างไร?
ในสายตาของเขานั้นเย่หยวนที่เดินเข้ามาในดินแดนบรรพบุรุษนั้นมันก็เท่ากับมารนหาที่ตาย
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าเผ่าเทวาที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเทียนชิงนี้กลับไม่อาจจะทำอะไรต่อเย่หยวนได้
เจ้าหมอนี่มันเก่งกาจมากหรือ?
แค่นับเรื่องที่หลบหมัดนี้ได้มันก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนแล้ว!
“หึ! ไม่ต้องมาขอบคุณใดๆ วันหนึ่งข้าจะมาสังหารเจ้าด้วยมือคู่นี้ให้เอง!” เย่หยวนกล่าว
แต่เมื่อเทียนชิงได้ยินตัวเขาก็หัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… คนที่มีปัญญาจะฆ่าสังหารข้าได้มันไม่เคยมีมาก่อนและจะไม่มีขึ้นอีกตลอดกาล! ข้าจะบอกความจริงเจ้าให้ เว้นเสียแต่ว่ารูปปั้นทั้งแปดนี้ลุกขึ้นมามีชีวิตแล้วบนมหาพิภพถงเทียนนี้ย่อมจะไม่มีใครฆ่าสังหารข้าได้! ข้ารู้ว่าเจ้านั้นมีพรสวรรค์แค่ไหนแต่มันก็เปล่าประโยชน์! บรรพกาลผู้นี้เป็นอมตะไม่มีวันดับสูญ เจ้าไม่มีทางสังหารข้าได้! ในวันหน้าอย่างมากที่สุดเจ้าก็คงเป็นแค่ศัตรูตัวร้ายของข้าเท่านั้น!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นก็มารอดูกันไป!”
เทียนชิงส่ายหัวออกมาอย่างไม่คิดอยากไปเถียงด้วย
ความมั่นใจของเขานั้นมันเกิดขึ้นมาได้เพราะพลังอำนาจที่ไม่เคยมีใครเทียบเคียงนี้
เขามีสิทธิพอที่จะโอหัง!
“เจ้ามาเพื่อลี่เอ๋อ ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยังเล่า?”
เทียนชิงยิ้มขึ้นมาก่อนจะกล่าวต่อ “เผ่าเทวาของข้านั้นคือเผ่าที่ถูกสวรรค์เลือก! รูปปั้นเทพเจ้าทั้งแปดนี้คือของขวัญจากสวรรค์ให้เราได้ยืนอยู่เหนือทุกชีวิต! ลี่เอ๋อนั้นเป็นคนของเผ่าเทวาและจะเป็นสมาชิกของเผ่าเทวาตลอดไป นางนั้นจะสู้เพื่อเผ่าเทวาเท่านั้น! เจ้าคิดยอมแพ้หรือยังเล่า?”
…………………………