Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2434 ตอบรับแต่โดยด
“ใช่แล้ว ข้านั้นคงไม่มีสิทธิ!”
เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกล่าวอย่างไม่คิดแยแสแต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนเรื่องขึ้น “แต่เวลามันเปลี่ยนไปแล้ว เวลานี้หญิงที่รักของเขาได้กลายเป็นบุตรีเทวะของเผ่าเทวา ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพรสวรรค์ของนางเองก็ล้ำฟ้าดิน มีหรือที่เจ้าจะมั่นใจได้ว่าเขานั้นยังจะภักดีต่อมนุษย์เรา? บางทีการที่เขาปล่อยเทียนเหอไปนี้มันอาจจะเป็นสัญญาการทรยศแล้วก็ได้? เจ้าเองก็รู้ว่าเขานั้นมากพรสวรรค์แค่ไหน แต่มันก็เพราะเรื่องนั้นที่ทำให้หากเขาย้ายฝ่ายแล้วมันคงได้กลายเป็นหายนะของหลากเผ่าพันธุ์เราแน่!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นยิ้มกล่าวขึ้น “หากเจ้านั้นจะว่ากล่าวใครเจ้าต้องคิดข้อกล่าวหาเขามาให้ดีก่อน เวลานี้เจ้ากลับมากล่าวหาเขาในเรื่องนี้! แค่เรื่องนี้เจ้าก็คิดจะทำลายนักบุญฟ้าครามลง? จักรพรรดิผู้นี้ขอบอกเลยว่าหากเจ้ายังไม่ถอนรากถอนโคนตระกูลเจียนเรา เจ้าจะไม่มีวันได้สมหวัง!”
เต๋าบรรพกาลเงียบลง เพราะท่าทางของเฉียนจี้นี่เองเขาก็คำนวณไว้ก่อนแล้ว
นักบุญฟ้าครามและมายาล้ำนั้นมันคือหนึ่งเดียวกัน เขานั้นเป็นคนจากยุคก่อนและย่อมเคยได้เห็นเรื่องราวของนักบุญทั้งสองนั้น มีหรือที่คนอย่างเขาจะไม่รู้ได้?
แต่เย่หยวนต้องตาย!
แต่ว่าการสังหารเย่หยวนนั้นมิใช่เรื่องง่าย
นามของนักบุญฟ้าครามนั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป เขานั้นคือคนที่สร้างความรุ่งเรืองให้เผ่ามนุษย์และเวลานี้ยังเป็นแม่ทัพที่สร้างผลงานมหาศาล
ต่อหน้าคนที่มีชื่อเสียงอำนาจขนาดนี้ แค่พลาดทีเดียวเขาก็คงได้เจอความหายนะ!
แม้ว่าตัวเขานั้นจะเป็นเต๋าบรรพกาลแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขานั้นจะเป็นศัตรูกับทั้งโลกได้
ไหนจะเรื่องที่ว่าเผ่าเทวานั้นมีเทียนชิงผู้นั้นอีก
“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วบรรพกาลผู้นี้ก็มีความคิดจะเสนอ เราจะเชิญตัวเย่หยวนเข้ามาพูดคุยแบบต่อหน้า! เจ้าคิดอย่างไรเล่าเฉียนจี้?” เต๋าบรรพกาลชีวิตกล่าว
เฉียนจี้นั้นหรี่ตาลงด้วยความคับแน่นในอก
เจ้าหมอนี่กลับคิดจะลากเย่หยวนเข้ากับดักซึ่งๆ หน้า!
เมื่อเย่หยวนมาถึงแล้วเขาคงไม่อาจจะกลับออกไปได้อีก!
ได้เห็นเฉียนจี้เงียบลงไปเช่นนั้นตัวเต๋าบรรพกาลชีวิตก็ยิ้มขึ้นมา “ทำไมเล่า? ไม่กล้าจะมาพูดคุยกันต่อหน้าเชียวหรือ? หรือว่าแท้จริงเขานั้นหนีไปยังฝ่ายเผ่าเทวาแล้วจึงตามตัวไม่ได้? กับคนหลากเผ่าพันธุ์นับล้านๆ นี้ให้เขามาอธิบายเรื่องราวหน่อยจะเป็นไรไป?”
เฉียนจี้นั้นกัดฟันแน่น เขาถูกเต๋าบรรพกาลชีวิตต้อนจนมุมจนไม่อาจหาข้อเถียงได้อีก
หลินเฉาเถียนผู้นี้ได้สร้างปัญหาใหญ่ให้แก่เขาแล้ว!
หากมา เย่หยวนคงไม่ได้กลับออกไป
หากไม่มี เย่หยวนก็คงได้ถูกตราหน้าเป็นคนร้ายไป!
“ได้ ข้าไปลงไปเชิญท่านมาด้วยตัวเอง!” เฉียนจี้กล่าวตอบไป
การโจมตีของเต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียน
หลังจากจบศึกใหญ่ไปนั้นนามของนักบุญฟ้าครามมันย่อมจะยิ่งใหญ่ราวดวงตะวัน
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเมื่อยิ่งเวลาผ่านไป หลายต่อหลายคนก็เริ่มจะได้ยินข่าวลือที่ว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนสร้างยุคสมัยเป็นความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา
ไม่นานนักนักบุญฟ้าครามก็ได้ถูกบูชาราวเทพเจ้า
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะไม่อาจเอาสิ่งใดมาเทียบเคียง
แต่ไม่มีใครคิดฝันว่าเต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลับจะมาโจมตีว่าร้ายใส่นักบุญฟ้าครามในเวลานี้
“พวกเจ้าลองเดาเถอะ ท่านนักบุญฟ้าครามจะไปตามคำเชิญหรือไม่?”
“ไปตามคำเชิญ? ทำเช่นนั้นมันรนหาที่ตายชัดๆ! ดูอย่างไรท่านนักบุญฟ้าครามก็คงผงาดล้ำจนเป็นภัยแก่นายท่านทั้งหลายนั้น! เต๋าบรรพกาลชีวิตจึงได้หาเรื่องไม่อาจยอมรับทนเขาได้อีก!”
“เจ้าว่าเช่นนั้นก็ไม่ถูก! เรื่องที่ว่านักบุญฟ้าครามปล่อยเทียนเหอไปนั้นมันย่อมจะเป็นความจริง! คนรักของเขาเป็นบุตรีเทวะ แล้วเช่นนั้นจะเอาอะไรมามั่นใจว่าเขานั้นจะไปตามหญิงที่รักของเขาไป?”
“อืม คำพูดเจ้าก็น่าฟัง! เวลานี้เต๋าบรรพกาลชีวิตคิดอยากเจอนักบุญฟ้าครามแบบตัวต่อตัว เราค่อยมาฟังเรื่องราวหลังจากนั้นแล้วกัน”
…
เมื่อเย่หยวนได้เห็นเฉียนจี้อีกครั้งนั้นเขาก็ต้องฝืนยิ้มรับไป “อ่า? เต๋าบรรพกาลชีวิตอยากเจอข้า? เอาสิ ไปกัน”
เฉียนจี้นั้นเห็นได้ถึงความเจ็บปวดเบื้องหลังใบหน้าเรียบเฉยของเย่หยวน เรื่องราวในครั้งนี้มันคงส่งผลกระทบต่อตัวเขาอย่างมาก
การได้เข้าใจชีวิตของเย่หยวนนั้นเฉียนจี้ย่อมจะเริ่มเข้าใจว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนที่ให้ค่าแก่สายสัมพันธ์และความเชื่อถืออย่างมากล้น
แต่คนที่เขารักและเชื่อถือนั้นกลับกลายเป็นบุตรีเทวะของเผ่าเทวาไป ใครกันเล่าจะไม่เศร้าโศกไปได้?
แต่เขานั้นไม่ได้นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะยอมรับอย่างง่ายดายเช่นนี้
“ท่านไม่เข้าใจที่ข้าบอกหรือ? หลินเฉาเถียนมันวางแผนมายาวนาน มันนั้นคงได้เตรียมการไว้อย่างหนักหน่วง หากท่านไปท่านจะไม่ได้กลับออกมาแน่!” เฉียนจี้กล่าวขึ้น
เย่หยวนยิ้มรับ “หากข้าไม่ไปแล้วมันจะไม่เท่ากับเป็นการยืนยันว่าข้าคิดทรยศหรือ? ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าเป็นคนมาเชิญข้าเองเช่นนี้ แต่หากข้าบอกไม่ไปอีกแล้วมันคงได้กลายเป็นภาระของเจ้าและตระกูลเจียนอีกแน่ นามของนักบุญฟ้าครามนั้นมันไม่ได้สำคัญมากต่อข้า แต่นามนักบุญมายาล้ำของพ่อเจ้านั้น ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องมันเด็ดขาด!”
เมื่อเฉียนจี้ได้ยินสีหน้าของเขาก็ต้องถอดสีลง
เขานั้นย่อมคิดถึงแต่ความปลอดภัยของเย่หยวนจนลืมคิดเรื่องอื่นๆ ไปสิ้น
หากเย่หยวนหนีไปจริงแล้ว หลินเฉาเถียนมันก็อาจจะหาเรื่องโจมตีตระกูลเจียนเป็นรายต่อไป
เฉียนจี้ได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น “แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าหลินเฉาเถียนมันเป็นใคร? มันนั้นคือคนชุดแรกที่ได้เข้าไปยังมิติลับสวรรค์ ตอนนั้นมันอยู่ห่างจากเหล่ามหาบรรพกาลทั้งหลายแค่ครึ่งก้าว! จากนั้นในสงครามสิ้นโลกมันก็เหลือรอดและได้กลายเป็นเต๋าบรรพกาลชีวิตไป! หลังจากผ่านมาได้อีกนับหมื่นๆ ล้านปีนี้ต่อให้เต๋าสวรรค์จะดึงพลังกฎกลับไป กำลังของตัวมันเองนั้นก็คงเหนือล้ำกว่าใครๆ เรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งเผ่ามนุษย์เลยก็ว่าได้!”
แต่เย่หยวนกลับตอบไปด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเองก็รู้ว่ามันนั้นเก่งที่สุด แต่ทำไมมันถึงยังไม่ลงมือสังหารข้าทิ้งเล่า? ด้วยกำลังของมันนั้นหากคิดอยากสังหารข้ามันย่อมจะลงมือทำไปนานแล้ว มันนั้นกำลังกลัวอำนาจเบื้องหลังที่ข้ามีต่างหาก! แต่ที่มันคิดลงมือตอนนี้เจ้าลองนึกถึงเหตุเบื้องหลังหรือยังว่าเป็นเพราะอะไร?”
เฉียนจี้ผงะถามขึ้น “ท่านรู้เหตุผลที่มันตั้งเป้าหมายหัวท่านหรือ?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ข้าไม่รู้ได้ ได้แต่เดา หากให้พูดตามหลักการแล้วคนที่มันกลัวที่สุดตอนนี้ควรจะเป็นเทียนชิง แต่สงครามสิ้นโลกยังไม่จบลงดีมันกลับหันหน้ามาโจมตีข้าต่อเช่นนี้ มันย่อมจะหมายความว่าข้านั้นเป็นภัยที่เหนือล้ำกว่าเทียนชิง เพราะฉะนั้นมันจึงคิดจะสังหารข้าเสียก่อนที่จะได้มีโอกาสเติบโต”
เฉียนจี้สั่นสะท้านไปทั้งกาย หากลองนึกย้อนไปมันย่อมจะเป็นเช่นนั้นแน่แล้ว
แต่มันเป็นเพราะสิ่งใดที่ทำให้เขาผู้นั้นเชื่อว่าเย่หยวนเป็นภัยที่ร้ายแรงกว่าเทียนชิง?
ในสายตาของเขานั้น ต่อให้เย่หยวนจะผสานมิติ เวลาและดาบสามยอดแนวคิดได้ มันก็ยังไม่แน่ด้วยซ้ำว่าจะเอาชนะเทียนชิงได้
“แต่หากเป็นเช่นนั้นแล้วท่านก็ยิ่งจะไปไม่ได้! หากท่านไปแล้วต่อให้หลินเฉาเถียนมันจะไม่สังหารท่านลงมันก็คงต้องจับตัวท่านไว้! ชีวิตนี้ท่านคงไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันอีกแน่!” เฉียนจี้เตือนขึ้น
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไม่ต้องมาโน้มน้าวใดๆ อีก ข้านั้นแค่อยากจะรู้เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้เต๋าบรรพกาลชีวิตนี้คิดอยากลงมือโจมตีข้านัก”
…
ท่านนักบุญฟ้าครามยอมรับคำเชิญไปนั้นมันย่อมทำให้คนทั้งหลายแทบลืมหายใจ
ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนกลับจะตอบรับเดินเข้ากับดักอย่างง่ายดาย
เวลานี้มันยิ่งมีคนหันมาสนใจเรื่องราวมากขึ้น เหล่ายอดคนเบื้องบนนั้นยิ่งรู้ว่านี่คงเป็นสถานการณ์เสี่ยงตายแน่แล้ว!
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เต๋าบรรพกาลชีวิตก็คงไม่มีทางปล่อยเย่หยวนออกมา!
พวกเขาต่างไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะมา
เพราะอย่างไรเสีย เทียบกับชีวิตแล้วชื่อเสียงมันจะมีค่าใด?
แม้ว่านามของนักบุญฟ้าครามนั้นจะยิ่งใหญ่ปานใด ตัวเขาก็ยังมิใช่ยอดฝีมือที่แท้จริง
เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นเป็นตัวตนที่สูงส่งเหนือล้ำเทียบเคียงเทียนชิงได้!
“มันจริงหรือ? ข้าเคยได้ยินบอกว่านักบุญฟ้าครามนั้นฉลาดหลักแหลม แต่สุดท้ายเขากลับมาทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้ได้!”
“หึๆ ในสายตาของข้านั้นท่านนักบุญฟ้าครามคงเป็นคนที่หลงใหลในชื่อเสียงของตนเองเกินไป”
“อืม จากถูกคนนับล้านบูชากลายมาเป็นแค่คนธรรมดา เรื่องราวเช่นนี้มันคงยากที่จะรับได้จริง”
…………………………