Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2386 ประลอง
โถงโอสถนั้นมันคือสถานที่สุดแสนสำคัญของสังหารเทพ
เพราะโถงแห่งนี้จะรับหน้าที่ในการหลอมโอสถให้แก่สมาชิกสังหารเทพทั้งหมด
และคนที่เป็นผู้ควบคุมดูแลโถงแห่งนี้มันก็คือหวู่หยุน
หวู่หยุนนั้นเป็นนักหลอมโอสถที่เก่งกาจที่สุดในสังหารเทพมีกำลังฝีมือแทบก้าวขึ้นถึงระดับของกฎ
แต่วันนี้บรรยากาศภายในโถงโอสถมันกลับดูอึดอัดอย่างมาก
ยอดฝีมือการโอสถหลายต่อหลายคนนั้นเข้ามารุมล้อมตัวหวู่หยุนด้วยสีหน้าท่าทางสง่า
“นายท่าน เจ้าเด็กคนนี้มันคิดรังแกท่านชัดๆ! วันแรกที่มันมารับตำแหน่งมันก็คิดจะมายังโถงที่ท่านดูแล นี่มันคือการท้าทายอย่างเปิดเผยเลยมิใช่หรือ?”
“ข้าล่ะไม่รู้จริงๆ ว่าท่านเฉียนจี้คิดอะไรถึงได้คิดเอาเด็กน้อยเช่นนั้นมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ก้าวข้ามหัวแม้แต่ตัวนายท่านไป”
“นายท่านรอก่อนเถอะ เราต้องสั่งสอนมันให้ได้! แค่คนอย่างมันนี้ เป็นแค่เด็กน้อยจักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งก็คิดจะมายุ่งกับงานของโถงโอสถได้หรือ?”
…
ที่แท้หลังจากเย่หยวนได้รับแต่งตั้งแล้ว โถงแรกที่เขาอยากมาเยี่ยมเยียนมันก็คือโถงโอสถ
และบังเอิญว่าผู้ดูแลของโถงนี้มันเป็นตัวหวู่หยุนพอดี
แต่แน่นอนว่าในสายตาของคนทั้งหลายแล้วนี่มันย่อมจะเป็นตัวเย่หยวนคิดหาเรื่องกดหัวหวู่หยุน
ในเวลานี้พวกเขาทั้งหลายจึงได้มารุมล้อมรอบโถงโอสถคิดหวังดูเรื่องสนุกๆ
พวกเขาทั้งหลายนั้นได้ยินได้ฟังมาถึงพลังต่อสู้ของเย่หยวน
แต่พวกเขาไม่เคยจะได้ยินว่าเย่หยวนนั้นรู้วิชาการโอสถ
เพราะต่อให้จะเคยได้ยินมาก่อน พวกเขาเองก็คงไม่ใส่ใจมากมาย
เด็กน้อยจักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งนั้นกลับคิดมาท้าทายโถงโอสถ นี่มันคือการรนหาเรื่องใส่ตัว
หากให้พูดถึงเหล่ายอดฝีมือของโถงโอสถนี้ ส่วนมากแล้วล้วนแต่ได้หวู่หยุนเป็นคนดูแลสั่งสอนมาสิ้น
โถงโอสถของสังหารเทพนี้มันนับได้ว่าเป็นองค์กรโอสถที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าต่างๆ ของมหาพิภพถงเทียน!
และสมาชิกทุกผู้คนนั้นต่างซื่อตรงภักดีต่อหวู่หยุน
เพราะฉะนั้นการที่เย่หยวนคิดจะมาเช่นนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายเหมือนได้มีศัตรูคนเดียวกัน คิดอยากสั่งสอนเย่หยวนเสียให้ได้
หวู่หยุนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะตอบกลับไป “พวกเจ้าอย่าเพิ่งใจร้อนไป! หัวหน้าผู้ฝึกสอนนี้มันเป็นตำแหน่งที่เฉียนจี้ตัดสินใจอย่างไม่ฟังคำใคร เจ้าเด็กคนนี้มันย่อมจะมีวิชาที่เหนือล้ำหัวใครๆ แน่แล้ว! หลังจากเขามาถึงแล้วก็ค่อยดูก่อนว่ามีฝีมือแค่ไหน จากนั้นค่อยไปว่ากันอีกที แน่นอนว่าหากเขามีแค่ตำแหน่งแต่ไร้ฝีมือ ข้าย่อมจะไม่ยอมให้เขามายุ่งงานของโถงโอสถแน่!”
หลังจากคนทั้งหลายได้ยิน พวกเขาก็ต้องพยักหน้ารับออกมาตามๆ กัน
แต่แน่นอนว่าภายในของพวกเขาย่อมไม่สนใจ
เมื่อเข้ามาถึงโถงโอสถเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศตรงหน้า
ดูแล้วสายตาของทุกผู้คนที่มองมามันแฝงไปด้วยความเกลียดชังไม่น้อย
แต่เขานั้นย่อมไม่สนใจ ระหว่างทางมานี้เขาได้เห็นสายตาเช่นนี้มากมาย
เขานั้นย่อมจะไม่ได้มาที่โถงโอสถนี้เพื่อจะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวการปฏิบัติงานใดๆ และไม่ได้มาเพื่อสั่งสอนผู้คนใดๆ ด้วย
ในความเข้าใจของเขานั้นเผ่าเทวามันเกรงกลัวเหล่านักหลอมโอสถของเผ่าต่างๆ อย่างมาก
หรือก็คือการโอสถของยุคก่อนมันพัฒนาไปอย่างสูงล้ำฟ้าดิน!
ด้วยยอดฝีมือมากมายของยุคก่อนนั้น เหล่านักหลอมโอสถและเต๋าโอสถคงพัฒนากันไปได้อย่างมากล้น
ในโถงโอสถนี้ มันคงเรียกได้ว่าเป็นโรงงานผลิตยอดคน!
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้เลือกโถงโอสถนี้เป็นเป้าหมายหลังได้รับตำแหน่ง
เขานั้นค่อยๆ เดินไปหยุดตรงหน้าหวู่หยุนก่อนจะก้มหัวลงเล็กน้อยและกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสหวู่หยุน ข้ามาวันนี้เพื่อขอดูฝีมือของโถงโอสถ”
หวู่หยุนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ ไม่ได้ใจเย็นอย่างที่เห็นภายนอก
ไม่ว่าเรื่องราวมันจะซับซ้อนอย่างไร แต่วิสัยทัศน์ของเฉียนจี้ก็ย่อมจะไม่มีทางผิดพลาด
เขานั้นมิใช่คนขี้อิจฉาใดๆ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่อาจกลายเป็นคนสนิทของเฉียนจี้ได้
แต่การให้จักรพรรดิเทพสวรรค์หนุ่มน้อยคนหนึ่งก้าวขึ้นมาเหยียบหัวเขานั้น มันก็ยังทำให้เขารู้สึกตะขิดตะขวงอยู่ในใจ
“ทุกผู้คนของโถงโอสถอยู่กันพร้อม สหายหนุ่มจี้อยากจะดูมันอย่างไรดี?” หวู่หยุนกล่าว
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ย่อมเป็นในการหลอมโอสถ!”
แต่ก่อนที่หวู่หยุนจะได้พูดกล่าวใดๆ ออกมาก็มีผู้อาวุโสอีกคนกล่าวขึ้นแทรก “หลอมโอสถ? ท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอน ท่านรู้วิธีหลอมโอสถด้วย?”
“ใช่แล้ว! หากคิดอยากหาจุตินั้น มันก็ยังไม่ถึงเวลาของเด็กน้อยอย่างท่านจะมาบอกกล่าวคนหรอก! คิดอยากเห็นฝีมือของเรานั้นทำไมท่านไม่แสดงฝีมือของตนออกมาก่อนเล่า?”
“หากท่านไม่มีกำลังแล้วก็จงไสหัวไปเสียเถอะ! ท่านหวู่หยุนนั้นควบคุมดูแลโถงโอสถได้อย่างราบรื่นดี ไม่ต้องให้ท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอนมากังวลใดๆ”
เมื่อเย่หยวนกล่าวขึ้นมันย่อมจะเกิดเสียงเย้ยหยันขึ้นทั่วทิศ
ในสายตาของคนทั้งหลายนั้นเย่หยวนอาจจะรู้การโอสถ แต่มันก็คงไม่ได้สูงล้ำมากมาย
คิดจะมาอวดอ้างพลังฝีมือต่อเหล่าปรมาจารย์อย่างพวกเขาหรือ?
ฝันไปเถอะ!
หวู่หยุนนั้นคิดจะกล่าวห้ามทุกคนแต่สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดลงคอไป
เพราะเฒ่าทั้งหลายนี้ย่อมจะไม่ได้กล่าวเรื่องราวนี้ขึ้นมาลอยๆ
พวกเขานั้นจงใจคิดจะล่อเย่หยวน
หัวหน้าผู้ฝึกสอนแตกหักกับโถงโอสถตั้งแต่วันแรกที่ได้ทำงาน ดูว่าจะยังมีหน้าออกมาเจอผู้คนหรือไม่
แต่ว่าคำตอบของเย่หยวนมันกลับเหนือล้ำความคาดหมายของทุกผู้คน
เพราะเย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับมา “หลอมโอสถ? ข้านั้นย่อมจะมีความรู้อยู่บ้าง ในเมื่อพวกท่านคิดอยากเห็นฝีมือของข้าแล้ว ข้าก็ย่อมจะขอรับมันไว้แทนที่จะปฏิเสธแล้วกัน”
ดวงตาของเหล่าเฒ่าทั้งหลายนั้นต้องเบิกกว้างขึ้นมา เจ้าเด็กคนนี้มันรนหาที่แล้ว!
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของโถงรีบก้าวขึ้นมารับหน้า “เช่นนั้นข้าจะประลองกับท่านเอง หากท่านแพ้แล้ววันหน้าก็อย่าได้เสนอหน้ามาที่โถงโอสถอีก!”
เย่หยวนหันไปมองเขาก่อนจะยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสท่านนี้ ข้าไม่คิดจะประลองใดๆ กับท่านหรอก”
เมื่อเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ยิ้มขึ้นมา “อะไรเล่า ไม่ประลองกับข้าหรือคิดจะให้ข้าไปเรียกศิษย์ระดับเจ็ดดาวมาประลอง? เรื่องนั้นมันย่อมจะไม่ได้แน่นอนแล้ว!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวเสียงหัวเราะมันก็ดังขึ้นตามมา
ในสายตาของพวกเขาทั้งหลายนี้เย่หยวนอาจจะรู้วิชาโอสถ แต่ก็คงอยู่ในระดับระหว่างเจ็ดดาวถึงแปดดาวต้นๆ
มีหรือที่จะมาเทียบเคียงพวกเขาได้
แต่เย่หยวนกลับหันไปยิ้มให้หวู่หยุน “ผู้อาวุโสหวู่หยุน ข้าได้ยินจากผู้อาวุโสเฉียนจี้ท่านมาว่าท่านนั้นคือยอดคนการโอสถอันดับหนึ่งของสังหารเทพ มีวิชาโอสถที่เหนือล้ำความเข้าใจผู้คน! ทำไมท่านไม่มาลองประลองกับข้าหน่อยเล่า ให้คนทั้งหลายได้เปิดหูเปิดตากัน?”
รอยยิ้มของคนทั้งหลายนั้นแข็งทื่อลงไปตามๆ กัน
แม้แต่ตัวหวู่หยุนเองก็ยังผงะไปไม่น้อย
เขานั้นก็ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับจะคิดท้าทายตัวเขาตรงๆ เช่นนี้!
แม้ว่าเขาจะกล่าวออกมาอย่างอ้อมค้อมแต่มันก็คือการท้าทายอย่างชัดเจน!
“ข้าได้ยินผิดไปหรือไม่? เขา… เขากลับคิดท้าทายท่านหวู่หยุน?”
“เจ้าเด็กคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือ?”
“ทีแรกข้ายังคิดว่าท่านเฉียนจี้ไปเจอยอดคนที่ใดมา เสียเวลาตั้งนานสุดท้ายมันกลับเป็นแค่คนโง่!”
…
หลังจากผ่านความมึนงงไปไม่นานมันก็ตามมาด้วยเสียงก่นว่า
ท่าทางของเย่หยวนและการไม่ประเมินตัวเองนี้มันย่อมทำให้คนทั้งหลายคิดดูถูกเหยียดหยามสุดใจ
หลังจากหวู่หยุนนิ่งไปได้พักใหญ่เขาก็ยิ้มกว้างตอบกลับมา “ได้สิ! เฒ่าคนนี้เองก็อยากจะเห็นพลังฝีมือของหัวหน้าผู้ฝึกสอนเหมือนกัน!”
เพราะฉะนั้นท่ามกลางเสียงเย้ยหยันดูถูก การประลองโอสถของเย่หยวนและหวู่หยุนจึงได้เริ่มขึ้น
เมื่อได้เห็นสมุนไพรทั้งหลายที่วางตรงหน้านี้เย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าอิจฉาออกมา
เพราะแม้ว่าสมุนไพรทั้งหลายนี้มันจะไม่ได้มีระดับสูงล้ำแต่มันเป็นเหล่าสมุนไพรที่สูญพันธุ์ไปแล้วในยุคของเขา เย่หยวนไม่เคยจะได้พบเห็นหรือได้ยินถึงมันมาก่อน
สิ่งที่ทำให้วิชาการโอสถของเผ่าต่างๆ ย่อยยับลงสู่ยุคมืดนั้นมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
“สหายหนุ่มจี้ เจ้าเริ่มเถอะ!” หวู่หยุนกล่าว
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะดีดนิ้วเผยให้เห็นตราหยินหยางขึ้นมา
พร้อมๆ กันนั้นเต๋าโอสถลึกลับบนร่างของเขามันก็ตกลงมาปกคลุมรอบพื้นที่!
หลังจากการประลองกับโอสถบรรพกาลไปนั้นต้นกำเนิดเต๋าโอสถของเย่หยวนได้พัฒนาบรรลุเต๋าขึ้นมาจนถึงระดับสาม!”
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังสามารถจับถึงพลังของกฎได้ในการต่อสู้นั้นด้วย
เขานั้นจึงได้เอาพลังแห่งกฎเข้ามาผสานไว้ในต้นกำเนิดเต๋าโอสถของเขา!
เมื่อเย่หยวนลงมือครั้งนี้สีหน้าของคนทั้งหลายที่รายล้อมต่างก็ต้องเปลี่ยนสีไปทันที!
……………..