Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ - ตอนที่ 2243 ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร
“วึด!”
สายธนูสั่นไหวพร้อมด้วยลูกศรที่อันแน่นด้วยคลื่นพลังอย่างเหนือล้ำฟ้าดินพุ่งผ่านอากาศเข้ามา
ทุกผู้คนนั้นต่างไม่มีเวลาจะทันตั้งตัว ยังไม่ทันได้คิดใดๆ ธนูแสงนั้นมันก็พุ่งปะทะเข้ากับร่างของเทียนเหอแล้ว
โครม!
ในวินาทีนั้นถ้ำใต้ดินใดๆ นี้ได้ถูกเป่าจนหายไปสิ้น
คลื่นพลังอันรุนแรงเหนือล้ำนี้มันได้พาให้ถ้ำนี้กลับขึ้นมาเป็นอยู่บนผิวดินอีกครั้ง
เพราะว่าทั้งเทือกเขานั้นมันได้ถูกทำลายหายราบไปสิ้น!
เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายเริ่มจะตั้งสติกับมันได้
เสียงดังสนั่นดังขึ้นมาจากหลุมลึกนั้น
มิตินั้นแตกแยกออกจากกันด้วยพลังของศรดอกนี้
เจ้าลูกศรนั้นมันสุดแสนจะรวดเร็วอย่างที่ไม่แต่มิติเวลาเองก็ยังไม่อาจปรับตัวรับมันทัน
เวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางและเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ ทั้งหลายต่างได้แต่ต้องนั่งนิ่งหมดแรง
พวกเขาทั้งหลายนั้นเป็นสุดยอดตัวตนที่ไม่พ่ายแพ้แก่ใคร แต่ในวันนี้เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าพวกเขากลับหมดแรงแม้แต่จะพูดกล่าว
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นหันมามองที่เย่หยวนก่อนจะค่อยๆ รวบรวมกำลังกล่าวออกมา “น-น้องชายผู้นี้ ข-ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตเราไว้!”
ในช่วงวินาทีก่อนการปะทะนั้นเย่หยวนได้ใช้วิชาห้วงมิติเปล่าดึงร่างของคนทั้งหลายหนีจากถ้ำ
ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาทั้งหลายนี้คงไม่เหลือแม้แต่ซากร่าง
เย่หยวนมองดูที่คนทั้งหลายก่อนจะกล่าวบอก “เผ่าเทวาปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้มันย่อมจะหมายความว่าสงครามสิ้นโลกนั้นอยู่อีกไม่ไกลแล้ว พวกท่านทั้งหลายเองก็ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”
“สงครามสิ้นโลก?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางได้แต่นั่งนิ่งไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงสิ่งใด
แต่แค่ฟังจากชื่อนี้เขาก็มั่นใจได้ว่ามันคงมิใช่เรื่องดีแน่ๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือกำลังของเผ่าเทวานั้นมันเหนือล้ำอย่างถึงที่สุด!
เย่หยวนเองก็ไม่คิดจะเสียเวลาอธิบายถึงสงครามสิ้นโลกใดๆ และเดินก้าวออกไปยังหลุมยักษ์ใหญ่นั้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางหรี่ตาลงทันทีที่เห็นพร้อมกล่าวทัก “น้องชาย จ-เจ้าคิดจะทำอะไรกัน?”
เย่หยวนนั้นไม่คิดแม้แต่จะหันหน้ากลับมาตอบ “ข้าจะไปเอาข่ายเงินแก่นโลหิตมา”
ในห้วงลึกของหลุมนั้นมันมีเงาร่างหนึ่งยังคงยืนมั่นชี้หน้าขึ้นฟ้าพร้อมส่งเสียงหัวเราะลั่น
“เจ้าพวกโง่ทั้งหลาย เจ้าคิดว่าจะสังหารบรรพกาลผู้นี้ได้ด้วยธนูสาบานสังหารเทพ? ฮ่าๆๆ… หลังจากบรรพกาลผู้นี้ฟื้นกำลังได้แล้วข้าจะเหยียบขยี้มหาพิภพถงเทียนนี้ลงกับเท้าเอง ให้มันได้สั่นกลัวอยู่ใต้เท้าของข้านี้! หืม?”
เทียนเหอนั้นยังกล่าวไม่ทันจบเขาก็เห็นเงาร่างหนึ่งค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้จนต้องหันหน้าไปมอง
แน่นอนว่าคนผู้นั้นย่อมจะเป็นเย่หยวนแล้ว
สองตาของเขาหรี่ลงพร้อมยิ้มอย่างเย็นเยือก “เจ้ามนุษย์ เจ้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้บาดเจ็บหนักแล้วเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรได้หรือ?
เย่หยวนมองดูที่ตัวเขาพร้อมตอบกลับไป “ส่งข่ายเงินแก่นโลหิตมาแล้วข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องทรมาน”
เทียนเหอนั้นหัวเราะลั่นขึ้นอย่างไม่พอใจ มองดูเย่หยวนราวกับเป็นแค่คนโง่ผู้หนึ่ง “ตอนนั้นแม้แต่แปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายเฒ่ามันก็ยังไม่อาจเอาชนะบรรพกาลผู้นี้ได้ ทำได้เพียงแค่ผนึกข้าลง! เจ้าคิดว่าคนอย่างเจ้าที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี้จะมีปัญญามาทำอะไรบรรพกาลผู้นี้?”
ไกลออกไปตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางและพวกที่ได้ยินก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย
พวกเขานั้นได้เข้าใจเสียทีว่าตัวตนที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้มันคือตัวตนระดับใด!
“แปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลาย! เจ้าหมอนี่มันต้องแข็งแกร่งปานใดกัน?”
“เจ้าฟ้าดินสี่ทลาย แต่ละคนนั้นเคลื่อนขุนเขาสร้างทะเลได้ด้วยฝ่ามือ พวกเขานั้นคือยอดฝีมือที่แท้ที่สามารถทำลายดวงดาวลงได้! เขา… เขากลับบอกว่าต่อสู้แบบแปดต่อหนึ่งอย่างนั้นหรือ?”
“บ่อโลหิตนี้มันผนึกสิ่งใดไว้กัน? ทำไมเจ้ามนุษย์ผู้นั้นมันถึงยังไม่หนีไปอีก? ทำไมมันจึงอยากจะได้ข่ายเงินแก่นโลหิตมากปานนั้น?”
…
เย่หยวนมองดูพร้อมตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเป็นใคร! ส่งข่ายเงินแก่นโลหิตมา!”
ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างต้องอ้าปากค้าง เจ้าเด็กคนนี้มันไม่มีสมองหรือ?
หรือว่ามันจะไม่รู้ถึงตัวตนของเจ้าฟ้าดินสี่ทลาย?
อีกด้านมันเป็นตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งที่มองดูเย่หยวนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง
เพราะลูกศรก่อนหน้านี้มันได้ทำลายชีวิตของเขาลงอีกครั้ง
เวลานี้ด้วยพลังของโคมผีผสานระกาทำให้เขากลับมาเกิดขึ้นได้อีกครั้ง แต่ก็มีพลังบ่มเพาะเหลือเพียงแค่ระดับเทพสวรรค์ขั้นสุดเท่านั้น
ระหว่างทางครั้งนี้เขาไม่ได้อะไรและยังเสียชีวิตไปถึงสองชีวิต ต่อให้จะอยากร้องไห้ก็ไม่รู้จะไปร้องที่ไหน
ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังมีความมั่นใจในตัวเย่หยวนไม่น้อย
เขานั้นรู้ได้อย่างแจ่มชัดว่าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นมันมีความสำคัญกับเย่หยวนอย่างหาที่สุดไม่ได้
และเขานั้นก็เข้าใจถึงความเป็นสัตว์ประหลาดของเย่หยวนดี!
เขานั้นอยากจะเห็น เห็นว่าระหว่างยอดฝีมือระดับสุดผู้บาดเจ็บนี้กับสุดยอดอัจฉริยะอย่างเย่หยวน ใครมันจะเก่งกาจกว่ากัน!
“ฮ่าๆๆ… น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! ข้าไม่ได้ยินคำพูดเช่นนี้มานานกี่ล้านปีแล้วกัน! หากข้าไม่มอบมันให้เจ้าเล่า?” เทียนเหอถามขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ
ฟุบ!
เย่หยวนหายไปทันทีและในวินาทีเดียวกันนั้นเขาก็ได้มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเทียนเหอ
สังหารในวินาทีที่ไม่อาจตกลงได้!
การลอบโจมตีของเย่หยวนนี้ตัวเทียนเหอย่อมไม่คิดสนใจให้มากมาย
เพราะมดปลวกอย่างเย่หยวนนั้นเขาย่อมจะไม่คิดสนใจใดๆ ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะตกลงมาแค่ถึงระดับเทพสวรรค์ขั้นปลายก็ตาม
แต่ในวินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็ต้องถอดสี
เพราะคลื่นพลังหนักหน่วงมันได้ปรากฏขึ้น!
ในวินาทีนี้ดาบแสงนับไม่ถ้วนล้อมกายเขาไว้ทุกทิศทาง
ตูม!
ร่างของเทียนเหอลอยลิ่วกลับออกไปจนฝังเข้ากับส่วนข้างหลุมยักษ์นั้น
แต่เย่หยวนก็ม่าคิดหยุดใดๆ พุ่งตัวตามเข้าไปซ้ำในรูนั้นทันที
ตูม!
ตูม!
ตูม!
ใต้แผ่นดินนั้นมันเกิดแรงสั่นไหวขึ้นมาเป็นครั้งๆ จนทำให้ทุกผู้คนต้องมองดูด้วยหน้าซีดขาว
คนทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนทะลุขึ้นมาบนผิวดินและพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้าสูง
คลื่นพลังจากการปะทะของคนทั้งสองนั้นมันทำให้คนทั้งหลายหน้าซีดขาว
เย่หยวนนั้นได้เปรียบในทุกครั้งที่โจมตีพร้อมเล็งไปที่จุดตายในทุกครากดดันตัวเทียนเหอจนไม่อาจมีโอกาสหายใจ
พวกจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางได้แต่มองดูภาพนั้นด้วยปากที่สั่น
“นี่… เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นแค่เทพสวรรค์หกดาวจริง? การโจมตีนี้ ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์เก้าดาวขั้นสุดก็คงไม่อาจต้านทานไว้ได้แน่มิใช่หรือ?” จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางร้อง
“สัตว์ประหลาดเช่นนี้มันเกิดขึ้นในเผ่ามนุษย์ตั้งแต่เมื่อใด? แนวคิดแห่งห้วงมิตินั้นเองก็น่าจะอยู่ในระดับเกือบถึงขั้นเจ็ดแล้วมิใช่หรือ?”
“ไม่แปลกใจเลยว่าเขาถึงกล้าโอหัง ไม่คิดสนใจไว้หน้าเผ่าเทวาใด! แต่ตัวเผ่าเทวาผู้นั้นเองก็ไม่ธรรมดา ดูท่าเขาคงยังไม่ได้ใช้ฝีมือที่แท้จริงออกมาด้วยซ้ำเลยใช่หรือไม่?”
…
การต่อสู้ของคนทั้งสองนี้มันได้เหนือล้ำกว่าคำว่าอาณาจักรพลังบ่มเพาะไปแล้ว
อาณาจักรพลังบ่มเพาะนั้นมันไม่มีประโยชน์ใดๆ กับคนทั้งสองนี้อีก
เพราะคนทั้งสองนี้คือคนที่สามารถก้าวข้ามอาณาจักรต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
อย่างตัวเทียนเหอนี้ เขาคือตัวตนที่แม้แต่แปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายก็ยังไม่อาจจะสังหารฆ่าลงได้
แม้เวลานี้เขาจะมีพลังเพียงแค่อาณาจักรเทพสวรรค์เจ็ดดาว แต่ต่อให้เขาจะมีพลังไม่ถึงเทพสวรรค์ห้าดาวเขาก็คงจัดการเหล่าเทพสวรรค์ขั้นสุดลงได้ด้วยการโจมตีเดียว
แต่ฝีมือของเย่หยวนนี้ต่างหากที่เหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดคิด
เพราะอาณาจักรบ่มเพาะที่เขามีนั้นมันแค่เทพสวรรค์หกดาว
แต่ทั้งอย่างนั้นทั้งความหนาแน่นและบริสุทธิ์ของปราณเทวะนี้ ทั้งความลึกล้ำในแนวคิดที่มี ทั้งวิชาวรยุทธการต่อสู้มันต่างทำให้คนทั้งหลายแทบลืมหายใจ
กำลังที่เย่หยวนแสดงออกมานี้มันคงตัดสังหารเทพสวรรค์เก้าดาวลงได้ราวกับตัดเต้าหู้!
คนทั้งสองนี้เรียกได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใครแต่แรก
เย่หยวนนั้นยังคงพยายามรุกเอาเปรียบมาให้ได้ กดดันตัวเทียนเหอไม่ให้ได้มีโอกาสหายใจ
ตูม!
ด้วยดาบนี้เย่หยวนได้กดร่างของเทียนเหอจนจมลงดินไปอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็พุ่งตัวลงตามไปอย่างรวดเร็ว
แต่ในวินาทีเดียวกันนั้นมันก็มีแสงสีฟ้าขาวพุ่งกระแทกกลับออกมาจากหลุมนั้น
เย่หยวนที่ไม่ทันตั้งตัวจึงต้องใช้ดาบกระดูกออกมารับมันไว้อย่างสุดตัว
โครม!
ดาบกระดูกของเย่หยวนนั้นได้แตกสลายกลายเป็นแค่เศษฝุ่นไปทันทีภายใต้พลังของลายพระเจ้านี้!
ทุกคนต่างมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นหนึ่งกลับแตกสลายลงไปง่ายๆ เช่นนั้น!
เทียนเหอลุกขึ้นมาจากหลุมนั้นก่อนจะมองดูเย่หยวนด้วยสีหน้าเย็นชา
“เด็กน้อย ดูท่าเจ้าจะไม่ได้โม้จริงๆ! ฝีมือของเจ้านี้มันเหนือกว่าเหล่าบุตรเทวะเราไปมาก! ไม่นึกเลยจริงๆ ว่ามนุษย์เองก็จะมียอดอัจฉริยะในระดับนี้เกิดขึ้นมาได้!”
……………..