True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1143 ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ
ร้านที่อี้อวิ๋นเช่าจากหอเซียนสรรพสิ่งทั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทางตอนเหนือของเมืองสรรพสิ่ง ผู้คนที่นี่ค่อนข้างน้อย ด้านข้างมีลำธารสายเล็กๆ อันใสสะอาด ริมลำธารสองข้างมีต้นหลิวอายุมากกว่าพันปี สภาพแวดล้อมงดงามเงียบสงบ
หลังจากที่เข้าพัก หรูเอ๋อร์ก็ทำความสะอาดตัวร้านและลานบ้าน อี้อวิ๋นวางหม้อโอสถไว้ในห้องๆ หนึ่งและเปลี่ยนเป็นห้องโอสถ
ร่างของหลิงเสียเอ๋อร์ถูกเขาวาไว้ในห้องที่เงียบที่สุด ให้นางหลับใหลอย่างสงบ
สาเหตุหลักที่อี้อวิ๋นหลอมโอสถก็เพื่อฝึกฝนจิตวิญญาณ พัฒนาความสามารถด้านการหลอมโอสถ ขณะเดียวกันก็ขจัดโรคที่ยังตกค้างจากการข้ามผ่านระดับก่อนหน้านี้
การหลอมโอสถวิญญาณเปล่าจำเป็นต้องใช้สมุนไพรที่ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังต้องใช้เวลาหลอมค่อนข้างนาน อี้อวิ๋นนั่งอยู่หน้าหม้อโอสถ ในมือนำม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งของเทพโอสถออกมาศึกษา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว กระทั่งเมื่อพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จู่ๆ อี้อวิ๋นที่กำลังฝึกเงียบๆ ก็ลืมตาขึ้น
เงาร่างเขากระพริบพุ่งออกนอกประตู
“คุณชาย?” หรูเอ๋อร์กำลังรดน้ำดอกไม้อยู่ในลานบ้าน นางตกใจขึ้นมาเมื่อเห็นว่าจู่ๆ อี้อวิ๋นก็พุ่งตัวออกจากห้องโอสถดุจลมแรงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เกิดอะไรขึ้นหรือ?
ตอนนี้นางเห็นว่าอี้อวิ๋นพุ่งตัวเข้าสู่ห้องห้องหนึ่ง
นี่คือห้องที่หลิงเสียเอ๋อร์หลับใหล…
“เสียเอ๋อร์!” อี้อวิ๋นพุ่งตัวเข้าสู่ภายใน
เขากับเชื้อเพลิงเทพมารผสานเชื่อมต่อกัน เขาจึงสัมผัสถึงสถานการณ์ทุกอย่างของหลิงเสียเอ๋อร์ได้โดยตรง
เมื่อครู่นี้เขารู้สึกได้ว่าหลิงเสียเอ๋อร์ที่กำลังหลับใหลอ่อนแอลงอย่างฉับพลัน!
อี้อวิ๋นมาถึงภายในห้อง ร่างกายขนาดเล็กของหลิงเสียเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียงหยกอันเย็นยะเยือกอยู่เงียบ ผิวพรรณละเอียดนุ่มนวล ดวงตาปิดสนิท
และกลางมือทั้งสองของนางก็มีรากคืนวิญญาณวางไว้อยู่
ทว่าร่างกายนางกลับกำลังโปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ รากคืนวิญญาณที่อยู่ในมือก็ใกล้จะมองไม่เห็นแล้วเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น?” อี้อวิ๋นร้อนใจ ตอนนี้เขาไม่อาจหลอมโอสถวิญญาณเปล่า แต่ร่างวิญญาณของหลิงเสียเอ๋อร์กลับเกิดความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงในเวลานี้
จิตของอี้อวิ๋นตรวจสอบสถานการณ์ของหลิงเสียเอ๋อร์ นิ้วมือข้างหนึ่งแตะลงกลางหน้าผากนางเพื่อคอยส่งปราณหยางบริสุทธิ์เข้าร่างไม่หยุด
ทว่าปราณหยางบริสุทธิ์เหล่านี้กลับหายเข้ากลีบเมฆ
ดูแล้วในฐานะที่หลิงเสียเอ๋อร์เป็นวิญญาณฟ้าดิน ลำพังแค่รากคืนวิญญาณกับปราณหยางบริสุทธิ์คงไม่พอแล้ว
อี้อวิ๋นไม่เคยคาดคิดเรื่องนี้มาก่อน ใจเขาเจ็บแปลบๆ เมื่อเห็นร่างวิญญาณของหลิงเสียเอ๋อร์อ่อนแอลงเรื่อยๆ
เขาสัญญาไว้ว่าจะช่วยหลิงเสียเอ๋อร์ รออีกแค่สามปีนางก็จะฟื้นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้นางกลับรอสามปีนี้ไม่ไหวแล้ว
“ต้องมีวิธีแน่นอน…คิดสิคิด”
อี้อวิ๋นคิดอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าที่หลิงเสียเอ๋อร์เป็นเช่นนี้ก็เป็นจิตวิญญาณนางอ่อนแอเกินไป
หากให้หลิงเสียเอ๋อร์กินรากคืนวิญญาณในเวลานี้ ให้แก่นพลังทั้งหมดในรากคืนวิญญาณผสานเข้าสู่วิญญาณนางก็ช่วยได้แค่ให้นางผ่านพ้นเรื่องนี้ไป
แต่อี้อวิ๋นมีรากคืนวิญญาณเพียงต้นเดียว ทั้งยังต้องเก็บไว้หลอมโอสถวิญญาณ และเมื่อไม่มีการหล่อเลี้ยงจากตัวรากก็ไม่รู้ว่าหลิงเสียเอ๋อร์จ่ะผ่านพ้นเวลาสามปีนี้ได้หรือไม่
อี้อวิ๋นต้องการโอสถมาแทนที่รากคืนวิญญาณ
อี้อวิ๋นครุ่นคิด ในบันทึกอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตของเทพโอสถ เขานึกถึงโอสถหล่อเลี้ยงวิญญาณที่มีสรรพคุณไม่ธรรมดาได้หลายชนิด
แต่พวกมันส่วนใหญ่เป็นของหายาก ไม่ก็มีเพียงเทพโอสถที่หลอมเป็น หลังจากที่คัดโอสถออกไปทีละตัวก็เหลือโอสถชนิดเดียวที่หาง่ายที่สุด…ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ
ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณนี้หลอมขึ้นจากกระดูกปีศาจโบราณที่มีจิตวิญญาณแข็งแกร่ง สามารถหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ แม้สรรพคุณจะไม่ท้าทายสวรรค์เท่าโอสถวิญญาณเปล่า แต่ถึงกระนั้นก็เป็นโอสถประเภทจิตวิญญาณที่มีมูลค่าสูงเป็นอย่างยิ่งในโลกของจอมยุทธ์
ตอนนี้อี้อวิ๋นไม่มีวัตถุดิบที่ใช้หลอมธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณอยู่ในมือ และต่อให้หาวัตถุดิบได้ก็ไม่มีเวลามาหลอม
เขามองหลิงเสียเอ๋อร์พร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ได้แต่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแล้ว
ตอนนี้เขามีองค์หญิงจิ้งจอกขาวเป็นสหายเก่าเพียงคนเดียวในเมืองสรรพสิ่ง องค์หญิงจิ้งจอกขาวฝึกจิตวิญญาณเช่นกัน เป็นไปได้ว่าจะมีโอสถประเภทนี้
เรื่องนี้ไม่อาจรอช้า สถานการณ์ของหลิงเสียเอ๋อร์ไม่อาจเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
“คุณชาย!” หรูเอ๋อร์ตามเข้ามาในห้อง เมื่อนางเห็นสภาพของหลิงเสียเอ๋อร์ก็ตกใจเช่นกัน
นางยังไม่ทันถามอะไรอี้อวิ๋นก็พุ่งตัวออกไปเหมือนควันสายหนึ่ง มีเพียงเสียงของเขาที่ส่งมาจากไกลๆ
“หรูเอ๋อร์ ดูแลนางให้ดี!”
……
จวนเจ้าเมืองสรรพสิ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง มันสูงตระหง่านยิ่งใหญ่ ปกคลุมไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เกรียงไกร
อี้อวิ๋นวิ่งมาตลอดทาง เงาร่างปรากฏหน้าประตูจวนเจ้าเมือง
“ผู้ใด!” องครักษ์สองคนของจวนเจ้าเมืองเป็นคนต่างเผ่ารูปร่างสูงใหญ่ พวกเขาถือดาบใหญ่ไว้ในมือ เสียงลึกทุ้มและมีอำนาจสั่นสะเทือนสยบที่รุนแรง
“ข้ามาพบเทพธิดาเสวี่ยอู๋เสีย ทั้งสองท่านโปรดแจ้งให้ที บอกว่าอี้อวิ๋นมีเรื่องต้องการพบ!” อี้อวิ๋นพูดอย่างอดทน
ใจเขาร้อนรนดั่งไฟ แต่ค่ายกลของจวนเจ้าเมืองทรงพลัง ไม่อาจบุกฝ่าเข้าไป
องครักษ์สองคนมองเขาแล้วหลีกทางให้ทันที
“เข้าไปเถอะ”
“หืม?” อี้อวิ๋นแปลกใจเล็กน้อย ดูแล้วองค์หญิงจิ้งจอกขาวคงจัดการเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว
เดิมทีเขาก็นัดกับนางไว้ว่าจะคุยเรื่องเกี่ยวกับหลินซินถง เรื่องนี้ช่วยประหยัดเวลาให้อี้อวิ๋นไม่น้อย
อี้อวิ๋นเดินเข้าสู่จวนเจ้าเมือง ภายในจวนเต็มไปด้วยพื้นที่ต้องห้าม ทว่าเส้นทางสายหนึ่งกลับถูกยกเว้น อี้อวิ๋นคิดในใจว่านี่คงเป็นทางที่มุ่งสู่ที่พักขององค์หญิงจิ้งจอกขาว ฝีเท้ามุ่งไปข้างหน้าไม่หยุด
เขาได้ยินเสียงฉินอันรื่นหูดังจากที่ไกลๆ
เสียงฉินนี้เป็นดังสายน้ำบนสวรรค์ เมื่อดังเข้าหูก็ทอดตัวยาวไม่หยุด ใจที่ร้อนรนของอี้อวิ๋นสงบลงเล็กน้อย
เขาเดินตรงไปข้างหน้าก็เห็นทะเลสาบที่ใสราวกระจก
กลางทะเลสาบมีเรือลำหนึ่ง เสียงฉินส่งมาจากบนเรือ
แกร๊ง!
เสียงฉินหยุดลง เงาร่างที่เป็นดังเทพธิดาร่างหนึ่งลอยขึ้นจากเรือ ชุดกระโปรงขาวดั่งหิมะ เส้นผมสีเงินเป็นดังแม่น้ำดวงดาวกระจายตัว มันปลิวสยายกลางอากาศ
องค์หญิงจิ้งจอกขาวกอดกู่ฉินไว้ในอกแล้วร่อนลงตรงหน้าอี้อวิ๋น
“เจ้ามีเรื่องในใจหนักอึ้งมาก” เสียงขององค์หญิงจิ้งจอกขาวเป็นดังเสียงฉินเช่นกัน ฟังแล้วน่าหลงใหล
อี้อวิ๋นได้สติขึ้นมาทันที เขาพ่นลมหายใจแล้วพูดว่า “ขอบคุณมาก”
เสียงฉินขององค์หญิงจิ้งจอกขาวทำให้ใจเขาไม่ร้อนรนขนาดนั้นแล้ว
“ครั้งนี้เจ้ามาเพื่อ…”
“เรื่องของซินถงเอาไว้คุยกันวันหลัง” อี้อวิ๋นพูดอย่างจริงจัง เขาประสานมือแล้วโค้งตัวคำนับ “ข้ามาครั้งนี้เพราะมีเรื่องจะให้องค์หญิงช่วย”
ดวงตาองค์หญิงจิ้งจอกขาวกระพริบเบาๆ ภายในดั่งมีแสงดาวกระพริบผ่าน
อี้อวิ๋นในความทรงจำของนางไม่ใช่คนที่เอ่ยปากติดหนี้บุญคุณคนอื่นง่ายๆ เขาคงเจอเรื่องที่ยุ่งยากมากแน่นอน
“คุณชายอี้ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนี้ ข้ารอดชีวิตจากโลกใบเล็กได้ก็เพราะภรรยาเจ้าช่วยเอาไว้ ถ้าเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยก็พูดมาได้เลย หากข้าช่วยได้ก็บ่ายเบี่ยงแน่นอน” องค์หญิงจิ้งจอกขาวพูด
อี้อวิ๋นเอ่ยหน้าพูดว่า “สหายคนหนึ่งของข้าบาดเจ็บหนัก จำเป็นต้องใช้ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณโดยด่วน โอสถชนิดนี้มีสรรพคุณหล่อเลี้ยงวิญญาณ ไม่ทราบว่าองค์หญิงจิ้งจอกขาวพอมีหรือไม่?”
“ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณ…ข้าเองก็เคยได้ยิน”
ใจอี้อวิ๋นจมลงเมื่อองค์หญิงจิ้งจอกขาวพูด ฟังจากน้ำเสียงแล้วเหมือนจะไม่มี
องค์หญิงจิ้งจอกขาวรีบพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าของอี้อวิ๋น “เจ้าอย่าเพิ่งผิดหวัง แม้ข้าจะไม่มีโอสถชนิดนี้ แต่ตอนที่ข้ามาเมืองสรรพสิ่งก็เคยได้ยินท่านอาจารย์พูดมาก่อน เรื่องที่เมืองสรรพสิ่งมีทุกอย่างไม่ใช่เรื่องโกหก ธาตุกระดูกฟื้นวิญญาณนี้มีประโยชน์ต่อการฝึกของข้าเช่นกัน ข้าจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ รู้มาว่าหาซื้อได้ในเมืองสรรพสิ่ง”
…………………………………………