True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1107
ตอนนี้ชายชราหันมาถามอี้อวิ๋นว่า “เจ้าเองก็มาเพื่อวิญญาณหยางสินะ? เฮ้อ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของเยียนเอ๋อร์ ในเมื่อเจ้าอยากไปตามหาวิญญาณหยาง เช่นนั้นข้าก็จะไม่ห้าม”
“ที่นี่อันตรายมาก สิ่งมีชีวิตร่างคนข้างนอกพวกนั้นเจ้าหลบเลี่ยงได้ด้วยการใส่เสื้อหยกด้ายทอง แต่เมื่อเข้าสู่พื้นที่ใจกลางจริงๆ ก็มีอันตรายอย่างอื่นรอเจ้าอยู่ ข้าถูกขังที่นี่มานาน ไม่อาจได้วิญญาณหยางหรือออกไปจากที่นี่ ข้ารู้ว่าร้านความลับเทพจะตกอยู่ในอันตรายมากเมื่อไม่มีข้าอยู่ แต่ข้าจนปัญญากับเรื่องนี้จริงๆ ข้าช่วยอะไรเจ้ามากไม่ได้นอกจากช่วยชี้เส้นทาง” ชายชราพูด
อี้อวิ๋นรีบพูดทันทีว่า “แค่เสื้อหยกด้ายทองนี้ก็ช่วยอี้อวิ๋นไว้มากแล้วขอรับ”
หากไม่ใช่เพราะมีเสื้อหยกด้ายทอง เช่นนั้นอี้อวิ๋นก็คงเดินทางในนี้ได้ยากลำบาก สิ่งมีชีวิตร่างคนพวกนั้นน่ากลัวเกินไป
ชายชรานำกริชออกมาด้ามหนึ่งแล้ววาดแผนที่ลงบนพื้น
สภาพแวดล้อมของโลกใต้ดินสลับซับซ้อน หากไม่มีแผนที่แล้วเดินจับจุดเอาเองก็คงต้องเดินอ้อมไปมาไม่น้อย
“ตรงนี้คือพื้นที่ใจกลาง เมื่อเข้าไปในพื้นที่นี้ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้อีก” ชายชราใช้กริชเคาะไปบนพื้นที่จุดหนึ่ง
อี้อวิ๋นจำแผนที่ไว้ในใจและถามอย่างสงสัยว่า “ท่านผู้อาวุโสไม่เคยเข้าสู่พื้นที่ใจกลางหรือขอรับ?”
ชายชราโบกมือ แผนที่บนพื้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาอันขุ่นมัวมีความเจ็บปวดแล่นผ่าน
“คุณชายอี้ ข้ามีเรื่องที่อยากฝากฝัง”ชายชราโค้งคำนับอย่างฉับพลัน
“ผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ หากมีอะไรก็พูดมาเถอะขอรับ” อี้อวิ๋นรีบห้ามอีกฝ่าย ชายชราผู้นี้หายใจรวยรินแต่กลับจะคำนับให้เขา เรื่องที่จะฝากฝังนี้คงสำคัญกับเขามาก
ชายชราช่วยชีวิตอี้อวิ๋นไว้ หากเขาทำได้ก็จะไม่บ่ายเบี่ยงแน่นอน
“หากคุณชายอี้พบท่านพ่อของจีสุ่ยเยียนที่นี่ก็โปรดดูด้วยว่าเขายังมีชีวิตหรือไม่” ชายชราพูด
ความจริงชายชรารออยู่ที่นี่มานานมากแล้ว เขาคาดการณ์ว่าพ่อของจีสุ่ยเยียนคงมีโชคร้ายมากกว่าโชคดี
“เรื่องนี้…ผู้อาวุโสเข้าไปในเจดีย์กับพวกซินเอ๋อร์ทั้งสองคนเถอะขอรับ” อี้อวิ๋นพูด
แม้ชายชราที่อยู่ที่นี่จะไม่มีอันตรายจากสิ่งมีชีวิตร่างคนเมื่อสวมเสื้อหยกด้ายทอง แต่ยังมีกลุ่มอิทธิพลอีกจำนวนมากเข้าสู่ทะเลทรายกลบอาทิตย์ ในนี้รวมถึงวังวิถีเจ็ดดาราด้วย
“ถ้าเช่นนั้นก็คงต้องรบกวนคุณชายอี้ด้วยแล้ว เข็มทิศความลับสวรรค์ตัวแม่นี้สามารถตรวจสอบทิศทางที่ถูกต้องในทุกสภาพแวดล้อม คุณชายอี้โปรดรับไว้” ชายชราลังเลเล็กน้อยแล้วก็ไม่บ่ายเบี่ยงอีก เขาเองก็อยากตามหาท่านพ่อของจีสุ่ยเยียนให้เจอด้วยตัวเอง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นหรือตายก็ตาม
ซินเอ๋อร์กับเยวี่ยเซี่ยวประคองชายชราขึ้น อี้อวิ๋นเก็บเจดีย์ลงเมื่อทั้งสามคนเข้าสู่เจดีย์เรียบร้อยแล้ว จากนั้นถือเข็มทิศความลับสวรรค์แม่ลูกออกจากถ้ำ
อี้อวิ๋นเดินตามแผนที่กลับมาอยู่ข้างแม่น้ำเหล็กหลอมเมื่อครู่อีกครั้ง
ศีรษะเก้าศีรษะลอยๆ จมๆ อยู่บนผิวน้ำ ดวงตาอันว่างเปล่ามองกวาดไปรอบด้านอย่างน่ากลัว ทว่าพวกมันกลับมองไม่เห็นอี้อวิ๋นที่อยู่ตรงหน้า
อี้อวิ๋นมองพวกมันแวบหนึ่งแล้วเดินทวนกระแสน้ำขึ้นไป ในแม่น้ำเหล็กหลอมนี้มีกฎหยางบริสุทธิ์อันแข็งแกร่งแฝงอยู่ ต้นกำเนิดของมันก็คือพื้นที่ใจกลางของโลกใต้ดินนี้
เมื่ออี้อวิ๋นเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ก็พบว่านอกจากสิ่งมีชีวิตร่างคนแล้วยังมีสิ่งมีชีวิตโบราณอย่างอื่นด้วย แม้จะมีจำนวนน้อยมากแต่มีแค่ตัวสองตัวก็อันตรายถึงชีวิตแล้ว
ดินแดนแห่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเข้าใกล้ได้ ตัวแม่น้ำมีกระแสรองอีกหลายสาย พวกมันไหลผ่านถ้ำอันซับซ้อนนับไม่ถ้วนของโลกใต้ดินจนเกิดทางหลายแพร่งที่ทำให้หลงทางโดยไม่รู้ตัว
หลังจากที่เดินผ่านทางแยกสายหนึ่ง อี้อวิ๋นก็เห็นทะเลสาบสีแดงเข้มที่มีเหล็กหลอมจำนวนมากมารวมตัวกัน นี่คือทะเลสาบที่เขาเห็นเมื่อตอนเข้าสู่โลกใต้ดินครั้งแรก
เหตุใดจึงกลับมาที่ทางเข้า?
อี้อวิ๋นตกใจ แต่ไม่นานเขาก็พบว่าตัวเองไม่ได้กลับมาที่จุดเริ่มต้นจริงๆ แต่เพราะกฎแห่งมิติเวลาของโลกใต้ดินนี้แปรปรวนวุ่นวาย แม้เขาจะเห็นทางที่ตัวเองเดินผ่านมาก่อนหน้านี้ แต่แท้จริงแล้วมีมิติเวลาหลายชั้นคั่นเอาไว้อยู่
หากเข้าไปใกล้จริงๆ ก็จะพบว่าระยะทางไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง ด้วยความเข้าใจด้านกฎแห่งมิติเวลาของอี้อวิ๋น หากจะกลับไปยังจุดเดิมก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญถ้าไม่มีแผนที่
อี้อวิ๋นเดินหน้าต่อ เขาใช้แผนที่ของชายชราและการชี้นำไม่หยุดของเข็มทิศความลับสวรรค์จนค่อยๆ เขาใกล้ใจกลางของโลกใต้ดินนี้…
ทันใดนั้นอี้อวิ๋นก็ได้ยินเสียงดังกึกก้อง จากนั้นเงาร่างคนจำนวนมากก็บินจากด้านบนลงมา
รูม่านตาอี้อวิ๋นหรี่ลงทันทีเมื่อเห็นคนเหล่านี้
คนจากวังวิถีเจ็ดดารา!
อี้อวิ๋นจะพุ่งตัวถอยในทันที แต่ตอนนี้เขากลับพบว่ากฎรอบด้านมีความวุ่นวาย แท้จริงแล้วคนจากวังวิถีเจ็ดดาราที่อยู่ตรงหน้าเขาอยู่ห่างเขาออกไปไกลมากในอีกที่หนึ่ง
อี้อวิ๋นสงบลงเมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ เขาลูบคาง ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยและหยุดอยู่กลับที่อย่างไม่เร็วไม่ช้า
“ฮ่าฮ่า ในที่สุดก็หาทางเข้าเจอ” ชายหนุ่มจากสำนักความลับสวรรค์ผู้หนึ่งพูดเหมือนเอาความดีความชอบ
พวกเขาเดินกลับไปกลับมาในทะเลทรายกลบอาทิตย์มานาน ในที่สุดก็ได้เข้าสู่โลกใต้ดินแห่งนี้ เมื่อเข้ามาก็รู้สึกไอร้อนอันรุนแรงทันที นี่พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเข้ามาถูกที่
“ยังดีที่วิชาพื้นภูมิของข้าน้อยพอมีประโยชน์อยู่บ้าง” นักปราชญ์วัยกลางคนผู้นี้ถือเข็มทิศอย่างภูมิใจ
อี้อวิ๋นจำนักปราชญ์วัยกลางคนผู้นี้ได้ในทันที เขาคืออาจารย์เทียนเซียวจากสำนักความลับสวรรค์ ตอนนั้นเขาเป็นคนบอกเรื่องที่ร้านความลับเทพมีเข็มทิศความลับสวรรค์ในงานซื้อขาย
และท่ามกลางคนกลุ่มนี้อี้อวิ๋นยังเห็นหลิ่วหรูอี้ที่สวมชุดชาววัง ข้างกายนางยังมีคนยืนอยู่อีกสามคน สามคนนี้มีกลิ่นอายแข็งแกร่ง อี้อวิ๋นจดจำพวกเขาไว้เงียบ
ชายวัยกลางคนชุดดำผู้หนึ่งสะพายดาบเล่มใหญ่ ส่วนอีกสองคนเป็นเด็กหน้าตาเหมือนกันที่สวมผ้าปิดหน้าอกสีแดง
แม้พวกเขาจะมีรูปลักษณ์เป็นเด็ก ทว่าดวงตากลับเย็นชาเป็นผู้ใหญ่ สีหน้าก็เย็นยะเยือกมากเหมือนตุ๊กตากระดาษที่คนธรรมดาเผาในพิธีเซ่นไหว้
วังวิถีเจ็ดดาราให้ความสำคัญกับปรากฏการณ์ในทะเลทรายกลบอาทิตย์ครั้งนี้มาก นอกจากตัวประมุขที่ต้องนั่งบัญชาการที่วังวิถีเจ็ดดาราแล้ว รองประมุขคนอื่นๆ สี่คนรวมถึงหลิ่วหรูอี้ก็มาที่ทะเลทรายกลบอาทิตย์กันหมด
“น่าเสียดายที่ยากจะคำนวณตำแหน่งที่แม่นยำของวิญญาณหยาง วิชาพื้นภูมิของข้าได้รับผลกระทบเมื่ออยู่ในโลกใต้ดินนี้ หากมีเข็มทิศความลับสวรรค์ก็คงพอคำนวณทิศทางได้ น่าเสียดายที่อยู่ในมืออี้อวิ๋น” อาจารย์เทียนเซียวส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจพูด
“อี้อวิ๋น? เจ้าเด็กที่หลบอยู่ในสำนักกระบี่สระใสสินะ?” เด็กแฝดคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างฉับพลัน เสียงของเขาแก่ชรามากแต่ก็แหลมคม ฟังแล้วแก้วหูเหมือนถูกเสียดสี
“หึหึ ไม่เป็นไร ในเมื่อเขาสร้างความยุ่งยากให้เรา วันหน้าก็ค่อยทำลายสำนักกระบี่สระใส เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์ไม่เลวก็ให้ข้าดึงวิญญาณลอกหนังมาหลอมเป็นโอสถดีกว่า” เด็กน้อยพูดอย่างชั่วร้าย
“ขอรับ ขอรับ” อาจารย์เทียนเซียวขนลุกเมื่อมองเด็กคนนี้