True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1096
หลิ่วหรูอี้โบกมือ คนเจ็ดคนที่สวมชุดคลุมเจ็ดดาราบินออกจากด้านหลังนาง พวกเขาแต่ละคนถือธงค่ายกลชุดหนึ่งไว้ในมือ ธงแต่ละชุดมีเจ็ดผืน รวมทั้งหมดมีธงค่ายกลสี่สิบเก้าผืน
คนทั้งเจ็ดร่วมมือกันวางค่ายกลทำลายประตูเจ็ดดารา นี่คือกลปิดสังหารของวังวิถีเจ็ดดารา รวมมือกันสร้างโดยปรมาจารย์ค่ายกลเจ็ดคน หลิ่วหรูอี้ไม่เชื่อว่าทางเข้าของสำนักกระบี่สระใสจะซ่อนตัวจากค่ายกลนี้ไปได้ตลอด
ค่ายกลทำลายประตูเจ็ดดาราเพิ่งจะวางเสร็จ ในขณะที่กำลังจะเปิดใช้นี้เองที่มีลูกไฟก้อนหนึ่งสว่างขึ้นตรงหน้าหลิ่วหรูอี้ นี่คือลูกไฟจากยันต์ส่งเสียง
หลิ่วหรูอี้ตาเป็นประกายเมื่อได้รับยันต์ส่งเสียงนี้ หลังจากที่ครุ่นคิดสักพักก็โบกมือส่งเสียงพูดกับทูตอวี้เหิงสองสามประโยค จากนั้นนางก็กลายเป็นลำแสงสายหนึ่งที่หายไปในอากาศ
“หืม? ไปแล้วหรือ?”
“เหตุใดหลิ่วหรูอี้จึงจากไป? นางเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในคนกลุ่มนี้ หากไม่มีนางและมีทูตอวี้เหิงแค่คนเดียว เช่นนั้นต่อให้มีค่ายกลทำลายประตูเจ็ดดาราก็ทำอะไรสำนักกระบี่สระใสของเราไม่ได้แน่นอน”
ทุกคนแปลกใจเมื่อเห็นจากค่ายกลสะท้อนภาพว่าหลิ่วหรูอี้หายไป พวกเขาไม่รู้ว่านี่คือกลอุบายอะไรหรือเปล่า
“ยันต์ส่งเสียงนั่นคงนำเรื่องสำคัญบางอย่างมาบอก ไม่เช่นนั้นคนใจคอโหดเหี้ยมเช่นหลิ่วหรูอี้ที่พูดอะไรก็ทำตามนั้นมาโดยตลอดก็ไม่มีทางขู่เฉยๆ แน่ ในเมื่อนางบอกว่าจะทำลายภูเขาหิมะหมื่นลี้ให้พินาศแล้วจะจากไปง่ายๆ ได้อย่างไร?”
เจี้ยนปู๋อี้ครุ่นคิด ในตอนนี้เองที่มีเสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งดังขึ้น “คุณชายอี้ โปรดนำเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกออกมาเจ้าค่ะ บางทีอาจมีเบาะแสบางอย่าง”
ทุกคนมองตามเสียงไปก็พบว่าผู้พูดคือจีสุ่ยเยียนที่มาด้วยกันกับอี้อวิ๋น
อี้อวิ๋นขยับความคิด เมื่อนำเข็มทิศความลับสวรรค์ตัวลูกออกมาก็พบว่ามีแสงสว่างจางๆ ที่ส่งคลื่นพลังพิเศษออกมา
เมื่อเห็นภาพนี้จีสุ่ยเยียนก็พูดว่า “คุณชายอี้ หากข้าเดาไม่ผิด ทะเลทรายกลบอาทิตย์คงเกิดเรื่องบางอย่าง เป็นไปได้ว่าจะมีปรากฏการณ์เกิดขึ้นอีกครั้งจนวังวิถีเจ็ดดารามั่นใจในตำแหน่งคร่าวๆ หลิ่วหรูอี้คงไปตามหาสมบัติ”
ทุกคนรู้สึกว่าคำพูดของจีสุ่ยเยียนมีเหตุผล คงมีเพียงสมบัติในทะเลทรายกลบอาทิตย์ที่ทำให้หลิ่วหรูอี้ร้อนใจเช่นนี้จนไม่สนสำนักกระบี่สระใสและจากจากไปได้
“เราปล่อยให้พวกเขาได้สมบัติไปก่อนไม่ได้เด็ดขาด” เจี้ยนปู๋อี้พูด
เดิมทีทุกคนรู้แค่ว่าปรากฏการณ์ในทะเลทรายกลบอาทิตย์หมายถึงการปรากฏของสมบัติ แต่ดูจากปฏิกิริยาในตอนนี้ของวังวิถีเจ็ดดาราและสำนักความลับสวรรค์แล้วคงไม่ใช่สมบัติแน่นอน
“ในสำนักกระบี่สระใสมีค่ายกลส่งผ่านที่ส่งออกไปล้านลี้ได้อยู่ พวกเราส่งศิษย์คนสำคัญในสำนักออกไป แต่วังวิถีเจ็ดดารามียอดฝีมือค่ายกลมากมายดุจมาก การส่งศิษย์ออกไปจะทำให้เกิดคลื่นพลังมิติที่ง่ายต่อการเผยตำแหน่งสำนัก เพื่อจำกัดให้เกิดคลื่นพลังน้อยที่สุดจึงส่งศิษย์ออกไปได้แค่หนึ่งถึงสองคนเท่านั้นและห้ามทำหลายครั้ง หากทำหลายครั้งก็จะถูกวังวิถีเจ็ดดาราเจอเบาะแส”
แม้หลิ่วหรูอี้จะไปแล้ว แต่ทูตของวังวิถีเจ็ดดาราก็มีพลังต่อสู้ไม่ธรรมดาเช่นกัน หากมาแค่คนสองคนก็คงไม่กลัว แต่หากมากันสี่ห้าคน เช่นนั้นสำนักกระบี่สระใสก็อันตรายแล้ว
เจี้ยนปู๋อี้เชื่อว่าวังวิถีเจ็ดดาราไม่มีทางปล่อยค่ายกลทำลายประตูเจ็ดดาราที่วางกำลังเสร็จเรียบร้อยแล้วไปง่ายๆ เมื่อหลิ่วหรูอี้จากไปก็ต้องมีทูตเจ็ดดารามาเพิ่มใหม่ ระยะห่างของเวลาก็น่าจะสั้นมาก สำนักกระบี่สระใสของพวกเขายังคงอันตรายมากอยู่
“ศิษย์น้อง เจ้ากับข้าสองคนอยู่ควบคุมค่ายกลป้องกันของสำนัก”
เจี้ยนปู๋อี้เอ่ยปากขึ้น อย่างไรสำนักกระบี่สระใสก็ฐานที่มั่น พวกเขาไม่อาจเอาไปเสี่ยง หากค่ายกลบรรพชนของสำนักสูญเสียการควบคุมจากเจี้ยนปู๋อี้กับเจี้ยนอู๋เฟิงก็จะอานุภาพลดลงมากและง่ายต่อการทำลาย
เจี้ยนปู๋อี้กับเจี้ยนอู๋เฟิงต้องอยู่คุ้มกันสำนัก ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะไปทะเลทรายกลบอาทิตย์จึงมีแค่อี้อวิ๋น
ศิษย์คนอื่นๆ ห่างชั้นจากอี้อวิ๋นไปไกล แม้แต่ผู้อาวุโสของสำนักก็อาจอ่อนแอกว่าอี้อวิ๋นด้วยซ้ำ
แต่แม้จะเป็นอี้อวิ๋นก็ยังอันตรายที่จะไปทะเลทรายกลบอาทิตย์อยู่ดี เพราะพลังของอี้อวิ๋นด้อยกว่าพวกหลิ่วหรูอี้อยู่มาก
“อี้อวิ๋น หากเจ้าจะไปทะเลทรายกลบอาทิตย์เช่นนี้ ถ้าถูกวังวิถีเจ็ดดาราเจอเข้าก็คงต้องตายอย่างไร้ที่กลบ เจ้าเองก็สืบทอดมรดกจากท่านบรรพชน รู้จักตำราเคลื่อนดาราเปลี่ยนสวรรค์หรือไม่?”
อี้อวิ๋นเคยใช้ตำราเคลื่อนดาราเปลี่ยนสวรรค์ของราชาชิงหยางมาก่อน ตอนที่เขาสังหารเสินถูหนานเทียนและสร้างความแค้นกับตระกูลในโลกเทียนหยวนก็ใช้ตำรานี้มาเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองจึงออกจากแดนลับจักรพรรดินีได้
แต่ต่อมาเขาก็ไม่ได้แตะต้องตำราเคลื่อนดาราเปลี่ยนสวรรค์นี้อีก ไม่ได้ใช้มานานมากแล้ว
“รู้จักขอรับ ข้าน้อยเองก็เคยศึกษามาก่อน”
“เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย ข้ามีหน้ากากอยู่ชิ้นหนึ่งชื่อว่าพันพักตร์ จะใช้หน้ากากนี้ได้ก็ต่อเมื่อเคยศึกษาตำราเคลื่อนดาราเปลี่ยนสวรรค์มาก่อน เจ้าใส่มันแล้วก็น่าจะปกปิดตัวตนที่แท้จริงได้”
เจี้ยนอู๋เฟิงพูดแล้วก็นำหน้ากากที่บางเหมือนกระดาษชิ้นหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ เมื่ออี้อวิ๋นสวมหน้ากากก็หวนนึกถึงวิชาของตำราเคลื่อนดาราเปลี่ยนสวรรค์ จากนั้นหน้ากากนี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของผิวอี้อวิ๋น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่เจี้ยนปู๋อี้กับเจี้ยนอู๋เฟิงที่ใช้จิตมาสัมผัสก็ยังดูรูปลักษณ์จริงของอี้อวิ๋นไม่ออก
“สมบูรณ์แบบมาก ข้าไม่กล้ารับประกันกับประมุขวังวิถีเจ็ดดารา แต่คนระดับทูตเจ็ดดารามองเจ้าไม่ออกแน่นอน อี้อวิ๋น เจ้าตามข้ามา ข้าจะพาไปที่ค่ายกลส่งผ่าน!”
เจี้ยนปู๋อี้พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขารู้ว่าสมบัติในทะเลทรายกลบอาทิตย์ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะคว้ามาได้ ต่อให้สำนักกระบี่สระใสของพวกเขาจะส่งพวกเจี้ยนเฟิงหงออกไปก็ไร้ประโยชน์ หากอยากได้สมบัติระดับนี้ก็ต้องมีโชคอยู่กับตัวเป็นอย่างแรก ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่แค่เรื่องที่จะได้หรือไม่ได้ แต่ต่อให้ได้แล้วก็อาจเป็นหายนะ โลกของจอมยุทธ์มีเรื่องที่ต้องตายเพราะมีโชคไม่มากพอจนต้องตายเพราะสมบัติให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สมบัติบางชิ้นทำให้คนตายมากเกินไปจนถูกเรียกว่า ‘วัตถุอาถรรพ์’ ด้วยซ้ำ
……
จีสุ่ยเยียนเดาได้ไม่ผิด ทะเลทรายกลบอาทิตย์กำลังเกิดเหตุอันคาดไม่ถึงอยู่จริงๆ
ในส่วนลึกของทะเลทรายกลบอาทิตย์ในเวลานี้มีลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้าจนท้องฟ้ามีเมฆสีแดงเหมือนเปลวไฟที่ลุกโชนนับไม่ถ้วน เมฆนี้ปกคลุมไปไกลหลายล้านลี้!
ไม่ใช่แค่บริเวณรอบๆ ทะเลทรายกลบอาทิตย์ แม้แต่เมื่อที่ห่างจากทะเลทรายไปไกลยังเห็นเมฆแดงอันจ้าตา
เกิดอะไรขึ้น?
หลายคนยังไม่รู้เรื่องที่เกิดในทะเลทรายกลบอาทิตย์ กระทั่งเมื่อเห็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ในวันนี้จึงรู้ว่าทะเลทรายกลบอาทิตย์อาจเรื่องไม่ธรรมดา
ในป่าลับที่ตั้งอยู่ห่างจากทะเลทรายกลบอาทิตย์หลายแสนลี้ในเวลานี้ มิติเกิดการบิดเบี้ยว จากนั้นอี้อวิ๋นก็ถูกพายุมิติห่อหุ้มและดีดออกมา
การส่งผ่านที่มีระยะทางห่างไกลทำให้อี้อวิ๋นวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย
เขามองที่นี่ จดจำตำแหน่งค่ายกลส่งผ่านเงียบๆ แล้วเงยหน้ามองเมฆแดงบนฟ้า
ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เชียว?
อี้อวิ๋นตกใจเล็กน้อย แม้เขาจะเดาได้ว่าทะเลทรายกลบอาทิตย์เกิดเหตุอันคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
ดูท่าการเดินทางในทะเลทรายกลบอาทิตย์ครั้งนี้อาจดึงดูดคนมากขึ้นไปอีก คงจะเกิดพายุแห่งการนองเลือดแล้ว