True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1090
เดิมทีคำพูดของเจี้ยนเฟิงหงก็มั่นใจมากแล้ว แต่คำพูดของอี้อวิ๋นกลับไม่ใช่แค่มั่นใจในตัวเอง มันคือการอวดดีชัดๆ
แต่แม้อี้อวิ๋นจะอวดดีก็ไม่มีใครคิดว่าเขาคุยโวโอ้อวด เป็นเรื่องปกติที่อัจฉริยะหลายคนไม่มีศัตรูในวัยหรือระดับเดียวกัน ทุกคนต่างเชื่อเรื่องที่อี้อวิ๋นบอกว่าสู้กับคนระดับเดียวกันน้อยมาก
แต่อี้อวิ๋นเป็นอัจฉริยะ เจี้ยนเฟิงหงก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน เจี้ยนเฟิงหงเติบโตในสำนักกระบี่สระใสของพวกเขา สู้กับเด็กรุ่นเยาว์ในสำนักมาตั้งแต่เด็กและมีพลังไม่ธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้นเจี้ยนเฟิงหงก็แค่ลดระดับยุทธ์ให้อยู่ระดับเดียวกับอี้อวิ๋น ส่วนวิถีกระบี่และความเข้าใจด้านกฎยังคงดังเดิม หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เจี้ยนอู๋เฟิงชมอี้อวิ๋นว่าวิถีกระบี่น่าตื่นตะลึง เช่นนั้นเจี้ยนเฟิงหงมีหรือจะรังแกเด็กและใช้วิถีกระบี่สี่ร้อยปีของเขามาสู้กับอี้อวิ๋น?
“ดี เช่นนั้นข้าจะดูว่าเจ้าจะรับกระบี่นี้ของข้าได้หรือไม่”
เงาร่างเจี้ยนเฟิงหงกระพริบ เขาถือกระบี่พุ่งเข้ามา
กระบี่ในมือเขามีเจตนากระบี่อันเฉียบแหลมวนเวียน เทียบกับเจี้ยนเสี่ยวซวงแล้วก็มีเจตนากระบี่ที่น่ากลัวกว่า เจตนากระบี่นี้ถึงขั้นทำให้ค่ายกลกระบี่กู่ร้องไปด้วย
อูอูอู!
ค่ายกลกระบี่สั่นเทา เมื่อเจตนากระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ทันใดนั้นลำแสงกระบี่ก็ประหนึ่งกลายเป็นสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง มันพุ่งตัวผ่านอากาศ จากนั้นก็กลายเป็นม่านแสง ลำแสงกระบี่ทุกสายเล็งมาที่อี้อวิ๋นจนพลังเขาถูกปิดตาย
แนวคิดแข็งอ่อน กฎแห่งวารี?
อี้อวิ๋นตกใจ เปลี่ยนแข็งเป็นอ่อนเมื่อเจตนากระบี่พุ่งขึ้นถึงขีดสุด คลื่นกระบี่หลายสายเหล่านั้นสั่นกระเพื่อมเหมือนน้ำ มันสอดคล้องกับวิถีของอี้อวิ๋นอย่างไรรูป…นี่คือการเปลี่ยนแปลงเมื่อสิ่งหนึ่งพัฒนาถึงขีดสุด กฎอันโดดเดี่ยวไม่อาจพัฒนาถึงขีดสุด มีเพียงกฎที่ตรงข้ามกันเท่านั้นที่จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งยังทำให้บรรลุหลักแห่งวิถีสายใหญ่
แนวคิดแข็งอ่อนของเจี้ยนเฟิงหงมีวิธีต่างจากอี้อวิ๋นแต่ได้ผลเหมือนกัน ไม่ธรรมดาจริงๆ!
มรดกวิถีกระบี่ของราชาชิงหยางที่สำนักกระบี่สระใสมีไม่สมบูรณ์ หลายคนจึงเพิ่มความเข้าใจของตัวเองลงในวิถีกระบี่ ความเข้าใจเหล่านี้มีส่วนที่น่าตื่นตะลึง ในฐานะที่เจี้ยนเฟิงหงเป็นพี่ใหญ่ของสำนักกระบี่สระใสก็ย่อมมีจุดที่เหนือกว่าคนอื่น
“เหล็กหลอมร้อยครั้งอ่อนนุ่มเหมือนนิ้ว! ศิษย์พี่เฟิงหงใช้วิชาก้นหีบของเขาแล้ว!”
ศิษย์หลายคนตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อเห็นกระบวนท่ากระบี่ของเจี้ยนเฟิงหง หลายคนเข้าใจหลักการที่สิ่งหนึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อพัฒนาถึงขีดสุด แต่การผสานกฎที่ตรงข้ามกันสองอย่างเข้าด้วยกันใช่เรื่องง่ายที่ไหน แม้แต่เจี้ยนเสี่ยวซวงก็ยังทำจุดนี้ไม่ได้
แข็งอ่อนเคียงคู่กัน หนึ่งกระบี่พุ่งผ่านฟ้ามาที่กลางหว่างคิ้วอี้อวิ๋น!
แต่ตอนนี้อี้อวิ๋นกลับยังไม่ลงกระบี่ในทันที เขาถือกระบี่บรรพชนสระใสไว้ในมือ สายตามองกระบวนท่ากระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงอย่างใช้ความคิด
กระบี่แข็งอ่อนสอดคล้องกับวิถีของอี้อวิ๋นพอดี ทั้งยังเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคำนึกถึงมาก่อน เดิมทีการลองกระบี่ครั้งนี้คือการที่อี้อวิ๋นจะแสดงกระบวนท่ากระบี่ให้ศิษย์สำนักกระบี่สระใสได้ดู คิดไม่ถึงว่ากระบวนท่ากระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงจะช่วยชี้ทางสว่างให้เขา
“อี้อวิ๋นกำลังทำอะไรน่ะ เหตุใดยังไม่ลงกระบี่อีก?”
ทุกคนรอที่จะได้เห็นผลงานของอี้อวิ๋น แม้จะไม่รู้สึกว่าอี้อวิ๋นมีโอกาสตอบโต้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นอัจฉริยะที่เจี้ยนอู๋เฟิงเป็นผู้แนะนำ คงมีความสามารถอยู่บ้าง
“เขาคงไม่ได้ตะลึงค้างไปแล้วหรอกใช่ไหม หากยังไม่ลงกระบี่ก็จะไม่มีโอกาสอีก ไม่ทันการแล้ว!”
“หืม? เดี๋ยวก่อน…เหตุใดเวลาเหมือนเดินช้าลงล่ะ?”
ทุกคนเห็นกับตาว่ากระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงกำลังจะแทงเข้าที่หน้าผากอี้อวิ๋น ทว่ากระบี่เล่มนี้กลับเหมือนล่องผ่านเวลาเป็นสิบล้านปีในระยะห่างอันสั้นแค่นี้จนแทงไม่ถึงอี้อวิ๋นสักที
อี้อวิ๋นยืนครุ่นคิดนิ่งๆ อยู่กลางแม่น้ำแห่งกาลเวลา ในที่สุดเขาก็ลงกระบี่
“สิ่งหนึ่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อพัฒนาถึงขีดสุด แข็งอ่อนเคียงคู่ ในเมื่อกระบี่ของเจ้ามีความแข็งอ่อนผสาน เช่นนั้นข้าจะลองทำเช่นนี้ดู!”
แกร๊ง…!
กระบี่บรรพชนสระใสร้องกังวานเหมือนพยัคฆ์ร้องมังกรคำรามก้องทั่วฟ้า
แค่กระบี่นี้ก็ทำให้ดวงตาเจี้ยนอู๋เฟิงเป็นประกาย
กระบี่บรรพชนสระใสถูกอี้อวิ๋นกระตุ้น แค่อานุภาพในตอนที่ชักกระบี่ออกมาก็เหนือกว่าเจี้ยนเสี่ยวซวงแล้ว!
อัจฉริยะแห่งวิถีกระบี่ ไม่มีอะไรเลิศล้ำไปกว่านี้แล้ว!
ขณะเดียวกันกับตอนที่อี้อวิ๋นชักกระบี่ จู่ๆ มิติเวลารอบตัวเขาก็ปั่นป่วนขึ้นมา
หนึ่งกระบี่ที่เหมือนมาจากความว่างเปล่าในยุคดึกดำบรรพ์แทงเข้าใส่อนาคตอันห่างไกล กระบี่ของอี้อวิ๋นทำให้ทุกคนกลั้นหายใจ
กฎแห่งมิติเวลา?
ศิษย์สำนักกระบี่สระใสรู้สึกถึงแค่ความน่ากลัวในกระบี่ของอี้อวิ๋น แต่พวกเจี้ยนอู๋เฟิง เจี้ยนปู๋อี้และเหล่าผู้อาวุโสในสำนักกลับตกตะลึงอย่างหนักเมื่อเห็นกระบี่นี้
ความเลิศล้ำในกระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงมาจากการที่เขาผสานแนวคิดแข็งอ่อนลงในมรดกของราชาชิงหยาง แม้แต่อัจฉริยะด้านวิถีกระบี่หลายคนก็ยังทำจุดนี้ไม่ได้
แต่เมื่อเจี้ยนเฟิงหงประมือกับอี้อวิ๋น กระบวนท่ากระบี่ของอี้อวิ๋นกลับทำจุดนี้ได้เช่นกัน กระบี่ของเขามีแนวคิดสองอย่างผสานซึ่งกันและกันจนไม่อาจทำลาย!
ที่น่ากลัวไปกล่านั้นคือแนวคิดที่เจี้ยนเฟิงหงบรรลุคือแข็งแกร่ง พูดตามตรงแล้วก็เป็นวิธีสายเล็กรองจากเบญจธาตุและวิถีแห่งการสร้าง
แต่วิถีที่อี้อวิ๋นบรรลุคือวิถีแห่งมิติเวลาสายใหญ่
ในยุคที่จักรวาลถือกำเนิด หยินหยางกับมิติเวลาได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อม ถัดมาจึงเกิดเบญจธาตุ นี่จึงไม่ใช่สิ่งที่แนวคิดแข็งอ่อนจะสู้ได้
อี้อวิ๋นผสานวิถีมิติที่ตรงข้ามกันลงในกระบวนท่ากระบี่ของราชาชิงหยาง?
เขาค้นคว้าเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้วหรือว่าเป็นกระบวนท่าที่เพิ่งมีหลังจากเห็นกระบวนท่าของเจี้ยนเฟิงหง?
หากเป็นแบบแรกก็นับว่าอี้อวิ๋นมีพรสวรรค์เลิศล้ำ แต่หากเป็นแบบหลัง เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าจินตนาการจริงๆ!
แต่กระบวนท่ากระบี่ดำเนินมาถึงตรงนี้แล้วกลับยังไม่จบลง ผู้อาวุโสทั้งหลายยังไม่ทันได้ร้องตกใจก็เห็นดวงอาทิตย์อันร้อนระอุตกจากฟ้า กลางดวงอาทิตย์มีเงาอีกาทองที่อาบเปลวเพลิงให้เห็นได้รางๆ
ขณะเดียวกันบนคมกระบี่ของอี้อวิ๋นมีลำแสงสีขาวอันเย็นยะเยือกกระพริบ!
ประหนึ่งว่ามองลำแสงที่มาจากกระบี่บรรพชนสระใสเพียงแวบเดียวก็จะถูกแช่แข็ง ทุกที่ที่ลำแสงกระบี่แล่นผ่านเหมือนถูกโลกันตร์น้ำแข็งกวาดล้าง เจี้ยนเฟิงหงอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ แม้จะมีค่ายกลกั้นอยู่ก็ยังรู้สึกเหมือนวิญญาณถูกแช่แข็ง
นี่…หรือจะเป็น…แนวคิดหยินหยาง!?
วิถีหยางบริสุทธิ์สายใหญ่เคียงคู่กับหยินบริสุทธิ์อันเหน็บหนาว กระบี่นี้ของอี้อวิ๋นผสานไว้ทั้งวิถีมิติเวลาและวิถีหยินหยาง!
ภายใต้กฎอันน่ากลัวนี้แนวคิดแข็งอ่อนของเขาก็เป็นดังสายน้ำที่อยู่ต่อหน้ามหาสมุทร อ่อนแรงไร้กำลังอย่างเห็นได้ชัด
ตูม!
ลำแสงกระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงถูกกฎทั้งสี่ทำลายพินาศ!
เพราะมีผลวิถีเก้าใบคอยสนับสนุน กฎที่อี้อวิ๋นบรรลุและวิถีกระบี่ที่ฝึกจึงไม่ใช่สิ่งที่เจี้ยนเฟิงหงจะเทียบเคียง!
‘แสงฟ้าทะลุอาทิตย์ทำลายจันทร์โลหิต วิญญาณน้ำแข็งโดดเดี่ยวผนึกเหวเทพ!’
ท้ายที่สุดอี้อวิ๋นก็ฟันกระบี่นี้ลง!
ลำแสงกระบี่สีฟ้ามีเจตนากระบี่ของราชาชิงหยางกับผู้เป็นนายแห่งวังกระบี่หยางบริสุทธิ์แฝงอยู่ ทั้งยังมีเจตนากระบี่ของอี้อวิ๋นเอง…กระบี่มุ่งไปข้างหน้าไม่หยุด!
ฉัวะ!
ร่างแยกกระบี่ของเจี้ยนเฟิงหงถูกฟันแตกละเอียดจนกลายเป็นฝนแสงนับไม่ถ้วนทั่วฟ้า!
อานุภาพกระบี่ไม่ลดลงแต่อย่างใด มันฟันเข้าที่หน้าผามันวาวอย่างแรง!
หน้าผาที่ผ่านการสนับสนุนจากค่ายกลชั้นแล้วชั้นเล่าถูกกระบี่ฟันแตกเป็นเศษหิน จรดท้องฟ้าลงมาที่พื้นดินมีลอยกระบี่อันน่าตื่นตะลึงทิ้งเอาไว้!
อี้อวิ๋นมีประกายตาตื่นเต้นเมื่อเห็นอานุภาพของกระบี่นี้ เขาคิดไม่ถึงว่าวิถีกระบี่ของเขาจะมีการพัฒนาในขณะที่สู้กับเจี้ยนเฟิงหง!
ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีที่ไม่คาดคิด