True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1083
เจี้ยนอู๋เฟิงมาดาวเจ็ดดวงบนชุดคลุมนักบวชของชายชราแล้วก็นึกอะไรได้อย่างฉับพลัน เขาพูดขึ้นว่า “เจ้าคือคนของวังวิถีเจ็ดดารา? วังวิถีเจ็ดดาราสนใจปรากฏการณ์ครั้งนี้เหมือนกันหรือ?”
วังวิถีเจ็ดดาราคือสำนักชั้นยอดสำนักหนึ่งในแคว้นจงแห่งแดนสวรรค์ สำนักนี้มีพลังเหนือกว่าสำนักกระบี่สระใส
วังวิถีเจ็ดดารามีมรดกลึกล้ำประวัติศาสตร์ยาวนาน เมื่อเห็นคนจากวังวิถีเจ็ดดาราปรากฏตัวและคิดเชื่อมโยงถึงร้านประมูลเจ็ดดารา ทุกคนก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าร้านประมูลนี้คงจะเป็นอุตสาหกรรมทางโลกของวังวิถีเจ็ดดารา
สำนักใหญ่หลายสำนักจะสร้างอุตสาหกรรมทางโลกของตัวเองขึ้นมาเพื่อรวบรวมวัตถุล้ำค่า อุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นเพียงส่วนขยายสำหรับสำนักใหญ่ ศิษย์ในสำนักที่ไม่ได้เรื่องจะถูกส่งให้มาดูแลที่นี่ แม้จะเป็นผู้รับผิดชอบของอุตสาหกรรมก็เป็นแค่คนตำแหน่งต่ำเมื่ออยู่ในสำนัก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าร้านประมูลเจ็ดดาราของทะเลทรายกลบอาทิตย์เป็นอุตสาหกรรมทางโลกของวังวิถีเจ็ดดารา
ความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไร แต่สำนักใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจตรวจสอบอุตสาหกรรมของสำนักอื่น ดังนั้นหลายคนจึงไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างร้านประมูลเจ็ดดารากับวังวิถีเจ็ดดารา
เหยียนเทียนชงมีสีหน้าได้ใจเมื่อเห็นชายชราผู้นี้ปรากฏตัว เขากลับไปนั่งที่อีกครั้ง แววตาที่กวาดมองจีสุ่ยเยียนมีความรุกรานอย่างไม่ปิดบัง
เขาจะยืมพลังของร้านประมูลเจ็ดดารามากำจัดอี้อวิ๋น ขอเพียงไม่มีอี้อวิ๋น จีสุ่ยเยียนก็จะตกอยู่ในมือเขาและถูกย่ำยีอย่างตามใจชอบ
จีสุ่ยเยียนขมวดคิ้วเบาๆ เมื่อรู้สึกถึงสายตาของเหยียนเทียนชง จีสุ่ยเยียนเคยได้ยินชื่อวังวิถีเจ็ดดารามาบ้างเช่นกัน นี่เป็นสำนักชั้นหนึ่ง เป็นกลุ่มอิทธิพลที่แข็งแกร่งกว่าทุกกลุ่มอิทธิพลในที่แห่งนี้ วัตถุที่เหยียนเทียนชงพูดถึงทำให้สำนักเบื้องหลังของร้านประมูลเจ็ดดาราหวั่นไหวเชียวหรือ?
“ทำไม แม่นางสุ่ยเยียนกับคุณชายอี้ไม่สนใจน้ำค้างบำรุงวัตถุแล้วหรือ?” ผู้อาวุโสเฟิงสิงถาม
“หากผู้อาวุโสเฟิงสิงจริงใจที่จะขายน้ำค้างบำรุงวัตถุก็บอกราคามาเถอะ” อี้อวิ๋นพูดเสียงเย็น
“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องรีบร้อนเรื่องน้ำค้างบำรุงวัตถุ ข้าขอแนะนำว่าท่านผู้นี้คือท่านทูตอวี้เหิงจากวังวิถีเจ็ดดารา!” ผู้อาวุโสเฟิงสิงแนะนำด้วยน้ำเสียงที่เคารพนบนอบเป็นอย่างยิ่ง
วังวิถีเจ็ดดารามีทูตทั้งหมดเจ็ดคนควบคู่กับดาวเจ็ดดวง ทูตทั้งเจ็ดต่างก็เป็นบุคคลชั้นหนึ่งของวังวิถีเจ็ดดารา ปกติแล้วก็ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสเฟิงสิง ต่อให้เป็นหัวหน้าร้านประมูลเจ็ดดาราของทั้งทะเลทรายกลบอาทิตย์ก็ยังเคารพนบนอบเหมือนขันทีเจอจักรพรรดิเมื่อพบกับทูตทั้งเจ็ด วันนี้ผู้อาวุโสเฟิงสิงมีโอกาสได้พบทูตท่านหนึ่งจึงตื่นเต้นมาก นี่เป็นโอกาสอันหาได้ยากยิ่ง หากไม่ใช่เพราะทะเลทรายกลบอาทิตย์เกิดปรากฏการณ์จนพวกเขาที่เป็นผู้ดูแลสาขาแยกของร้านประมูลเจ็ดดารามีสิทธิติดต่อท่านทูตโดยตรง เช่นนั้นเขาจะมีโอกาสได้อย่างไร? แค่ท่านทูตพูดแนะนำเขาเพียงเล็กน้อยก็มีอนาคตไร้ขีดจำกัดแล้ว
“เหยียนเทียนชง ท่านทูตสนใจในวัตถุที่เจ้าพูดถึง เจ้าพูดมาอีกรอบเถอะ!”
เสียงของผู้อาวุโสเฟิงสิงมีความทะนงตน ก่อนหน้านี้เขาต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำอยู่ที่นี่เพราะแข็งแกร่งไม่พอ ในที่สุดตอนนี้ที่พึ่งก็มาแล้ว รู้สึกได้ลืมตาอ้าปากอย่างสบายใจ
“ขอรับ” เหยียนเทียนชงยิ้มแย้ม เขามองชายวัยกลางคนชุดดำที่อยู่ด้านหลังแวบหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านพี่เทียนเซียว ท่านเป็นพูดจะดีกว่า”
ชายวัยกลางคนที่ถูกเหยียนเทียนชงเรียกว่าพี่เทียนเซียวถือพัดขนไว้ในมือ เขาไว้เคราแพะเส้นยาวและมีท่าทางเหมือนปัญญาชน ตอนที่อี้อวิ๋นเพิ่งมาถึงงานซื้อขายก่อนหน้านี้ก็สังเกตเห็นชายผู้นี้ อีกฝ่ายยังยิ้มให้เขาอีกด้วย
หลังจากที่งานซื้อขายเริ่มขึ้น ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็นิ่งเงียบมาโดยตลอด ประหนึ่งงูพิษที่ซ่อนในเงามืด ทำให้อี้อวิ๋นไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“ข้าน้อยเทียนเซียวซั่ว มีตำแหน่งเป็นอาจารย์เทียนเซียว” เทียนเซียวซั่วโบกพัดพร้อมพูดอย่างไม่เร็วไม่ช้าไปด้วย “ข้าน้อยมีสมบัติชิ้นหนึ่งที่สำคัญต่อการตามหาสมบัติในทะเลทรายกลบอาทิตย์ครั้งนี้มาก ข้ายินดีร่วมแบ่งปันสมบัติชิ้นนี้ด้วยกันกับทุกท่าน เพราะก่อนหน้านี้ศิษย์ผู้ทรยศคนหนึ่งของสำนักได้ขโมยสมบัติเช่นนี้ไป ท้ายที่สุดก็มาตกอยู่ในมือร้านความลับเทพ ชื่อของมันคือเข็มทิศความลับสวรรค์ แม่นางสุ่ยเยียน เจ้าคงไม่ได้ไม่รู้จักวัตถุนี้หรอกใช่ไหม?”
เทียนเซียวซั่วหันมาทางจีสุ่ยเยียนอย่างฉับพลัน ใจจีสุ่ยเยียนจมลง ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าที่แท้วัตถุที่เหยียนเทียนชงพูดถึงก็คือเข็มทิศความลับสวรรค์! อาจารย์เทียนเซียวผู้นี้มาจากสำนักความลับสวรรค์ ไม่แปลกที่จะรู้ว่าเข็มทิศนี้อยู่กับนาง
จีสุ่ยเยียนยังไม่ทันตอบอะไรก็รู้สึกถึงคลื่นกำลังจิตอันแข็งแกร่งที่พุ่งเข้าสู่จิตวิญญาณนางอย่างฉับพลัน
คลื่นพลังนี้มาจากทูตอวี้เหิง!
จิตของทูตอวี้เหิงใช่สิ่งที่จีสุ่ยเยียนจะต้านไหวที่ไหนกัน หน้านางขาวซีด ร่างกายถอยออกไปหลายก้าวและล้มลง
อี้อวิ๋นตาไวมือไว เขาคว้ามือจีสุ่ยเยียนและดึงให้นางกลับมานั่งที่เก้าอี้
แต่การโจมตีทางจิตในชั่วพริบตาของทูตอวี้เหิงเมื่อครู่นี้ทำให้จีสุ่ยเยียนเหงื่อตกทั่วร่าง ริมฝีปากไม่มีสีเลือดแม้แต่น้อย
“เจ้ามีเจตนาอะไร?”
อี้อวิ๋นโมโหมาก คิดไม่ถึงว่าทูตอวี้เหิงผู้นี้จะลงมือกับหญิงอ่อนแอเช่นจีสุ่ยเยียนอย่างไม่สนฐานะ
ทูตอวี้เหิงส่งเสียงเย็นๆ ในเสียงมีกำลังจิตอันแข็งแกร่งแฝงอยู่จนหลายคนอดที่จะก้าวถอยหลังไม่ได้ “ข้าแค่ส่งกำลังจิตเข้าไปตรวจสอบความคิดของนางในชั่วพริบตาที่นางไม่มีสมาธิหลังจากที่ได้ยินเรื่องเข็มทิศความลับสวรรค์ก็เท่านั้น นี่เป็นวิชาจิตที่นุ่มนวลที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นหากข้าค้นวิญญาณจริงๆ นางก็คงกลายเป็นคนสติไม่ดี!”
“เมื่อครู่ข้าได้รับการยืนยันแล้วว่าเข็มทิศความลับสวรรค์อยู่ที่ร้านความลับเทพจริงๆ! ในเมื่อเป็นสมบัติของสำนักความลับสวรรค์ก็มอบออกมาเถอะ ข้าเองก็จะไม่ให้สูญเสียและชดเชยให้แน่นอน”
คำพูดของชายชราชุดคลุมเจ็ดดาราไม่เปิดโอกาสให้ใครสงสัย ขณะที่พูดก็ใช้กำลังจิตมาห่อหุ้มอี้อวิ๋นด้วยแรงกดดันจากผู้ที่เหนือกว่า
อี้อวิ๋นวินิจฉัยระดับยุทธ์ของทูตอวี้เหิงผู้นี้ได้ยาก เขาแน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากความต่างเรื่องพลัง
ต่อให้อี้อวิ๋นจะมีพรสวรรค์แค่ไหนก็เป็นเด็กรุ่นเยาว์คนหนึ่งอยู่ดี ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของทูตจากสำนักใหญ่
อี้อวิ๋นกำหมัดเงียบๆ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังแข็งแกร่งไม่พอ เขาฝึกยุทธ์มาสั้นเกินไปจนเติบโตไม่ทัน ทุกอย่างคงต่างไปจากนี้หากเขาอยู่ระดับวังวิถี
“เข็มทิศความลับสวรรค์ถูกท่านปู่ข้านำไปที่ทะเลทรายกลบอาทิตย์และหายสาบสูญไปแล้ว อีกอย่าง คนที่ทรยศสำนักความลับสวรรค์ไม่ใช่ท่านปู่ของข้า แต่เป็นพวกเจ้าต่างหาก!”
จีสุ่ยเยียนพูดอย่างดุเดือด เทียนเซียวซั่วมีสีหน้าเย้ยหยันต่อเรื่องนี้ เขาไม่สนใจจีสุ่ยเยียนแม้แต่น้อย หันไปพูดกับทูตอวี้เหิงว่า “ท่านทูต ดูแล้วนังโจรทรยศนี้จะไม่ยอมมอบเข็มทิศความลับสวรรค์”
ทูตอวี้เหิงยิ้มบางๆ เขาลูบคางมองอี้อวิ๋น อี้อวิ๋นรู้สึกถึงเจตนาสังหารบางๆ จากแววตาอีกฝ่าย
เรื่องนี้ทำให้ใจเขาเคร่งเครียด อีกฝ่ายรู้พรสวรรค์ของเขาแต่ยังคิดจะแย่งเข็มทิศความลับสวรรค์ นี่หมายความว่าพวกเขาเข้าใจทะเลทรายกลบอาทิตย์ แรงผลักดันจากผลประโยชน์ทำให้พวกเขายอมที่จะเสี่ยง
แม้เขาจะมีพรสวรรค์เลิศล้ำ แต่แค่รับประกันให้ได้ว่าจะฆ่าสำเร็จจนเขาไม่อาจเติบโต เช่นนั้นเขาก็เป็นภัยคุกคามไม่ได้อีก