True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1153 เรื่องที่ไม่คาดคิด
“เจ้าจะให้ลูกสาวชำระร่างสินะ? ให้นางกินโอสถสามเม็ดนี้ทุกๆ หนึ่งชั่วยามจะได้ผลลัพธ์ดีขึ้น แต่กระบวนชำระร่างจะเจ็บปวดเล็กน้อย”
อี้อวิ๋นใส่กล่องหยกลงสู่แหวนมิติที่ต่งเส่าชิงมอบให้เขาก่อนหน้านี้แล้วมอบคืนให้อีกฝ่าย
“นี่…” มือที่รับกล่องหยกของต่งเส่าชิงสั่นเบาๆ เขาไม่รู้จะพูดขอบคุณอย่างไรดี
ก่อนหน้านี้โดนกลั่นแกล้งมาไม่รู้เท่าไร กว่าจะหาหญ้าน้ำค้างสวรรค์ได้ก็เผชิญความยากลำบากมากมาย แต่ตอนนี้โอสถชำระร่างสามเม็ดอยู่ในมือเขาแล้ว มันทำให้รู้สึกประหนึ่งกำลังฝัน
“ข้าน้องต่งเส่าชิงจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้ของท่านปรมาจารย์อี้”
ต่งเส่าชิงถือแหวนมิติพร้อมโค้งคำนับให้อี้อวิ๋น
เขาไม่ปฏิเสธอีกต่อ มีโอสถสามเม็ดก็ย่อมผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกในร่างลูกสาวให้พรสวรรค์ดีขึ้นอีกขั้นได้ด้วย เช่นนี้แล้วสำนักคลื่นหยกก็มีความหวังที่จะเจริญรุ่งเรืองขึ้น
“ด้วยทักษะหลอมโอสถของปรมาจารย์อี้แล้วก็เกรงว่าห้องหออวิ๋นซินคงกลายเป็นโรงโอสถอันดับหนึ่งของเมืองสรรพสิ่ง”
ต่งเส่าชิงหวังจากใจว่าห้องหออวิ๋นซินของอี้อวิ๋นจะเจริญรุ่งเรือง
ทว่าอี้อวิ๋นกลับส่ายหน้า โรงโอสถอันดับหนึ่งใช่จะเป็นกันง่ายๆ ที่ไหน หากจะไปถึงขั้นนั้นก็ต้องมีพลังที่เหมาะสมกันเป็นอันดับแรก
การเพิ่มความแข็งแกร่งคือภารกิจเร่งด่วนของอี้อวิ๋นเช่นกัน
คิดดูอย่างละเอียดแล้วเขาก็ทั้งต้องตีรากฐานให้แน่น ต้องเพิ่มระดับจิตวิญญาณ ต้องรวบรวมวัตถุดิบของโอสถวิญญาณเปล่า ศึกษาคัมภีร์เทพโอสถให้คุ้นเคย ทั้งยังต้องเพิ่มระดับยุทธ์ เขามีเวลาไม่เพียงพอจริงๆ
“ท่านปรมาจารย์อี้ ข้าน้อยต้องขอตัวลาก่อน ไม่ทราบว่าข้าน้อยนำเรื่องในวันนี้ไปโฆษณาภายนอกได้หรือไม่ขอรับ?”
ต่งเส่าชิงถามอี้อวิ๋นอย่างระมัดระวัง
อี้อวิ๋นเข้าใจทันทีว่าต่งเส่าชิงอยากโฆษณาห้องหออวิ๋นซินให้เขา
อี้อวิ๋นไม่สนใจเรื่องนี้ โฆษณาที่ทรงพลังอย่างแท้จริงจะเกิดจากผู้มีชื่อเสียงของเมืองสรรพสิ่งอย่างจั่วชิวเฮ่าอวี้กับฮูเหยียนชาง พวกเขาสองคนไม่เพียงไม่คิดค่าโฆษณา แต่ยังจ่ายเงินให้เขา ใต้หล้านี้มีเรื่องดีแบบนี้ที่ไหนกัน
ส่วนเรื่องที่คำโฆษณาของต่งเส่าชิงจะทำให้จั่วชิวเฮ่าอวี้กับฮูเหยียนชางกลับคำนั้นอี้อวิ๋นก็ไม่เคยคิดมาก่อน วันที่สองคนนั้นบุกมามีคนเป็นพยานมากมาย สัญญาที่ตกลงต่อหน้าสาธารณะชนย่อมมีผลบังคับใช้แน่นอน นอกเสียจากว่าโรงโอสถฟ้าประทานจะไม่อยากทำการค้าแล้ว ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางผิดสัญญา
“แล้วแต่เจ้าเถอะ อย่าโฆษณาเกินจริงก็พอ”
อี้อวิ๋นพูดอย่างสบายๆ เขาไม่สนใจเรื่องนี้
ต่งเส่าชิงขอบคุณอีกครั้งแล้วออกจากห้องหออวิ๋นซิน
ความจริงข่าวเรื่องนี้กระจายไปเร็วกว่าที่อี้อวิ๋นคิดไว้มาก
ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็กระจายไปทั่วโรงน้ำชาโรงเตี๊ยมต่างๆ ในเมืองสรรพสิ่ง แม้ตอนนี้อี้อวิ๋นจะเป็นคนไม่มีอิทธิพลในเมืองสรรพสิ่งแต่กลับมีชื่อเสียง ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขาถูกเทพธิดาอู๋เสียบอกว่าเป็นสหายเก่าที่ตรอกสมบัติสวรรค์ ทั้งคู่ไม่ใช่แค่มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา อี้อวิ๋นยังปฏิเสธจั่วชิงเฮ่าอวี้อีกด้วย ตอนนี้เขามีความขัดแย้งกับจั่วชิวเฮ่าอวี้และฮูเหยียนชาง พวกคนที่ไม่มีอะไรทำจึงมักคุยเรื่องพวกนี้ขณะดื่มชากินอาหาร
แน่นอนว่าข่าวนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะไม่ส่งไปถึงหูจั่วชิวเฮ่าอวี้กับฮูเหยียนชาง
“อะไรนะ? เจ้าสวะต่งนั่นบอกว่าอี้อวิ๋นหลอมโอสถชำระร่างได้สามเม็ด?”
จั่วชิวเฮ่าอวี้ตกใจมากเมื่อได้ยินข่าวนี้ นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว หมายความว่าอี้อวิ๋นอยู่ระดับเดียวกับปรมาจารย์โอสถชั้นหนึ่งหรือเปล่า?
ฮูเหยียนชางขมวดคิ้วเบาๆ แล้วส่งเสียงเย็นๆ พูดว่า “เจ้าเฒ่าต่งที่สมควรตายนี่ เขาจงใจปล่อยข่าวนี้เพื่อเอาคืนข้า คิดว่าข้าจะกลัวและยอมแพ้กับสัญญาที่ให้กับเจ้าเด็กนั่นก่อนหน้านี้หรือไง?”
“โอ้? ปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนหมายความว่าอย่างไร?” จั่วชิวเฮ่าอวี้ถามขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่ามีทางพลิกผัน
ฮูเหยียนชางดื่มชาหนึ่งคำแล้วพูดช้าๆ ว่า “พูดตามตรงแล้วก่อนหน้านี้ข้าสนใจในบุตรสาวผู้งดงามของเจ้าเฒ่าต่ง แต่เจ้าเฒ่าต่งนั่นจะตอบโต้ข้าเหมือนแมวที่โดนเหยียบหางจึงโดนไล่ออกไป จากนั้นเขาจึงไปห้องหออวิ๋นซิน”
“ข้าเคยเห็นวัตถุดิบที่เจ้าเฒ่าต่งเตรียมมา ต่อให้ข้าลงมือสุดกำลังก็หลอมโอสถชำระร่างได้แค่สองเม็ด สามเม็ดหรือ? ง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน! ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เขาเข้าไปในห้องหออวิ๋นซิน ภายในเวลาหกชั่วยามก็มีข่าวเรื่องหลอมโอสถชำระร่างสำเร็จแพร่ออกมา ความเร็วในการหลอมโอสถเช่นนี้ห่างจากข้าไกลจนไม่เห็นฝุ่น! หากเจ้าเด็กนั่นหลอมโอสถชำระร่างได้ภายในหกชั่วยามจริงๆ เช่นนั้นข้าก็จะกินโต๊ะตัวนี้”
ฮูเหยียนชางพูดอย่างมั่นใจ จั่วชิวเฮ่าอวี้ฟังแล้วก็ถอนใจด้วยความโล่งอก
“หมายความว่าเจ้าเฒ่าต่งจงใจเอาคืนท่านและอยากให้พวกเราตกใจหนีจนเสื่อมเสียชื่อเสียง?”
“นอกจากเรื่องนี้แล้วข้าก็นึกความเป็นไปได้อื่นไม่ออกอีก วิธีคิดของเขาช่างอ่อนต่อโลกจริงๆ” ฮูเหยียนชางพูดอย่างมั่นใจ
“แบบนี้นี่เอง ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสี่วัน ถึงเวลานั้นพวกเราก็ไปตามสัญญาและทำให้อี้อวิ๋นเผยธาตุแท้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่ต้องถึงสี่วันหรอก หากโอสถชำระร่างนี้เป็นของจริง เจ้าเฒ่าต่งก็ต้องให้ลูกสาวเขากินแน่นอน ถึงเวลานั้นก็จะเห็นผลลัพธ์ ข้าแน่ใจว่าลูกสาวเขาไม่มีทางหายดี”
ความจริงแล้วคำโฆษณาของต่งเส่าชิงก็เป็นที่สงสัยของใครหลายคน อย่างไรการฟังกับหูก็เป็นข่าวลือ เห็นกับตาจึงจะเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะจากความเข้าใจที่มีต่อวิชาหลอมโอสถแล้วก็ยิ่งทำให้ยากที่จะเชื่อคำพูดของต่งเส่าชิง มันแปลกมหัศจรรย์เกินไป
แต่ขณะเดียวกันก็มีคนเชื่อคำพูดของต่งเส่าชิง เพราะอย่างไรต่งเส่าชิงก็เป็นถึงเจ้าสำนัก แม้จะเป็นแค่สำนักเล็กๆ ก็ไม่น่าพูดโกหก มีแต่จะทำลายชื่อเสียงตัวเองเปล่าๆ
ด้วยเหตุนี้จึงมีคนมาลองเสี่ยงดวงที่ห้องหออวิ๋นซิน ลองดูว่าอี้อวิ๋นจะหลอมโอสถที่พวกเขาต้องการได้เช่นกันหรือไม่
“เฮ้ พวกของร้านพวกเจ้าล่ะ? พวกข้าจะให้เขาหลอมโอสถ”
ชายฉกรรจ์แขนใหญ่เอวหนาสามคนปรากฏตัวกลางโถงห้องหออวิ๋นซินและพูดกับหรูเอ๋อร์เสียงดัง
หรูเอ๋อร์เป็นสาวน้อยเรียบร้อย ไม่ว่าลูกค้าจะมีกิริยาอย่างไรก็จะรินชาให้อย่างเคารพแล้วเรียกให้อี้อวิ๋นลงมา
ชายฉกรรจ์สามคนตบเทียบโอสถลงบนโต๊ะและนั่งลงอย่างอาดๆ
“โอ้! ชาดอกไม้หมอกเจ็ดดารา ชาดีนี่นา รินให้ข้าเพิ่มอีกสองสามถ้วย”
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งตาเป็นประกายเมื่อเห็นชาดอกไม้หมอกเจ็ดดาราอันหอมกรุ่น ดื่มชาประเภทนี้แล้วมีประโยชน์ต่อพลังยุทธ์
ขณะที่เขากำลังยกถ้วยชาเพื่อดื่ม ในตอนนี้เองที่จู่ๆ ก็เจ็บกลางหว่างคิ้วขึ้นมา ถ้วยชาในมือเกือบร่วงลงพื้น
“น้ำชาถ้วยละหนึ่งร้อยอักขระ หากจะดื่มก็ต้องจ่ายเงิน”
มีเสียงอันเย็นชาดังขึ้นอย่างฉับพลัน
ชายฉกรรจ์สะดุ้งตกใจ “อะไรนะ ข้ามาที่นี่เพื่อมอบการค้าให้เจ้า แต่แค่จะดื่มชากลับต้องจ่ายเงิน? ทั้งยังราคาถึงหนึ่งร้อยอักขระ เจ้าไม่ปล้นข้าแทนเลยล่ะ!”
ชายฉกรรจ์พูดอย่างโมโห เงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าคนที่ยืนพิงราวบันไดชั้นสองอยู่คืออี้อวิ๋น
อี้อวิ๋นสวมเสื้อสีฟ้า ในมือถือม้วนกระดาษสีดำ มีท่าทางเหมือนบัณฑิตในโลกของคนธรรมดา “หากต้องการให้ข้าหลอมโอสถ ไม่ว่าคุณภาพจะเป็นอย่างไรก็มีราคาเริ่มที่ห้าหมื่นอักขระ หากโอสถมีความยากสูงก็อาจหม้อละหนึ่งแสนอักขระ วัตถุดิบทั้งร่างเจ้ารวมกันแล้วก็มีราคาไม่ถึงหนึ่งพันกระมัง จะให้ข้าหลอมโอสถให้?”
อี้อวิ๋นเห็นเทียบโอสถในมือชายฉกรรจ์ได้อย่างชัดเจน
ภายในมีรายการโอสถมากกว่าสิบประเภท ทั้งหมดล้วนเป็นโอสถราคาถูกคุณภาพต่ำ วัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นของที่ถูกจนอี้อวิ๋นเห็นแล้วยังขี้เกียจเก็บ
โอสถสิบกว่าประเภทมีวัตถุดิบเล็กๆ น้อยๆ ร้อยกว่าอย่าง คิดรวมกันแล้วก็มีราคาไม่กี่ร้อยอักขระ แม้การหลอมจะไม่ยากอะไรแต่ก็จุดจิกน่าเบื่อมาก
อี้อวิ๋นเดาได้ว่าคนเหล่านี้คิดอะไร พวกเขาได้ยินจากเจ้าสำนักต่งว่าอี้อวิ๋นหลอมโอสถเป็นจึงมาเสี่ยงดวง จงใจนำวัตถุดิบราคาถูกออกมาใช้ ต่อให้หลอมล้มเหลวก็เสียหายไม่มาก แต่หากหลอมสำเร็จก็จะได้กำไร
อี้อวิ๋นมีเวลามาสนใจคนระดับล่างที่วางแผนหาผลกำไรเล็กๆ ที่ไหนกัน
“เจ้า…”
ชายฉกรรจ์ทั้งสามโมโหจนแทบจะลงมือกับอี้อวิ๋น ทว่าเมื่อสัมผัสถึงแววตาอี้อวิ๋นก็กลับรู้สึกกลัวอย่างน่าประหลาด
“ไสหัวไปเสียเถอะ พวกเจ้าควรขอบคุณกฎของเมืองสรรพสิ่ง ไม่เช่นนั้นวันนี้ก็อย่าหวังจะได้ออกไปอย่างสมประกอบเลย”
สุดท้ายแล้วชายทั้งสามก็ออกไปอย่างผิดหวัง
“หรูเอ๋อร์ ปิดประตูร้าน ข้าจะปิดด่านฝึกตน”
ตอนนี้อี้อวิ๋นจะใช้หญ้าน้ำค้างสวรรค์ที่ได้มาโดยคาดไม่ถึงมาหลอมโอสถน้ำค้างสวรรค์เลี้ยงวิญญาณ ไม่ว่าอย่างไรการพัฒนาตนเองก็เป็นเรื่องเร่งด่วน ในเมื่อมีโอสถอยู่กับตัวก็ต้องใช้
ลูกค้าที่เข้ามาตอนนี้เป็นพวกไม่ได้เรื่องเสียส่วนใหญ่ อี้อวิ๋นมีเวลามาคุยด้วยที่ไหนกัน
“เจ้าค่ะคุณชาย”
หรูเอ๋อร์ปิดประตูร้านทันที พวกคนที่คิดจะมาเสี่ยงดวงที่ห้องหออวิ๋นซินถึงจึงถูกปฏิเสธกันหมด
ชายฉกรรจ์สามคนที่ถูกอี้อวิ๋นไล่ออกจากร้านเริ่มปล่อยข่าวให้ร้ายอี้อวิ๋นเพราะความโกรธในใจ ใส่ร้ายห้องหออวิ๋นซิน บอกว่าอี้อวิ๋นเป็นคนอย่างนู้นอย่างนี้
คนที่สงสัยในอี้อวิ๋นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทันที
นี่เป็นเรื่องที่ต่งเส่าชิงไม่คาดคิดมาก่อน เขาจะคิดได้อย่างไรว่าคำโฆษณาของเขาจะให้ผลตรงกันข้าม
อี้อวิ๋นเป็นผู้มีพระคุณของเขา เขาไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้เลวร้ายลงกว่าเดิม
ตอนนี้อี้อวิ๋นกำลังปิดด่านฝึกตน ขี้เกียจสนใจเรื่องพวกนี้ แต่ต่งเส่าชิงไม่อาจไม่สนใจ เขามีโอสถชำระร่างเป็นหลักฐาน ไม่จำเป็นต้องพูดหักล้างกับใคร
เขาแสดงโอสถชำระร่างของจริงให้หลายคนดู ทั้งยังป้อนโอสถชำระร่างสามเม็ดนี้ให้ลูกสาวกินทุกหนึ่งชั่วยาม
เรื่องนี้ดึงดูดความสนใจของใครหลายคน ทุกคนอยากเห็นว่าโอสถชำระร่างนี้มีผลลัพธ์อย่างไรกันแน่
ตามหลักแล้วหลังจากที่กินโอสถชำระร่าง สิ่งสกปรกก็จะถูกขับจากร่างผู้กิน พรสวรรค์มีความพัฒนา
ทุกคนรอที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของต่งเสี่ยวหวั่น
ทว่า…สิ่งที่ต่งเส่าชิงคิดไม่ถึงเลยคือ หลังจากที่ต่งเสี่ยวหวั่นกินโอสถชำระร่างอันสมบูรณ์แบบลงไป ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายนางก็ค่อยๆ อ่อนแอลง
เวลาผ่านไปแล้วสองเค่อ สีหน้าต่งเสี่ยวหวั่นกลายเป็นสีเขียว ริมฝีปากซีดเซียว ร่างกายเย็นลงเรื่อยๆ ลมหายใจก็อ่อนแรงลง
เมื่อยื่นมือไปจับชีพจรของต่งเสี่ยวหวั่นก็สับสนอลหม่านจนจับไม่ได้ ประหนึ่งว่าป่วยจนไม่อาจเยียวยา
ต่งเส่าชิงตกใจจนหน้าซีด ตอนแรกเขายังมั่นใจว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะลูกสาวเขาใช้โอสถชำระร่างติดต่อกันสามเม็ด โอสถชำระร่างมีคุณภาพสูงเกินไป ร่างกายลูกสาวรับไม่ไหวจึงเกิดผลข้างเคียง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สถานการณ์ของต่งเสี่ยวหวั่นก็มีจะร้ายแรงมากขึ้น แม้แต่ไฟชีวิตก็เริ่มเสื่อมแรงลง ต่งเส่าชิงทำอะไรไม่ถูกแล้ว
นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียงที่เกิดจากพลังโอสถที่แข็งแกร่งเกินไปของโอสถชำระร่างแน่นอน ชีวิตต่งเสี่ยวหวั่นอ่อนแอลงและเริ่มเข้าสู่อันตรายแล้ว!
เหตุใดจึงเป็นแบบนี้ ทั้งๆ ที่กินโอสถชำระร่างคุณภาพสูง เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
ต่งเส่าชิงมึนงงไปหมด
…………………………………………………