True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1149 โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย
อี้อวิ๋นรับเทียบโอสถเข้ามาและอ่านสมุนไพรส่วนผสมที่เขียนเอาไว้…หญ้าน้ำแข็ง หยกลายแตก ขนเก้าอีกาเพลิง บุปผาหมอกหทัยหมื่นปี กระดูกสันหลังหมาป่าฟ้าคำราม…
เทียบโอสถที่จั่วชิวเฮ่าอวี้จะให้หลอมมีชื่อว่า ‘โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย’!
ในบันทึกของเทพโอสถมีการพูดถึงเทียบโอสถชนิดนี้เช่นกัน ประวัติความเป็นมาของมันยาวนานมาก มีอยู่ก่อนที่เทพโอสถจะมีชื่อเสียงเสียอีก
ความจริงบันทึกเกี่ยวกับโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยที่เทพโอสถบันทึกไว้มีความยุ่งยากซับซ้อนกว่าเทียบโอสถของจั่วชิวเฮ่าอวี้มาก เมื่อหลอมออกมาแล้วก็มีสรรพคุณดีกว่าเช่นกัน
แต่เพราะการไหลผ่านของกาลเวลา เทียบโอสถโบราณบางชนิดจึงอาจสูญหายไปบางส่วนและถูกคนรุ่นหลังเสริมแต่งเพิ่มเข้าไป สรรพคุณที่ได้จึงอาจไม่ดีเหมือนเก่า
‘คิดไม่ถึงวาจั่วชิวเฮ่าอวี้กับเจ้าเฒ่าฮูเหยียนจะมีของดีแบบนี้’
อี้อวิ๋นมีรอยยิ้มบนใบหน้า ในใจเต็มไปด้วยความสุข
โอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยเป็นโอสถชั้นเลิศที่ทั้งหล่อเลี้ยงวิญญาณ ฟื้นฟูเลือด พัฒนาระดับยุทธ์และหล่อเลี้ยงจุดตันเถียน
ไม่ใช่แค่หลิงเสียเอ๋อร์ที่ต้องการโอสถนี้ แม้แต่กับอี้อวิ๋นก็มีประโยชน์มากเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเข้าสู่ระดับวังวิถีอย่างรวดเร็ว กำลังต้องการโอสถที่จะช่วยหล่อเลี้ยงรากฐาน หากโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยหม้อนี้หลอมสำเร็จได้มากกว่าสิบเม็ด เช่นนั้นอี้อวิ๋นก็ได้กำไรครั้งใหญ่แล้ว
แต่แน่นอนว่าการจะหลอมมันก็ยากมากเช่นกัน ไม่เพียงแต่ต้องมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่การสกัดขนเก้าอีกาเพลิงและกระดูกสันหลังหมาป่าฟ้าคำรามยังต้องใช้วิชาปรมาจารย์อสูรควบคู่ด้วย
แม้วิชาหลอมโอสถกับวิชาปรมาจารย์อสูรจะมีแก่นแท้เดียวกัน แต่เพราะวิธีสกัดสมุนไพรและอสูรปีศาจมีความแตกต่างกันมาก นี่จึงทำให้ปรมาจารย์โอสถหลายคนไม่อาจทำได้ทั้งสองด้าน
เพราะโลกสวรรค์หมื่นปีศาจมีอสูรปีศาจมาก วิชาปรมาจารย์อสูรจึงแพร่หลายกว่า ส่วนโลกสวรรค์เทพหยางก็แพร่หลายด้านวิชาหลอมโอสถมากกว่า
บังเอิญจริงๆ ที่อี้อวิ๋นเชี่ยวชาญทั้งสองวิชา เขามั่นใจกับการหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยมาก
แต่ถึงกระนั้นอี้อวิ๋นก็ไม่ได้ตอบตกลงทันที เขามองจั่วชิวเฮ่าอวี้แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าลงทุนไม่น้อยเลยจริงๆ เกรงว่าสมุนไพรพวกนี้คงมีราคามากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนอักขระ สองเท่าก็คือสามล้าน เจ้าคิดว่าข้าชดเชยไหวหรือ?”
“ชดเชยไม่ไหวก็ไม่เป็นไร ตามกฎของเมืองสรรพสิ่งแล้วหากติดหนี้ก็ชำระด้วยการตัดแขนตัดขาได้ หากยังไม่พออีกก็ชดใช้ด้วยชีวิตได้เช่นกัน แม้ชีวิตเจ้าจะไม่มีค่าอะไรแต่ข้าก็ยินดีรับไว้ อีกอย่าง ข้าคิดว่าเมื่อเทพธิดาอู๋เสียเห็นเจ้าถูกหั่นทีละนิดแล้วก็คงไม่นั่งเฉย”
จั่วชิวเฮ่าอวี้ยกเทพธิดาอู๋เสียออกมาพูดอีกแล้ว อี้อวิ๋นรู้ว่าหากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ องค์หญิงจิ้งจอกขาวก็ไม่มีทางนั่งอยู่เฉยแน่นอน แต่แน่นอนว่าครั้งนี้อี้อวิ๋นมั่นใจว่าจะไม่พลาด
“ข้าจะเปิดหม้อหลอมโอสถที่นี่ในอีกสิบวัน!” อี้อวิ๋นไม่พูดไร้สาระให้มากความ เขาตอบตกลงทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ดี! ข้าจะมาดูเจ้าหลอมโอสถด้วยตาตัวเอง!” จั่วชิวเฮ่าอวี้หัวเราะชั่วร้าย เขาผนึกทางถอยของอี้อวิ๋นไว้หมดแล้ว
จั่วชิวเฮ่าอวี้จากไป ผู้คนที่มุงดูก็พากันแยกย้ายเช่นกัน
สิบวันจากนี้อี้อวิ๋นจะเปิดหม้อหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย ข่าวนี้กระจายไปทั่วเมืองสรรพสิ่งอย่างรวดเร็ว
แม้อี้อวิ๋นจะไม่ใช่คนใหญ่คนโต แต่เรื่องนี้พัวพันถึงปรมาจารย์โอสถฮูเหยียนกับจั่วชิวเฮ่าอวี้ ผู้คนที่สนใจจึงย่อมมีมาก
องค์หญิงจิ้งจอกขาวกับเจ้าเมืองฉินย่อมได้ข่าวเช่นกัน
“หืม? สหายของเจ้าคนนี้หลอมโอสถเป็นด้วยหรือ?” เจ้าเมืองฉินแปลกใจเล็กน้อย ฟังจากที่องค์หญิงจิ้งจอกขาวพูดมา อี้อวิ๋นเป็นแค่เด็กรุ่นเยาว์ แค่เวลาฝึกยุทธ์ยังมีไม่พอ นี่เขายังฝึกวิชาหลอมโอสถและกล้าเปิดหม้อหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย?
องค์หญิงจิ้งจอกขาวขมวดคิ้วเบาๆ นางพยักหน้าพูดว่า “ท่านลุงฉิน อี้อวิ๋นเชี่ยวชาญวิชาปรมาจารย์อสูร ก่อนหน้านี้ข้าเคยเห็นเขาหลอมธาตุกระดูกปีศาจ ส่วนเรื่องหลอมสมุนไพรเป็นโอสถนี้ข้าก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอยู่ระดับไหน อีกอย่าง…หากโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยหลอมยากแบบที่ท่านลุงพูดจริงๆ เกรงว่าอี้อวิ๋นคงหลอมสำเร็จไม่ได้ง่ายๆ”
องค์หญิงจิ้งจอกขาวมีความเข้าใจในวิชาปรมาจารย์อสูรของอี้อวิ๋น แม้อี้อวิ๋นจะมีพรสวรรค์โดดเด่นในวิชานี้ แต่หากเทียบกับปรมาจารย์โอสถที่แท้จริงก็เกรงว่าคงมีความห่าง จากที่ท่านเจ้าเมืองฉินพูดมา ปรมาจารย์โอสถที่มีชื่อเสียงหลายคนในเมืองสรรพสิ่งก็ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยสำเร็จ
“กำหนดการมีในอีกสิบวัน ถึงเวลานั้นข้าจะไปดูด้วยตัวเอง ดูเอาก็รู้” เจ้าเมืองฉินพูด เรื่องนี้ฟังดูพิลึกพิลั่นถึงเพียงนี้ เขาย่อมไม่พลาดแน่นอน
……
ขณะที่เจ้าเมืองฉินกับองค์หญิงจิ้งจอกขาวกำลังพูดคุยกัน อี้อวิ๋นกลับเก็บตัวศึกษาหม้อโอสถสีเทาขนาดเล็กอยู่ในห้อง
นี่คือหม้อเทพโอสถที่เทพโอสถทิ้งเอาไว้!
ก่อนที่เทพโอสถจะตายก็ได้ใช้หม้อเทพโอสถนี้มาสร้างค่ายกลเพื่อคืนชีพให้บุตรสาวแต่ก็ล้มเหลว เวลาผ่านมาหลายร้อยล้านปี หม้อใบนี้ถูกเผากลางไฟหยางบริสุทธ์ตลอดเวลาจนรูปร่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ลำพังแค่คุณภาพของหม้อเทพโอสถนี้ก็ดีกว่าตอนที่เทพโอสถใช้ในอดีต แต่เรื่องเดียวที่น่าเสียดายคือค่ายกลของตัวหม้อถูกทำลาย
เดิมทีค่ายกลนี้ผสานกับพลังฟ้าดินของทะเลทรายกลบอาทิตย์ ต่อมาพลังฟ้าดินถูกอี้อวิ๋นทำลาย ค่ายกลของหม้อเทพโอสถจึงสลายไปในพลังฟ้าดิน เรื่องนี้ทำให้อี้อวิ๋นเสียดายมาก
แต่ถึงกระนั้น หม้อเทพโอสถที่ค่ายกลถูกทำลายไปส่วนหนึ่งก็ยังแข็งแกร่งกว่าหม้อโอสถของปรมาจารย์ทุกคนในเมืองสรรพสิ่งเป็นร้อยเท่า
มันจะช่วยให้การหลอมโอสถของอี้อวิ๋นได้ผลเป็นสองเท่าโดยลงแรงครึ่งเดียว
“หม้อเทพโอสถนี้เรายังไม่อาจสกัดอย่างสมบูรณ์ ทำได้แค่ใช้บางส่วน น่าเสียดายจริงๆ หากในอนาคตซ่อมบำรุงค่ายกลที่ขาดหายได้ก็จะทำให้หม้อนี้กลับสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต อาจถึงขั้นดีกว่าเดิมก็ได้”
อี้อวิ๋นรู้ว่าตอนนั้นเทพโอสถไม่ได้สร้างค่ายกลเพื่อจะทิ้งให้ผู้สืบทอด ทว่าอี้อวิ๋นก็ยังได้มรดกวิชาของเทพโอสถมาอย่างจับพลัดจับผลูอยู่ดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็อยากให้ของที่เทพโอสถทิ้งไว้เปล่งประกายรุ่งโรจน์
หากปล่อยให้ไข่มุกที่สว่างสดใสโดนฝุ่นจับก็คงน่าเสียดายเกินไป
อี้อวิ๋นดีดนิ้วเบาๆ สมุนไพรต้นหนึ่งกลายเป็นลำแสงแล้วลอยเข้าสู่หม้อเทพโอสถ มันกลายเป็นน้ำโอสถอย่างรวดเร็วภายใต้การห่อหุมของเปลวเพลิง…
ท้ายที่สุดแล้วหม้อเทพโอสถก็ไม่มีแสงเปล่งออกมาแม้แต่นิดเดียว ดูเป็นแค่หม้อโอสถธรรมดา
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะค่ายกลแกนหลังพังทลาย หม้อโอสถสูญเสียความสุกสกาว แม้จะมีปรมาจารย์โอสถระดับเทพราชาอยู่ที่นี่ก็ยากจะมองออกว่าหม้อนี้มีอะไรต่าง เรื่องนี้ช่วยลดความยุ่งยากให้อี้อวิ๋นไม่น้อยเช่นกัน
ภายในสิบวันนี้เขาต้องปรับตัวเข้ากับหม้อเทพโอสถให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องเทียบโอสถของโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย ไม่ว่าจะเป็นเทียบตัวเก่าหรือใหม่เขาก็จำได้ขึ้นใจแล้ว ทุกอย่างรอเพียงอีกสิบวัน
เพียงแค่หลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยสำเร็จก็จะลงหลักปักฐานในเมืองสรรพสิ่งและได้ทรัพยากรจำนวนมาก
‘เสียเอ๋อร์ ข้าจะทำให้เจ้าฟื้นภายในสามปีแน่นอน’
อี้อวิ๋นพูดในใจเบาๆ
ตอนนี้หลิงเสียเอ๋อร์นอนอยู่บนเตียงของอี้อวิ๋น ร่างกายนางโปร่งแสง ในมือถือรากคืนวิญญาณ เชื้อเพลิงเทพมารที่ลุกโชติช่วงส่องสะท้อนบนหน้านางจางๆ สีหน้านางสุขสงบเหมือนกำลังหลับสนิท…
………………………………………..