True Martial World พิภพเทพยุทธ์ - ตอนที่ 1142 วิถีฉินจิ้งจอกสวรรค์
ได้ข่าวของหลินซินถงโดยบังเอิญท่ามกลางคนมากมายแต่ก็กลับทำให้อี้อวิ๋นไม่อาจตามหาอยู่ดี แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าหลินซินถงปลอดภัยดี
‘ขอบคุณองค์หญิงมากที่บอกข่าวนี้ให้ข้ารู้ ข้าพอใจมากแล้วที่ได้รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่’
‘ขอโทษด้วยที่ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้’ องค์หญิงจิ้งจอกขาวพูดอย่างรู้สึกผิด
‘องค์หญิงพูดเกินไปแล้ว อีกอย่าง…เรื่องลั่วหั่วเอ๋อร์ องค์หญิงรู้ไหมว่านางไปที่ไหน?’ อี้อวิ๋นกังวลเรื่องลั่วหั่วเอ๋อร์มากเช่นกัน สาวน้อยผู้ร่าเริงคนนี้มีน้ำหนักใจเขาค่อนข้างมากอยู่
เสวี่ยอู๋เสียส่ายหน้าแบบเดิม ‘หลังจากที่พวกข้าออกจากโลกใบเล็กนั่นอย่างยากลำบากก็แยกย้ายกัน ข้าเองก็ไม่รู้ว่าหั่วเอ๋อร์อยู่ที่ไหน’
‘เข้าใจแล้ว…’
อี้อวิ๋นไม่พูดอะไร นี่เป็นผลลัพธ์ที่อยู่ในความคาดหมาย ไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไร ความจริงเขามีคำถามหลายอย่างที่อยากถามองค์หญิงจิ้งจอก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับโลกใบเล็กนั่นและสิ่งที่หลินซินถงเจอในช่วงหลายปีนี้
แต่ตอนนี้สมองอี้อวิ๋นกำลังสับสนวุ่นวาย ไม่รู้ว่าควรเริ่มถามจากอะไรไปชั่วขณะ เขาตัดสินใจจะขอตัวลาไปก่อนแล้วค่อยหาเวลาพูดคุยกับองค์หญิงจิ้งจอกขาว
แต่ในขณะที่อี้อวิ๋นกำลังจะเอ่ยปากพูด เงาคนตรงหน้าเขาก็สั่นไหวขึ้นมา จั่วชิวเฮ่าอวี้บินลงจากห้องรับรองชั้นสอง
จั่วชิวเฮ่าอวี้ลอยตัวอยู่กลางอากาศเหนืออี้อวิ๋น เขาพูดกับอี้อวิ๋นว่า “ในเมื่อน้องชายเป็นสหายของเทพธิดาอู๋เสียก็เป็นแขกผู้มีเกียรติของเมืองสรรพสิ่งเช่นกัน ข้าเห็นว่าน้องชายเป็นอัจฉริยะ ยินดีทำความรู้จักด้วยเช่นกัน อยากเชิญทั้งสองไปพูดคุยที่ห้องรับรอง ไม่ทราบว่าน้องชายและท่านเทพธิดาคิดเห็นอย่างไร?”
เสียงของจั่วชิวเฮ่าอวี้สุภาพมาก แต่ตอนนี้อี้อวิ๋นมีอะไรคุยกับคนอื่นที่ไหนกัน เขาเงยหน้ามองจั่วชิวเฮ่าอวี้ เขาย่อมรู้ว่าก่อนหน้านี้คนผู้นี้จะไล่เขาออกไป
อี้อวิ๋นไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่โดนไล่ แต่ตอนนี้เขารู้สึกถึงความดูถูกเหยียดหยามอันตรวจจับได้ยากจากแววตาที่ดูเหมือนถ่อมตนและจริงใจของอีกฝ่าย
เห็นได้ชัดว่าจั่วชิวเฮ่าอวี้ผู้นี้อยากรู้จักองค์หญิงจิ้งจอกขาว
องค์หญิงจิ้งจอกขาวมีอาจารย์ที่เก่งกาจ รู้จักเจ้าเมืองฉิน ทั้งยังเป็นอัจฉริยะหญิง การจะเชิญตัวนางย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย จั่วชิวเฮ่าอวี้ลดตัวลงมาเชิญอี้อวิ๋นด้วยก็เพื่อไม่ให้คำเชิญดูล่วงเกินเกินไป เขาจะใช้อี้อวิ๋นเป็นเครื่องมือแต่กลับดูถูกอี้อวิ๋นในใจ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้อี้อวิ๋นย่อมไม่มีความรู้สึกดีต่ออีกฝ่าย
เดิมทีใจเขาก็สับสนวุ่นวายอยู่แล้ว ไม่มีกะจิตกะใจจัดการความเสแสร้งของจั่วชิวเฮ่าอวี้ เขาพูดกับองค์หญิงจิ้งจอกขาวโดยตรงว่า “องค์หญิง วันนี้ไม่สะดวกที่จะคุยกันนาน ข้าขอตัวก่อน วันหน้าค่อยหาโอกาสคุยกันใหม่ ตอนนี้ข้าจะอยู่ที่เมืองสรรพสิ่งไปก่อน”
อี้อวิ๋นพูดจบก็หมุนตัวจากไป เขาไม่พูดกับจั่วชิวเฮ่าอวี้แม้แต่ประโยคเดียว
ตอนนี้จั่วชิวเฮ่าอวี้ยังคงลอยอยู่กลางอากาศพร้อมมองลงมาที่อี้อวิ๋น รอยยิ้มบนหน้าเขาแข็งชะงักเมื่ออี้อวิ๋นหมุนตัวจากไป เจ้าเด็กนี่จากไปแบบนี้เลย?
จั่วชิวเฮ่าอวี้ถูกทิ้งให้ลอยกลางอากาศ แววตามีไฟแห่งความโมโห
เสวี่ยอู๋เสียพูดกับเขาอย่างเย็นชาก็ช่างมันเถอะ อย่างไรนางก็เป็นอัจฉริยะหญิง เป็นธรรมดาที่จะมีนิสัย
แต่เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน? ฐานะเขาสูงศักดิ์ถึงเพียงไหน ยอมลงมาคุยด้วยก็ถือว่าไว้หน้าแล้ว
จอมยุทธ์สองคนที่อยู่ข้างอี้อวิ๋นงุนงงเล็กน้อย พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเทพธิดาอู๋เสียจะเหมือนมีอดีตที่ลึกซึ้งกับอี้อวิ๋น ยิ่งคิดไม่ถึงว่าอี้อวิ๋นจะไม่สนใจจั่วชิวเฮ่าอวี้ต่อหน้าคนมากมาย ขี้เกียจแม้แต่จะพูดปฏิเสธและมองข้ามเขาไปเลย
จั่วชิวเฮ่าอวี้เป็นคุณชายที่ค่อนข้างมีตำแหน่งคนหนึ่งในหมู่เด็กรุ่นเยาว์ของหอเซียนสรรพสิ่ง อี้อวิ๋นได้คิดถึงผลที่ตามมาจากการล่วงเกินเขาหรือไม่?
สีหน้าจั่วชิวเฮ่าอวี้เคร่งขรึมเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ตื่นตกใจของคนรอบด้าน เขาถอยกลับไปยังห้องรับรองของตัวเองเงียบๆ อย่างไม่พูดอะไร
เขามองแผ่นหลังอี้อวิ๋นอย่างมีความหมาย แววตามีจิตสังหารแล่นผ่าน “ตรวจสอบคนผู้นี้!”
……
“หรูเอ๋อร์” อี้อวิ๋นเรียกหรูเอ๋อร์
“คะ…เจ้าค่ะ!” หรูเอ๋อร์เพิ่งตั้งสติได้และรีบลุกขึ้นยืน ก่อนที่นางจะไปก็ไม่ลืมที่จะมองเสวี่ยอู๋เสียอีกครั้ง จากนั้นก็รีบหมุนตัวไล่ตามฝีเท้าอี้อวิ๋น
เทพธิดาคนเมื่อครู่ช่างงดงามมากจริงๆ ไม่รู้ว่าคุณชายมีความสัมพันธ์อะไรกับเทพธิดา…หรูเอ๋อร์คิดในใจ
เสวี่ยอู๋เสียมองแผ่นหลังที่จากไปของอี้อวิ๋นพร้อมถอนหายใจในใจเบาๆ จากนั้นเงาร่างนางก็กลายเป็นควันสีขาวกลับไปตรงหน้าห้องรับรองระดับสวรรค์บนชั้นสองอีกครั้ง
นางมองเทพธิดาโยวฉินกับเจ้าเมืองฉินแล้วย่อตัวลงเล็กน้อย “ได้พบสหายเก่า อู๋เสียเสียมารยาทแล้ว”
“ไม่เป็นไร” เทพธิดาโยวฉินพูดด้วยเสียงอันอ่อนโยน แต่แววตามีประกายสงสัยแล่นผ่าน
ส่วนเจ้าเมืองฉินก็หัวเราะ “คิดไม่ถึงว่าอู๋เสียเจ้าจะมีสหายอยู่ที่นี่ แต่วันนี้เป็นวันที่เจ้ากับเทพธิกาโยวฉินจะแลกเปลี่ยนฝีมือกัน หากครั้งหน้ามีโอกาสก็แนะนำสหายของเจ้าให้ข้ารู้จัก”
“เจ้าค่ะ ท่านลุงฉิน” องค์หญิงจิ้งจอกขาวมองเทพธิดาโยวฉิน กู่ฉินในมือลอยไปในอากาศตรงหน้า นิ้วมืออันอ่อนนิ่มไร้ที่ติดีดไปบนสายฉินเบาๆ
“เชิญชี้แนะ”
ปึง!
ดุจสายลมครวญคราง ดุจสายฝนโหมกระหน่ำ ดุจหงส์คำรามเก้าชั้นฟ้า เมื่อเสียงฉินขององค์หญิงจิ้งจอกขาวดังขึ้น ผู้คนในตรอกสมบัติสวรรค์ที่เมื่อครู่ยังคงพูดคุยกันก็ประหนึ่งเข้าสู่การหยุดนิ่งของเวลาภายในชั่วพริบตา
ข้างหูพวกเขามีเพียงเสียงฉินขององค์หญิงจิ้งจอกขาว สายตามีเพียงนิ้วมือทั้งสิบที่คล่องแคล่วของนาง
อักขระแสงตัวแล้วตัวเล่ากระเพื่อมออกจากสายฉินประหนึ่งแสงดาวหมื่นพันที่ร่ายรำรอบเสวี่ยอู๋เสีย
ในตอนนี้เองที่ด้านหลังองค์หญิงจิ้งจอกขาวมีดวงตาสีฟ้าปรากฏ
ดวงหน้านี้ราวกับกลืนกินแสงทั้งหมด มันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตรงหน้าทุกคน ขยายใหญ่จนห่อหุ้มเงาร่างองค์หญิงจิ้งจอกขาว ตอนนี้องค์หญิงจิ้งจอกขาวเป็นดังเทพธิดากลางแม่น้ำดวงดาว คอยบรรเลงฉินอยู่กลางท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
เนตรจิ้งจอกสวรรค์!
ตอนที่องค์หญิงจิ้งจอกขาวแข่งขันกับอี้อวิ๋นที่โลกสวรรค์ดึกดำบรรพ์ก็เคยเรียกเนตรจิ้งจอกสวรรค์ออกมา แต่เนตรจิ้งจอกสวรรค์ในเวลานั้นเป็นแค่เค้าโครงรางๆ เทียบกับตอนนี้ไม่ติด
เดิมทีเผ่าจิ้งจอกขาวก็เชี่ยวชาญวิชาจิตวิญญาณอยู่แล้ว การนำจิตวิญญาณมาผสานกับวิถีฉินจึงเป็นเรื่องที่องค์หญิงจิ้งจอกขาวชำนาญที่สุดพอดี
นางถูกท่านอาจารย์ถูกใจและบ่มเพาะอย่างเต็มที่ก็เพราะเหตุนี้
เจ้าเมืองฉินพยักหน้าอย่างชื่นชม เขาย่อมรู้ชาติกำเนิดขององค์หญิงจิ้งจอกขาว สายเลือดเผ่าปีศาจโบราณที่แข็งแกร่งระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่เผ่ามนุษย์จะเทียบได้ ศิษย์ของสหายเขาคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เรียกได้ว่ามีความสามารถคนละแบบกับเทพธิดาโยวฉินที่เป็นผู้สืบทอดของสำนักอภิรมย์
เทพธิดาโยวฉินมีสีหน้าจริงจัง นางสัมผัสได้ว่าพรสวรรค์ด้านจิตวิญญาณของอีกฝ่ายมีมาตั้งแต่กำเนิด
……
“คุณชาย” หรูเอ๋อร์เดินตามอี้อวิ๋นอย่างระมัดระวัง นางเห็นว่าอี้อวิ๋นเดินประหนึ่งคิดอะไรบางอย่าง ประหนึ่งในใจมีเรื่องยุ่งเหยิง
วันนี้อี้อวิ๋นได้ข่าวของหลินซินถงอย่างฉับพลัน เขาทั้งดีใจทั้งอารมณ์ซับซ้อน
ไม่รู้ว่าทางเข้าโลกขนาดเล็กนั่นจะไปเปิดอยู่ที่ไหน สิบสองยอดสวรรค์กว้างใหญ่ถึงเพียง เขาจะไปตามหาหลินซินถงที่ไหน?
สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งยากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก เดิมทีอี้อวิ๋นแน่ใจว่าหลินซินถงอยู่ที่โลกสวรรค์หมื่นปีศาจ แต่ตอนนี้นางอาจอยู่ที่ไหนก็ได้
ใจเขาค่อยๆ สงบลงหลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก
‘ร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่างน้อยตอนนี้ก็รู้ว่าซินถงปลอดภัยดี’ อี้อวิ๋นส่ายศีรษะ
เขาไม่มีวิธีตามหาหลินซินถง ทำได้แต่รอ รอให้เขามีพลังที่เพียงพอให้ส่งผลกระทบต่อทั้งสิบสองยอดสวรรค์ ชื่อเสียงกระจายไปทั่วทุกที่ เมื่อนั้นหลินซินถงก็ย่อมรู้ที่อยู่ของเขา
ตอนนี้อี้อวิ๋นยังไม่คิดออกจากแดนสวรรค์สรรพสิ่ง หลิงเสียเอ๋อร์เกือบถูกฆ่าตายเพราะเขา อี้อวิ๋นสาบานแล้วว่าจะช่วยให้นางฟื้นกลับมา ย่อมไม่ละทิ้งแน่นอน
“หรูเอ๋อร์”
จู่ๆ อี้อวิ๋นก็หยุดฝีเท้าลง “กลับไปที่ร้านกันเถอะ”
ไม่ว่าภายในใจจะปั่นป่วนวุ่นวายเพียงใด แต่ทุกอย่างก็ต้องทำอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง
อี้อวิ๋นต้องอยู่เมืองสรรพสิ่งไปก่อน เขาต้องเตรียมพร้อมเพื่อสมุนไพรสามอย่างในงานซื้อขายสามปีข้างหน้า
มีเพียงหลอมโอสถวิญญาณเปล่าเท่านั้นที่จะช่วยให้หลิงเสียเอ๋อร์ฟื้นตื่นจากการหลับใหล
………………………………………………